ดินแดนผนึกมารอยู่ที่ใดที่หนึ่งในทุ่งราบนี้
เหมือนม่านใสสีเทาที่มีขนาดใหญ่ตกลงมาจากฟ้าปกคลุมทุ่งราบนี้ทั้งหมด
ม่านใสสีเทานี้ส่องแสงอ่อนๆ แต่กลับปิดตายทุกมุม ปิดล้อมทั้งสามสิบสามคนไว้ข้างใน
มีคนสองสามคนผ่านมาจากที่ไกลๆ แล้วมาอยู่ด้านหน้าม่านใส
“นี่มันคืออะไรกันแน่” กงเสวี่ยฮวาพูดแล้วก็ยื่นมือไปจับม่านใสนั้น
“ฮวาฮวา!” เจียงหลีหันมามองเขา แล้วเห็นเขายื่นมือไปแตะพอดี นางอยากจะห้าม แต่ช้าไปนิดเดียว
เมื่อมือของกงเสวี่ยฮวาแตะโดนม่านใสสีเทา ทั้งตัวก็เหมือนกับถูกกระแสไฟ
ชั่วพริบตาเดียวก็ไม่มีสติ ตกอยู่ในภวังค์
แบบนี้นี่เอง…ต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ…
ข้าไม่ใช่ผู้ที่อ่อนแอ! ไม่ใช่!
พวกเจ้าทุกคนล้วนแต่ดูถูกข้า เช่นนั้นข้าจะฆ่าให้หมดทุกคนนน!
อีกนิดเดียว อีกแค่นิดเดียว…
ทำไมถึงไม่เป็นข้า ทำไม
“…”
ในดวงตาของกงเสวี่ยฮวามีภาพเหตุการณ์มากมายฉายขึ้นมา เหตุการณ์เหล่านั้นที่ปรากฏขึ้นมัวไปหมด ภาพเหตุการณ์ที่ปรากฏมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาปวดหัวจนหัวแทบระเบิด แม้แต่หายใจก็ยังลำบาก
หัวใจของกงเสวี่ยฮวาเต้นเร็วมาก เลือดในตัวทั้งหมดไหลเข้าสู่หัวใจ และเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ เหมือนว่าจะระเบิดออกมาได้ตลอดเวลา
“เขาเป็นอะไรไปน่ะ” เจียงเฮ่าขมวดคิ้วแล้วมองกงเสวี่ยฮวา
กงเสวี่ยฮวายืนอยู่ข้างๆ ม่านใส ทันใดนั้นก็นิ่งไป ทั้งตัวไม่ขยับ เหมือนว่าแขนขาแข็งไปหมด ยังคงอยู่ในท่าเมื่อครู่นี้
แต่ว่าใครก็ดูออกว่าตอนนี้เขาไม่เหมือนเดิมแล้ว
ถึงแม้ว่าเขาจะขยับไม่ได้ แต่ร่างกายของเขาสั่นอยู่ตลอด เขาหายใจแรงมาก สีหน้าซีดเซียว เหงื่อออกเต็มไปหมด หยดลงมาจากหน้าผากไปยังจอนผม แม้แต่ตาก็มองไปข้างบน เผยให้เห็นท้องฟ้าสีขาว
“ภาพมายา!” เจียงเฮ่าขมวดคิ้วหนักขึ้น
“นายน้อยกง! นายน้อยกง!”
“แม่นางเจียง ทำอย่างไรดี เจ้ารีบคิดหาวิธีช่วยนายน้อยกงของพวกเราเร็ว!”
คนของวังเทียนอู่กงทั้งสี่ก็ร้อนรนขึ้นมาทันที ทุกคนต่างมองเจียงหลีอย่างอ้อนวอน ก่อนหน้านี้เจียงหลีได้แสดงพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ ไม่เพียงแต่เป็นที่หนึ่งในหอดูดาว ยังเอาชนะมู่เหยียนฉือเทียนเจียวแห่งวังเทียนอู่กง สำหรับลูกศิษย์วังเทียนอู่กงอย่างพวกเขาแล้ว ภาพเหตุการณ์นั้นยังคงตราตรึงไม่ลืม
โดยเฉพาะทั้งสี่คนที่ตอนแรกได้เห็นเจียงหลีเอาชนะมู่เหยี่ยนฉือและเลื่อมใสนางเป็นอย่างมาก
และพวกเขาก็รู้ว่าเจียงหลีและกงเสวี่ยฮวาเป็นเพื่อนสนิทกัน ตอนนี้นายน้อยตกที่นั่งลำบาก พวกเขาไม่รู้จะทำอย่างไรดี ก็เป็นธรรมดาที่จะขอความช่วยเหลือจากเจียงหลี
“พวกเจ้าหลบไปหน่อย อย่าไปแตะม่านนั่นเล่น” เจียงหลีพูดกับคนของฮวงเสินและวังเทียนอู่กง
เห็นว่ากงเสวี่ยฮวาเป็นอย่างไรแล้ว ไม่มีใครตั้งคำถามกับคำพูดนี้ของเจียงหลี ทุกคนต่างพากันถอยหลังไป แล้วมองม่านประหลาดนั้นด้วยความระมัดระวัง
เจียงหลีหันกลับไปมองกงเสวี่ยฮวา แล้วลองตะโกน “ฮวาฮวา…ฮวาฮวา…”
แต่ทว่ากงเสวี่ยฮวากลับไม่มีการตอบกลับใดๆ เลย
เจียงหลีขมวดคิ้วเล็กน้อย แววตามีความครุ่นคิดแล้วมองไปยังมือของกงเสวี่ยฮวาที่สัมผัสกับม่านพลัง
แสงแวววาวบนม่านใสสีเทาไหลผ่านจากปลายนิ้วไปยังตัวของเขา
เจียงหลีจ้องมอง แล้วทำการตัดสินใจ
“ข้าเอง”
เจียงหลีเพิ่งจะขยับ ก็มีคนมาจับไหล่ไว้
นางหันไปมองก็เห็นเป็นเจียงเฮ่า เจียงเฮ่ายิ้มให้นาง “เรื่องที่อันตรายขนาดนี้ มีข้าอยู่ จะปล่อยให้เจ้าไปลองได้อย่างไร”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์