ทันใดนั้น…
ทุกคนล้วนมองไปยังหนึ่งเดียวในสระสรรพสัตว์
มือของหันเหยากวงที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อแอบกำแน่น ดวงตาอันเศร้าหมองมองไปยังร่างอันมีเสน่ห์ในสระน้ำ ทำไม เขาถามตัวเองในใจ
ทุกสิ่งที่เขาสู้สุดชีวิตเพื่อพิสูจน์ นางกลับทำสำเร็จโดยไม่ตั้งใจ!
นางงดงามมาก มากจนทำให้ทุกคนเพ้อฝัน เดิมทีสตรีเช่นนี้ควรได้รับการปกป้องจากสุภาพบุรุษ แต่สำหรับนาง กลับยืนอยู่แนวหน้าราวกับเทพผู้ยิ่งใหญ่กลับชาติมาเกิด คนที่อยากจะเอาชนะ แต่สุดท้ายก็ต้องยอมจำนนแทบเท้านาง
“ศิษย์น้องเล็ก!” เสียงตื่นเต้นของคุนอู๋ดังขึ้น
เสิ่นฉงยิ้ม ดวงตาสว่างไสวราวกับฝนดาวตก
“ฮ่าๆๆ…! ศิษย์น้องเล็กถ้าได้แสดงความสามารถเมื่อใด ก็จะทำให้คนรอบข้างตะลึงมากจริงๆ!” ซีไหลหัวเราะชอบใจอย่างมีความสุข หลังจากพูดจบ เขาก็ไม่ลืมยักคิ้วที่ยั่วยุใส่เจ้าตำหนักเย่ว์ทั้งสาม
อย่างไรก็ตาม เจ้าตำหนักเย่ว์ทั้งสามจะมีเวลาสนใจกับการยั่วยุของเขาได้อย่างไร
พวกเขากำลังตกตะลึงกับภาพลวงตาตรงหน้า ภาพลวงตาของหมู่ดาว ได้เกินความเข้าใจของพวกเขาไปเสียแล้ว
ไม่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้น แต่บรรดาศิษย์ของฮวงเสินต่างจ้องมองเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยความตกตะลึงจนอ้าปากค้าง ทุกคนที่ถูกแสงของหมู่ดาวห้อมล้อมดูเหมือนจะเปล่งประกายกันทุกคน
“งดงามยิ่งนัก!”
“ช่างงดงามมากยิ่งนัก…”
“…”
หลายคนใช้มือจับแสงดาวและต้องการสัมผัสหมู่ดาวนั่น โดยแสงสว่างเหล่านั้นเสมือนจริงนัก และเคลื่อนไหวไปมาท่ามกลางพวกเขา
“โอ้โห งดงามที่สุด!”
ท่ามกลางฝูงชน เหวินเหรินชิ่งชิ่งแบมือทั้งสองข้างรับแสงดาวที่ตกลงมาและเผยรอยยิ้มอันแสนหวาน
ลู่เสวียนหันหน้ากลับไป มองเห็นใบหน้าเล็กๆ ของนางถูกแสงดาวสาดส่องเป็นประกาย ณ เวลานั้น เขาตกอยู่ในภวังค์ของรอยยิ้มอันแสนหวานนั้น
ผู้คนนับไม่ถ้วนลุ่มหลงในภาพลวงตาจนลืมว่าเป็นภาพเสมือนจริง
แต่คนที่สร้างปรากฏการณ์นี้ทั้งหมดกลับไม่รู้สึกตัว และยังคงหมกมุ่นอยู่ในโลกของตัวเอง
เจียงหลีผู้ซึ่งจิตว่างเปล่าอย่างสมบูรณ์ ดูเหมือนจะกลับมายังทะเลดวงดาว และนึกถึงตอนที่นางล่องลอยอยู่กลางทะเลดวงดาวนั่น ภาพลวงตาของดวงดาวเหล่านี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้น แต่เกิดจากความทรงจำของนางเอง ล้วนคือวิวทิวทัศน์อันงดงามที่นางเคยเดินร่อนเร่ในทะเลดวงดาว
ทันใดนั้น ลมปราณจากระยะไกลถึงระยะใกล้ก็ตกลงมาที่ฝั่งของเสิ่นฉงในทันที
ทันทีที่เขาปรากฏตัว พวกเสิ่นฉงทั้งสามรีบเอ่ยขึ้น “ซือจุน!” ส่วนคนอื่นๆ ก็เรียกอย่างนอบน้อม “ท่านประมุข”
หันเหยากวงจ้องไปที่ชายชราด้วยท่าทางที่สับสน ในวันที่ทดสอบเข้าสำนัก เขาเคยถูกชายชราปฏิเสธ
ตำหนักเย่า เดิมทีเขาคิดว่าด้วยชื่อเสียงและพรสวรรค์ของเขา จะสามารถเปิดประตูสู่ตำหนักเย่าได้อย่างแน่นอน แต่เขากลับถูกตบหน้าเสียงดัง
ใช่ เจียงหลีเก่งกว่าเขาในด้านทักษะการต่อสู้ เขายอม!
แต่สำหรับพรสวรรค์ของการรู้แจ้งในศาสตร์ลับยังเหนือกว่าเขาอีกหรือ
“ซือจุนทราบหรือไม่ว่าภาพลวงตาของหมู่ดาวหมายความว่าอะไร” เสิ่นฉงเดินไปหาท่านประมุขและกระซิบถามข้างหู
ดวงตาที่ลุ่มล้ำของท่านประมุขดูดซับแสงดาว โดยมองไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
เขาตอบด้วยเสียงนิ่งเรียบเพียงว่า “รอดูต่อไป”
รอดูต่อไป!
ดวงตาของเสิ่นฉงหรี่ลง และถอยหลังสองก้าวโดยไม่ถามเพิ่ม
ด้านนอกสระสรรพสัตว์ คนส่วนใหญ่ที่จมอยู่ในภาพลวงตาของดวงดาวนั้น ไม่รู้ว่าท่านประมุขมาถึงแล้ว มีเพียงไม่กี่คนที่สังเกตเห็น แต่พวกเขากลับแอบตกใจในใจ ชั่วครู่ การเคลื่อนไหวของหันเหยากวงดึงดูดเจ้าตำหนักเย่ว์ทั้งสามให้มาปรากฏตัว แต่ตอนนี้ การเคลื่อนไหวของรองประมุขคนใหม่กลับทำให้ท่านประมุขต้องมาปรากฏตัวด้วยตัวเองเลยหรือ!
ภาพลวงตาของดวงดาวฉายภาพเป็นเวลานาน
คนที่อยู่ข้างสระสรรพสัตว์ ไม่มีใครเดินจากไป พวกเขาทั้งหมดยังคงรอกันต่อไป หรือเพราะไม่อยากพลาด หรืออาจรอคอยอะไรบางอย่างอยู่
ทันใดนั้น ภาพลวงตาของดวงดาวก็เริ่มเปลี่ยนไป
ดาวเหล่านั้นหายไปทีละดวง และกลายเป็นแสงดาวที่คล้ายกระแสน้ำวน
“อ่า!”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์