“ร่วมมืออย่างไร” ไหวปี้ราวกับพญางูแสนสวยลุกขึ้นนั่งจากพื้นแล้วมองเจียงหลีด้วยรอยยิ้ม
“อาหลี” เจียงเฮ่าขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
เจียงหลีค่อยๆ ส่ายศีรษะจ้องไปที่ไหวปี้และกล่าวว่า “ง่ายมาก พวกเราจะช่วยเจ้าสืบเรื่องการหายตัวไปของศิษย์ร่วมสำนักเจ้า ส่วนเจ้ารับผิดชอบส่งมอบสารลับเกี่ยวกับหลีหุนจงให้แก่พวกเรา นอกจากนี้ พรุ่งนี้ติดตามเราไปที่แห่งหนึ่ง”
ไหวปี้ละสายตาและยิ้มว่า “ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าความร่วมมือครั้งนี้จะไม่เสียเปรียบ”
“หากเจ้ารู้สึกเสียเปรียบ ข้าก็จะโยนเจ้าไปไว้ตรงหน้าหลีหุนจงเพื่อเป็นเหยื่อล่อ และสืบในสิ่งที่อยากรู้” เจียงหลียิ้มหวานพูดเช่นเดียวกัน
ไหวปี้ยิ้มอย่างแข็งทื่อและพึมพำอย่างไม่พอใจ “เจ้าอายุยังน้อย แต่กลับอำมหิตยิ่งนัก”
“ชมเกินไปแล้ว” เจียงหลีสีหน้ายังคงไม่เปลี่ยน
“ได้ ดูเหมือนว่าข้าจะไม่มีทางเลือกอะไรแล้ว” ไหวปี้ถอนหายใจและพูดอย่างจนปัญญา
เจียงหลีสะบัดปลายนิ้ว พลังจิตเส้นหนึ่งได้พุ่งเข้าใส่ไหวปี้ ทำให้นางเป็นลมกะทันหันและล้มลงกับพื้น
“นอนหลับฝันดีก่อนเถิด”
เจียงหลีลุกขึ้นยืน กะพริบตาให้กับเจียงเฮ่าและมู่ชิงเหยียน ทั้งสามคนเดินออกจากบ้านด้วยกัน
“ดูเหมือนว่าร้านอวี๋หลงจะจัดหาผู้หญิงสำหรับปลุกเสกซากหุ่นโดยเฉพาะ” มู่ชิงเหยียนพูดอย่างมั่นใจ
เจียงเฮ่าสีหน้าแย่ลงและพูดเสียงเคร่งขรึม “กลุ่มอำนาจเช่นนี้ยังมีอยู่ได้อย่างไร”
เจียงหลีหัวเราะ ดูเหมือนสงบนิ่งเป็นพิเศษ “ในระหว่างการฝึกฝน ฝ่ายธรรมะและฝ่ายอธรรมแบ่งแยกยากอยู่แล้ว หากไม่กระทบต่อผลประโยชน์ของตนเอง ใครอยากจะวอนหาเรื่องเล่า อย่างไรก็ตาม สำนักหลีหุนจงสมควรถูกฆ่าทิ้งให้สิ้นซาก” หลังจากพูดจบ ดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นเย็นเยือกทันที
“แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป จะร่วมมือกับปีศาจสาวจากวังเวิ่นฉิงจริงๆ หรือ” เจียงเฮ่าขมวดคิ้วพูด
เจียงหลีหายใจเข้าลึกๆ น้ำเสียงค่อนข้างเคร่งขรึม “หลายกลุ่มอำนาจร่วมมือกันล้อมปราบยังทำลายหลีหุนจงไม่สำเร็จ ประการแรก เพราะเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ เป้าหมายของพวกเขาไม่ได้ต้องการทำลายสำนักหลีหุนจงจริงๆ เพียงแค่ต่อสู้ให้จบสิ้นไปเท่านั้น ประการที่สอง ความแข็งแกร่งของหลีหุนจงประมาทไม่ได้ พวกเราเพิ่งมาถึงที่นี่ อยากจะทำลายพลังของคนชั่วพวกนี้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ บัดนี้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือต้องแน่ใจก่อนว่าเรื่องที่ร้านอวี๋หลงลักพาตัวคนจากดินแดนหนานฮวง สำนักหลีหุนจงรู้เห็นเป็นใจด้วยหรือไม่”
“แล้วหลังจากแน่ใจแล้วล่ะ” มู่ชิงเหยียนถามอีกครั้ง
“หลังจากแน่ใจแล้ว…” เจียงหลี่หรี่ตา “ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ร้านอวี๋หลงจะมีอยู่ต่อไปไม่ได้ ไม่ว่าหลีหุนจงจะรู้เห็นหรือไม่ แต่หญิงสาวมากมายจากหนานฮวงถูกเข่นฆ่าอย่างทารุณ คงต้องเอาคืนกันบ้าง”
“อืม!”
มู่ชิงเหยียนและเจียงเฮ่าพยักหน้าพร้อมกัน
“ไหวปี้นางนี้บอกว่ามาสืบเรื่องศิษย์ร่วมสำนักหายตัวไป แล้วทำไมถึงมาซ่อนตัวอยู่ในหอคณิกาได้” เจียงเฮ่าถามอย่างงวยงง
เจียงหลีครุ่นคิดชั่วครู่ “ข้าเดาว่านางคิดว่าหอนางโลมเป็นสถานที่ที่สะดวกที่สุดในการสืบหาข้อมูล และนางกำลังค้นหาเบาะแสเกี่ยวกับการหายตัวไปของศิษย์ร่วมสำนัก”
เจียงเฮ่าพยักหน้าและไม่ได้ถามต่อ
…
ไม่มีคำพูดใดในค่ำคืนนี้ วันรุ่งขึ้นขณะที่ฟ้าเริ่มสว่าง ทั้งสี่ออกเดินทาง
พวกเจียงหลีทั้งสามไม่คุ้นเคยกับเมืองซู่หยา แต่ไหวปี้กลับรู้มากกว่าพวกเขาเล็กน้อย
และใช้เวลาเพียงไม่นาน ไหวปี้ก็รู้ถึงที่ตั้งของร้านอวี๋หลง ทั้งสี่จึงแอบเข้ามาอย่างเงียบๆ และมาถึงบริเวณใกล้เคียงร้านอวี๋หลง
“ดูๆ แล้ว ก็เหมือนร้านค้าทั่วไป” เจียงเฮ่าเหลือบมองอาคารสามชั้นตรงหน้าและพบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ
“ว่ากันว่าเจ้าของร้านอวี๋หลงมีความสัมพันธ์อันดีกับพ่อบ้านของหลีหุนจง การค้าขายครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะสองคนนี้” ไหวปี้ยิ้มเจ้าเล่ห์
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์