ฝึกประสบการณ์ก็หมายความว่าจะได้ออกไปจากสำนักพรตเสวียนช่วงหนึ่ง
นางสามารถหาโอกาสหลุดหนีไปก่อน แน่นอนว่าหากสามารถแก้ปัญหาของยันต์ธาราทมิฬร่วมกันได้ก็จะดีที่สุด
เมื่อคิดได้เช่นนี้ แววตาของเจียงหลีก็ตื่นเต้นขึ้นมา
“ขอบังอาจถามท่านประมุข พวกเราต้องไปฝึกประสบการณ์ที่ไหนหรือเจ้าคะ” ซู่ซินแย่งเอ่ยปากพูดก่อน
“ถ้ำสวรรค์” ท่านประมุขบอกตามตรง
ถ้าสวรรค์อย่างนั้นหรือ
เจียงหลีไม่คุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ นางมองไปที่ประมุขด้วยความสงสัย แต่เห็นว่าเขาไม่ได้คิดที่จะอธิบาย
“ถ้ำสวรรค์หรือเจ้าคะ”
ทันใดนั้นนางก็ได้ยินเสียงอุทานที่สั่นสะท้านของชิงหว่าน ในขณะเดียวกันซู่ซินที่ก่อนหน้านี้ยังคงมั่นใจเต็มเปี่ยม ตอนนี้ก็มีหน้าซีดเผือดเช่นกัน
ดูเหมือนพวกนางจะรู้ว่าถ้ำสวรรค์เป็นสถานที่เช่นไร
“ท่านประมุข ทางเปิดแล้วขอรับ” ขณะนั้นเองมหาปุโรหิตก็เดินเข้ามาแล้วทำความเคารพประมุขสำนักพรตเสวียนหมิง
ผู้เป็นประมุขพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้นกับแม่นางทั้งสาม “ออกเดินทาง”
ชิงหว่านเงยหน้าขึ้นและส่ายหัวด้วยความตื่นตระหนก เจียงหลีรู้สึกได้ว่านางกำลังต่อต้านการฝึกประสบการณ์นี้โดยสัญชาตญาณ แต่กลับไม่กล้าที่จะพูดปฏิเสธ
แน่นอนว่าท่าทีของนางยังคงทำให้ประมุขสำนักพรตเสวียนหมิงโกรธเคือง
เขาสบถอย่างเย็นชา ชิงหว่านร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดทันทีและล้มลงกับพื้น เจียงหลีรู้สึกประหลาดใจและยื่นมือออกมาเพื่อช่วยนาง แต่ขณะนั้นเองกลับได้ยินเสียงของมหาปุโรหิตเอ่ยขึ้น “ในฐานะที่เป็นธิดาสวรรค์แห่งสำนักพรตเสวียนหมิงของข้าจะต้องผ่านด่านถ้ำสวรรค์ให้ได้ พวกเจ้าทั้งสามจงจำเอาไว้หลังจากสี่สิบเก้าวัน ใครที่ฆ่าบุคคลที่มีสัญลักษณ์ได้น้อยที่สุดก็จะถูกคัดออกก่อน”
ฆ่าคนที่มีสัญลักษณ์หรือ
เจียงหลีหรี่ตาก้มลงพยุงชิงหว่านที่สงบลงมาบ้างให้ลุกขึ้นจากพื้น
“ยันต์ธาราทมิฬน่ะ” ชิงหว่านกระซิบอธิบายตอนที่เจียงหลีช่วยพยุงนางลุกขึ้นมา
เจียงหลีตกตะลึงมองดูนางและมองเหงื่อที่หน้าผากของนางอย่างละเอียด หลังจากเข้าใจ ชิงหว่านก็บอกนางว่าเมื่อครู่ที่รู้สึกเจ็บปวดเพราะนางทำให้ประมุขไม่พอใจเขาจึงใช้ยันต์ธาราทมิฬโจมตีนาง
ยันต์ธาราทมิฬนี่ชั่วร้ายจริงๆ แสงในดวงตาของเจียงหลีเริ่มเย็นลง
“คนแรกที่ถูกกำจัด!” ซู่ซินพูดซ้ำคำพูดของมหาปุโรหิตและแสงที่ดุร้ายปรากฏขึ้นในแววตาของนาง
“ตามข้ามา” มหาปุโรหิตเอ่ยขึ้น
สตรีทั้งสามคนเดินตามมหาปุโรหิตออกจากวิหารหลวงและขึ้นรถม้า
ในขณะที่เจียงหลีกำลังก้าวขาขึ้นแสงสีขาวก็พุ่งเข้ามาในรถม้าและพุ่งตรงมาที่นาง
“หลิวหลี!” เจียงหลีอุ้มเจ้าเปี๊ยกแล้วเอ่ยขึ้นอย่างดีใจ
นางยังคงคิดหาข้ออ้างเพื่อพาเจ้าเปี๊ยกมาด้วย คิดไม่ถึงว่าเจ้าเปี๊ยกตัวนี้จะมาหาเอง
“เหอะ ไปฝึกประสบการณ์ยังจะพาสัตว์เลี้ยงไปด้วยอีก” หลังจากซู่ซินขึ้นรถม้าแล้วก็สบถเสียงเย็น

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์