ใครจะไปรู้ เจียงหลีกลับพูดว่า “ทำไมต้องทำลายกิเลสให้เจ้าด้วยล่ะ”
หืม
รอยยิ้มของเว่ยจี๋หยุดชะงัก เป็นแบบนี้อีกแล้ว ทุกครั้งที่เขาจับเป้าหมายของเจ้าเด็กสาวผู้นี้ได้ นางก็เปลี่ยนกะทันหันอีกแล้ว เข้าใจยากจริงๆ
“หรือว่าเจ้าไม่อยากออกไปจากที่นี่” เว่ยจี๋หยั่งเชิงถาม
เจียงหลีกลับหัวเราะเยาะ “เจ้าชิงไหวชิงพริบกับข้าหรือ ข้าถามจนรู้ชัดเจนตั้งแต่แรกแล้ว ขอแค่ทำลายกิเลสให้วิญญาณชั่วร้ายหนึ่งตน ข้าก็จะสามารถออกไปจากที่นี่ได้ หลายปีมานี้ ข้าทำลายกิเลสไปตั้งเท่าไหร่แล้ว ไหนเจ้าลองนับดูสิ”
พวกผีเฒ่าชั่วร้ายเหล่านั้น ต้องบอกนางจนหมดไหม! เว่ยจี๋กัดฟันก่นด่าในใจ
“เจ้าทำทุกวิถีทางเพื่ออยากรู้กิเลสของข้าให้ได้ ไม่ใช่เพื่อทำลายมันหรอกหรือ ทำไมตอนนี้เจ้าถึงถอดใจไปได้เสียเล่า” เว่ยจี๋จี้ถามนาง
คราวนี้เจียงหลีไม่พูดอ้อมค้อมอีก “หลังจากทำลายกิเลสได้ เจ้าจะหายไปตลอดกาลใช่หรือไม่”
ดวงตาเปล่งประกายคู่นั้นจ้องไปที่เว่ยจี๋ ด้วยความรู้สึกจริงจังจากใจ ทำให้แววตาเย้ยหยันค่อยๆ มลายหายไป และเข้าก็ซาบซึ้งอย่างนึกประหลาดใจ แม่ตัวแสบไร้หัวใจนี่ ทำใจให้เขาหายไปไม่ได้หรือ
“ข้ายังไม่ทันได้เรียนวิชาปลุกเสกหุ่น เจ้าจะไปได้ยังไง”
เอ่อม!
ความซาบซึ้งในดวงตาของเว่ยจี๋แตกละเอียดย่อยยับ เลือดกระอักจุกอก แต่ก็ถูกเขากลืนลงคอกลับไปเหมือนเดิม เขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว้าไม่ควรตั้งความหวังกับแม่เด็กคนนี้ แม่ตัวแสบคนนี้เป็นคนใจจืดใจดำ เย็นชาอำมหิต!
“เจ้านี่ช่างเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ” เว่ยจี๋ฝืนยิ้ม
“ความเสมอต้นเสมอปลายเป็นคุณธรรมอันดีงามของข้าเองแหละ” เจียงหลีเอ่ยขึ้นอย่างหน้าหนาไร้ยางอาย ทำไมนางถึงจะมองไม่ออกว่านางแทงใจดำเว่ยจี๋เข้าอย่างจัง แต่ว่า นี่ก็คือเป้าหมายของนาง นางมีความสุข และนางก็ชอบใจด้วย!
“มาๆๆ ไหนลองเล่าเรื่องกลั่นสุราของเจ้าให้ข้าฟังหน่อยสิ” เจียงหลีแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้า และเปลี่ยนประเด็นสนทนาอย่างชาญฉลาด
เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ เว่ยจี๋จึงสูดหายใจเข้าลึกๆ สีหน้าย้อมไปด้วยความครุ่นคิดถึงความทรงจำ “แปลกมากใช่ไหมล่ะ หากอธิบายขั้นตอนการกลั่นสุราไปหมดแล้ว ก็มีแค่ไม่กี่ขั้นตอน ข้าชื่นชอบสุรามากขนาดนี้ เป็นคนที่เข้าใจสุราอย่างถ่องแท้ แต่กลับกลั่นสุราออกมาไม่ได้สักหยด ใช้น้ำแร่ชนิดเดียวกัน วัตถุดิบกลั่นสุราประเภทเดียวกัน อุปกรณ์เหมือนกัน และกรรมวิธีเหมือนกัน คนอื่นต่างกลั่นออกมาได้สุรากลิ่นหอมชั้นเลิศ แต่ข้ากลับกลั่นออกมาเป็น…”
เขาส่ายหน้าและหัวเราะเยาะตัวเอง “ก็เหมือนอย่างที่เจ้ากล่าวมานั่นแหละ คงเรียกได้แค่น้ำเน่า”
ทันใดนั้นแววตาเขาก็เฉียบคม น้ำเสียงดังขึ้นเล็กน้อย “ข้าไม่ยอมแพ้! ข้าไม่พอใจ ทำไมข้าถึงไม่มีทางกลั่นสุราชั้นเลิศออกมาได้ ในใต้หล้านี้ หุ่นเชิดที่ว่ายากขนาดนั้นข้ายังทำออกมาได้ แล้วสุราที่แสนง่ายดายทำไมข้าถึงกลั่นมันออกมาไม่ได้”
กิเลสอันดุร้ายเป็นไฟแผดเผาอาบย้อมไปทั่วรอบตัวของเว่ยจี๋ จึงทำให้บรรยากาศรอบห้องกลั่นสุราเต็มไปด้วยไอดุร้าย เจียงหลีถอยไปข้างหลังสองเก้าอย่างทนไม่ไหว ทันใดนั้น นางก็เบิกตาโพลง มองสัญลักษณ์ลายเส้นสีดำที่ปรากฏอยู่บนหน้าผากของเว่ยจี๋ด้วยความประหลาดใจ
ลายทางนี้ทำให้ใบหน้ารูปงามของเว่ยจี๋มีความรู้สึกแปลกขึ้นเล็กน้อย และมีร่องรอยของความรุนแรง
“เว่ยจี๋!” เจียงหลีตะโกนลั่น
ทันใดนั้น ไอดุร้ายในร่างกายของเว่ยจี๋ก็แผ่กระจายออกมา ลายทางสีดำบนหน้าผากก็พลันสลายหายไป สีผิวของเขาก็กลับไปเป็นสีขาวผ่องดั่งเดิม
“เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม” เจียงหลีก้าวไปข้างหน้า นางเข้าประคองเว่ยจี๋ที่ดูเหมือนจะอ่อนลง
เว่ยจี๋ปัดป่ายมือไปมา “ข้าไม่เป็นไร เมื่อครู่นี้แต่เกิดกิเลสเฉยๆ”
“การกลั่นสุราชั้นเลิศสำหรับเจ้าแล้ว มันสำคัญขนาดนั้นเชียวหรือ หรือว่า เจ้าอยากพิสูจน์ให้คนทั้งโลกได้เห็นว่าเจ้าสามารถกลั่นสุราได้” เจียงหลีเอ่ยถาม
จู่ๆ เว่ยจ็ก็ขำออกมา แล้วถามกลับไปว่า “เหตุผลอะไร มันสำคัญด้วยหรือ ถึงอย่างไร ไม่ว่าตอนแรกข้าคิดอย่างไรถึงอยากกลั่นสุรา ตอนนี้ มันก็กลายเป็นกิเลสของข้าไปเสียแล้วล่ะ”
เจียงหลีนิ่งเงียบ


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์