ราวกับว่าสัมผัสได้ถึงสายตาของนาง เย่ว์หนานซีหันมามองทางนางอย่างช้าๆ ปะทะสายตากับเจียงหลี……
นังเด็กนี่
ในใจเย่ว์หนานซีเต็มไปด้วยความแค้น สายตาที่ดุดันจับจ้องไปทางเจียงหลีไม่ปล่อย เสมือนว่า จะใช้สายตาขูดเนื้อขูดหนังอกมาจากตัวนางให้ได้
สายตาทั้งคู่ปะทะกันจนเกิดจิตสังหาร แม้แต่คนรอบตัวยังสัมผัสได้
หม่าหยวนจย่าสัมผัสถึงแรงอำมหิตจากทางเย่ว์หนานซี สีหน้าตึงเครียดเฝ้าระวังอยู่รอบกายเจียงหลี ตระกูลลู่ไม่ได้ส่งคนมาล้อมหน้าล้อมหลังเจียงหลี เหมือนตระกูลเย่ว์ที่ส่งคนมารายล้อมเย่ว์หนานซีประหนึ่งดาวล้อมเดือน เขามาก็เพียงเพื่อส่งเจียงหลีเข้าแข็งขันเท่านั้น
แรงอำมหิตฃมากจนดึงดูดความสนใจของคนรอบข้าง
พวกเขาคนต่างหันมามองทางสองคนที่เผชิญหน้ากันอยู่
เจียงหลี พวกเขาไม่รู้จัก เพียงแค่รู้สึกว่าสาวน้อยที่ใส่เสื้อต่อสู้สีดำนั้น มีใบหน้าที่อ่อนเยาว์แต่กลับเย็นชาและมีเสน่ห์ที่ไม่สมกับอายุ
แต่เย่ว์หนานซีเป็นผู้มีชื่อเสียงในเมือง!
ไม่เพียงแต่เขาเป็นเทียนเจียว[1]ของตระกูลเย่ว์ เนื่องด้วยสามเดือนก่อนเรื่องการถอนหมั้น ทำให้เขาโด่งดังมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั้งเมือง
ผู้เป็นถึงความภาคภูมิใจของตระกูลเย่ว์กลับโดนทาสสาวของตระกูลลู่ถอนหมั้น จะว่าไป เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ ทำให้เย่ว์หนานซีกลายเป็นตัวตลกมืองซูหนาน!
“นั่นไม่ใช่นายน้อยเย่ว์หรือ เหตุใดถึงจ้องสาวน้อยราวกับจะฆ่านางเล่า”
“ไม่รู้สิ สงสัยอาจมีอคติต่อกันก่อนหน้านั้น”
“เหอะๆ กับอีแค่สาวน้อยคนเดียว จะไปมีเรื่องอะไรกับเทียนเจียวของตระกูลเย่ว์ได้เล่า”
คนที่พูดคำนี้ ใช้น้ำเสียงประชดประชัน เน้นคำว่า ‘เทียนเจียว’ เป็นพิเศษ
“เอ้ะ พวกเจ้าดูคนที่ยืนข้างๆ นางสิ” มีคนสังเกตถึงตัวตนของหม่าหยวนจย่า หม่าหยวนจย่าเป็นอารักขาตระกูลลู่ ครั้งนี้ที่มาก็ได้ใส่เสื้ออารักขาของตระกูลลู่ และตอนนี้เขาได้ยืนอยู่เคียงข้างเจียงหลี ทำให้ทุกคนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสามเดือนก่อน เข้าใจในฐานะของเจียงทันที
“อ้ะ! นางเป็นสาวใช้ตระกูลลู่นี่!”
“ก็คนที่ไปถอนหมั้นตระกูลเย่ว์ไง”
“ฮ่าๆๆ อายุยังน้อยแต่กลับมีความกล้าหาญเช่นนี้ เด็กคนนี้ไม่ธรรมดา”
หลังจากที่รู้ว่าเจียงหลีเป็นใคร ทุกคนต่างก็มุ่งความสนใจไปที่นาง แม้กระทั่งคนที่ซ่อนตัวอยู่ในฝูงชนยังสังเกตถึงนางได้
“สาวน้อยนี้เป็นแค่ทาส ถอนหมั้นตระกูลเย่ว์ หึๆ ช่างน่าสนใจ” หลีเสวี่ยเฟิงผู้เป็นถึงเทียนเจียวของตระกูลหลีแห่งเมืองเฉาหยาง มองไปทางจียงหลี ซักถามจากคนที่ยืนข้างๆ
“นายน้อยหลี ท่านไม่รู้หรือว่าสาวน้อยนี้ไม่ธรรมดา เป็นสาวรับใช้ของตระกูลลู่” คนที่ยืนข้างเขากล่าว
“หืม” หลีเสวี่ยเฟิงเปล่งเสียงประหลาดใจ ปีนี้เขาอายุสิบแปด เป็นหลิงซื่อระดับหก อยู่เมืองเฉาหยางก็ไม่เป็นสองรองใคร
ข้างๆ เขา ยังยืนอยู่อีกคน ซึ่งเป็นเทียนเจียวของเมืองเฉาหยางเช่นกัน มีนามว่า หยวนไข่ หลิงซื่อระดับห้า สิ่งที่ไม่เทียบเท่าหลีเสวี่ยเฟิงคือตระกูลของเขา ไม่ได้แข็งแกร่งรุ่งเรืองเหมือนตระกูลหลี
“เย่ว์หนานซีจากตระกูลเย่ว์ จะเทียบกับพี่เสวี่ยเฟิงได้เยี่ยงไร ยิ่งไปกว่านั้นยังถูกสาวใช้ถอนหมั้นอีกต่างหาก” น้ำเสียงหยวนไข่ มีการคุยโอ้อวดหลีเสวี่ยเฟิง แฝงด้วยความดูถูกที่มีต่อเย่ว์หนานซี

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์