มุมปากของเจียงหลีกระตุกและพูดกับคนทั้งสาม “ข้าจะออกไปข้างนอกสักครู่” หลังจากออกมาจากสระสรรพสัตว์ นางยังไม่ได้พบพวกเจียงเฮ่าและลู่เสวียนเลย
“วันนี้เจ้าฝึกฝนเสร็จแล้วหรือ” เสิ่นฉงยิ้มอย่างสง่างามเป็นพิเศษ
เอ่อ…
เจียงหลียิ้มอย่างเขินอาย เจ้าเปี๊ยกที่นางอุ้มไว้ในอ้อมแขนลืมตาขึ้นอย่างเกียจคร้าน และค่อยๆ กวาดสายตามองชายรูปงามทั้งสาม
เขาไม่ได้รู้สึกว่าคนทั้งสามคิดไม่ซื่อกับภรรยาตน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ใช่ศัตรู
อีกทั้ง…
หลีเอ๋อร์ของเขาต้องใครสักคนคอยกระตุ้น มิเช่นนั้นจะเกียจคร้านเกินไป
เจ้าเปี๊ยกผู้น่ารักที่ค่อยๆ หลับตาลงอีกครั้ง โดยไม่มีใครสังเกตเห็นว่าส่วนลึกของดวงตาคู่นั้นประกายแสงแห่งความรักและความเอ็นดูขึ้น
“ศิษย์พี่ใหญ่ ข้ามีเรื่องจะหารือกับพี่เจียงเฮ่าสักหน่อย ข้าจะออกไปเพียงประเดี๋ยวเดียวแล้วจะรีบกลับมา” เจียงหลีต่อรอง
แต่เสิ่นฉงกลับส่ายศีรษะ “ไม่ได้ ซือจุนสั่งไว้ว่าให้เจ้าตั้งใจฝึกฝนอยู่ในตำหนักเย่าให้เต็มที่ และให้เราสามคนจับดูเจ้า หากเจ้าต้องการอะไร บอกพวกเราได้”
“ใช่แล้ว! ศิษย์น้องเล็ก เจ้าอยากได้อะไร ฝากบอกอะไร แลกของอะไร บอกพวกเราได้ทั้งนั้น” ซีไหลกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“…” เจียงหลีกัดฟันฉีกยิ้ม “ข้าจะรบกวนศิษย์พี่ทั้งสามได้อย่างไร” นางรู้สึกประหลาดใจจากการได้รับความรักอย่างไม่คาดฝันกับการที่หลิงหวังทั้งสามจะทำตามคำสั่งของนาง
“ศิษย์น้องเล็กต่อให้พรสวรรค์จะมีมากแค่ไหนก็ต้องฝึกฝนให้หนัก!” คุนอู๋พูดอย่างจริงจัง
เจียงหลีพูดไม่ออกบอกไม่ถูก “ข้าแค่จะออกไปข้างนอกประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น มิได้รบกวนการฝึกฝนใดๆ” หากยังไม่จัดเตรียมพวกพี่ชายให้เรียบร้อย นางจะตั้งใจฝึกฝนได้อย่างไร
“หากเจ้ากังวลเรื่องความสะดวกในการฝึกฝนของพี่ชายเจ้าและเพื่อนคนอื่น ก็ไม่ต้องไปด้วยตัวเองหรอก อาจารย์ได้บอกกล่าวกับทางตำหนักว่าการและผู้อาวุโสไว้ล่วงหน้าแล้ว หากไม่ละเมิดกฎของทางสำนัก ท่านทั้งหลายก็จะอำนวยความสะดวกให้ตามที่ต้องการ” ซีไหลยักคิ้วกล่าว
เจียงหลีมองหน้าเขาด้วยความตะลึง และประหลาดใจในใจอย่างมาก ให้เกียรติข้าขนาดนี้เลยหรือ
“เอาล่ะ วันนี้ข้าจะสอนวิธีฝึกศาสตร์ลับ เจ้าเตรียมใจให้พร้อม” เสิ่นฉงพูดกับเจียงหลี
ฝึกศาสตร์ลับ!
ดวงตาของเจียงหลีเป็นประกาย และนางก็เริ่มสนใจขึ้นมาทันที
ทันใดนั้น นางนึกถึงคำพูดของซีไหล จึงถามด้วยความสงสัย “ศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์พี่รองเคยพูดว่าศาสตร์ลับก็แบ่งออกเป็นสองประเภทเช่นเดียวกัน”
เสิ่นฉงพยักหน้า “วันนี้ข้าจะแนะนำอย่างละเอียด แต่ข้าเชี่ยวชาญในประเภทแรก ส่วนน้องสามถนัดในประเภทที่สอง หลังจากที่ข้าสอนจนเจ้าเข้าใจพื้นฐานแล้ว เขาจะรับช่วงต่อและสอนประเภทที่สองให้กับเจ้า”
“ได้” เจียงหลีพยักหน้าอย่างแรง
หายวันต่อจากนี้ เจียงหลีจะฝึกฝนภายใต้การแนะนำของเสิ่นฉงและเริ่มเรียนรู้ศาสตร์ลับ
ที่เรียกว่าศาสตร์ลับประเภทแรกก็เหมือนกับวันที่เสิ่นฉงแสดงต่อหน้าเจียงหลีในวันนั้น…
“ศาสตร์ลับประเภทแรกแบ่งย่อยออกเป็นหลายประเภท อาทิ เคลื่อนที่ในทันที ภาพลวงตา รวบรวมวัตถุ ส่งเสียง มองจากระยะไกล เป็นต้น” เสิ่นฉงยืนอยู่ตรงหน้าเจียงหลีและอธิบายให้นางฟัง
คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามเขาคือซีไหล
“ต่อไป ข้ากับศิษย์พี่รองของเจ้าจะแสดงให้เจ้าดูว่าจะใช้ศาสตร์ลับในการต่อสู้อย่างไร” หลังจากเสิ่นฉงพูดจบ เขาพยักหน้าให้กับซีไหล
พลังวิญญาณที่น่าสะพรึงกลัวปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของซีไหล ทำให้ดวงตาที่จับจ้องของเจียงหลีหดตัวลง ช่างเป็นลมปราณที่แข็งแกร่งยิ่งนัก!
และนี่เป็นผลมาจากการตั้งใจกดดันจากฝั่งซีไหล
แค่เพียงสาธิตให้ดูเท่านั้น ทั้งสองย่อมไม่ได้ออกแรงเต็มที่
ตอนนี้ ซีไหลกำลังเคลื่อนหมัดทั้งสองข้างและกลายเป็นนับกระบวนท่านับหมื่นพัน ปิดผนึกไปทั่วทุกมุม และโจมตีไปที่เสิ่นฉง ส่วนเสิ่นฉงกลับยืนนิ่ง เมื่อการโจมตีเข้ามาประชิด เขาก็หายตัวไปในทันที และเมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เขาก็อยู่ที่ด้านหลังของซีไหลแล้ว
เจียงหลีเบิกตากว้าง
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์