พลังควบคุมจิตกลายเป็นดาบแหลมคมนับไม่ถ้วน แทงทะลุไปที่ร่างกายของอวี๋เหนียน ตอนที่เขาล้มลงบนพื้น ร่างกายของเข้ามีรูมากมาย เลือดแดงสาดไปทั่วเสื้อผ้า
เจียงหลีทำลายร้านอวี๋หลงแล้ว ก็ทำการหาของยกใหญ่ เจียงเฮ่าและมู่ชิงเหยียนออกไปอย่างเงียบๆ
เมื่อพวกเขากลับไปถึงกำแพงเมืองสำนักพรตเสวียนหมิง ขั้วอำนาจใหม่ของจยาเซียนได้ครอบคลุมพื้นที่ทางซีฮวงนี้ไว้เหมือนไฟที่โหมกระพือ โชคดีที่ประมุขสำนักพรตเสวียนหมิงสร้างบาปกรรมไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชา เมื่อขั้วอำนาจใหม่ปรากฏขึ้นจึงไม่ได้ต่อต้านอะไรมาก และยังมีกงเสวี่ยฮวาประมุขน้อยของวังเทียนอู่กงปรากฏตัวที่นั่นด้วย ทั้งหมดจึงดำเนินการได้อย่างราบรื่น
ณ ห้องเก็บของ
แก๊งๆ!
เสียงดังออกมาหยุด ทำให้คนที่เดินผ่านไปมา มองอย่างอยากรู้อยากเห็น ไม่รู้ว่าด้านในกำลังทำอะไร แต่ทว่า สถานที่สำคัญอย่างห้องเก็บของไม่ใช่สถานที่ที่ใครจะเข้าใกล้ได้ตามใจชอบใช่ไหม
ดังนั้น เหล่าคนที่รับเข้ามาใหม่ต่างก็ระงับความอยากรู้ของตนเองไว้ แล้วอยู่ห่างห้องเก็บของ
ภายในห้องเก็บของ เดิมทีเต็มไปด้วยของสำนักพรตเสวียนหมิงรีดไถเก็บมาหลายปี แต่ตอนนี้ ที่ว่างรอบกายเจียงหลีคล้ายมีรอยแยกแตกออกมา ของที่ใช่ในการฝึกฝนหล่นร่วงจากด้านนอกไหลมาไม่หยุด
ไม่ได้เป็นแค่เฉพาะนาง แต่รอบกายเจียงเฮ่าและมู่ชิงเหยียนก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน
ดูแล้วคล้ายน้ำตกสามสาย ไหลทะลักลงมา ผ่านไปครึ่งชั่วยามแล้วหินวิญญาณยังไหลลงมาไม่หยุด กงเสวี่ยฮวาตกตะลึงจนตาค้างแล้วเอ่ยถาม “พวกเจ้าไปปล้นมาหรือ”
ไม่ใช่แค่เขา ลู่เสวียน เหวินเหรินชิ่งชิ่ง ยังมีหนานอู๋เฮิ่น เฟิงสิงอวิ๋นอีกหลายคนก็ตกใจไม่น้อย
บอกว่าจะสืบเรื่องที่เมืองซู่หยา แต่ทำไมหลังกลับมา ดูเหมือนกับไปทำการปล้นสดมภ์มามากกว่า
พวกเขาพลาดเรื่องราวที่น่าสนุกเหล่านี้ไปหรือ
เมื่อผ่านไปชั่วครู่ เจียงหลีกับมู่ชิงเหยียนก็หยุดลงก่อน มีเพียงเจียงเฮ่าที่ยังไม่หยุด
เจียงหลีเอ่ยอย่างดีใจ “ดีที่มีพี่ใหญ่เป็นถึงหลิงหวัง กระเป๋าวิเศษจึงมีพื้นที่เก็บของมากขึ้น ไม่อย่างนั้นพวกเราคงทำได้เพียงมองของเหล่านี้แต่ไม่ปัญญาเอาออกมาใช้”
“พวกเจ้าตกลงไปทำอะไรที่เมืองซู่หยากันแน่” กงเสวี่ยฮวาดึงแขนเสื้อเจียงหลี ถามอย่างประหลาดใจ
ดังนั้น ในขณะที่รออยู่ เจียงหลีจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่เมืองซู่หยาให้พวกเขาฟัง
“พวกเจ้าทำลายสาขาของสำนักหลีหุนจง!” กงเสวี่ยฮวาเอ่ยอย่างตกตะลึง
“สมควรตาย! สังหารได้ดีมาก! คนพวกนี้น่ารังเกียจนัก! เสียดายที่ข้าไม่ได้ไป ไม่เช่นนั้น ข้าคงได้สังหารอย่างสะใจ” ลู่เสวียนกล่าวอย่างเกลียดชังและเคียดแค้นศัตรู
ดวงตาของเหวินเหรินชิ่งชิ่งเต็มไปด้วยความโกรธอย่างที่สุด “คนพวกนี้ช่างน่าขยะแขยงยิ่งนัก! นึกไม่ถึงว่าจะหลอกหญิงสาวจากหนานฮวง ไม่รู้เลยว่ามีหญิงสาวจำนวนเท่าไรที่โดนพวกมันลงมืออย่างอำมหิต”
หญิงสาวสองคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเดือดดาล ขณะที่หนานอู๋เฮิ่นและเฟิงสิงอวิ๋นสบตากัน สีหน้าเคร่งขรึม
“เจ้าก็ช่างหาเรื่องเสียจริง” กงเสวี่ยฮวาเอ่ยอย่างมีมโนธรรม
แน่นอน เขายอมรับว่าคนในสำนักหลีหุนจงควรถูกสังหาร แต่ว่าการที่เจียงหลีสร้างเรื่องถึงขั้นนี้ กลับไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย
“ยังดีที่เจ้าฉลาด รู้จักดึงวังเวิ่นฉิงมาพัวพัน ต่อให้หลีหุนจงสืบสาว อย่างน้อยก็มีวังเวิ่นฉิงรับหน้าแทนเจ้า” กงเสวี่ยฮวายิ้มเอ่ย
“ท่านอาจารย์หนาน ท่านอาจารย์เฟิง พวกข้าได้สร้างความเดือดร้อนอะไรให้กับกลุ่มอำนาจฮวงเสินหรือไม่” เมื่อมองเห็นสีหน้าของทั้งสอง เจียงหลีจึงเอ่ยถามขึ้น
หนานอู๋เฮิ่นเผลอยิ้มออกมาพลางส่ายหน้า “ถึงแม้หลีหุนจงจะมีอำนาจระดับกลาง แต่ฮวงเสินก็ไม่ขี้ขลาดด้วยเหตุเช่นนี้ แต่ทว่า เรื่องนี้หลังจากกลับไปที่ฮวงเสิน ก็ยังต้องรายงานให้เบื้องบนทราบ”
สำหรับเรื่องนี้เจียงหลีก็ไม่เห็นว่าจะเป็นอะไร จึงพยักหน้า
“เรื่องนี้หลีหุนจงลงมือกระทำการชั่วร้ายยิ่งนัก มีอำนาจยิ่งใหญ่แต่กระทำการเช่นนี้อำนาจนี้ต้องโดนปราบปรามให้สิ้นซากหรือไม่” ลู่เสวียนเอ่ยอย่างโมโห



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์