ราชินีพลิกสวรรค์ – ตอนที่ 70 การล้อมกำจัดในงานประลองชิง
ถ้าหากว่าเป็นคนทั่วๆ ไปแน่นอนว่าคงไม่ออกจากพื้นที่จัดงานประลองชิงเจียวภายใต้สถานการณ์ที่คนตระกูลเย่ว์จ้องมองด้วยสายตาที่ดุร้ายเช่นนี้ อย่างน้อยก็อยู่ในงานก่อน ก่อนที่การประลองชิงเจียวจะจบลง ชีวิตก็ปลอดภัย
แต่ว่าเจียงหลีกลับไม่ใช่คนทั่วไป
หลังจากที่นางลงจากเวที นางก็เดินไปยังประตูทางออกของงานประลองชิงเจียวอย่างสบายอกสบายใจ คนของตระกูลเย่ว์ที่อยู่ข้างหลังตามมาอย่างเงียบๆ
ท่าทีของนางประหนึ่งว่านางไม่รู้อย่างไรอย่างนั้น
ความเคลื่อนไหวนี้ ถูกรายงานให้กับคนข้างบนที่กำลังดูความเป็นไปของบนเวทีอยู่อย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ฟังคำรายงาน อู๋เชียนพูดถากถางด้วยความเย็นชาว่า “ยโสโอหัง รนหาที่ตาย!”
คำพูดของเขา เฮ่อเหลียนเฟิงก็เห็นด้วย เขาพยักหน้า “ยอมรับว่ามีพรสวรรค์มาก ทั้งที่อายุยังน้อย เพราะอย่างนี้ถึงได้ไม่เห็นหัวใคร”
ผู้คนต่างรู้กันอยู่แก่ใจว่าเพียงแค่เจียงหลีก้าวเท้าออกไปแค่ก้าวเดียว คนตระกูลเย่ว์ก็สามารถฆ่านางได้เป็นร้อยครั้งพันครา!
“น่าสนใจจริงๆ” ทันใดนั้นหนานอู๋เฮิ่นก็หัวเราะขึ้นมา “เด็กผู้หญิงคนนี้ช่างอาจหาญยิ่งนัก!”
“ท่านอาจารย์หนานพูดเช่นนี้ได้อย่างไร” มู่หว่านโหรวกลอกตามองมา
หนานอู๋เฮิ่นสะบัดแขนเสื้อ ยิ้มแล้วพูดว่า “อยู่ต่อหรือประคองชีวิตให้รอดไปอีกสองวัน หลังจากที่การประลองชิงเจียวจบลง ก็หนีไม่พ้นที่จะต้องถูกคนตระกูลเย่ว์แก้แค้นอยู่ดี ดังนั้นทำไมนางจะต้องอยู่ต่ออีกสองวัน เพื่อให้คนมาว่านางขี้ขลาดตาขาวด้วยล่ะ ผลสุดท้ายก็ไม่ต่างกัน เช่นนั้นสู้เผชิญหน้าตรงๆ ไปเลยดีกว่า”
“คำพูดนี้ผิดแล้ว ถ้าหากอยู่ต่ออีกสองวันแล้วรอให้คนของจวนตระกูลลู่มาเป็นกำลังหนุน วิกฤตก็จะสิ้นไปไม่ใช่หรือ” อู๋เชียนแสดงความคิดเห็นที่ต่างออกไป
หนานอู๋เฮิ่นกลับตอบว่า “พึ่งพาต้นไม้ใหญ่ ถึงจะสามารถรอดพ้นจากความลำบากไปได้มากมาย แต่ว่าคนที่พึ่งพาต้นไม้ใหญ่เพื่อให้รอดชีวิต ไม่มีทางที่จะปีนไปถึงยอดเพื่อชมทิวทัศน์ได้ตลอดไป อย่างน้อยในตอนนี้ตระกูลลู่ก็ไม่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วย”
“ท่านอาจารย์หนานมั่นใจขนาดนั้นเชียวหรือ” อู๋เชียนพูดอย่างไม่พอใจ
อู๋เชียนไม่พอใจในท่าทางของหนานอู๋เฮิ่นที่ราวกับคาดการณ์ได้ทุกเรื่อง ไม่เป็นเดือดเป็นร้อน ราวกับผู้ฝึกฝนมามาก มันทำให้เขารู้สึกว่าถูกแย่งความสนใจ
มู่หว่านโหรวก็พูดว่า “คำพูดของท่านอาจารย์หนานอาจจะทึกทักเอาเองเกินไป ตระกูลลู่ไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยเพียงสาวใช้คนหนึ่ง ก็เพียงเพราะนางไม่เหมาะสม คงไม่มีทางทำเช่นนี้เพื่อฝึกฝนนางอย่างเด็ดขาด”
หนานอู๋เฮิ่นมองมู่หว่านโหรวแล้วยิ้ม ไม่ได้ตอบโต้ “ที่องค์หญิงพูดก็ถูกขอรับ” พูดจบ เขาลุกขึ้นในทันทีเหมือนเตรียมตัวจากไป เฮ่อเหลียนเฟิงรีบลุกขึ้นถาม “ท่านอาจารย์หนาน ท่านจะไปไหนหรือ การประลองชิงเจียวยังไม่จบเลย”
หนานอู๋เฮิ่นหันไปมองการประลองบนเวทีที่เริ่มต้นใหม่ ยิ้มแล้วพูดว่า “ผลของการประลองได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่มีใครสู้ไป๋หลี่เฟิ่งได้ ไม่มีใครเหมาะที่จะได้ที่หนึ่งนอกจากเขา ดูหรือไม่ดูก็ไม่ต่างกัน ตอนนี้ข้ากลับสนใจสาวใช้ของตระกูลลู่คนนี้มากว่านางจะรับมือกับการถูกคนตระกูลเย่ว์ไล่ฆ่าอย่างไร ทุกท่าน ข้าไปก่อนล่ะ”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะไปกับท่านด้วย” อู๋เชียนก็ลุกขึ้นแล้วพูดกับหนานอู๋เฮิ่น
หนานอู๋เฮิ่นยิ้ม ไม่ได้ปฏิเสธ
เขามองมู่หว่านโหรวแล้วถามว่า “องค์หญิงล่ะขอรับ”
มู่หว่านโหรวแววตาแวววาว สายตาที่เย็นชาดั่งน้ำแข็งมองไปที่สนามประลอง พูดอย่างเยือกเย็นว่า “ข้าไม่ไปร่วมสนุกด้วยหรอก” ในใจของนางต่อให้มีเจียงหลีร้อยคนก็ไม่สำคัญไปกว่าไป๋หลี่เฟิ่งคนเดียวหรอก
แม้นางจะรู้ว่าไป๋หลี่เฟิ่งได้ที่หนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย แต่นางไม่ยอมพลาดเห็นชัยชนะของเขาแม้แต่วินาทีเดียว นางต้องการยืนยันว่านางมองคนไม่ผิด!
เมื่อเจียงหลีออกไป คนตระกูลเย่ว์ก็ออกจากงานประลองชิงเจียวไปด้วยเหมือนกัน หนานอู๋เฮิ่นและอู๋เชียนก็แอบๆ ตามไปเพื่อรอดูการต่อสู้ที่ตื่นตานี้
บนอัฒจันทร์เหลือเพียงแค่เฮ่อเหลียนเฟิงและมู่หว่านโหรว
ที่จริงแล้ว เฮ่อเหลียนเฟิงก็อยากไปดูสาวใช้ตระกูลลู่ผู้โอหังอวดดีว่าจะรับมือกับการแก้แค้นของคนตระกูลเย่ว์ได้สักกี่น้ำ
แต่ว่าเขาเป็นถึงท่านเจ้าเมือง มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ไม่สามารถออกไปได้ตามอำเภอใจ
ดังนั้น เขาทำได้เพียงแค่ดูการประลองชิงเจียวที่รู้ผลอยู่แล้วต่อกับมู่หว่านโหรว



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์