อ่ะ ไปก็ไป
เมื่อคืนเจียงหลีตัดสินใจแล้วว่านางจะไปที่ซากกำแพงอวิ๋นเมิ่งก่อน แล้วค่อยไปที่ฮวงเสิน
ดังนั้นวันนี้เมื่อกงเสวี่ยฮวามาหา นางจึงตกลงที่จะไปด้วยกัน
ระหว่างทาง นางถามกงเซี่ยฮวาอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับตํานานของกลองศิลาจารึก คําพูดของกงเสวี่ยฮวานั้นเหมือนกับคําพูดของสามยอดปราชญ์แห่งสถาบันไป๋หยวน
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเขาจะรู้เกี่ยวกับกลองศิลาจารึกที่หายไปในหนานฮวงไม่มากนัก
“ซากกำแพงอวิ๋นเมิ่ง ว่ากันว่าเมื่อกลองศิลาจารึกตกลงมา จะทำให้หน้าผาที่ยังคงสภาพดีถูกทุบทำลาย จากนั้นภาพที่เหลือของกลองศิลาจารึกก็ถูกทิ้งไว้ในกำแพงพังทลายที่เหลืออยู่ อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่ไปซากกำแพงอวิ๋นเมิ่งจะสามารถมองเห็นอะไรได้จากภาพ และผู้ที่ไม่เป็นเทียนเจียวไม่สามารถมองเห็นร่องรอยของซากกำแพงอวิ๋นเมิ่งได้ นอกจากนี้ความถนัดที่แตกต่างกัน ภาพที่เห็นก็แตกต่างกันออกไป เจ้าควรรู้ว่า มีตำนานบางเรื่องหายไปจากกลองศิลาจารึก หน้ากลองสลักพระธรรมเอาไว้ หากสามารถฝึกฝนและเข้าใจได้ ก็จะสามารถทำลายความว่างเปล่าและเข้าสู่โลกใหม่ได้ ดังนั้นทุกครั้งที่มีร่องรอยของกลองศิลาจารึก ก็จะทำให้เกิดความวุ่นวาย” กงเสวี่ยฮวาอธิบายกับเจียงหลีอย่างละเอียด
“ไม่เป็นเทียนเจียวจะมิสามารถมองเห็นได้รึ” เจียงหลีพึมพํา
กงเสวี่ยฮวายิ้มและกล่าวว่า “ข้าก็แค่ได้ยินมา เลยต้องการมาดู”
“นายน้อยอย่างเจ้านั้นคงว่างมากสินะ!” เจียงหลีจงใจหยอกล้อเขา
แต่กงเสวี่ยฮวายกคิ้วขึ้นและพูดอย่างเย่อหยิ่งมีเลศนัยว่า “ใครให้ครอบครัวข้าเป็นถึงกลุ่มอำนาจระดับสูงกันเล่า ใครให้เสด็จพ่อของข้าอายุมากแล้วยังแข็งแรงกัน”
เจียงหลียกมุมปากขึ้น ไม่ปฏิเสธการโอ้อวดของเขา
“ใช่แล้ว เจียงหลี เจ้าคิดดีหรือยัง เจ้าอยากกลับไปที่วังเทียนอู่กงกับข้าหรือไม่” กงเสวี่ยฮวากล่าว
เมื่อเห็นว่าเขาถามเรื่องนี้อีกครั้ง เจียงหลีก็กลอกตาใส่เขาและไม่สนใจ
กงเสวี่ยฮวาไม่ยอมแพ้ “วังเทียนอู่กงของเราดีมาก เจ้าดูข้าก็รู้ เจ้ากลับไปทบทวนให้ดี ไปที่วังเทียนอู่กงกับข้า ข้าสัญญาว่าเจ้าจะไม่เสียใจแน่นอน”
“ไม่ไป” ถูกเขาก่อกวนจนอารมณ์เสีย เจียงหลีตะคอกสองคำอย่างเด็ดขาด
“อย่าเพิ่งปฏิเสธข้าสิถึงอย่างไรตามนายน้อยแห่งวังเทียนอู่กงก็เป็นคนชักชวนเจ้าและข้ายังช่วยเจ้าไว้อีกด้วย เจ้าช่วยให้เกียรติข้า ตามข้าไปดูวังเทียนอู่กงทีเถิด! หลังจากเจ้าไป ข้าสัญญาว่าเจ้าจะต้องตัดสินใจที่จะอยู่ต่อแน่นอน” กงเสวี่ยฮวากล่าวต่อ
เจียงหลีพูดกับเขาอย่างช่วยไม่ได้ “เจ้าสนใจอะไรในตัวข้าหรือ บอกข้ามาเถิด เดี๋ยวข้าเปลี่ยนให้”
หลังจากที่พูดจบ นางก็เร่งฝีเท้าและทิ้งระยะห่างจากกงเสวี่ยฮวาอย่างหลบหนี
กงเสวี่ยฮวามองแผ่นหลังของนางแล้วหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “ไม่เคยมีใครปฏิเสธคําเชิญของวังเทียนอู่กง ยิ่งเจ้าไม่อยากไปมากเท่าไหร่ ข้าก็ยิ่งอยากให้เจ้าเข้าร่วมกับวังเทียนอู่กงมากขึ้นเท่านั้น”
ทั้งสองทะเลาะกันไปตลอดทาง บางครั้งตี้จวินที่ตื่นขึ้นมาก็ใช้สายตามองไปที่กงเสวี่ยฮวา ผ่านไปครึ่งเดือนก็มาถึงบริเวณซากกำแพงอวิ๋นเมิ่งแล้ว
มองไปยังภูเขาสุดลูกหูลูกตา ผืนป่าหนาแน่น เจียงหลีถามว่า “ซากกำแพงอวิ๋นเมิ่งอยู่ที่นี่หรือ”
กงเสวี่ยฮวาพยักหน้า “มันอยู่ในภูเขานี้ แต่ก่อนที่เราจะเข้าไปในภูเขา เราไปที่ตลาดนอกภูเขาเพื่อเตรียมสิ่งต่างๆ ก่อน”
เจียงหลีมองดูเขา แล้วเลิกคิ้วขึ้น
กงเสวี่ยฮวาอธิบาย “เราไม่รู้ว่าจะอยู่ในซากกำแพงอวิ๋นเมิ่งนานแค่ไหน อาหารบางอย่างต้องเตรียมไว้ให้พร้อม”
“ไปกันเถอะ” เจียงหลีพยักหน้าอย่างเข้าใจ และอุ้มเจ้าอสูรน้อยเดินนำหน้า
กงเสวี่ยฮวามองไปที่หลังห้าวหาญของนางและอดไม่ได้ที่จะกระตุกมุมปากพร้อมกับพึมพำ “ระหว่างทางมานี้ ข้าเป็นคนคอยให้บริการอาหารและเครื่องดื่มอร่อยๆ นี่ต้องหนังหนาขนาดไหน ถึงได้ทำหน้าเยี่ยงนั้น”
เขาไม่รู้ว่าเจียงหลีเคยชินกับการเป็นจักรพรรดินีและไม่เคยกังวลกับสิ่งภายนอกร่างกายของนาง
นางสามารถมีชีวิตอยู่ในวันที่ยากลำบาก ในวันที่สุขสบายนั้นก็ยิ่งสามารถมีชีวิตที่ดีได้
นางถือว่ากงเสวี่ยฮวาเป็นเพื่อนแล้ว ดังนั้นนางจะไม่ถือสามากนัก เพราะคิดว่ากำลังเอาเปรียบเขา หากวันหนึ่งกงเสวี่ยฮวาต้องการความช่วยเหลือจากนาง นางก็จะไม่รอช้าและไม่ลังเล
สำหรับกงเสวี่ยฮวานั้น ถึงปากจะบ่น แต่เขาก็มักจะจ่ายเงินทุกครั้ง อันที่จริงเขาก็คิดว่าเจียงหลีเป็นคนกันเอง ถึงได้ทำเช่นนั้นไม่ใช่หรือ
ในฐานะนายน้อยแห่งกลุ่มอำนาจระดับสูงแล้ว เขาจะโง่เขลาได้ซักเพียงใดกัน
…

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์