แหะๆ
ต่อหน้าคำถามของลู่เจี้ย เจียงหลีได้แต่หัวเราะ นางหันหลังให้เขา ไอด้วยเสียงเบาๆ หันหลังกลับมา เผชิญหน้าเขา กล่าวอย่างไร้เดียงสา “ทำอะไรเล่า ท่านสลบไป ข้าก็สลบไป ท่านเพิ่งตื่นขึ้น ข้าก็เพิ่งตื่นขึ้น”
ลู่เจี้ยหรี่ตามอง กระซิบในใจ นางพูดวกวนไปมา ต้องการจะปิดบังอะไรกันแน่
เขาทำให้เจียงหลีรู้สึกตึงเครียดเมื่ออยู่ต่อหน้าความเฉลียวฉลาดของลู่เจี้ย นางไม่มีแม้แต่ความกล้า แต่การมีอยู่ของเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อไม่สามารถเปิดเผยให้เขารู้ได้!
นางกับชายผู้นี้เพิ่งรู้จักกันได้นานแค่ไหนเชียว ความลับแทบทั้งหมดถูกเขามองออกอย่างชัดเจน ครั้งนี้ แพ้ไม่ได้เป็นอันขาด!
“ไม่ได้ทำอะไรแล้วคราบสกปรกบนเสื้อผ้าของข้าและเจ้าคืออะไร” ลู่เจี้ยชี้ไปที่ร่างกายของตัวเอง และค้อนมองนาง
เจียงหลีปากกระตุก ค่อยๆ กล่าวว่า “ข้าก็ไม่รู้ ตอนตื่นขึ้นก็เป็นเช่นนี้แล้ว”
ลู่เจี้ยยิ่งหรี่ตามอง เขาค่อนข้างมั่นใจว่าเจียงหลีมีสิ่งที่ปิดบังเขา แต่ปิดบังอะไรเขาอยู่กันแน่
พลังจิตของเขาเริ่มฟื้นฟูมาบ้างแล้ว ขณะที่เขามั่นใจว่าเจียงหลีปิดบัง เขาใช้พลังจิตเพ่งไปที่นาง
ทันใดนั้นเขาค่อยๆ ลืมตาโตขึ้นส่งเสียงตกใจออกมา “ได้ทะลุไปอีกขั้นแล้วหรือ”
คุณชายไก่อ่อนอย่างเขา ทำไมถึงได้รู้ว่าข้าข้ามขั้นแล้ว! เจียงหลีแอบตกใจ ก่อนหน้านี้ตอนที่นางหลอมรวมกับเลี่ยเทียนซื่อต่อหน้าลู่เจี้ย เขารู้ถึงสภาพขีดพลังของนางซึ่งเป็นเรื่องที่ปกติ แต่ในครั้งนี้ล่ะ นางไม่ได้ปล่อยเนตรญาณมาแม้แต่น้อยกลับถูกเขาสัมผัสได้
“ข้าตื่นขึ้นมา ก็เป็นเช่นนี้แล้ว” เจียงหลีกางมือออก และทุบโถจนแตกละเอียด
ถึงกระนั้น นางเป็นคนที่ต่อให้ตายก็ไม่ยอมรับ แล้วลู่เจี้ยจะทำเช่นไรเล่า
พอตื่นขึ้นมา พลังของเจียงหลีได้เพิ่มขึ้นอีกระดับ
พอตื่นขึ้นมา ร่างกายของพวกเขากลับมีคราบสกปรกเพิ่มขึ้นมา
ขณะที่หลับไป เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกันแน่
ยังมีอีก…ลู่เจี้ยคิดเงียบๆ ครั้งนี้โรคของเขากำเริบ แต่กลับไม่ได้เจ็บปวดเหมือนคราวก่อน หลังจากตื่นขึ้นมาก็ไม่ได้รู้สึกถึงความเหนื่อยล้าเหมือนครั้งก่อน เกิดอะไรขึ้นกันแน่
มีเรื่องราวบางอย่าง ที่ดูเหมือนว่าหลังจากที่พบเจียงหลีแล้ว ดูแปลกประหลาดไป
“นี่ เจ้ารู้ไหมว่าเนี่ยนซือคืออะไร” เจียงหลีเห็นลู่เจี้ยเงียบเลยถือโอกาสเปลี่ยนหัวข้อสนทนา นางจำได้ ว่าเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อต้องเป็นเนี่ยนซือก่อนถึงจะสามารถควบคุมได้ ยังต้องเป็นถึงระดับเนี่ยนไซว่ถึงจะได้เลื่อนระดับ
คำถามของเจียงหลีรบกวนความคิดของลู่เจี้ย เขาเงยหน้าขึ้นมองไปที่เจียงหลี เหมือนกับว่ากำลังถามแบบไร้เสียง เหตุใดเจียงหลีถึงได้ถามเกี่ยวกับเนี่ยนซือ
แต่เขาก็ตอบกลับไป “หลังจากเบิกเนตรญาณแล้วก็ฝึกฝนเป็นหลิงซือ แต่ถ้าปลุกเนตรญาณไม่สำเร็จ แต่มีพลังจิตที่แกร่งก็สามารถฝึกฝนจนเป็นเนี่ยนซือ เนี่ยนซือนั้นหายากและมีวิธีรับมืออย่างลึกลับ”
“เจ้าเป็นเนี่ยนซือหรือ” ทันใดนั้นเจียงหลีก้าวไปข้างหน้า แววตาที่สว่างสดใสจ้องมองพร้อมกับถามที่ลู่เจี้ย
ดูเหมือนนางจะนึกไปถึงตอนที่ทั้งสองประทะกัน เป็นที่มาของพลังลึกลับนั้น!
ลู่เจี้ย เป็นเนี่ยนซือ!
ถึงแม้เขาจะไม่ได้ปลุกเนตรญาณ แต่สามารถอ่านจิตได้!
คำตอบนั้น เจียงหลีได้ตอบถูกแล้ว แต่ว่า นางต้องการที่จะให้ชายคนนี้ยอมรับ
ลู่เจี้ยยิ้มเบาๆ ลักษณะยิ่งงดงามขึ้นไปอีก เขาไม่ได้ปฏิเสธก็เท่ากับว่าเขายอมรับแล้ว
มิน่าล่ะ เขาดูระดับพลังของข้าออก! เจียงหลีถอนหายใจและคิดในใจว่าลู่เจี้ยซ่อนได้อย่างลึกลับ คาดไม่ถึงว่าเขาจะปิดบังผู้คนได้
เจียงหลีไม่ได้ถามลึกลงไป นางถามเพียงคำถามที่เกี่ยวข้องกับตัวนาง “ท่านสามารถสอนข้าฝึกฝนพลังจิตได้หรือไม่”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์