ในขณะที่เขาพูด พลังอำนาจบนตัวเจียงหลีก็หลุดพ้นจากพลังอำนาจหลิงหวังของอวิ๋นซู่
อวิ๋นซู่เบิกตาโต เผยให้เห็นความตกตะลึงเป็นอย่างมาก
และในตอนนี้ จู่ๆ เจียงหลีก็นึกถึงในตอนแรกที่ได้วิชาอวี้ซานมาจากการสอบประเมินในสถาบันไป๋หยวน และสถาบันไป๋หยวนก็สังกัดอยู่ในกลุ่มอำนาจฮวงเสิน
ดูแล้วตอนนี้วิชาอวี้ซานนี้น่าจะมีต้นกำเนิดมาจากฮวงเสิน แล้วยังมีเงาของศาสตร์ลับด้วย
เพียงแต่ในตอนแรกนางไม่รู้จักศาสตร์ลับ ดังนั้นเลยไม่ได้คิดอะไร
ตอนนี้นางก็พอรู้เรื่องคัมภีร์ศาสตร์ลับของฮวงเสินอยู่บ้างแล้ว สำหรับวิชาอวี้ซานนางก็เข้าใจลึกซึ้งมากขึ้น ดังนั้นในตอนนี้นางถึงเอาพลังอำนาจของขุนเขามาใช้ทำลายพลังอำนาจหลิงหวังของอวิ๋นซู่ได้
สำหรับเจียงหลีแล้ว นอกจากขั้นพลังของอวิ๋นซู่ที่สูงกว่านาง ก็ไม่มีสิ่งใดที่คู่ควรแก่การที่นางจะให้ความสำคัญ ถึงแม้ว่าร่างกายที่รวดเร็วดุจปีศาจนั้น ก็เป็นเพียงแค่ความลับของป้อมปราการเฟยอวิ๋น ไม่ใช่
ของอวิ๋นซู่
“เจ้า!”
หลังจากที่อวิ๋นซู่เงยหน้าขึ้นมองพลังที่ทำลายพลังอำนาจหลิงหวังของเขาลงด้วยความตะลึง แล้วมองหญิงงามที่กระโดดขึ้นไปบนฟ้าอยู่เหนือเขา ใบหน้าที่งดงามนั้นก้มลงมามองเขา แววตาที่ไม่อาจต้านทานได้ในดวงตาคู่นั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
เหมือนว่าขอเพียงแค่เจียงหลีต้องการ ก็สามารถฆ่าเขาได้เลย
เป็นไปได้อย่างไรกัน!
ความคิดที่บ้าคลั่งแบบนี้เกิดขึ้น ทำให้อวิ๋นซู่ตกใจจนหน้าซีด แน่นอนว่าเขาไม่ได้ถูกเจียงหลีทำให้ตกใจ แต่ถูกความคิดของตัวเองที่ทำให้ตกใจ ทำไมเขาถึงคิดว่าเจียงหลีมีความสามารถที่จะฆ่าเขาได้แล้ว
นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้!
“อวิ๋นซู่ เจ้าอยากฆ่าข้ารึ” เจียงหลีพูดอยากเยือกเย็น
พลังอำนาจแห่งขุนเขาตกลงมาทับร่างของอวิ๋นซู่ แววตาของอวิ๋นซู่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว เจียงหลีในสายตาของเขาตอนนี้ราวกับจักรพรรดิลงมาจุติ ทำให้ผู้คนต้องสยบอยู่ใต้เท้านาง
ฆ่านางหรือ
นี่เป็นความคิดที่เหลวไหลสิ้นดี!
เจียงหลีส่งสียงแสดงความไม่พอใจออกมาด้วยความเหยียดหยาม และก็ไม่ได้สนใจคำตอบของเขา
พลังแห่งกิเลสก็ออกมาจากม่านพลังรอบๆ แล้วครอบงำนางอย่างต่อเนื่อง ทำให้จิตสังหารในตัวนางเพิ่มขึ้น เสียงมากมายพูดอยู่ข้างหูนางไม่หยุด ฆ่ามัน! ฆ่ามัน! ฆ่ามันแล้วเจ้าก็จะมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งใต้หล้า! ฆ่ามันแล้ว แล้วก็ฆ่าคนของป้อมปราการเฟยอวิ๋นทั้งหมด ต่อไปก็ค่อยกำจัดป้อมปราการเฟยอวิ๋น เจ้าก็จะเป็นบุคคลสำคัญที่ได้สร้างประโยชน์ให้แก่ฮวงเสิน!
เช่นเดียวกัน พลังแห่งกิเลสก็เข้าครอบงำอวิ๋นซู่ด้วย
แววตาที่ตกใจและเต็มไปด้วยความกลัวค่อยๆ สงบลง แล้วแฝงไปด้วยจิตสังหารที่รุนแรง
แต่เจียงหลีกลับแววตาสดใส เหมือนว่าพลังแห่งกิเลสเหล่านั้นจะทำอะไรนางไม่ได้เลย
อ้ากกก! ดวงตาของอวิ๋นซู่ทั้งสองข้างแดงขึ้นมา เขาตะโกนสุดเสียงแล้วพุ่งมาหาเจียงหลี
…
อีกฝั่งหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายในแต่ละคู่ที่ต่อสู้กันต่างก็ได้รับพลังแห่งกิเลสไม่มากก็น้อย แล้วก็ค่อยๆ ลืมความตั้งใจเดิม ในหัวเหลือเพียงการสังหารที่บ้าคลั่ง อยากจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตาย
ในใจของทุกคนขาดความยั้งคิด และเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ
ไหวปี้ก็เช่นกัน ความเคียดแค้นที่นางมีต่อสำนักหลีหุนจง ทำให้ในใจนางถูกกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง เหมือนว่าถ้านางไม่กำจัดสำนักหลีหุนจง ความเคียดแค้นในใจของนางก็ไม่มีทางหายไปได้
ถึงแม้จะเป็นพระสงฆ์ของสำนักฝัวหมัว ในตอนนี้ก็ตกอยู่ในสภาวะเดียวกัน
เหมือนว่าการสังหารผู้คนของพวกเขาในตอนนี้ก็เพียงเพื่อที่จะฝึกฝนให้มีขั้นพลังที่สูงขึ้น ฝึกฝนจิตใจของตัวเองอย่างหนัก
และกงเสวี่ยฮวาในตอนนี้ แววตาของเขาก็เต็มไปด้วยจิตสังหารที่รุนแรงเช่นกัน
ต้องฆ่าเขา ถึงจะไปช่วยเจียงหลีได้!
ความคิดแบบนี้ผุดขึ้นมาในหัวของเขาไม่หยุด กระตุ้นให้เขาออกกระบวนท่าเพื่อที่จะฆ่าคนของป้อมปราการเฟยอวิ๋นที่มาขวางทางเขาไว้
อ้ากก!
กงเสวี่ยฮวาพุ่งเข้าไปหาคนของป้อมปราการเฟยอวิ๋นคนนั้น
พลังวิญญาณของคนป้อมปราการเฟยอวิ๋นก็ระเบิดออกมาอย่างบ้าคลั่ง วิญญาณยุทธ์ด้านหลังของเขาส่องแสงเปล่งประกายออกมา พลังที่น่าสะพรึงกลัวออกมาจากร่างของวิญญาณยุทธ์ไม่หยุด เสริมพลังให้เขา การโจมตีที่น่ากลัวระเบิดออกมาจากฝ่ามือของเขาแล้วพุ่งไปหากงเสวี่ยฮวา


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์