เจียงหลี?
“เจียงหลีคือใครกัน มาจากส่วนไหน”
“ไม่รู้จัก! เป็นชื่อที่ไม่คุ้นเลย”
“หรือว่าเป็นลูกศิษย์ใหม่”
“ลูกศิษย์ใหม่เก่งกาจขนาดนี้เชียวรึ เกินไปไหม”
“ไม่เลวๆ! เพิ่งมาใหม่ก็ทำลายสถิติได้แล้ว เป็นคนที่เก่งกว่าองค์ชายน้อยกงและมู่เหยี่ยนฉือจริงๆ!”
“…”
หลังจากที่บนแผ่นศิลาจารึกขนาดใหญ่มีชื่อของเจียงหลีปรากฏขึ้น ลูกศิษย์นับแสนคนในวังเทียนอู่กงต่างพากันพูดถึงชื่อนี้
ชื่อที่ไม่คุ้นชื่อนี้ ทำให้พวกเขาประหลาดใจและอยากรู้เป็นอย่างมาก
ท่ามกลางผู้คนที่สนทนากันไปต่างๆ นาๆ และชื่อของเจียงหลีก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วพร้อมกับการสนทนาเหล่านี้
“ฮ่าๆๆๆ! เจียงหลี! เป็นนางจริงๆ! ข้ารู้อยู่แล้วว่าพรสวรรค์ของนางไม่ธรรมดา สายตาของข้านี่ยังดีเหมือนเดิมเลย!” กงเสวี่ยฮวาหัวเราะลั่นด้วยความดีใจ
เหมือนว่าชื่อที่อยู่ด้านบนสุดของแผ่นศิลาจารึกขนาดใหญ่นั้นเป็นชื่อของเขาอย่างไรอย่างนั้น
มู่ชิงเหยียนเงยหน้ามองไปยังชื่อที่อยู่ด้านบนสุด ยิ้มออกมาแล้วดีใจกับเจียงหลีอย่างจริงใจ
ในขณะเดียวกันคนหนานฮวงสามารถมีชื่อเสียงในซีฮวงได้ นางมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ดีใจกับเจียงหลีเล่า
“เก่งมาก! ตอนนี้ข้าอดใจไม่ไหวแล้ว อยากรู้ว่าทักษะการต่อสู้ที่ทรงพลังที่เจียงหลีได้รับมาแท้จริงแล้วคือทักษะอะไรกันแน่ ครู่เดียวถึงได้พุ่งไปอยู่ที่หนึ่ง!” กงเสวี่ยฮวาพูดด้วยความตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
แน่นอนว่าเหตุการณ์แปลกประหลาดที่หอดูดาวต้องมีความเกี่ยวข้องกับชื่ออันดับหนึ่งบนแผ่นศิลาจารึกนั้น!
ความคิดนี้เกิดขึ้นในใจของคนมากมาย
พวกเขาไม่ได้จากไปไหน แต่ยังคงรออยู่ที่นั่นต่อ อยากจะเห็นคนที่ได้ที่หนึ่งด้วยตาของตัวเองว่าแท้จริงแล้วคือใคร มีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร
“เจียงหลีรึ คือเพื่อนที่ฮวาฮวาพามาใช่หรือไม่” ด้วยสายตาของกงฉิง เป็นธรรมดาที่จะสามารถมองเห็นชื่อที่อยู่บนแผ่นศิลาจารึกได้ง่ายๆ
ภรรยายิ้มเล็กน้อยแล้วพยักหน้า “ไม่เลว เป็นชื่อของหนึ่งในเด็กสองคนนั้น”
“อีกครู่ ข้าจะไปพบนางด้วยตัวเอง” กงฉิงพูดด้วยรอยยิ้ม
ภรรยาพูดเตือนขึ้นมาประโยคหนึ่ง “ท่านพี่ต้องระวังคำพูดด้วย อย่าทำให้เด็กคนนั้นตกใจ”
กงฉิงหัวเราะลั่น “คนที่มีพรสวรรค์ระดับนี้ จะตกใจง่ายๆ อย่างนั้นเลยหรือ”
ณ สถานที่หนึ่งในวังเทียนอู่กง ชายร่างสูงใหญ่รูปงามที่มีความแข็งแกร่งเพิ่งจะเดินลงมาจากเวทีประลอง ก็เห็นลำแสงที่พุ่งขึ้นไปบนฟ้าจากหอดูดาว
เขาเดินไปยังหอดูดาวอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
เพียงแต่เขายังเดินไปไม่ถึง เขาก็ได้ยินศิษย์ร่วมสำนักพูดถึงชื่อหนึ่งขึ้นมา
“เจียงหลีหรือ” เขาหยุดเดิน พูดชื่อนี้ขึ้นมารอบหนึ่ง แล้วทันใดนั้นเขาก็หันตัวกลับเดินไปยังเวทีประลอง
ในหอดูดาว แสงดาวดับลง เจียงหลีค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ
ความงดงามของปีศาจได้จากหายไปจากดวงตาของนาง
เพียงแต่พอนางเพิ่งจะลืมตาขึ้น ก็ถึงกับตะลึง ผู้คนมากมายที่อยู่รอบๆ จ้องมองนาง สายตาที่สนิทสนมแปลกๆ นี่มันอะไรกัน
ท่ามกลางสายตาที่จ้องมองมา เจียงหลีค่อยๆ ยืนขึ้น แล้วปัดฝุ่นบนเสื้อผ้า
ไม่รู้ว่านั่งสมาธิไปนานเท่าไหร่ แต่รู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว
แต่ทว่าในระหว่างที่นางเคลื่อนไหว คนเหล่านี้ก็ยังจ้องนางไม่ละสายตา เหมือนว่ากำลังจ้องมองของพิสดารล้ำค่าอยู่อย่างไรอย่างนั้น
เป็นบ้ากันรึไง! ต่อให้ข้าสวยกว่านี้ ก็มาจ้องกันแบบนี้ไม่ได้นะ! เจียงหลีก่นด่าในใจ แล้วรีบออกไปจากหอดูดาวที่แปลกประหลาดนี่
แต่ว่าในขณะที่นางเดินออกมาจากหอดูดาว กลับถูกสถานการณ์ข้างนอกทำให้ตกใจ “เกิดอะไรขึ้น” นางเห็นเหล่าลูกศิษย์ของวังเทียนอู่กงจำนวนมากล้อมรอบอยู่ที่ยอดเขา
“เจียงหลี!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงที่คุ้นเคยเรียกชื่อนาง ทำให้เจียงหลีเดินไปหาพวกเขาด้วยหลายความรู้สึกที่ผสมปนเป
“เกิดอะไรขึ้น” เจียงหลีเดินไปหากงเสวี่ยฮวาและมู่ชิงเหยียนแล้วถามพวกเขา
กงเสวี่ยฮวายิ้มอย่างเจิดจ้า แล้วเงยหน้าขึ้น ชี้ไปยังแผ่นศิลาจารึก “เจ้าดูเอาเอง”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์