“สายตาที่เจ้ามองข้า…” ฉินเทียนอีหรี่ตา มองเจียงหลีด้วยแววตามึนเมา
เจียงหลีเลิกคิ้วขึ้น ยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย
“…รู้สึกประหลาดน่ะ” ฉินเทียนอีพยักหน้าอย่างมั่นใจ เขามักรู้สึกว่าบางครั้งสายตาที่เจียงหลีมองมา กำลังมองคนอ อื่นผ่านเขา
หลังจากเจียงหลีเงียบไปชั่วขณะ จู่ๆ เงยหน้าหัวเราะเสียงดังออกมา ท่าทางขี้เล่น มีตรงไหนเหมือนหญิงสาวที่มีเสน่ห์หร รือ
แต่ท่าทางบ้าบิ่นขี้เล่นของนางนี่เอง ประกอบกับใบหน้าอันสวยงามของนาง ยิ่งทำให้งดงามจนสะกดตา และยิ่งทำให้ใจ จคนเกิดความอยากเอาชนะขึ้นมา
ฉินเทียนอีมองจนคลั่งไคล้ และไม่ได้ปกปิดความลุ่มหลงของเขาในตอนนี้เอาไว้เลย
เสียงหัวเราะของเจียงหลีก็หยุดลง ความหลงใหลของเขาอยู่ในสายตาของนาง “แปลกหรือ อาจเป็นเพราะชุดสีแดงบนตัวเ เจ้าขวางหูขวางตา”
“…” คำตอบนี้ ทำให้ฉินเทียนอีตื่นจากความหลงใหล
เจียงหลีอุ้มเจ้าเปี๊ยกแล้วลุกขึ้น นำกาสุราที่ดื่มหมดส่งคืนให้กับเขา “อย่าหลงรักข้า มิฉะนั้นเจ้าจะเจ็บหนัก”
นางเอ่ยหยอกล้อ
คำพูดทีเล่นทีจริง ทำให้ในใจของฉินเทียนอีราวกับถูกแมวข่วน และพูดโพล่งออกไปทันที “แล้วถ้าข้าไม่กลัวล่ะ”
เจียงหลีถอนหายใจ หรี่ตายิ้มเอ่ยอย่างเย้าแหย่ “ทั้งที่รู้ว่าข้ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว ยังควบคุมใจตัวเองไม่ได้น่ะ ะหรือ เพื่อชีวิตของเจ้า นับจากนี้พวกเราอย่ามาเจอกันอีกเลยดีกว่า”
ฉินเทียนอีถูกปิดปากจนขำไม่ออก ส่ายศีรษะเอ่ย “เจ้าปฏิเสธกันตรงๆ เช่นนี้เลยหรือ”
เจียงหลียกคิ้ว พยักหน้ายอมรับ “ข้าไม่ชอบพูดจาอ้อมค้อม โดยเฉพาะเรื่องแบบนี้ เพราะเป็นสหายกัน ข้าถึงได้พูดให้ ชัดเจน หากไม่ใช่สหาย ก็คงไม่ทำเช่นนี้หรอก”
“หากไม่ใช่สหาย…เจ้าก็จะฆ่าทิ้งเสีย ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม” ฉินเทียนอีหัวเราะอย่างกลั้นไม่อยู่
เจียงหลีรวบผมตัวเองขึ้น ยิ้มเยาะเล็กน้อย “อย่าพูดจนข้าดูอำมหิตถึงเพียงนั้น ข้าฆ่าเฉพาะพวกตามตื๊อไม่เลิก และ ะคนที่สมควรตายเท่านั้น”
ฉินเทียนอียิ้ม ยิ้มอย่างสดใสอย่างมาก
ถูกเจียงหลีปฏิเสธ เป็นเรื่องที่คาดไว้อยู่แล้ว เขาจึงไม่ได้รู้สึกทุกข์ใจแต่อย่างใด
“ดูแล้ว เป็นสหายกับเจ้าน่าจะดีกว่า อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลใจ” เขาเอ่ยกึ่งหยอกล้อไปเช่นกัน
“เป็นการเลือกที่ฉลาดมาก” เจียงหลียิ้มกริ่มมองเขา
การสนทนาของทั้งสอง ทีเล่นทีจริง สนุกสนานบ้าง จริงจังบ้าง
แต่ทั้งสองล้วนเป็นคนฉลาด การเลือกของทั้งคู่ต่างรู้ดีแก่ใจ
…
ดินแดนผนึกมารไม่สามารถแยกกลางวันกลางคืนได้ วันเวลาก็หมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไปอย่างคลุมเครือ ทำได้เพียงกะเวลาโด ดยประมาณนับตั้งแต่เดินเข้ามา
ต่อจากนี้อีกสามวัน เจียงหลีจะออกสำรวจพร้อมกับฉินเทียนอี
ผ่านไปสักพัก พวกเขาก็พบกับกฎข้อหนึ่ง นั่นก็คือวิญญาณชั่วร้ายที่นี่ดูเหมือนว่าจะตื่นขึ้นมาครึ่งวัน นอนหลับคร รึ่งวัน ทุกครั้งที่วิญญาณชั่วร้ายตื่นขึ้นมาในดินแดนผนึกมาร ล้วนมองเห็นเป็นวิญญาณชั่วร้ายประเภทต่างๆ
นอนหลับครึ่งวัน จึงปลอดภัยอย่างมาก
ยิ่งไปกว่านั้น วิญญาณชั่วร้ายเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะมีการแบ่งความแข็งแกร่งและอ่อนแอ ยิ่งอาศัยอยู่ในดินแดนผนึกมาร รนานเท่าไน พลังการต่อสู้ดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น
วิญญาณชั่วร้ายฆ่าไม่ตาย เวลาในสามวัน เจียงหลีกับฉินเทียนอีไม่ว่าจะใช้วิธีใดฆ่าวิญญาณชั่วร้ายก็ตาม ผ่านไปชั่ว วครู่ วิญญาณชั่วร้ายเหล่านี้ก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
ก็เหมือนกับกิเลสในใจผู้คน ทุกครั้งที่รู้สึกว่าขจัดออกไปแล้ว ก็จะผุดขึ้นจากก้นบึ้งหัวใจขึ้นมาอีกโดยไม่รู้ตัว และกัดกินจิตใจอีกครั้ง
“บางที พวกเขาถูกขนานนามว่าวิญญาณชั่วร้าย ก็คงเป็นเพราะเช่นนี้” ฉินเทียนอีเอ่ย



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์