ไม่มี!
ก็ต้องไม่มีอยู่แล้ว
ไป๋เซี่ยงกงและไป๋เซี่ยงไท่อย่างไรก็คงจะคิดไม่ถึงว่าคนที่พวกเขาตามหาก็ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา
“พวกเจ้าค้นดูละเอียดแล้วหรือยัง ไม่มีทางไม่มี!” รับรู้ได้ถึงสายตาที่เย็นชาของไป๋เซี่ยงกงที่มองมายังตนเอง ไป๋เซี่ยงไท่รีบพูดขึ้นมา
พวกเขาส่ายหัว “พวกเราหาดูอย่างละเอียดแล้วขอรับ ไม่มีจริงๆ” พวกเขาก็หวังว่าจะเจอเหมือนกัน!
“เหอะๆ……” เป่ยเหมินเวยหัวเราะเยาะ สายตาที่เย้ยหยันมองไปยังใบหน้าที่ดูไม่ได้ของไป๋เซี่ยงกงและไป๋เซี่ยงไท่ “ท่านทั้งสอง เป็นอย่างไร”
“…”
“…”
ไป๋เซี่ยงกงหน้าเขียว มองไป๋เซี่ยงไท่ด้วยสายตาที่แทบอยากจะฆ่าเขา พอได้รับข่าวจากเขา ไป๋เซี่ยงกงก็ทิ้งทุกอย่างแล้วรีบตามมา เพราะว่าเชื่อเขา จึงไม่เสียดายที่จะปะทะกับฮ่องเต้แห่งเป่ยโหรว ถึงขั้นเอาป้ายที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนมอบไว้ให้บุกเข้าวังมา
ผลสุดท้ายเป็นอย่างไรล่ะ
ไอเจ้าสมองทึ่มนี่! ขายขี้หน้าวงศ์ตระกูลไป๋เซี่ยงจริงๆ ทำให้ตอนนี้เขาไม่กล้าสู้หน้าฮ่องเต้แห่งเป่ยโหรว
ไป๋เซี่ยงไท่ถูกเขาจ้องจนหนังหัวชาไปหมดแล้ว ความหวาดกลัวที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเห็นชัดแล้ว เป็นไปได้อย่างไรที่จะไม่มี “ต้องอยู่ในพระราชวังอย่างแน่นอน พวกท่านต้องเอานางซ่อนไว้อย่างแน่นอน!”
“พอได้แล้ว!” ไป๋เซี่ยงกงตะโกนเสียงดัง เพื่อหยุด ‘คำพูดเพ้อเจ้อ’ ของไป๋เซี่ยงไท่
เป่ยเหมินเวยยิ้มอย่างเยือกเย็นเข้าไปอีก “ทำไมรึ ไป๋เซี่ยงไท่เจ้ายังคิดจะค้นดูทั้งวังของข้าอย่างนั้นรึ”
ไป๋เซี่ยงไท่ถูกไป๋เซี่ยงกงด่าเสียงดัง ตอนนี้ยังโดนฮ่องเต้แห่งเป่ยโหรวพูดจาถากถางอีก ใจคิดอยากจะตอบโต้กลับไป แต่รู้ดีว่าตอนนี้เขาไม่สามารถพูดเพ้อเจ้อได้อีก
“ฝ่าบาท เป็นเพราะพวกเราไม่บุ่มบ่ามเกินไป” ไป๋เซี่ยงกงหายใจเข้าลึกๆ กดอารมณ์โกรธในใจเอาไว้ กัดฟัน แล้วขอโทษเป่ยเหมินเวยด้วยสีหน้าที่ดูไม่ได้เลย
เป่ยเหมินเวยมองอย่างเย็นชา ใบหน้าที่เคร่งขรึมมีความน่าเกรงขามของฮ่องเต้ “บุ่มบ่ามเกินไปอย่างนั้นรึ นายท่านไป๋เซี่ยง พวกเจ้าตระกูลไป๋เซี่ยงนี่แย่จริงๆ! บุกเข้าวัง หมิ่นพระเกียรติฮ่องเต้ ค้นตำหนักองค์หญิง แย่จริงๆ ยังมีเรื่องอะไรอีกที่พวกเจ้าตระกูลไป๋เซี่ยงยังไม่ได้ทำอีก ตอนนี้ คำพูดบุ่มบ่ามคำเดียว ก็คิดอยากจะเปิดโปงเรื่องนี้หรือ”
ความโกรธทั้งหมดที่เขาเก็บไว้เมื่อครู่ ในที่สุดตอนนี้ก็มีทางได้ระบายออกมาอย่างเต็มที่แล้ว
หาตัวนางไม่เจอ ไม่มีหลักฐาน ตระกูลไป๋เซี่ยงยังจะอวดดีได้อย่างไร!
“เช่นนั้นแล้วฝ่าบาทจะจัดการอย่างไร ถึงแม้ว่าเรื่องนี้ข้าคนตระกูลไป๋เซี่ยงจะเข้าใจผิดไป แต่ฝ่าบาทได้โปรดเข้าใจในความรู้สึกของตระกูลพวกเราที่ต้องเจอด้วย จะไม่ยอมพลาดโอกาสเล็กๆ ที่จะสามารถจับมือสังหารได้จริงๆ” ไป๋เซี่ยงกงสีหน้าเปลี่ยนไป ถามด้วยเสียงเข้ม
น้ำเสียงที่อ่อนลง กลับไม่สามารถชดเชยกับการที่เป่ยเหมินเวยถูกกดขี่เมื่อครู่นี้ได้ เขายิ้มเยาะ “ข้ายังเข้าใจความรู้สึกของเจ้าตระกูลไป๋เซี่ยงไม่พออีกหรือ”
ไป๋เซี่ยงกงขมวดคิ้ว
เพราะเหตุใดคำพูดของเป่ยเหมินเวยมักจะทำให้เขารู้สึกเหมือนพวกเขาถูกเหน็บแนมอย่างนั้นหรือ
เหอะ! เห็นๆ อยู่ว่าเมื่อคืนเพิ่งจะส่งคนไปวางเพลิงเผาจวนตระกูลไป๋เซี่ยงจนวุ่นวายไปหมด ตอนนี้ยังหน้าด้านมาตำหนิพวกเขาเช่นนี้
ในใจไป๋เซี่ยงกงโกรธมาก แต่กลับไม่สามารถระบายออกมาได้
แต่ว่าจะให้เขาพูดจาอ่อนโยนต่อกับเป่ยเหมินเวยอีกหรือคุกเข่าขอโทษ นั่นก็เป็นไปไม่ได้เช่นกัน
“นายท่านไป๋เซี่ยง พวกท่านมาค้นตำหนักข้าโดยที่ข้าไม่ได้ชี้แจงอันใดเลย ตอนนี้อะไรก็ไม่เจอ ท่านจะไม่ชดเชยอะไรให้ข้าหน่อยหรือ” เหวินเหรินชิ่งชิ่งพูดขึ้นมาในตอนนี้
ไป๋เซี่ยงกงแววตาเปล่งประกาย สายตาที่สบกับเป่ยเหมินเวยอยู่ ก็มามองที่เหวินเหรินชิ่งชิ่ง น้ำเสียงยังคงโอหังเช่นเดิม “รบกวนองค์หญิงเสียแล้ว ที่ทำให้ตื่นตระหนก ได้โปรดให้อภัย ตอนเย็นกระหม่อมจะสั่งคนให้เอาของเล็กๆ น้อยๆ เข้าวังมามอบให้ ถือเป็นการแสดงความขอโทษต่อองค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ”
“แค่นี้เองหรือ” เหวินเหรินชิ่งชิ่งหัวเราะเยาะ
ไป๋เซี่ยงกงทำหน้าขรึม “เช่นนั้นองค์หญิงยังต้องการอะไรอีก”
เหวินเหรินชิ่งชิ่งยกมือขึ้นชี้ไปยังไป๋เซี่ยงไท่ “ข้าต้องการให้ไป๋เซี่ยงไท่คุกเข่าขอโทษข้า! เขาเป็นคนก่อเรื่องนี้ขึ้นมาใช่หรือไม่ ทำไมตอนนี้ถึงหดตัวเป็นเต่าหลบอยู่ข้างๆ”
ฟึบ!

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์