สายลมยามค่ำ เจียงหลีไม่ลืมที่จะหาที่กำบังไว้ให้เจ้าเปี๊ยกกลัวว่ามันตกใจตื่นเพราะการเคลื่อนไหวของตนเอง
ตึกๆๆๆ
บนภูเขาของสำนักพรตเสวียนหมิงมีเสียงเตือนดังมาไม่หยุด ตอนแรกไฟบนสิ่งปลูกสร้างถูกดับลง แต่ก็ถูกจุดขึ้นมาใหม่เพื่อให้แสงสว่าง
เสียงที่ดังมาทำให้ชิงหว่านตกใจ เดินออกจากการฝึกฝน เปิดประตูห้อง เห็นประตูห้องเจียงหลีเปิดกว้างภายในห้องมืดไปหมด จนตกใจ
นางรีบวิ่งไปดู พบว่าเจ้าเปี๊ยกที่นอนอยู่บนเตียงไม่อยู่แล้ว
“มันไปไหน ไม่ใช่ว่าวิ่งออกไปไหนนะ” ชิงหว่านคาดเดาไปต่างๆ นานา นางกลัวว่าเสียงเตือนภัยที่ดังอยู่นี้ จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าเปี๊ยก
ทันใดนั้น ด้านนอกมีเสียงของฝีเท้าดังขึ้น
นางหันตัวไปยังประตูห้อง มองเห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินถือคบไฟมา เดินมาทางนี้ด้วยท่าทางที่ดูน่ากลัว
พวกกลุ่มสาวใช้ที่รับผิดชอบดูแลปรนนิบัติพวกนางนั้น เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ จึงต่างรีบพากันเดินถอยหลังไปคุกเข่าอยู่ที่มุมมุมหนึ่ง กลัวจนตัวสั่น
“ค้นหา! หาให้ทั่ว” หัวหน้าของกองกำลัง ออกคำสั่งกับคนที่เขานำมา
ชิงหว่านสีหน้าเปลี่ยนไป ตำหนิพวกเขา “พวกเจ้ากำลังทำอะไร ไม่รู้หรือว่าที่นี่เป็นที่อยู่ของธิดาสวรรค์”
หัวหน้าของกองกำลังมองมาทางนาง ด้วยสายตาที่ไร้ความเคารพนับถือ แต่ก็ตอบกลับอย่างเกรงใจว่า “ธิดาสวรรค์เจียงหลี ทำร้ายประมุขจนได้รับบาดเจ็บ ข้าได้รับคำสั่งให้มาจับกุมผู้กระทำผิด ขอให้ธิดาสวรรค์ชิงหว่านให้ความร่วมมือไม่รบกวนการทำงานของพวกข้าด้วย”
“เจ้าว่าอะไรนะ เจียงหลีทำร้ายประมุขจนได้รับบาดเจ็บหรือ” ชิงหว่านตกใจจนปิดปากของตนเอง ทำไมเป็นเช่นนี้ นางแค่ออกไปเพียงชั่วครู่ ก็เกิดเรื่องขึ้นแล้วหรือ ท่านประมุขเคยบอกจะถ่ายถอดทักษะการต่อสู้ให้เจียงหลีไม่ใช่หรือ ทำไมเจียงหลีต้องทำร้ายท่านประมุขจนได้รับบาดเจ็บด้วย
“ไม่มี!”
“ทางข้าก็ไม่มี!”
คนที่ค้นหา เข้าค้นที่อยู่ของธิดาสวรรค์จนวุ่นวายไปหมด ก็ไม่พบเจอสิ่งของที่เป็นประโยชน์
“เจ้าเปี๊ยกที่ตามติดนางเป็นเงาทุกวันก็ไม่พบร่องรอยเลยหรือ” หัวหน้าของกองกำลังถาม
คนอื่นที่เหลือได้แต่ส่ายหน้า
เขาคิดใคร่ครวญอยู่สักพัก และตัดสินใจ “ดูแล้วนางน่าจะมาที่นี่แล้ว แต่หนีออกไปแล้ว รีบ! ออกคำสั่งให้ปิดประตูภูเขา ค้นหาให้ทั่วสำนัก ต้องหานางให้เจอจนได้”
“ขอรับ!”
“ขอรับ!”
คนกลุ่มหนึ่งมาอย่างรวดเร็ว และก็จากไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากพวกเขาจากไปแล้ว ชิงหว่านก็ยังไม่หายจากอาการตกใจ “เจียงหลี…” แววตาของนาง ปรากฏให้เห็นถึงความห่วงใยที่มีต่อเจียงหลี
……
ณ ตำหนักของประมุข ภายในห้องบรรทม กลิ่นคาวเลือดฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง
มหาปุโรหิตที่ยืนอยู่ตรงหน้าสิ่งของบางอย่างที่เจียงหลีตัดทิ้งเอาไว้ ยืนไตร่ตรองอยู่นาน ในที่สุดจึงถอนหายใจออกมา หลังจากจึงนำกล่องเครื่องเคลือบทรงกระบอกใส่สิ่งของนั้นลงไป แล้วจึงเดินกลับมาอยู่บริเวณข้างเตียง
ในเวลานั้น บนใบหน้าที่ถูกทาด้วยเครื่องประทินโฉมของประมุขจากสำนักพรตเสวียนหมิงได้ถูกเช็ดออกแล้ว ปรากฏให้เห็นถึงสีหน้าที่ดูซีดเซียว ผิวตรงบริเวณใบหน้าของเขา มีรอยสักเป็นจุดๆ แน่นขนัด ไม่รู้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งใด
เขาในทุกวันนี้ทาแป้งเหมือนเด็กสาวไม่มีผิด เพื่อปิดบังรอยสักบนใบหน้า
“เป็นอย่างไรบ้าง สามารถต่อมันกลับไปได้หรือไม่” สายตามืดมนของประมุขสำนักพรตเสวียน
หมิงมองไปทางมหาปุโรหิตอย่างหวาดกลัว แผลของเขาได้ใช้ยาในการรักษาแล้ว แต่ความเจ็บปวดในครั้งนี้ ตัวเขาไม่มีทางลืมได้ไปชั่วชีวิต
ที่สำคัญที่สุด นี่คือเรื่องที่น่าอับอายและอัปยศอดสูที่สุด!
มหาปุโรหิตถอนหายใจพลางส่ายหน้า “ใจของเจียงหลีนั้นช่างเหี้ยมโหดนัก หากเป็นเพียงการตัดให้ขาด ข้ายังพอจะมีความมั่นใจที่ต่อมันกลับไปได้ แต่ว่า หลังจากนางตัดแล้ว ยังใช้พลังวิญญาณทำลายเส้นลมปราณอีก จึงทำให้เนื้อเยื่อตาย ต่อให้ต่อมันกลับไป ก็ไม่สามารถใช้งานมันได้อีก และยังอาจจะทำให้แผลเน่าเปื่อยอีก”
“นังแพศยา!”
ร่างกายของประมุขสำนักพรตเสวียนหมิงสั่นสะท้านไปด้วยแรงที่น่าหวาดกลัว สั่นสะเทือนไปทั่วทุกทิศ ผ้าคลุมของมหาปุโรหิตก็ถูกลมพัดไป สิ่งของทั้งหมดที่ประดับอยู่ภายในตำหนัก ก็โดนแรงสั่นสะเทือนในครั้งนี้ทำให้แตกละเอียด

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์