ราวกับว่าเป็นสิ่งที่มีมาแต่แรกอยู่แล้ว เป็นเพราะการล้างไขกระดูกทำให้มันชัดเจนมากยิ่งขึ้น!
เจียงหลีที่ถูกทรมานปางตายจากการล้างไขกระดูก ในขณะนี้นางตื่นรู้และลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นนัยน์ตาที่มืดมนทั้งคู่ของนางมีแสงสีทองที่คุ้นเคยส่องผ่าน
ลักษณะของนางขณะนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ใบหน้าที่อ่อนเยาว์ละเอียดอ่อน แสดงถึงเสน่ห์เย้ายวน แต่ถ้าไม่ได้มองอย่างละเอียด แทบจะไม่เห็นความแตกต่าง
แสงสีทองที่ลึกเข้าไปในนัยน์ตาได้เปลี่ยนรูปร่างไปในพริบตา เจียงหลีหลับตาลงอย่างช้าๆ เข้าสู่ความสงบ
เนตรญาณสีเทาค่อยๆ จางหายไปพร้อมกับเนตรญาณสีทองทั้งเก้าก่อนหน้านี้
นางนั่งขัดสมาธิลงข้างสระน้ำ ของเหลวที่เหนียวข้นสีขาวได้กลายเป็นสระน้ำที่โปร่งใส หนอนสีดำเหล่านั้นราวกับได้รับคำสั่งให้ถอยกลับไปเหมือนกระแสน้ำ
ผ่านไปชั่วขณะ ฉากตรงหน้าเปลี่ยนไปอีกครั้ง ไม่พบหนอนในสระน้ำแล้ว เจียงหลีได้โผล่ไปที่ลานการประลองอีกครั้ง และหลับตาลงฝึกฝน
ที่แท้ สายเลือดอสรพิษของข้าไม่ได้หายไป เพียงแต่หลุดออกจากร่างกาย ได้กลายเป็นเนตรญาณดวงที่สิบ อสรพิษโบราณกลายเป็นหนึ่งในเนตรญาณ!
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน หลังจากที่เจียงหลีเสร็จสิ้นการฝึกฝนในเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อ นางลืมตาขึ้น ก้มมองไปยังแสงที่กะพริบในเบื้องลึก
เลือดที่ไหนเวียนในร่างกาย จากเดิมที่น่าจะหายไปพร้อมกับการยุบตัวของเนื้อหนัง แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด สายเลือดอสรพิษถึงยังอยู่ มิหนำซ้ำยังมีการเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดเช่นนี้
ไม่ว่าสาเหตุจะเป็นอะไร แต่ผลลัพธ์เช่นนี้ทำให้เจียงหลีรู้สึกประหลาดใจ
สายเลือดแห่งความโหดร้าย มู่ชิงเกอ เป็นสิ่งที่นางมีความทรงจำที่ลึกซึ้งที่สุดสำหรับอดีตและเป็นความทรงจำเดียวเกี่ยวกับอดีตที่นางจำได้
“สายเลือดยังคงอยู่ แล้วความโหดร้ายล่ะ” เจียงหลีหลับตาลง ลองเรียกพลังอย่างละเอียด แต่กลับสัมผัสอะไรเกี่ยวกับความโหดร้ายไม่ได้
ลองทำไปหลายครั้ง ในที่สุดนางก็ยอมถอดใจ กล่าวกับตัวเองว่า “ความโหดร้ายเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น หรือว่าเป็นเพราะตอนนี้ข้าอ่อนแอเกินไป ถึงไม่สามารถเรียกมันออกมาได้”
“หืม” นางตกใจไปครู่หนึ่ง ลักษณะของนางเปลี่ยนไป “หลิงซื่อระดับห้ามาโดยไม่คาดคิด”
รวมเข้าด้วยกันกับวิญญาณที่นางดูดซับ ทำให้นางกระโดดเป็นหลิงซื่อระดับที่สี่ แต่คิดไม่ถึงว่าการล้างไขกระดูกเพียงครั้งเดียวจะทำให้นางได้ก้าวไปอีกหนึ่งระดับ
ในวันนี้นางมีเนตรญาณระดับเดียวกับเย่ว์หนานซีแล้ว!
การท้าดวลในงานประลองชิงเจียว ยิ่งอยู่ยิ่งทำให้นางตั้งตารอ
หลังจากตื่นเต้น เจียงหลีก็ได้แสดงอาการตกใจขึ้นมา เมื่อครู่ตอนอยู่ในกระบวนการล้างไขกระดูก ทำให้นางเหลือบเห็นความลับอย่างหนึ่งของร่างนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ
“ร่างของเจ้าของเดิม เหมือนว่าจะมีความพิเศษบางอย่าง ทำให้ตอนที่นางฝึกฝน ต้องใช้ปริมาณหินวิญญาณมากกว่าคนทั่วไป และตำนานพรสวรรค์เนตรญาณเก้าดวงแต่กำเนิดนั้น เหมือนกับว่าจะมาจากดวงวิญญาณที่ลึกลับอีกดวงหนึ่ง ตอนที่ข้ากลืนพลังก็ได้เอาพรสวรรค์อื่นมาเป็นของตัวเองด้วย” เจียงหลีกระซิบด้วยเสียงทุ้ม ดำดิ่งไปในความคิด
พรสวรรค์ของนางในตอนนี้เป็นการรวมกันของสามคน ไม่ได้เป็นพลังของนางเพียงคนเดียว เจ้าของเดิมมีร่างกายที่พิเศษ จึงสามารถดูดซับวิญญาณลึกลับเข้าไปได้ แต่บังเอิญ นางก็ถูกร่างกายดูดเข้ามา หลังจากนั้นเกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่ขึ้น แต่สุดท้าย นางก็ได้กลายเป็นผู้ชนะ
“เจียงหลี เจียงหลินเฟิง กู่หลานเย่ว์…” เจียงหลีพูดสามชื่อนี้ด้วยเสียงทุ้ม กูหลานเย่ว์เป็นชื่อของมารดาของร่างเจ้าของเดิม ร่างกายของนางมีความพิเศษที่ไม่อาจรับรู้ได้ว่าคืออะไร ทำให้นางเริ่มสงสัยถึงความลับของตระกูลเจียง หรือควรพูดเช่นนี้ เป็นความลับของกู่หลานเย่ว์ แต่ตอนนี้กู่หลานเย่ว์ได้ตายไปแล้ว ไม่สามารถมาไขปริศนาให้นางได้ เช่นนั้นผู้ที่จะสามารถตอบคำถามนางได้เหลือเพียงคนเดียวก็คือ…“เจียงเฮ่า” เจียงหลีหายใจออกพูดชื่อนี้ออกมาเงียบๆ
เจียงเฮ่าอยู่เมืองหลวง นี่เป็นข้อความเดียวที่กู่หลานเย่ว์ทิ้งไว้ให้นาง


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์