รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 376

มายมิ้นท์อึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นพอรู้สึกตัวขึ้นมาว่าคนที่จับมือตัวเองอยู่ ไม่ใช่ลาเต้ แต่เป็นเปปเปอร์ ก็รีบชักมือ อยากจะชักมือออกมา

เปปเปอร์รีบจับมือไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

มายมิ้นท์ยื้อไม่หลุด สีหน้าก็ร้อนใจจนแดงขึ้นมา แล้วพูดอย่างโกรธเคืองขึ้นว่า “เปปเปอร์ นี่คุณจะทำอะไรน่ะ!”

“ไม่มีอะไร ก็แค่ไม่อยากให้คุณขยับไปเรื่อยเท่านั้น” เปปเปอร์ตอบกลับด้วยดวงตาเป็นประกาย “คุณอยู่เงียบ ๆ หน่อยผมก็จะปล่อยตัวคุณ อย่าขยับไปเรื่อย เดี๋ยวจะเวียนหัวนะ”

มายมิ้นท์โกรธจนขำเลย

ที่จับมือเธอไว้ เพราะไม่อยากให้เธอขยับไปเรื่อง นี่ยังถือว่าเป็นเหตุผลอีกเหรอ

ถ้าเขาไม่แตะต้องเธอ เธอก็ไม่ขยับไปเรื่อยหรอกนะ?

แต่ว่ามายมิ้นท์เองก็รู้ ว่าตัวเองพูดเรื่องพวกนี้กับคนหน้าด้านอย่างนี้มันไม่มีประโยชน์หรอก

สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ทีหนึ่ง มายมิ้นท์ก็ข่มความไม่พอใจลง และไม่ขยับแล้ว “เอาล่ะ ตอนนี้คุณควรทำตามคำพูดของคุณแล้ว ปล่อยฉันได้แล้วค่ะ”

เปปเปอร์เม้มเรียวปากเล็กน้อย แล้วก็ปล่อยตัวเธอออก

พอมือของมายมิ้นท์ได้รับความเป็นอิสระ ก็รีบชักมือกลับมา แล้วซุกเข้าไปในผ้าห่ม จากนั้นก็ถามขึ้นว่า “คุณมาอยู่ที่นี่ แล้วเต้กับไมโลละคะ?”

“ตอนนี้ดึกแล้ว ลาเต้กลับไปแล้ว ส่วนไมโลก็นอนหลับอยู่ในห้องด้านใน แล้วผมก็อยู่เป็นเพื่อนคุณที่นี่” เปปเปอร์นั่งลงไปใหม่อีกครั้ง

มายมิ้นท์เบ้ปากเล็กน้อย “ใครต้องการคุณมาอยู่เป็นเพื่อนคะ”

“ไม่มีใครให้ผมมาอยู่เป็นเพื่อน ผมเป็นคนยินยอมเอง อ๋อ ใช่แล้ว มีข่าวดีอยู่สองเรื่อง คุณอยากฟังไหม?” เปปเปอร์เปลี่ยนหัวข้อเรื่องไป

เขารู้ ถ้าเกิดยังพูดเรื่องอยู่เป็นเพื่อนหรือไม่อยู่เป็นเพื่อนกับเธอต่อไป

สุดท้าย เขาจะต้องโดนเธอไล่ออกไปแน่

ผลปรากฏว่า พอเปปเปอร์เปลี่ยนหัวข้อเรื่องไป ความสนใจของมายมิ้นท์ก็โดนดึงดูดไป แล้วถามขึ้นว่า “ข่าวดีเรื่องอะไรคะ?”

“ข่าวแรก เป็นเรื่องตำแหน่งประธานบริษัทของเยี่ยมบุญ โดนถอดถอนไปแล้ว” เปปเปอร์เองก็ไม่อ้อมค้อม จ้องมองเธอแล้วก็ตอบไปเลย

มายมิ้นท์แปลกใจ “โดนถอดถอนแล้วเหรอคะ? ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้?”

พอเห็นเธอมีความสนใจมากเช่นนี้ เปปเปอร์ก็คลี่มุมปากออกเล็กน้อย “เพราะว่าก่อนหน้านี้ส้มเปรี้ยวโดนคุณส่งตัวเข้าไปในคุก ก็เลยทำให้เอสซีกรุ๊ปเกือบจะล้มละลายไปด้วย แล้วเยี่ยมบุญเป็นพ่อของส้มเปรี้ยว แน่นอนว่าจะต้องทำให้พวกหุ้นส่วนของเอสซีกรุ๊ปไม่พอใจ แล้วครั้งนี้ส้มเปรี้ยวก็ทำให้เอสซีกรุ๊ปซวยไปด้วย พวกหุ้นส่วนของเอสซีกรุ๊ปก็เลยร่วมมือกันเรียกประชุมขณะกรรมการบริษัทขึ้นมา แล้วก็ถอดถอนตำแหน่งประธานบริษัทของเยี่ยมบุญไป ต่อไปเยี่ยมบุญก็จะเป็นแค่หุ้นส่วนใหญ่ที่อยู่ว่าง ๆ ของเอสซีกรุ๊ปเท่านั้น”

ถึงแม้ว่าเอสซีกรุ๊ปยังเป็นของตระกูลภักดีพิศุทธิ์ แต่ว่าอำนาจในการพูดจะไม่อยู่กับตระกูลภักดีพิศุทธิ์แล้ว

เรื่องนี้สำหรับคนที่หยิ่งยโสอย่างเยี่ยมบุญนั้น ถือได้ว่าเป็นความทรมานที่ใหญ่หลวงอย่างหนึ่ง เพราะว่าทั้ง ๆ ที่เป็นของของตัวเอง แต่ตัวเองกลับไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดอะไร ได้แต่ทนดูคนอื่นเอาไปใช้หน้าตาเฉย จะไปสบายใจได้ยังไง?

“นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้เหรอคะ?” มายมิ้นท์ถามขึ้น

เปปเปอร์ยิ้มเล็กน้อย “ใช่ เมื่อช่วงบ่ายวันนี้เอง”

มายมิ้นท์ยิ้มขึ้นมา “สมน้ำหน้า ส้มเปรี้ยวทำให้เยี่ยมบุญซวยขนาดนี้ คิดว่าเยี่ยมบุญเอง ก็น่าจะเกลียดส้มเปรี้ยวมากเลยล่ะมั้ง?”

สองคนนี้ เคยเป็นพ่อที่รักลูกมากและลูกที่กตัญญูมากมาก่อน

แต่ตอนนี้ กลับกลายเป็นศัตรูคู่แค้นกันไปแล้ว ช่างน่าเยาะเย้ยจริง ๆ

“ใช่แล้ว ข่าวดีเรื่องที่สองเป็นเรื่องอะไรคะ?” มายมิ้นท์ยันตัวลุกขึ้นมานั่ง

นอนมานานขนาดนี้ เอวของเธออ่อนแรงไปหมดแล้ว จำเป็นที่จะต้องนั่งสักพัก ผ่อนคลายสักหน่อย

แต่พอเพิ่งลุกขึ้นมานั่งได้ ความวิงเวียนระลอกใหญ่ก็จู่โจมเข้ามา มายมิ้นท์พึมพำอย่างรู้สึกไม่สบายมากขึ้นมาคำหนึ่ง แล้วร่างกายก็โอนเอียงล้มไปทางด้านข้างเตียงผู้ป่วย

พอเปปเปอร์เห็นเป็นเช่นนั้น ก็รีบเดินหน้าเข้าไปก้าวหนึ่ง ใช้ร่างกายมาเป็นรามกั้น มากั้นเธอเอาไว้ เพื่อไม่ให้เธอตกลงไปจากเตียงผู้ป่วย

“ไม่เป็นไรนะ?” มือของเปปเปอร์วางอยู่บนไหล่เธอ ก้มหน้าไปมองดูเธอ ในดวงตาไม่ได้ปิดบังความตื่นเต้นและห่วงใยเลยสักนิด

“ไม่เป็นไรค่ะ ก็แค่เวียนหัวเท่านั้น” มายมิ้นท์พิงอยู่บนหน้าท้องของเปปเปอร์ แล้วหายใจอย่างรวดเร็วไป ดวงตาก็ค่อย ๆ หลับตาลง กำลังพยายามปรับให้คุ้นชินกับความวิงเวียนในสมอง

เปปเปอร์เห็นเธอไม่สบายแบบนี้ ก็ยกมือขึ้นมาวางตรงขมับเธอ แล้วก็ค่อย ๆ กดนวดขึ้นมา

มายมิ้นท์อยากจะผลักเขาออก แต่ว่าเธอเวียนหัวจนไม่มีแรงจริง ๆ จึงได้แต่ปล่อยเขาทำไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว