เดิมทีเฉียนคุนเปี้ยนก็เป็นพลังต่อสู้กับพลังอยู่แล้ว และเป็นคาถาที่มีพลังสามารถสะท้อนอาคมกลับอีกด้วย เมื่อศิษย์สองคนของสำนักหลีหุนจงอยู่ตรงหน้าของเจียงหลี ก็ไม่มีพลังท ที่จะเอาคืนนางได้ ชั่วพริบตาเดียวก็มีศพเพิ่มมาอีกสองร่างบนพื้น
ขณะนั้นเอง เจียงหลีถึงมีเวลาพอที่จะใช้นกอมตะฟื้นฟูพละกำลัง พอฟื้นสภาพได้และหลังจากใช้วิทยายุทธ์จักรพรรดิพิโรธก็เกิดการสะท้อนกลับของอาคม
การสะท้อนกลับของจักรพรรดิพิโรธเกิดมาจากการเปลี่ยนแปลงของการหมุนเวียนโลหิต
หลังจากที่เจียงหลีหลอมรวมเข้ากับวิญญาณยุทธ์เสวียนกังกุย อาการบาดเจ็บทั้งหมดก็ทุเลาลง แต่ยังคงมีการสะท้อนของอาคม จนกระทั่งนางสามารถหลอมรวมเข้ากับวิญญาณยุทธ์นกอมตะแล้วเสร็ จ ถึงมีพลังรักษา อาคมสะท้อนกลับเช่นนี้ได้ถูกกำจัดออกไปจดหมดสิ้น
ณ ที่ไกลออกไป มีเงาแสงพุ่งเข้าหาเจียงหลีด้วยความรวดเร็ว
เจียงหลีเงยหน้ามองขึ้นไปโดยมิได้ป้องกันตัวใดๆ ทั้งสิ้น
นางช่างคุ้นเคยกับลมปราณของผู้ที่มาใหม่ยิ่งนัก
“อาหลี!”
เจียงเฮ่าทิ้งตัวลงมาอยู่ตรงหน้าเจียงหลี โผข้าหานางด้วยสีหน้าตื่นตระหนก เขาเพิ่งกลับไปได้ไม่เท่าไหร่ก็พบว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงถึงเพียงนี้
หลังจากเขาฟังกงเสวี่ยฮวาอธิบายถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาสดๆ ร้อนพอสังเขป เขาจึงได้ร้อนรนตามมาถึงที่นี่
“เจ้าเป็นอะไรหรือไม่ เจ้าบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” เจียงเฮ่ามองสำรวจน้องสาวตนเองอย่างละเอียด เพราะกลัวว่านางจะได้รับบาดเจ็บ
ในขณะเดียวกัน เขาไม่เปิดโอกาสให้ได้เอ่ยตอบแทน แล้วเอาแต่โทษตัวเองไมหยุด “เป็นเพราะข้า! เป็นเพราะข้า!”
น้องสาวเผชิญอันตรายถึงเพียงนี้ เขากลับไม่ได้อยู่ข้างกายน้องในฐานะพี่ชาย เรื่องราวแบบนี้ จะไม่ให้เขาโทษตัวเองได้อย่างไร
“พี่ใหญ่ ข้าไม่เป็นไร” เจียงหลีแย้มยิ้ม
ต่อให้นางพูดว่าไม่เป็นอะไร แต่แววตาตำหนิตัวเองของเจียงเฮ่ายังคงไม่หายไปไหน
“จริงสิ สถานการณ์ทางตำหนักหลีหั่วเป็นอย่างไรบ้าง”
เจียงเฮ่าออกไปเพื่อตามหาเบาะแสของตำหนักหลีหั่ว ตอนนี้กลับมาแล้วสงสัยน่าจะมีเบาะแสกลับมาบ้าง
ส่วนเจียงเฮ่า เมื่อได้ยินคำถามของเจียงหลีพลันเปลี่ยนสีหน้า แล้วสบถเสียงเย็น
เมื่อเจียงหลีเห็นสีหน้าของผู้เป็นพี่ชายจึงหรี่ตาแล้วเอ่ยถาม “ทำไมหรือ หรือว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น” ฉินเทียนอีเป็นถึงหนึ่งในกลุ่มของตำหนักหลีหั่ว
“หายไปแล้ว” เจียงเฮ่าเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง
“หายไปแล้วรึ” เจียงหลีกลับเผยแววตาประหลาดใจ
…
ทั้งสองพี่น้องต่างไม่มีใครพูดอะไรอีก แล้วกลับไปยังที่ที่ทุกคนอยู่เพื่อรวมตัวกับคนอื่น ตอนที่ทั้งสองกลับไป กงเสวี่ยฮวาและไป๋หลี่เฟิ่งก็สามารถจัดการกับคู่ต่อสู้ของตนเองเร รียบร้อยแล้ว ส่วนพระมหาพระมหาอินฮูเองก็สามารถสกัดกั้นลูกศิษย์นอกรีตของสำนักฝัวหมัวเอาไว้ได้เช่นกัน
ในขณะนี้ ผู้ที่ยังคงมีสติสัมปชัญญะก็มีเพียงสองพี่น้องสกุลเจียง กงเสวี่ยฮวา ไป๋หลี่เฟิ่ง พระมหาอินฮูและไหวปี้
“เจ้าบอกว่าคนของตำหนักหลีหั่วหายไปแล้วอย่างนั้นหรือ” กงเสวี่ยฮวากระโดดตัวขึ้นมาเป็นคนแรกหลังจากได้ยินในสิ่งที่เจียงเฮ่าบอกกล่าว
ส่วนคนอื่นก็ขมวดคิ้วแสดงความไม่เข้าใจเช่นกัน
“จะออกไปจากอาณาเขตจื๋อจั้งนี้ได้อย่างไร หากมีวิธีที่จะออกไปได้ ทำไมพวกเขาถึงไม่บอกพวกเรา” ไหวปี้ฟุ้งซ่านเพราะไม่ได้รับการอธิบาย
อันที่จริงนี่ก็เป็นที่สงสัยมากที่สุดของเจียงหลีเช่นกัน หากมีหนทางออกไปได้ คนของตำหนักหลีหั่วไม่บอกนางก็ช่างปะไร แต่ฉินเทียนอีกลับไม่บอกนางสักคำ
จากไปโดยไม่บอกไม่กล่าวเช่นนี้ คนของตำหนักหลีหั่วต้องการกระทำสิ่งใดกันแน่
เจียงหลีช้อนสายตามองไปทางพระมหาพระมหาอินฮู “พระคุณท่าน ท่านคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีวิธีที่สามารถออกจากอาณาเขตจื๋อจั้งจริงหรือไม่”
พระมหาอินฮูหลับตาส่ายหน้าหลับตา
เจียงหลีจึงหันไปมองเจียงเฮ่า
เจียงเฮ่าอธิบายเสียงขรึม “หลังจากที่พวกเราทราบว่าคนของตำหนักหลีหั่วหายไปอย่างไร้ร่องรอย ข้าก็ออกไปตรวจสอบมาแล้วรอบหนึ่งจนแทบพลิกแผ่นดิน แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของพวกเขา แต ต่ทว่า ข้ากลับพบช่องโหว่สักแห่งในอาณาเขตจื๋อจั้ง”
“ช่องโหว่!” กงเสวี่ยฮวาเอ่ยขึ้นอย่างตื่นตกใจ
พระมหาอินฮูเองก็เบิกตาโพลงมองไปที่เจียงเฮ่า

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์