โดน! ต้ม! จน! เปื่อย!
สมควรตาย!
ถ้าตอนนี้ต้องเผชิญหน้ากับเหล่าพยัคฆาของตระกูลไป๋เซี่ยงที่จ้องเขมือบ เจียงหลีก็รู้ชัดเจนว่ากำลังเผชิญกับอะไร นางก็แทบระเบิดตัวเองแล้วไปเกิดใหม่ซะให้รู้แล้วรู้รอด
ความตื่นตาตื่นใจอะไรกัน นี่มันเรื่องสยองขวัญต่างหากเล่า
เพียงแต่ตอนที่นางเข้าใจขึ้นมาแล้วกลับคิดไม่ตกว่าเหตุใดหลิงจงผู้นั้นถึงทำเยี่ยงนี้ เวลานี้ ก่อนหน้านี้เขามีความผิดปกติบางอย่างก็ช่างประจวบเหมาะลงตัวเหลือเกิน
…
“ฮูหยิน ในที่สุดข้าก็ได้ดูแลเจ้าและเคียงข้างเจ้าแล้ว คนพวกนี้ที่เข้ามารบกวนเรา ข้าจะให้พวกเขาอยู่เฝ้าสุสานของเราดีหรือไม่ รวมไปถึงแม่สาวน้อยนั่นด้วย…เฮ้อ”
โครงกระดูกส่งเสียงหัวเราะเยือกเย็น “ของที่ข้ามอบให้ฮูหยินมันสลายไปแล้วไม่มีทางให้ใครหรอก แม้นางจะช่วยเราสองสามีภรรยา แต่ข้าก็ทำตามสัญญามอบสิ่งของให้นางแล้ว ในเมื่อนางไร้ความสามารถออกไปจากที่นี่ไม่ได้ เช่นนั้นก็ไม่เกี่ยวกับข้าแล้ว เจ้าว่าถูกไหม ฮูหยิน”
…
“รีบมาดูกระเป๋าในมือของนางเร็วเข้า”
“กระเป๋าตุงขนาดนั้น ต้องใส่สมบัติในสุสานมากมายเลยทีเดียว”
“…”
ในขณะที่ร่วงลงมาเจียงหลีก็ได้ยินเสียงพวกนี้ลอยเข้าหู นางจึงเอาของขวัญตอบแทนสามชิ้นยัดใส่กระเป๋าก็ถูกโยนออกมา ตอนนี้สองแขนของนางกอดกระเป๋าเอาไว้แน่น
แล้วร่างก็ล้มลงอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของนางในสุสาน คนของตระกูลไป๋เซี่ยงก็ได้เข้ามารายล้อม
ทำไมคนในตระกูลไป๋เซี่ยงหลายคนถึงได้มารวมตัวกันที่นี่ เจียงหลีไม่ทันคิดถึงคำถามนี้ นางออกแรงหมุนเอวเปลี่ยนทิศทางการลงตัวกลางอากาศ เหยียบส้นเท้าตัวเองเพื่อยืมแรง เพียงพริบตาเดียวก็ทะลุผ่านไปทางด้านหลังคนกลุ่มนั้นแล้วทิ้งตัวลงพื้นอย่างมั่นคงสวยงาม
“หืม”
คนในตระกูลไป๋เซี่ยงค่อยๆ หันตัวมองไปที่นาง
“เซ่าจวิน!”
ทันใดนั้นเจ้าของทั้งสองเสียงก็วิ่งลอดผ่านด้านหลังพวกตระกูลไป๋เซี่ยงมาปรากฏตรงหน้านาง
เจียงหลีมองสองคนนั้นที่ปรากฏออกมาด้วยดวงตาเป็นประกาย
หัวใจที่หลงตื่นเต้นลดลง นางรีบสำรวจลู่เสวียน เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บจึงถอนสายตากลับมา
“เจ้าไปไหนมา” ลู่เสวียนรีบเข้าไปหาเจียงหลีแล้วกระซิบถามเสียงต่ำแต่สายตาของเขากลับมองพวกตระกูลไป๋เซี่ยงที่อยู่ตรงข้ามอย่างระแวดระวัง
เหวินเหรินชิ่งชิ่งเองก็ยืนข้างเจียงหลีเพื่อแอบปกป้องทั้งสองเอาไว้ข้างหลังตัวเอง “พวกเจ้าจะทำอะไร” นางเป็นถึงองค์หญิงเป่ยโหรว เมื่อถามแบบนี้กับคนในตระกูลไป๋เซี่ยงย่อมมีเหตุผลเป็นธรรมดา
เจียงหลีไม่แทรกเหวินเหรินชิ่งชิ่งแล้วส่ายหน้าให้กับคำถามของลู่เสวียนเพื่อสื่อว่าเอาไว้ค่อยคุยกันทีหลัง
ลู่เสวียนเห็นดังนั้นก็ไม่ถามให้มากความอีก จากนั้นไปยืนเคียงบ่าเคียงไหล่เจียงหลี แววตาเฉียบคมมองไปที่พวกตระกูลไป๋เซี่ยง เขาเอ่ยเตือนเสียงเบา “คนในตระกูลไป๋เซี่ยงพวกนี้ร้ายกาจและเจ้าเล่ห์ ต้องระวังด้วย”
สายตาของเจียงหลีวูบไหว นางคาดเดาในใจ หรือว่าช่วงที่แยกกันพวกเขาสองคนจะปะทะกับคนในตระกูลไป๋เซี่ยง มิน่าล่ะ สีหน้าที่เหวินเหรินชิ่งชิ่งตอนมองพวกไป๋เซี่ยงถึงไม่ค่อยสู้ดีนัก
ทางด้านตระกูลไป๋เซี่ยงที่กำลังเผชิญกับคำถามของเหวินเหรินชิ่งชิ่งส่วนใหญ่ต่างนิ่งเงียบไม่เอ่ยสิ่งใด
แต่ทว่ากลับมีผู้สูงอายุก้าวออกมายิ้มให้เหวินเหรินชิ่งชิ่งแล้วแสดงความเคารพ “องค์หญิง หมายความว่าอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ จู่ๆ แม่นางผู้นี้ปรากฏตัวกลางสุสาน พวกกระหม่อมก็แค่มองอย่างสงสัยยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยพ่ะย่ะค่ะ”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์