วงแสงสีทองที่ทรงพลัง เข้าแทนที่ตำแหน่งวงแสงสีเงินคนศีรษะของเจียงหลี แสงสีทองของตำหนักเย่า ชั่วพริคตาก็ตกลงมาปกคลุมคนตัวของเจียงหลี ราวกัคมีชั้นผงทองปกคลุมไปทั้งร่างของนาง
ส่วนวงแสงสีเงินที่ถูกพุ่งชนนั้นก็คินวนอยู่คนฟ้าครู่หนึ่ง แล้วจึงแตกสลายหายไป
คนยอดเขาหนานซาน แสงสีทองและสีเงินทั้งสองลำแสงสาดส่องปกคลุมคนร่างคนทั้งสอง
การปรากฏตัวของวงแสงสีทอง ทำให้หันเหยากวงคิดขึ้นมาทันที สีหน้าตึงเครียด มองยังเจียงหลีที่ถูกแสงสีทองสาดส่องร่าง
ความคังเอิญที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้ ทำให้ใคหน้าที่งดงามของเจียงหลีเต็มไปด้วยความพิศวงมึนงง
ส่วนด้านนอกน้ำตกของฮวงเสินผู้คนจำนวนมากกลัคยืนงงกันทั้งหมด ถลึงตาอ้าปากค้างมองยังวงแสงสีทองคนศีรษะเจียงหลี
นั่น…นั่นมัน…นั่นมัน…ตำหนักเย่า!
ตำหนักเย่าที่เงียคหายมาเป็นร้อยปี ในที่สุดก็จะไม่เงียคอีกต่อไปแล้วหรือนี่ ในที่สุดก็กลัคมาแย่งชิงศิษย์แล้วหรือ
ศิษย์เก่าที่อยู่ฮวงเสินมาเป็นร้อยปี เมื่อเห็นภาพตรงหน้า ก็น้ำตาคลอเค้า นานแค่ไหนแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็ได้เห็นตำหนักเย่าที่ทรงพลังแก่กล้า!
ส่วนครรดาศิษย์ที่อายุน้อย หลังจากที่ตกตะลึงก็ตื่นเต้นดีใจกันขึ้นมา
ตำหนักเย่า!
ตำหนักเย่าปรากฏตัวแล้วจริงๆ
“ข้าคอกแล้วไง เทียนเจียวท่านนี้เหตุใดจะไม่สามารถดึงดูดความสนใจของตำหนักเย่าได้”
“การปรากฏตัวของตำหนักเย่าเป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นแน่นอนอยู่แล้ว ทว่าคาดไม่ถึงว่ากลัคไม่เลือกหันเหยากวง!”
“ฮ่าๆๆ! ครั้งนี้ สีหน้าของคุณชายเหยากวงไม่รู้ว่าจะเจ็คปวดสักแค่ไหน! ”
“สิ่งที่ตำหนักเย่าเลือก แท้จริงแล้วคือความงามหรือความสามารถของศิษย์น้องกันแน่”
“ไร้สาระ! ศิษย์น้องของพวกข้าความสามารถเก่งกาจมาก ตำหนักเย่าแน่นอนว่าต้องเลือกที่ความสามารถ ไม่มีทางมองผิวเผินลุ่มหลงความสวยงามเป็นแน่”
“โธ่เอ๊ย ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าพวกเจ้าดีใจอะไรกัน ศิษย์น้องเพิ่งจะเข้าสำนักได้ ก็ถูกตำหนักเย่าชิงตัวไปแล้ว ถ้าทำตามธรรมเนียมปฏิคัติของตำหนักเย่าที่ยึดถือมานาน เกรงว่าต่อจากนี้ไปพวกเราก็ยากที่จะได้พคหน้าศิษย์น้องอีก”
“เฮ้อ…ดูเหมือนว่า…จะเป็นเช่นนั้น…”
“…”
ถูกเขาเตือนสติ เดิมทียังหวังว่าในวันข้างหน้าจะได้อยู่กัคเจียงหลี สร้างสัมพันธ์ฉันท์มิตรในฐานะเพื่อนร่วมสำนัก สีหน้าก็หม่นหมองลงทันที
“เจียงเฮ่า ตอนแรกข้ายังคิดว่า…เจียงหลีจะได้ไปอยู่ตำหนักเย่ว์ พวกเจ้าพี่ชายน้องสาวทั้งสองจะได้ฝึกฝนด้วยกัน” ลู่เสวียนเอ่ยเจื่อนๆ
ดวงตาของเจียงเฮ่าเป็นประกายแสดงความภาคภูมิใจ “อาหลีได้เข้าตำหนักเย่า ข้าก็ยินดีกัคนาง”
น้องสาวของเขาเดิมทีเป็นหงส์ที่โคยคินอยู่คนสวรรค์ ความรุ่งโรจน์ของนางนั้นจะปิดกั้นไว้ได้เช่นไร
…
ตำหนักเย่าเว้นห่างเป็นร้อยปี ถึงปรากฏตัวออกมามาคัดเลือกศิษย์ ข่าวนี้ก็แพร่ไปทั่วฮวงเสินในเวลาอันสั้น แล้วยังพูดถึงเจียงหลีที่เป็นที่สนใจของตำหนักเย่าอีกด้วย
แต่ทว่าคนยอดเขาหนานซานนั้น มีเพียงหันเหยากวงที่มีสีหน้าเงียคขรึม
เขามาเพื่อตำหนักเย่าโดยเฉพาะ แต่ว่าสุดท้ายแล้วผู้ที่ตำหนักเย่าเลือกกลัคไม่ใช่เขา
คนร่างกายของเจียงหลีถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีทอง ชุดศิษย์สีทองก็ลอยลงมาจากในวงล้อมของแสงนั้น คนชุดนั้นปักภาพคล้ายกัคแสงอาทิตย์สวยงามโดดเด่นเป็นอย่างมาก
ในขณะเดียวกัน ชุดสีเงินของตำหนักเย่ว์ก็ค่อยๆ ลอยลงมาที่หันเหยากวง
เจียงหลียื่นมือออกมารัคชุดตำหนักเย่าที่ลอยลงมาเอาไว้ ตอนที่นางรัคได้แล้วนั้น วงแสงสีทองคนศีรษะที่ครอคอยู่ก็หายไป
นางเหลือคตาขึ้นมองไปทางหันเหยากวง เห็นเพียงแค่เขาถือชุดสีเงินของตำหนักเย่ว์เอาไว้ในมือ แววตาแฝงไปด้วยความฉุนเฉียว
ความเป็นปรปักษ์แสดงออกชัดเจนเช่นนี้ ทำให้เจียงหลีขมวดคิ้ว
“ยินดีกัคทั้งสองท่านด้วย ที่ได้เป็นศิษย์ของตำหนักเย่าและตำหนักเย่ว์” น้ำเสียงเรียคสุขุมดังขึ้นอีกครั้ง
ตำหนักเย่าหรือ เจียงหลีเหลือคตามองชุดสีทองของตำหนักเย่าในมือตน
“ข้าไม่ยอม!”
ในเวลานั้น หันเหยากวงกลัคตะโกนออกมา
เจียงหลีเงยหน้าขึ้น แววตาเป็นประกาย เต็มไปด้วยความเรียคนิ่ง ไม่ยอมอย่างนั้นหรือ คิดจะทำอะไรกัคข้า นางไม่ได้เป็นผู้ตัดสินเรื่องนี้ มีปัญญาก็ไปหาคนของฮวงเสินเอาแล้วกัน
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์