ณ อาณาเขตหลิงอู่ เจียงหลีและคุนอู๋แยกกับมู่เหยี่ยนฉือ
เพราะเขาต้องการประสานกับแรด และเมื่อทำสำเร็จ ก็จะออกจากอาณาเขตหลิงอู่ ฉะนั้น พวกเขาทั้งสามจึงไม่สามารถร่วมทางกันได้
“ศิษย์พี่สาม…” เจียงหลีเอ่ยระหว่างทาง
แต่กลับถูกคุนอู๋ขัดจังหวะก่อนที่นางจะพูดจบ “เจ้าอยากพูดเรื่องของจยาเซียนใช่หรือไม่ ครั้นเจ้าเข้ามาฮวงเสินไม่นาน พวกเราก็ทราบเรื่องกันหมดแล้ว เรื่องแค่นี้เอง เจ้าอย่าได้กด ดดันตัวเอง ส่วนมู่เหยี่ยนฉือนั้น เขามีความสามารถดี ตอนนี้เจ้าต้องการคน ในเมื่อเจ้าเต็มใจช่วยเขา หมายความว่าความทรงจำที่เจ้ามีต่อเขาถือว่าไม่แย่ ดังนั้น จงใช้โอกาสนี้รวบรวมอำนาจ จเถิด”
เจียงหลียักคิ้ว ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากความ
คุนอู๋มองเห็นทุกอย่างชัดเจนมากและพูดกับนางอย่างชัดเจนเช่นกัน
“ศิษย์พี่สามกำลังมองหาวิญญาณยุทธ์ประเภทใดหรือ” เจียงหลีถามคุนอู๋อย่างประหลาดใจ เพราะรู้ว่าคุนอู๋ก็ฝึกฝนเนี่ยนซือและหลิงซือควบคู่กัน
“ข้าไม่รีบ ครั้งนี้ว่าจะหาประเภทช่วยเหลือ แต่ข้าจะช่วยเจ้าหาเทียนหยาให้ได้ก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน” คุนอู๋ยิ้มตอบ
“ขอบคุณศิษย์พี่สามมาก” เจียงหลียิ้มอย่างสดใส
คุนอู๋กลับกลอกตาใส่นาง “อย่ามา เจ้าเกรงใจข้า ไม่ใช่เรื่องดีเลย”
เจียงหลีผงะ เงยหน้าหัวเราะ “ฮ่าๆๆ…”
…
ณ ตำหนักเย่า ส่วนลึกในตำหนักของเสิ่นฉง มีกลิ่นหอมของสุราลอยมาเป็นระยะๆ
หากตามกลิ่นหอมนั้นไป จะแอบเห็นสถานที่หมักและกลั่นสุราของเขา โดยที่นี่มีอุปกรณ์การกลั่นสุราครบครัน และมีธัญพืชอาหารแห้ง ผลไม้สด ดอกไม้นานาชนิดที่เขาคัดสรรมาอย่างดีจากราช ชสำนัก
เว่ยจี๋นอนอยู่บนโต๊ะในห้องกลั่นสุรา โดยใช้มือหนุนศีรษะ ใบหน้าขาวผ่องและงดงาม ทำให้ผู้คนหลงใหลและเพ้อฝัน รวมถึงท่าทางที่เกียจคร้านนั้น ยั่วยวนไม่น้อย
น่าเสียดายที่ไม่มีใครมองเห็น
เสิ่นฉงยังคงแต่งกายด้วยชุดขาว ยืนอยู่ที่ถังกรองสุรา โดยใช้ช้อนตักขึ้นมาและวางไปที่ปลายจมูกแล้วสูดดมเบาๆ แต่เขากลับขมวดคิ้วและส่ายศีรษะอย่างไม่พอใจ เทสุราช้อนนั้นลงกับ บพื้น “ยังขาดอะไรบางอย่างอีกเล็กน้อย”
เว่ยจี๋ยืดตัว สูดหายใจเข้าลึกๆ
เสิ่นฉงกลับไม่พอใจกับสุราที่มีกลิ่นหอมมากเช่นนี้ เขามองไปที่เสิ่นฉงและพูดติดตลกว่า “คนที่กินดีอยู่ดีไม่เข้าใจความรู้สึกของคนที่อดอยากหรอก! หากข้ากลั่นสุราได้ยอดเยี่ยมเช่ นนี้ ถึงจะเป็นเพียงความฝันก็จะดีใจหัวเราะลั่นจนตื่น แต่เขากลับไม่พอใจและทำสีหน้ารังเกียจ”
แน่นอนเสิ่นฉงไม่ได้ยินสิ่งที่เขาเย้าแหย่
เสิ่นฉงเดินไปยังสถานที่เก็บธัญพืช และมองดูธัญพืชอย่างละเอียด “ดูเหมือนวัตถุดิบของสุรากลั่นเหล่านี้จะค่อนข้างเก่าไปบ้าง ต้องไปเอามาใหม่แล้ว”
ฮะ!
เว่ยจี๋ได้ยินเพียงเท่านี้ ก็กระโดดลงจากโต๊ะทันที แล้วเขยิบเข้าใกล้เสิ่นฉง พร้อมกลับชี้มาที่ตัวเอง “พาข้าไปด้วย พาข้าไปด้วย! ”
หากให้เจียงหลีเห็นพฤติกรรมปัญญาอ่อนของเขาเช่นนี้ คงจะพร่ำบ่นเขาอย่างหนักแน่นอน
เสิ่นฉงไม่ได้ตอบสนองเขาและเดินตรงออกไปข้างนอก
สิ่งนี้ทำให้เว่ยจี๋ตกใจจนกระโดดขึ้น มองไปยังไหสุราที่เขาทำขึ้นด้วยหน้าตาบูดบึ้ง
ทันใดนั้น ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เว่ยจี๋เงยหน้าขึ้น มองเห็นเสิ่นฉงกำลังรีบเดินกลับมาและเดินผ่านเขาไป แล้วหยุดอยู่หน้าชั้นวาง พร้อมกับยื่นมือออกไปหยิบไหสุราของเขา
การกระทำนี้ทำให้เว่ยจี๋ยิ้มอย่างพอใจ
แต่กลับได้ยินเสิ่นฉงพูดว่า “อันนี้เป็นของศิษย์น้องเล็ก หากข้าเอาไปด้วยแล้วเกิดอะไรผิดพลาดระหว่างทาง ถึงตอนนั้น ศิษย์น้องเล็กกลับมา คงจะอธิบายไม่ได้แน่”
หลังจากพูดจบ เขาก็ลังเลอีกครั้งและวางไหสุรากลับที่เดิม
“ไม่ต้องอธิบายอะไรกับนางทั้งนั้น! นางไม่ใช่เจ้าของข้า!” เว่ยจี๋ตะโกนด้วยความร้อนรน
เสิ่นฉงหันหลังเดินจากไป แต่ก็หันศีรษะกลับมาอย่างเสียดายและมองไปที่ไหสุราบนชั้นวาง เขามีความเคยชินอย่างหนึ่ง เมื่อต้องลงเขาออกเดินทาง มักนำสุราที่กลั่นเองติดตัวไปด้วย
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์