ปัง!
เสียงล้มลงกับพื้นดังขึ้น เจียงหลีถูกเมฆปีศาจโยนจากกลางอากาศด้วยท่าทางที่ทุลักทุเล
นางกลิ้งไปกับพื้นหลายตลบก่อนจะทรงตัวได้
หลังจากนั้น เมื่อนางหันศีรษะกลับมา กลับมีใบหน้าที่ดุร้าย โน้มเอนเข้ามา
ให้ตายเหอะ!
เจียงหลีถอยหลังหลายก้าว
ณ เวลานี้ ในที่สุดนางก็มองเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเมฆปีศาจอย่างชัดเจน นี่…ใช่เมฆปีศาจที่ไหนกัน เห็นได้ชัดว่าเป็นนกที่มีปีกทั้งสองดั่งมวลเมฆ ขนาดใหญ่และมีสีดำมืดไปทั้งตัว
“เป็นปีศาจมาจากไหนกัน!” เจียงหลีพูดโพล่งออกมา
“แม่นาง! ข้าคือหมัวเผิง” เป็นนกที่มีขนาดตัวใหญ่มากจนปกคลุมท้องฟ้าและบังพระอาทิตย์จนมิด กลับพูดภาษามนุษย์ได้
ดวงตาของเจียงหลีเบิกกว้างทันที จ้องมองไปที่มันด้วยความตกใจ
หมัวเผิงตกลงมาจากอากาศและยืนอยู่ตรงหน้าเจียงหลี
สายตาของเจียงหลีค่อยๆ เลื่อนขึ้น หมัวเผิงที่เก็บปีกยืนอยู่ตรงหน้านาง ซึ่งเปรียบเสมือนเสาต้นหนึ่งที่แทบมีขนาดเท่ากับต้นไม้โดยรอบ
เจียงหลีมุมปากกระตุกอย่างรุนแรง พบว่าตนหัวเราะไม่ออกอีกต่อไป
หมัวเผิงหรือ
เผ่าปีศาจหรือ
“ข้ามาจากตงหลีเป่ยฮวง เป็นแม่ทัพปีศาจแห่งเผ่าปีศาจ” หมัวเผิงเอ่ย
“…” เจียงหลีนิ่งเงียบ
นางรู้ว่ามีเผ่าปีศาจ แต่นางไม่รู้ว่าตงหลีเป่ยฮวงคืออะไร ซือจุนเคยกล่าวไว้ว่าเผ่าปีศาจปกครองสามดินแดน ดังนั้น ตงหลีเป่ยฮวงจึงเป็นหนึ่งในสามดินแดนอย่างนั้นหรือ
หมัวเผิงไม่รอให้เจียงหลีปริปากพูด แล้วพูดต่อ “ข้าได้รับคำสั่งให้ออกมาตามหาองค์จักรพรรดิของเผ่าข้า ข้าจึงไล่ตามมาตลอดทางจนเข้าสู่ดินแดนผนึกมารแห่งนี้ ข้าได้กลิ่นขององ งค์จักรพรรดิบนร่างกายของเจ้า”
“…” เจียงหลียังคงนิ่งเงียบต่อไป
นางคาดเดาได้ว่าหมัวเผิงผู้นี้มาที่นี่เพราะเจ้าเปี๊ยกหลิวหลี
อย่างไรก็ตาม นางจะไม่ยอมยกหลิวหลีให้แน่นอน!
หากเป็นเมื่อก่อน นางยังไม่ทราบตัวตนที่แท้จริงของหลิวหลี ก็คงไม่เป็นไร ขอเพียงแค่ดีกับหลิวหลีเป็นพอ นางสามารถส่งมอบหลิวหลีคืนกับเผ่าปีศาจ แต่ทว่า ตอนนี้นางรู้แล้วว่าห หลิวหลีคือลู่เจี้ยกลับชาติมาเกิด นางจะปล่อยให้หมัวเผิงพาเขากลับไปอย่างง่ายดายได้อย่างไร
“ข้าไม่เข้าใจว่าเจ้าพูดถึงอะไร” เจียงหลีตัดสินใจแกล้งโง่
แต่หมัวเผิงกลับไม่เปิดโอกาสให้นางแกล้งโง่
กระเป๋าวิเศษของนางถูกหมัวเผิงบีบบังคับให้เปิดออก พลังปีศาจถือตัวหลิวหลีขนปุยออกมาจากกระเป๋าวิเศษ ฉากนี้ กระตุ้นความรู้สึกของเจียงหลีจนนางกรีดร้องอย่างดุดัน “เอาเขาคืน มา…!”
เสียงที่ดังออกมาจากหัวใจปลุกให้หลิวหลีที่กำลังหลับใหลตื่นขึ้น มันลืมตาและความตื่นตระหนกของเจียงหลีก็สะท้อนในดวงตาอันเลือนลางของหลิวหลี
พลังปีศาจในตัวของหลิวหลีแตกสลาย และท่ามกลางความว่างเปล่านั้น มันพุ่งตรงไปหาเจียงหลี
เมื่อหมัวเผิงมองเห็นหลิวหลีตื่นขึ้น ก็ปรากฏทั้งความเคารพและความหวาดกลัวขึ้นในดวงตาที่เยือกเย็นของเขา “ฝ่าบาท”
เจียงหลีกอดหลิวหลีที่พุ่งเข้าใส่ตนไว้แน่น ซุกศีรษะไว้ในขนของมัน และพูดด้วยความน้อยใจ “เขาจะพาเจ้ากลับไป”
หลิวหลีหันหน้ามามอง และจ้องไปที่หมัวเผิงด้วยสายตาที่เย็นชา
หัวใจของหมัวเผิงสั่นสะท้าน ก้มศีรษะต่อหน้าเดรัจฉานน้อย
โฮกกก!
ทันใดนั้น หลิวหลีส่งเสียงคำราม ร่างกายของมันขยายใหญ่ขึ้น เดิมทีร่างกายอันอ่อนนุ่มของมันขยายใหญ่ขึ้นหลายสิบเท่า แม้ว่ามันจะเทียบไม่ได้กับหมัวเผิง แต่ก็มีขนาดใหญ่กว่าเจีย ยงหลี
เรือนขนบนร่างกายของหลิวหลีงดงามและเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ เดิมทีเป็นสัตว์ตัวน้อยหางสั้นที่มีขนปุกปุย บัดนี้กลายเป็นสัตว์หางยาวทรงพลัง ขนยังคงมีสีขาวเงิน บนกรงเล็บทั้งสี่มีร รอยเลือดสีแดง โครงคิ้วบนดวงตาสีเขียวครามปรากฏขนสีแดงเข้มลอยอยู่อย่างมีเสน่ห์ หว่างคิ้วมีลายแนวตั้งสีทอง เผยความลึกลับออกมาให้เห็น
หลิวหลีตัวก่อนนุ่มนิ่มและน่ารัก หลิวหลีตอนนี้แข็งแกร่งและงดงาม!
และเสียงร้องไม่ใช่ ‘จิจิ๊ด’ เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์