ช่างเป็นพลังปีศาจที่แข็งแกร่งจริงๆ! ช่างเป็นพลังอันน่าสะพรึงกลัวจริงๆ!
ระหว่างการต่อสู้ ไหวปี้หันศีรษะมองไปยังทิศทางที่เจียงหลียืนอยู่อย่างหวาดผวา ซึ่งขณะนี้ เจียงหลี ในสายตาของนางเปรียบเสมือนเป็นภูตเทวะโบราณที่ผมยาวตั้งชันขึ้น และรอบกายเต็มไปด้วยพลังปีศาจอันน่าสยดสยองที่ทำให้ผู้คนกลัวจนตัวสั่น
“ฆ่า!”
พลังอำนาจของฝ่ามือพลังปีศาจระเบิดและกลืนกินหุ่นศพสาวทั้งสองทันที
ตู้มมม!
คลื่นอากาศอันน่าสะพรึงกลัวเขย่าห้องฝึกจนพังพินาศ
เมื่อพลังปีศาจมอดมลายไป ตรงหน้าเจียงหลีก็ไม่เห็นร่างของหุ่นศพสาวทั้งสองอีกเลย มู่ชิงเหยียนเดินประกบหลังอย่างประชั้นชิด โจมตีวิญญาณสวรรค์ของหุ่นศพสาวจนแตกสลาย ทำให้นางตายอีกครั้ง
“เฮือก!”
เสียงเฮือกอันนุ่มนวลลอยมา ไหวปี้กดอารมณ์ตกใจไวในใจ ทำลายแขนของศพสาวจนแตกเป็นเสี่ยงๆ
หุ่นศพสาวได้รับบาดเจ็บจนต้องถอยห่างไปในทิศทางของเจียงหลี เมื่อมองด้วยสายตา แทบจะชนกับเจียงหลีเสียแล้ว
และในขณะนี้เอง เจียงหลีกลับคว้านางไว้โดยไม่ได้หันกลับมามอง นิ้วมือทั้งห้าจับกะโหลกศีรษะอย่างแรง พลังวิญญาณที่แข็งแกร่งแทรกซึมเข้าไปในกะโหลกศีรษะของหุ่นศพสาวราวกับลมพายุ ทำให้ศีรษะของนางปรากฏรอยร้าวและบิดเบี้ยว
ตึง!
เจียงหลีปล่อยมือ ทำให้หุ่นศพล้มลงกับพื้นและไม่สามารถต่อสู้ได้อีกต่อไป
ณ เวลานี้ นางค่อยๆ หันหลังกลับและมองไหวปี้ด้วยสายตาเย็นชา มู่ชิงเหยียนก็ยืนขึ้นอย่างเงียบๆ และมองหน้าคนหลังด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร
เมื่อถูกคนทั้งสองจ้องเขม็ง ไหวปี้กลับยิ้มยั่วยวนและพูดลวกๆ ว่า “พลาดพลั้งไป ไม่คิดว่าฝีมือของทุกท่านจะยอดเยี่ยมเพียงนี้!”
โดยเฉพาะเจียงหลี ทำให้นางประหลาดใจยิ่งนัก
ปรากฏผู้หญิงเช่นนี้ในดินแดนหนานฮวงตั้งแต่เมื่อไหร่ วังเวิ่นฉิงทำไมถึงไม่รู้มาก่อน
ดวงตาของไหวปี้อดไม่ได้ที่จะมองไปทางเจียงหลี ดวงตาที่เป็นประกายเต็มไปด้วยอารมณ์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและความเสน่หา ทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะหลงรัก
เจียงหลีกลับยิ้มเยาะและพูดอย่างเหยียดหยามว่า “เลิกใช้วิชามารยาของเจ้าเถอะ มันไม่มีประโยชน์กับข้า”
วิชามารยามิใช่ใช้เพียงเพื่อให้ผู้ชายลุ่มหลงเท่านั้น แท้จริงแล้ว วิชามารยาเป็นวิชาที่ทำให้จิตใจของผู้คนลุ่มหลง โดยไม่แบ่งชายหญิง
ไหวปี้พูดด้วยความหงุดหงิดว่า “เฮ้อ ต่อหน้าเจ้า ข้าสงสัยว่าตัวเองไม่ใช่คนของวังเวิ่นฉิง แต่เป็นผู้หญิงที่ยกยอตนว่าสูงศักดิ์และบริสุทธ์ของหอฉยงเซียนเสียแล้ว”
เพี๊ยะ!
ทันทีที่นางพูดจบ “วัตถุหนัก” ร่วงลงมาจากฟากฟ้าและตกลงตรงหน้านางพอดี นางตกใจจนสีหน้าเปลี่ยนและถอยหลังอย่างรวดเร็ว
หลังจากยืนอย่างมั่นคงแล้ว นางถึงค้นพบว่านี่คือศพของหลิงจงผู้นั้น
ทันใดนั้น เจียงเฮ่าก็ตกลงสู่พื้น ดวงตาของเขากวาดไปที่ไหวปี้อย่างเย็นชาพร้อมคำเตือน และหันไปหา เจียงหลีแล้วกล่าวว่า “อาหลี คนที่หลีหุนจงตามมาแล้ว”
เจียงหลีพยักหน้า
นางเห็นมันผ่านพลังจิตมานานแล้ว
ศิษย์ของสาขาหลีหุนจงมีไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นหุ่นศพ แต่ทว่า หุ่นศพเหล่านี้เทียบไม่ได้กับศพทั้งห้าที่
หลิงจงปลุกเสก
ชั่วครู่หลังจากการลองเชิง นางรู้วิธีการปลิดชีพศพระดับต่ำเหล่านี้อย่างรวดเร็ว
“ในเมื่อมาถึงแล้ว ก็ฆ่าทิ้งซะ” เจียงหลีพูดเสียงเรียบ
ไหวปี้อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจและมองไปที่เจียงหลี คำพูดน่าเกรงขามและสุขุมเช่นนี้พูดออกมาได้อย่างไร แม้ว่าในใจของนางต้องการทำลายกิ่งก้านสาขาของหลีหุนจง แต่นางก็ไม่กล้าที่จะ… ‘พูดตามใจนึก’ เช่นนี้
“อืม” เจียงเฮ่าพยักหน้าประดุจทัพหน้านำทัพบุกโจมตีข้าศึก หลิงหวังเยี่ยงเขาจะทำลายล้างสาขาหลีหุนจงที่ไม่มีผู้นำเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว เมื่อเขาเคลื่อนไหว มู่ชิงเหยียนก็พุ่งออกไปเข่นฆ่าศัตรูเคียงข้างเขาทันที

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์