ไม่ต้องให้ชิงหว่านเตือน เจียงหลีก็รู้ดีว่ามีคนไล่ตามมาตลอดทาง
คนพวกนั้นประชิดมากขึ้นเรื่อยๆ และลมปราณก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น เพียงแต่ เมื่อการรับรู้ชัดเจนมากขึ้นเท่าไร รอยยิ้มที่มุมปากของนางก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น
เยี่ยมไปเลย! ซู่ซินผู้นี้ความสามารถล้นเหลือ ดึงดูดผู้คนให้มาไล่ล่าได้มากมาย เจียงหลียิ้มเยาะในใจ
“เจียงหลี!” ชิงหว่านเรียกด้วยความกังวล
“ไม่ต้องกังวล เดินต่อไป” เจียงหลีเร่งฝีเท้า อุ้มเจ้าเปี๊ยกและพาชิงหว่านเดินหน้าต่อไป
บรรยากาศที่ตึงเครียดมากขึ้น ทำให้ชิงหว่านได้สติ “พวกเขาไล่ตามพวกเราหรือ” แน่นอนว่านางคิดไม่ออกว่า “ทำไม…”
“ทำไมหรือ ก็เพราะสิ่งนี้อย่างไรเล่า” เจียงหลียกมือขึ้นลบลายดอกไม้ที่ใช้ปกปิดสัญลักษณ์นักฆ่าบนหน้าผากแล้วเผยให้สัญลักษณ์สีแดงเลือด
ชิงหว่านเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ “เจ้าหมายความว่าพวกเขาทำเพื่อ…แต่พวกเขารู้ได้อย่างไร”
เจียงหลียิ้มอย่างเย้ายวน แต่ดวงตากลับเย็นชาอย่างน่าหวาดกลัว “เพราะเรามีเพื่อนดีคอยนำทางพวกเขาไง!”
เข้าใจแล้ว!
ในที่สุดชิงหว่านก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเจียงหลีถึงจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ความโกรธพุ่งขึ้นในดวงตาของนาง “ซู่ซินทำเช่นนี้ได้อย่างไร”
“เจ้ายังจะหวังอะไรกับนางได้อีก” เจียงหลียิ้มเยาะ
ทันใดนั้น ชิงหว่านก็หยุดเดินและพูดด้วยความโกรธ “ไม่ได้! ข้าต้องการพูดกับนางให้รู้เรื่อง”
เจียงหลีคว้าตัวนางไว้และพานางบุกป่าฝ่าดงเข้าไป “พูดให้รู้เรื่องอย่างนั้นหรือ อย่าทำตัวไร้เดียงสาหน่อยเลย เจ้าแน่ใจหรือว่าจะไม่ใช่การรนหาที่ตายหรือ หากยังไม่อยากตาย ไม่อยากแพ้ก็ตามข้ามาและสู้อย่างสง่าผ่าเผยสักตั้ง”
ชิงหว่านตะลึง
นางคิดอย่างเงียบๆ ว่าเจียงหลีต้องมีแผนการอะไรแน่นอน แต่นางกลับมองไม่ออก
นางค้นพบว่าตนเป็นหนึ่งในธิดาสวรรค์ทั้งสามที่ต้นทุนน้อยที่สุดและโง่เขลาที่สุด การติดตามเจียงหลี ถือว่าเป็นตัวถ่วงของนาง
ด้วยจิตสำนึกเช่นนี้ ชิงหว่านกัดฟันและตัดสินใจ “เจียงหลี เจ้าไปก่อนเถิด ข้าจะถ่วงเวลาให้เจ้าเอง”
ความเร็วของเจียงหลีไม่ได้ลดลง แต่กลับหันหน้ามามองและหัวเราะเยาะ “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ เจ้าจะถ่วงเวลาอย่างไร อีกอย่างมียันต์ธาราทมิฬอยู่ เจ้าคิดว่าทำเช่นนี้มีประโยชน์หรือ”
“…” ชิงหว่านพูดไม่ออก
“เชื่อข้า ฟังคำข้าพอ” เจียงหลีมองนางอย่างลึกซึ้ง
ดวงตาของชิงหว่านสดใสขึ้นทันทีโดยไม่รู้ตัวและพยักหน้าอย่างจริงจัง
เงาของทั้งสองผ่านไปอย่างรวดเร็ว คนไล่ตามก็ไม่ได้ซ่อนตัวอีกต่อไป และไล่ล่าอย่างโจ่งแจ้ง ในที่สุด เจียงหลีและชิงหว่านได้หยุดอยู่บนที่ราบและหันหลังกลับมารอ
“คนอยู่ข้างหน้า ผู้ที่อุ้มสัตว์เดรัจฉานตัวน้อยในอ้อมแขนคือคนที่มีสัญลักษณ์สีแดง” ท่ามกลางฝูงชน ซู่ซินมองเห็นพวกเจียงหลีทั้งสองจากระยะไกล นางหัวเราะเยาะและพูดกับทุกคน แล้วค่อยชะลอฝีเท้า
นางไม่เชื่อว่าคนจำนวนมากเช่นนี้จะไม่สามารถฆ่าพวกเจียงหลีได้!
“ซู่ซิน ศิษย์ร่วมสำนักพบเจอกันและเจ้าพาคนมามากมายเช่นนี้ จะไม่ออกมาเจอหน้ากันหน่อยหรือ”
เมื่อนางกำลังจะหลบหนีขณะที่ทุกคนไม่ได้สนใจ เสียงยั่วยุของเจียงหลีก็ดังขึ้น
หลังของซู่ซินแข็งขึ้นทันที รู้สึกราวกับถูกงูพิษจับจ้อง
“เป็นศิษย์ร่วมสำนักเดียวกัน! ฮ่าๆๆ…หญิงคนนี้ร้ายกาจมาก เพื่อรักษาชีวิตกลับคลายความลับของศิษย์ร่วมสำนัก”
“มีอะไรน่าตื่นเต้น ดูจากเสื้อผ้าของพวกนาง ล้วนเป็นธิดาสวรรค์แห่งสำนักพรตเสวียนหมิงและที่ผ่านมา ธิดาสวรรค์มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น พวกนางทั้งสามน่าจะเป็นคู่แข่งกัน”
“การแข่งขันคือของการแข่งขัน ควรชนะอย่างสมศักดิ์ศรี ใครก็จะได้ไม่ครหา แต่ถ้าหากใช้วิธีสกปรกลับหลังก็น่าขยะแขยงสิ้นดี! ”
“อย่างไรก็ตาม ข้าชอบสาวน้อยผู้ร้ายกาจนางนี้!”
“นี่สิถึงเรียกว่ายอมทำทุกวิถีทางเพื่อตำแหน่งสูง!”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์