ทันใดนั้นใบหน้าที่ดุร้ายของวิญญาณชั่วร้ายก็ขยายใหญ่ขึ้น ในสายตาของเจียงหลีและไหวปี้
จู่ๆ ความดุร้ายที่น่าสะพรึงกลัว และเยือกเย็นก็ครอบคลุมมาที่พวกนาง
“ไปเร็ว” เจียงหลีหรี่ตาลง คว้าข้อมือของไหวปี้ ร่ายเวทย์พรางตัวและหายตัวไปในทันที
เมื่อพวกมันปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทั้งสองก็มาถึงใต้ต้นไม้แล้ว และความสยดสยองบนใบหน้าของไหวปี้ยังไม่จางหาย
เมื่อทั้งสองเงยหน้าขึ้น ก็เห็นว่ายอดไม้ที่ยืนอยู่เมื่อครู่นี้เต็มไปด้วยวิญญาณชั่วร้าย วิญญาณชั่วร้ายเหล่านั้นเหมือนกระแสน้ำ ลงมาตามลำต้นของต้นไม้และรุมเข้าหาพวกนาง
“ทำยังไงดี” ไหวปี้อยู่ในความตื่นตระหนก
มีวิญญาณชั่วร้ายอยู่ทุกทิศทุกทาง ภาพเหตุการณ์ช่างน่ากลัวเหลือเกิน!
“วิ่ง!”
เจียงหลีออกคำสั่งและวิ่งไปข้างหน้าพร้อมกับไหวปี้
อย่างไรเสียก็เป็นหลิงจง ทั้งสองได้ใช้พลังวิญญาณจนสุดขั้ว กลายเป็นลำแสงสองดวงที่หนีให้ไกล วิญญาณชั่วร้ายที่ไม่มีพลังวิญญาณ ไม่ว่าจะเร็วแค่ไหน ก็ยากที่จะเทียบกับพวกม มัน
อย่างไรก็ตาม มีวิญญาณชั่วร้ายมากเกินไป ไม่ว่าพวกนางจะวิ่งอย่างไร ก็ไม่สามารถหนีพ้นพวกมันได้
…
นอกดินแดนผนึกมารแห่งซีฮวงนี้ ป้อมปราการเฟยอวิ๋นที่ทรงพลังที่สุดตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของแว่นแคว้น
ที่นี่บรรพตสูงอันหนาวเหน็บไม่มีที่สิ้นสุด ในหนึ่งปี สองในสามของวันถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาว เป็นสีขาวล้วนทุกหนทุกแห่ง
ป้อมปราการเฟยอวิ๋นอยู่ที่นี่
ระหว่างยอดเขาหิมะและหน้าผา ป้อมปราการเฟยอวิ๋นปรากฏขึ้นท่ามกลางสายลมและหิมะ
สถานที่แห่งนี้อยู่ในที่ที่หนาวเย็นมากและกลุ่มอำนาจที่ยึดที่นี่คือป้อมปราการเฟยอวิ๋น ไม่รู้ด้วยเหตุผลอะไรป้อมปราการเฟยอวิ๋นถึงเลือกเปิดสำนักตรงที่แห่งนี้
ในป้อมปราการเฟยอวิ๋น ลูกศิษย์ที่รับผิดชอบส่งศิษย์ของตนไปยังดินแดนผนึกมารได้กลับมาแล้ว และรายงานเรื่องนี้กับเจ้าป้อมปราการรับรู้
“เจ้าหมายถึง มียอดฝีมือของตำหนักเย่าเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนหรือ” เจ้าปราการเฟยอวิ๋นซ่อนตัวอยู่ในม่าน เหลือเพียงเงา ซึ่งทำให้ดูลึกลับอย่างมาก
ระหว่างทั้งสองคน นอกจากม่าน ยังมีเตาไฟ เปลวไฟทำให้ห้องอบอุ่นเหมือนวสันตฤดู โดยไม่ถูกรบกวนจากความหนาวเย็นภายนอกเลย
“ขอรับ เจ้าปราการ” ศิษย์กล่าวด้วยความเคารพ
“เหอะ…” ภายใต้ม่านบางเบา เสียงหัวเราะนั้นช่างดูเย้ยหยันนัก “ดูเหมือนว่าตาเฒ่าจากฮวงเสินนั่นไม่ตายใจสินะ”
ศิษย์พยักหน้า “เจ้าปราการพูดถูก ตั้งแต่เราบีบให้ฮวงเสินลงจากกลุ่มอำนาจระดับสูง พวกเขาก็คิดแต่ว่าจะทำอย่างไร เพื่อเอาตำแหน่งกลับคืนมา!”
“งานปาฐกถาเจ้าครองนครยังเหลือเวลาสิบกว่าปี จู่ ๆ พวกเขาก็รับศิษย์ใหม่ในเวลานี้” เสียงของเจ้าปราการดูสนใจขึ้นเล็กน้อย “ดูเหมือนว่าศิษย์ใหม่คนนี้จะโดดเด่น ถูกตรวจสอบแล้ว หรือ”
“ตรวจสอบแล้ว” ศิษย์บอกเรื่องเจียงหลีทันที เช่นเดียวกับที่เจียงหลีคาดเดา ฮวงเสินจะลบความจริงที่ว่านางมาจากหนานฮวง ดังนั้น การสืบสวนของป้อมปราการเฟยอวิ๋น จึงเริ่มต้นจากการป ประเมินการเข้าสำนักของนางเท่านั้น โดยมีเพียงประวัติทั่วไป แต่ไม่มีคำอธิบายโดยละเอียด สำหรับเรื่องราวก่อนหน้านี้ของนาง มีเพียงประโยคเดียว… ‘ซีฮวงต่างฝึกฝนด้วยตนเอง’
“นางบดขยี้หันเหยากวงถึงสองครั้งรึ หันเหยากวงคนนี้ก็ถือว่าเป็นคนมีพรสวรรค์ เป็นเทียนเจียวที่มีชื่อเสียงในซีฮวง แต่เขากลับแพ้หญิงสาวคนหนึ่ง อืม…น่าสนใจ” ในน้ำเสีย ยงของเจ้าปราการ ไม่ชัดเจนว่าอารมณ์ของเขาเป็นอย่างไร
“ส่วนทั้งสามคนจากตำหนักเย่า เกรงว่าพวกเขาจะเลื่อนขั้นเป็นหลิงหวงแล้ว ไม่เช่นนั้นฮวงเสินคงไม่มีทางรับศิษย์ตำหนักเย่าคนใหม่?” ศิษย์คาดเดาอย่างระมัดระวัง
หลังม่าน เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นอีกครั้ง
คราวนี้ ศิษย์ฟังออกว่าเป็นเสียงหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์