ลู่เจี้ยมิได้ตอบเจียงหลี เพียงแต่กล่าวกับผู้อื่นที่อยู่ในห้อง
เหล่าผู้อารักขาคนสนิทมองหน้ากัน แม้กระทั่งท่านหมอเทวดายังรู้สึกเป็นกังวลไม่ขยับไปไหน นี่เป็นครั้งแรกที่คำพูดของลู่เจี้ยไม่เป็นผลต่อพวกเขา
ไร้ซึ่งหนทาง พวกเขามิอาจวางใจให้เจียงหลีอยู่เพียงลำพังกับนายน้อยที่อาการกำเริบสาหัสจริงๆ
“นายน้อยขอรับ นี่…”
ลู่หวาเป็นหัวหน้าผู้อารักขาส่วนตัว เวลานี้จึงทำได้เพียงสกัดกลั้นเท่านั้น
“ออกไป”
แต่ทว่าลู่เจี้ยกลับไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้พูดสิ่งใด สองคำที่กล่าวมานี้ผู้ใดก็มิสามารถขัดขวางได้
เหล่าผู้อารักขาคนสนิทจึงทำได้เพียงโค้งคำนับและค่อยๆ ถอยหลังออกไป
เจียงหลียืนอยู่ตรงกลางด้วยความมึนงง
นางไม่เข้าใจว่าลู่เจี้ยเกิดบ้าอะไรขึ้นมาอีก จู่ๆ ก็ให้นางมาหาเช่นนี้ รีบร้อนพานางมาเพื่ออุ่นเตียงให้เขาเนี่ยนะ มารดา…สิ! สาวใช้สวยๆ ที่อยู่ข้างเขายังมีไม่มากพออีกหรือ เหตุใดถึงต้องการเด็กน้อยผอมกะหร่องเช่นนางไปอุ่นเตียงให้เขาด้วย
บ้ากาม!
เจียงหลีตำหนิในใจ แต่ยังคงรักษาความสงบนิ่งเอาไว้
แม้นางจะรู้สึกรังเกียจพฤติกรรมโรคจิตของลู่เจี้ย แต่นางก็รู้สึกแปลกๆ ลู่เจี้ยดูไม่เหมือนคนที่มักมากในกามเช่นนั้น
หรือว่าจะมีเหตุผลอื่น เจียงหลีคาดเดาในใจ ไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายตนรวมถึงคำเตือนในสายตาของผู้อารักขาคนสนิท
ทันใดนั้นหมอเทวดารวบรวมความกล้ากล่าวขึ้นหนึ่งประโยค “นายน้อย ขออภัยหากข้าเสียมารยาท ดูจากอาการของนายน้อยตอนนี้ไม่ใกล้ชิดสตรีจะดีกว่า”
ขณะพูดอยู่ เขาเหลือบมองเจียงหลีและก้มศีรษะเช่นเดิม จากนั้นจึงกัดฟันพูดต่อ “ทางที่ดี ควรหลีกเลี่ยงการเสพสังวาส”
เพล้ง!
เจียงหลีรู้สึกว่าร่างกายตนเองมีรอยแตกเกิดขึ้น
พวกผู้อารักขาคนสนิทต่างหยุดนิ่ง มองผู้ที่อยู่หลังม่านหนาด้วยความจงรักภักดี
บรรยากาศภายในห้องพลันเงียบสงบพิลึก
เจียงหลีกำหมัดแน่นพยายามข่มความรู้สึกโมโห นางไม่ตำหนิคำพูดของหมอเทวดา ดวงตาคมดั่งมีดมองไปที่ลู่เจี้ย
หากลู่เจี้ยมีความคิดเยี่ยงนี้จริง นางไม่มีทางช่วยให้เขาได้สืบสกุลแน่
นางคือราชินีผู้สง่างาม บัดนี้ตกมาเป็นนางทาสก็ช่างมัน แล้วยังต้องมาอุ่นเตียงกลายเป็นนางบำเรอของลู่เจี้ยอีกหรือ
“ไปให้พ้น!” ลู่เจี้ยตอบกลับ
กลับมีเพียงคำผรุสวาทน่าตกใจคำเดียวเท่านั้น
เมื่อพูดคำนี้ออกมาราวกับว่าภูเขาหิมะได้พังทลายลงมา ไอเยือกเย็นแผ่ขยายช้าๆ พวกอารักขาคนสนิทรวมทั้งหมอเทวดาในห้องต่างไม่กล้าขัดใจอีกและค่อยๆ พากันถอยกลับไป
พายในพริบตาเดียวทั้งห้องจึงเหลือแค่ลู่เจี้ยและเจียงหลี
ระหว่างคนสองคนยังถูกผ้าม่านหนาขวางกั้นเอาไว้
เจียงหลีสงบสติอารมณ์และสำรวจทั่วห้อง
นี่ยังคงเป็นครั้งแรกที่นางเข้ามาในห้องของลู่เจี้ย การตกแต่งภายในเรียบง่ายแต่กลับไม่บกพร่องเรื่องความหรูหรา ขาดกลิ่นอายโลกมนุษย์แต่มากด้วยบรรยากาศของวิมานสวรรค์ลวงตา
“เข้ามา” ลู่เจี้ยออกคำสั่ง
เจียงหลีถอนสายตา แววตาดำดิ่งแปรผันก่อนจะก้าวขาช้าๆ เข้าใกล้ผ้าม่าน
เดินเขาไปใกล้ยืนอยู่ด้านนอกของผ้าม่าน สะสมพลังวิญญาณม้วนเกลียวไร้สีที่มือขวา มือซ้ายเลิกผ้าม่านออกย่องเข้าไปใกล้ช้าๆ
หากเขากล้าเข้ามาล่ะก็ ข้าจะบีบมันให้ระเบิดเลย เจียงหลีแอบคิดในใจ
ลู่เจี้ยรูปงามสง่าสมกับความสวยของนาง แต่ว่าทำเรื่องเช่นนั้นจะต้องได้รับการยินยอมความรู้สึกทั้งสองฝ่าย มิใช่หน้าไหนก็ได้ที่จะปีนขึ้นมาร่วมเตียงกับเจียงหลี
อย่างไรเสีย นางในสภาพเช่นนี้ยังสมเพชตัวเองเลยแล้วจะให้อีกฝ่ายมาเห็นได้เยี่ยงไร


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์