ตู้มมม!
เสียงดังอย่างกะทันหันทำให้เจียงหลีและชิงหว่านหันขึ้นไปมองพร้อมกัน
การต่อสู้ระหว่างเจียงเฮ่าและมหาปุโรหิตได้สิ้นสุดลงแล้ว ท่ามกลางพลังอันรุนแรง ร่างที่น่าเกลียดและผอมบางก็ตกลงมาจากฟากฟ้าและร่วงลงต่อหน้าพวกนาง
“ท่ามหาปุหิต! นางฆ่าประมุขสำนัก เร็วเข้า! ฆ่านางเร็วเข้า!” ชิงหว่านร้องอย่างตื่นตระหนกเมื่อเห็นคนที่ปรากฏตัว
แววตาของเจียงหลีดำดิ่ง ไม่พูดสิ่งใด
และในขณะนั้นเองก็มีร่างหนึ่งตกลงมาจากฟากฟ้าอย่างทรงพลัง
เขาตกลงมาเหนือร่างของมหาปุโรหิต
กร็อบ!
เสียงแตกหักดังขึ้น ร่างของมหาปุโรหิตถูกเหยียบลงมาจากท้องฟ้าด้วยเท้าของเขา และร่างกายของเขาเอียงไปมาและล้มลงกับพื้นจมลงไปในซากปรักหักพังทันที
เจียงหลีหัวเราะ
ในขณะที่ร่างของมหาปุโรหิตร่วงลงมาวินาทีนั้น เขาได้ตายไปแล้ว
เจียงเฮ่ายืนเหยียบย่ำอยู่บนศพของมหาปุโรหิต ใบหน้าหล่อเหลาที่เต็มไปด้วยราศีโหดเหี้ยมและดวงตาคมกริบจ้องชิงหว่านเขม็ง “เจ้าพูดว่าจะฆ่าใครนะ”
ชิงหว่านสั่นเทิ้มไปทั้งสรรพางค์กาย แรงกดดันในตัวของเจียงเฮ่ามีมากและกดทับนางจนรู้สึกหายใจไม่ออก
“พี่ใหญ่ ฆ่านางซะ” เจียงหลีเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง
“ได้” เจียงเฮ่าพยักหน้าโดยไม่มีความลังเลเลยสักนิด
เมื่อชิงหว่านได้ยินประโยคนี้ก็เผยสีหน้าหวาดผวาถอยหลังหนีด้วยใบหน้าซีดเผือด “อย่า อย่า อย่าฆ่าข้า เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ ข้าไม่โทษเจ้าแล้ว ข้าไม่เกลียดแค้นเจ้าแล้ว อภัยให้ข้าเถิด”
เจียงหลีหัวเราะเยาะ “เอาคำว่าให้อภัยของเจ้าลงนรกไปพร้อมเจ้าเถิด!”
เจียงเฮ่าเคลื่อนไหวเงาร่างแต่กลับมีลำแสงหนึ่งที่มีความรวดเร็วยิ่งกว่าเขา
เจียงหลีรู้สึกถึงอ้อมแขนอันเบาหวิว คิดไม่ถึงว่าเจ้าเปี๊ยกจะตัดหน้าเจียงเฮ่าพุ่งเข้าใส่ชิงหว่าน อุ้งเท้าอวบอ้วนสีชมพูคู่นั้นไม่เพียงแต่ข่วนคอของนางเท่านั้น แต่ยังข่วนไปที่ใบหน้าของนางอีกด้วย
“…”
“…”
เจียงหลีและเจียงเฮ่าตะลึงค้างพร้อมกัน
ทันใดนั้นเจียงเฮ่าก็แสดงสีหน้าเรียบนิ่งให้กับเจ้าเปี๊ยกที่ชิงตัดหน้าเขาไปก่อนจะหันกลับมามองเจียงหลี “อาหลี นี่คือตัวอะไร”
“สัตว์เลี้ยงของข้าเอง จงรักภักดีต่อข้ามากเชียวล่ะ” เจียงหลียักคิ้วหลิ่วตาเผยรอยยิ้มที่ยากจะอธิบาย
เจ้าเปี๊ยกจอมเย็นชา หลิวหลีปราดตามองศพของชิงหว่านด้วยแววตาเย็นยะเยือกและท่าทางรังเกียจ มันหันกลับมาแล้วก็กระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของเจียงหลีทันที ท่าทางทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของนั้นทำให้เจียงเฮ่าดูแล้วเกิดอาการหมั่นเขี้ยว
“ยินดีกับพี่ใหญ่ด้วยที่เลื่อนขั้นเป็นหลิงหวังแล้ว” เมื่อเจียงหลีเห็นสีหน้าของเจียงเฮ่าดำดิ่งเรื่อยๆ ก็รีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที
แต่เจียงเฮ่ากลับไม่ค่อยยินดีสักเท่าไหร่ “แค่เลื่อนขั้นธรรมดาภายใต้หลิงหวง ไม่นับว่ายิ่งใหญ่อะไร”
เจียงหลีแอบกัดลิ้นของตัวเอง
ถ้าคำพูดของเจียงเฮ่าถูกปล่อยให้ได้ยินจากคนอื่นคงจะคิดว่าเขาหยิ่ง อย่างไรก็ตาม นางรู้ดีว่าเพราะร่างกายของเจียงเฮ่า ให้เขาอยู่ระดับต่ำกว่าอาณาเขตหลิงหวงคงไม่ค่อยรู้สึกประสบความสำเร็จเท่าใดนัก
“อาหลี ให้ข้าช่วยประคองเจ้าขึ้นมาเถอะ” เจียงเฮ่าพูดพลางยื่นมือไปจับแขนของเจียงหลีประคองนางให้ลุกขึ้นมาจากซากปรักหักพัง “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
เมื่อเจียงหลียืนอย่างมั่นคงแล้วก็ส่ายหน้า “ข้าไม่เป็นไร เพียงแต่พลังวิญญาณของข้าถูกถอนออกไป พักประเดี๋ยวเดียวก็หายแล้วล่ะ”
“ข้ามีหินวิญญาณแล้วก็ผลึกวิญญาณ” สิ้นเสียงของเจียงเฮ่าก็ยกมือขึ้นมาหยิบหินวิญญาณและผลึกวิญญาณมากมายมากองตรงหน้าเจียงหลี
เจียงหลียิ้มอย่างขมขื่น พี่ชายคนนี้คงขุดของเก่าที่เก็บหลายปีออกมาจากกระเป๋าวิเศษหมดแล้วสินะ
“พี่ใหญ่ ข้าเองก็มี” เจียงหลีเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้
“ข้าให้เจ้าก็หยิบไปสิ” เจียงเฮ่ากลับดื้อรั้นเอาหินวิญญาณและผลึกหินวิญญาณให้นาง
“ท่านให้ข้ามาหมด แล้วท่านจะทำอย่างไร” เจียงหลีกล่าว

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์