สรุปบท ตอนที่ 346 ถึงเวลาที่สวี่คังเฉิดฉาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว
สรุปเนื้อหา ตอนที่ 346 ถึงเวลาที่สวี่คังเฉิดฉาย – ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว โดย Internet
บท ตอนที่ 346 ถึงเวลาที่สวี่คังเฉิดฉาย ของ ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง
และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง
ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 346 ถึงเวลาที่สวี่คังเฉิดฉาย
เวลาประมาณ07.30 น.
ซูผิงกลับมาที่ร้านหลังอาหารเช้าและสวี่คังก็มาถึงไม่นาน
พวกเขาไม่เสียเวลาสวี่คังจ่ายเงินและซูผิงก็พาเขาไปที่ห้องทดสอบ
ซูผิงนำสัญญาเช่าที่เขาให้สวี่คังดูเมื่อวันก่อนและเรียกสุนัขมังกรดำออกมาพวกเขาทำสัญญาชั่วคราว
“ผมต้องทำยังไง?”
สวี่คังไม่รู้ว่าต้องทำยังไงกับสัญญาเช่า
ซูผิงกรีดนิ้วของสวี่คังด้วยเล็บของเขาเล็กน้อยและบอกให้สวี่คังประทับตราสัญญาด้วยเลือด จากนั้นซูผิงวางสัญญาบนหน้าผากของสุนัขมังกรดำ
ไม่นานกระดาษแผ่นนั้นก็กลายเป็นพลังงานหายไปในตัวสุนัขมังกรดำ
ทันทีเขารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างคั่นระหว่างสัญญาที่เขาสร้างไว้กับสุนัขมังกรดำและมีบางอย่างที่คลุมหน้าสัญญานั้นอยู่
แต่เขายังสามารถสั่งสุนัขมังกรดำได้หากต้องการ
สัญญาของเขากับสุนัขมังกรดำนั้นมีผลบังคับใช้เหนือกว่าสัญญาเช่า
ถ้าซูผิงและสวี่คังออกคำสั่งพร้อมกันสุนัขมังกรดำจะทำตามคำสั่งของซูผิงเท่านั้น
”มันเป็นของคุณแล้วดูแลมันให้ดีๆ” ซูผิงตบไหล่สวี่คัง
สวี่คังดีใจเพราะรู้สึกได้ถึงสัญญาใหม่ในจิตใจของเขาเขารู้สึกได้ถึงสุนัขมังกรดำซึ่งดูเหมือนจะขี้เกียจเล็กน้อย และในเวลาเดียวกันก็ดุร้าย
เขาสามารถบอกได้ว่าอสูรกำลังเก็บงำความโกรธที่ฝังรากลึกอยู่
“นี่มันอสูรดุร้าย!”สวี่คังดีใจ
ยิ่งอสูรมีความดุร้ายมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งดีสำหรับเขาเท่านั้นอสูรดุร้ายจะมีพลังที่แข็งแกร่งกว่าและพวกมันจะไม่สะดุ้งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง!
ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของการมีอสูรที่ดุร้ายคือมันสามารถย้อนกลับมาที่เจ้าของได้อย่างง่ายดาย
“จำไว้ว่าแปดชั่วโมงเท่านั้น แต่นั่นเป็นเวลาเพียงพอแล้วที่คุณจะชนะการแข่งขันนี้” ซูผิงเตือนสวี่คัง สวี่คังรีบพยักหน้า เขาถามคำถามอย่างกะทันหัน“ถ้าผมใช้สุนัขมังกรดำกับอสูรของผมด้วยกัน…ผมจะสามารถเอาชนะหลิวฉิงเฟิงได้ไหม?”สวี่คังกระตือรือร้นที่จะได้รับคำยืนยัน เขาได้เห็นความสามารถของสุนัขมังกรดำในวันก่อน และแทบรอไม่ไหวที่จะลองใช้
เขาเสียใจมากที่หลิวฉิงเฟิงเอาชนะเขาได้
จากผู้ชนะ10 อันดับแรกในปัจจุบัน เขาไม่ชอบคนจากตระกูลมู่มากที่สุด รองลงมาก็หลิวฉิงเฟิง
ในช่วงเริ่มต้นของลีกนักรบในสายตาของสวี่คังเขาไม่พอใจมู่เฉินมากที่สุด มู่เฉินอยู่ในชั้นเรียนเดียวกันกับสวี่คังมาตลอดสามปี ในสถาบันแอรีสมู่เฉินคอยจับจ้องสวี่คังในทุกๆเรื่อง ซึ่งทำให้สวี่คังโกรธมาก อย่างไรก็ตามเนื่องจากมู่เฉินไม่ได้เข้า 10 อันดับแรก สวี่คังจึงไม่สามารถท้าทายเขาได้
แต่ความจริงที่ว่าสวี่คังมาไกลถึงขนาดนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้มู่เฉินอับอาย
“ท้าทายหลิวฉิงเฟิง?” ซูผิงแปลกใจที่สวี่คังพูดถึงชื่อนี้ จากนั้นเขาก็จำได้ว่าสวี่คังแพ้หลิวฉิงเฟิง “ แน่นอน โดยพื้นฐานแล้วคุณสามารถชนะ … กับคนอื่น ๆ ทั้งหมดได้ยกเว้นฉินเส้าเทียน”
สวี่คังไม่อยากจะเชื่อเรื่องนี้
เขาเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ
เขาสามารถท้าทายใครก็ได้ยกเว้นฉินเส้าเทียน?
กล่าวได้ว่าเขาสามารถคว้าอันดับสามได้ด้วยสุนัขมังกรดำ!
น่ากลัวขนาดไหน!
อันดับที่ห้าเทียบกับอันดับสามไม่ได้อันดับสาม! เขาจะสามารถยืนบนแท่นและรับรางวัลได้!
“คุณจริงจังใช่ไหมครับ?”สวี่คังต้องการความแน่ใจ
ซูผิงพยักหน้าเล็กน้อย
เขาไม่ได้ดูการแข่งขัน10 อันดับแรกคนอื่น ๆ อย่างละเอียด เขาเชื่อว่าคนเหล่านั้นน่าจะซ่อนความแข็งแกร่งไว้มากมาย แต่ถึงกระนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่าคนที่อันตรายที่สุดในหมู่พวกเขาคือฉินเส้าเทียน ถ้าซูผิงเป็นคนที่ควบคุมสุนัขมังกรดำด้วยตัวเอง เขาเชื่อว่าเขาสามารถเอาชนะฉินเส้าเทียนได้แน่
แต่กับสวี่คังนั้นไม่ใช่
เขาสามารถเอาชนะคนอื่นได้ตราบเท่าที่เขาไม่ได้ท้าทายฉินเส้าเทียน
หลังจากที่ซูผิงให้คำตอบยืนยันแก่เขาสวี่คังก็เริ่มสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น เขาไม่สามารถจินตนาการถึงฉากที่สวยงามนั้นได้
เขาสามารถบดขยี้กลุ่มอัจฉริยะได้ด้วยสุนัขมังกรดำเพียงอย่างเดียว!
“คุณคืออาจารย์ที่รักของผมจริงๆ !!”สวี่คังตะโกนในขณะที่ตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่เคยสงสัยในคำพูดของซูผิงเลยแม้แต่นิด เขาได้เห็นทักษะของสุนัขมังกรดำซึ่งทำให้เขาตกใจอย่างที่สุดมาแล้ว
“ตอนนี้ ถึงเวลากล่าวคำอำลาครั้งสุดท้าย” ซูผิงกล่าว
สวี่คังกลับมามีสติ“ คุณต้องพูดเป็นลางไม่ดีแบบนี้ด้วยหรอ?” เขาบ่น
“มันเป็นลางไม่ดีหรอ? ไม่ต้องกังวลหรอก ไปซะ”
สวี่คังจากไปเนื่องจากไม่มีลูกค้าอยู่ที่ร้านเลย ซูผิงจึงใส่ถังยู่หรานกลับเข้าไปในม้วนภาพ และเรียกซูหลิงเยวี่ยมา ถึงเวลาแล้วที่พวกเขาต้องออกจากบ้านแล้ว
ในรถซูผิงถามซูหลิงเยวี่ย“เธอพร้อมหรือยัง?”
ซูหลิงเยวี่ยหายใจเข้าลึกๆ “ใช่ ฉันพร้อมแล้ว ฉันจะพยายามให้ดีที่สุดไม่ว่าจะต้องสู้กับใคร!”
“ไม่ฉันหมายถึงนั่งให้ดีๆ”
”อะไรนะ?”
ฮึ่ม!
เครื่องยนต์คำรามและรถก็พุ่งออกไป
พื้นที่เมืองตอนบน
สถานที่จัดงานแน่นขนัดเสียงเชียร์ดังไม่สิ้นสุด
การแข่งขันยังไม่เริ่มบนเวทีนักร้องชื่อดังกำลังแสดงและเชียร์ลีดเดอร์ที่สวมชุดเซ็กซี่กำลังเต้น บรรยากาศผ่อนคลายขึ้น
เป็นวันที่ดีดวงอาทิตย์ขึ้นสูงบนท้องฟ้า
ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ชนะ10 อันดับแรกในปัจจุบันมีการถ่ายทอดบนหน้าจอขนาดใหญ่ รวมถึงวิดีโอบางส่วนของการต่อสู้รอบก่อนหน้านี้ ผู้ชมจะโห่ร้องด้วยความชื่นชมเมื่อได้เห็นการต่อสู้
วิดีโอที่เล่นบ่อยที่สุดคือการต่อสู้ระหว่างฉินเส้าเทียนและซูหลิงเยวี่ย
การต่อสู้ครั้งนั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในวิดีโอที่สุดบนอินเทอร์เน็ตและจากผู้เชี่ยวชาญด้านอสูรมากมาย!
ทุกคนเชื่อว่าแชมป์อาจเป็นซูหลิงเยวี่ยหรือฉินเส้าเทียนและซูหลิงเยวี่ยก็ถูกเลือกมากที่สุด!
ปัจจุบันการสำรวจความคิดเห็นบนอินเทอร์เน็ตแสดงให้เห็นว่าซูหลิงเยวี่เป็นคนที่มีแนวโน้มที่จะชนะที่หนึ่งมากสุดและอัตราการสนับสนุนของเธอก็สูงกว่าคนอื่นๆ มาก!
ความนิยมระดับนั้นเข้าใจได้ท้ายที่สุดมังกรของซูหลิงเยวี่ยก็สามารถทำร้ายผู้ตัดสินได้อย่างแสนสาหัส แม้แต่คนทั่วไปก็พอจะมองได้ว่ามังกรน่ากลัวแค่ไหน ซูผิงขับรถไปที่สถานที่จัดงาน และเข้าไปในสนามพร้อมกับซูหลิงเยวี่ย โดยใช้ทางเดินพิเศษสำหรับผู้เข้าร่วม
บนผนังมีโปสเตอร์ขนาดใหญ่ของผู้ชนะ10 อันดับแรกในปัจจุบันแขวนอยู่
ทางเดินเป็นเหมือนหอแห่งเกียรติยศ!
แม้แต่ซูผิงก็ได้รับแรงบันดาลใจจากบรรยากาศแห่งเกียรติยศนี้
ซูหลิงเยวี่ยรู้สึกสะเทือนใจกับโปสเตอร์ที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะได้เห็นเธอสามารถจินตนาการได้ว่าผู้เข้าร่วมจะรู้สึกอย่างไรเมื่อก้าวเข้ามาและเห็นโปสเตอร์นี่ ทุกคนคงจะเต็มไปด้วยอารมณ์เร่าร้อน
หลังจากนั้นไม่นานซูผิงและซูหลิงเยวี่ยก็เข้ามาอยู่ในสถานที่จัดงาน
เช่นเดียวกับในรอบก่อนหน้านี้ซูหลิงเยวี่ยไปที่พื้นที่รอและซูผิงก็ไปหาที่นั่งของเขา
“ดูสิ นั่นคือซูหลิงเยวี่ย!”
“เธอมาแล้ว !!”
“เธอจริงๆด้วย! โอ้พระเจ้า!”
บางคนที่สังเกตเห็นซูหลิงเยวี่ยร้องด้วยความตื่นเต้นซึ่งทำให้มีคนมองมากขึ้น ครู่หนึ่งทุกคนในสถานที่ก็เริ่มตะโกนเรียกชื่อเธอ
ผู้คนกว่าแสนคนต่างตะโกนเรียกชื่อเดียวกัน
เสียงของพวกเขาเป็นกำลังใจ!
ซูหลิงเยวี่ยยังไม่คุ้นเคยกับเรื่องนี้
เธอตัวสั่นเมื่อได้ยินเสียงคนตะโกนเรียกชื่อเธอมันเป็นเพราะความตื่นเต้น ความกังวลใจและระทึกขวัญ!
นี่คือความรู้สึกภาคภูมิใจใช่ไหม?
น้ำตาไหลออกมาจากหางตาของเธอเธอจะไม่มีวันลืมว่าตอนนี้เธอรู้สึกยังไง ความตื่นเต้นระดับนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่หา!
เธอนั่งลงมองไปยังพื้นที่ของครอบครัวเพื่อมองหาซูผิง
เธอรู้ว่ามีคนอื่นที่สมควรได้รับเกียรตินี้มากกว่าเธอ
ถ้าคนเหล่านั้นรู้ว่าเขาเป็นคนที่ให้อสูรแก่ฉันและเกี่ยวกับสิ่งที่เขาสามารถทำได้ … พวกเขาจะต้องเสียสติแน่…ซูหลิงเยวี่ยคิดก่อนที่เธอจะรู้เธอเริ่มชื่นชมซูผิง
ในไม่ช้าผู้เข้าร่วมการแข่งขันท้าทายคนอื่นๆ ก็มาถึงพื้นที่รอ
มีเพียงยี่สิบคนในพื้นที่รอที่กว้างขวาง
เมื่อผู้เข้าร่วมทั้งหมดมาถึงกรรมการทั้งสี่ก็ลอยขึ้นไป คณะกรรมการเพิ่มขึ้นเป็นสี่คนจากเดิมสองคน สามารถบอกได้ว่าการแข่งขันของวันนี้สำคัญเพียงใด
พวกเขาประกาศกฎและประกาศเริ่มงาน!
ขั้นแรกเลือกผู้ที่จะท้าทาย!
โฆษกได้เชิญผู้ชนะ10 อันดับแรกในปัจจุบันขึ้นมาบนเวที
“ผู้เข้าร่วมสามารถเลือกหนึ่งในสิบคนที่จะท้าทาย!”
เสียงของโฆษกดังก้องอยู่ในสถานที่
ผู้ชนะ10 อันดับแรกในปัจจุบันยืนเรียงแถวกันบนเวที พวกเขาทั้งหมดแสดงกลิ่นอายประเภทต่างๆ บางคนดูดุร้าย บางคนดูมืดมนและแยกตัวออกไป บางคนก็สงบ และบางคนก็ดูอ่อนแอ
ซูหลิงเยวี่ยเป็นคนที่ไม่โดดเด่นแต่ทุกคนที่กำลังจะท้าทายรู้ว่าผู้หญิงคนนี้น่ากลัวที่สุดใน 10 คน!
ผู้ชมเงียบลงหลังจากเสียงของกรรมการเงียบไปบางคนกำลังเฝ้าดูผู้ชนะ 10 อันดับแรกในปัจจุบันและบางคนก็จับตามองผู้ท้าชิง
ผู้ท้าชิงกำลังมอง10อันดับแรกอยู่เช่นกัน
“ขอฉันก่อน!”
ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีมีคนตะโกนและน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส!
ทุกคนหันไปมองเขา
มันคือสวี่คัง
เขาถูกมองว่ามีศักยภาพในการขึ้นสู่10 อันดับแรกเช่นกัน แต่สุดท้ายก็แพ้หลิวฉิงเฟิง เขายังคงเป็นผู้เข้าร่วมที่ได้รับความนิยมเพราะทุกคนจำการแสดงที่น่าทึ่งของเขาได้ “สวี่คังคุณอยากท้าทายใคร?” หนึ่งในกรรมการถามด้วยรอยยิ้ม
สวี่คังยกมือขึ้นชี้ไปที่ใครบางคนบนเวทีท่าทางนั้นบ่งบอกถึงความเย่อหยิ่งและโง่ในเวลาเดียวกัน
“หลิวฉิงเฟิง!”สวี่คังตะโกน
เขาใช้พลังดวงดาวเพื่อให้ทุกคนได้ยิน
ในฐานะที่เป็นนักรบอสูรระดับหกเขาสามารถส่งเสียงได้ทุกมุมเพื่อขยายเสียงของเขาเมื่อเขาใช้พลังดวงดาว
ผู้คนตกตะลึงกับคำตอบของเขา
เขาต้องการที่จะท้าทายหลิวฉิงเฟิง?!
เขาไม่กลัวแพ้อีกรอบเหรอ?ทำไมเขาถึงต้องการท้าทายหลิวฉิงเฟิงอีกครั้ง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว