ตอนที่ 363 การทดสอบ
จุดสูงสุดของระดับหกก็ยังเป็นระดับหก
ผู้หญิงคนนี้มีสิทธิ์เข้าร่วมลีกนักรบ
เจ้าหน้าที่ยกอุปกรณ์ขึ้นเหนือหัวเพื่อแสดงให้ผู้ชมเห็นว่าการทดสอบนั้นยุติธรรม
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ก้าวลงจากเวทีในไม่ช้าคนที่เหลืออยู่บนเวทีก็คือหยานปิงเยว่ อสูรหุ่นยนต์และผู้ตัดสินกิตติมศักดิ์ อย่างรวดเร็วม่านพลังถูกยกขึ้นปิดล้อมเวที การทดสอบกำลังจะเริ่มขึ้น
“เธอจะไม่ตายเพราะเรื่องนี้ใช่ไหม?”
“การทดสอบนี้โหดหินมาก เธอคงจะสบายกว่านี้ถ้าเธอใช้อสูรได้ ฉันไม่คิดว่าเธอจะทำได้ด้วยพลังของเธอเอง!”
“นี่มันอันตรายเกินไป!”
ผู้ชมบางคนรู้สึกกังวลพวกเขาเห็นอกเห็นใจเธอ เฟยหยานป๋อ คุณหลินและคุณลั่วต่างก็มีสีหน้ากังวลเช่นกัน เป็นเรื่องยากที่เธอต้องต่อสู้กับหุ่นยนต์ระดับแปด ไม่ต้องพูดถึงว่าเธอไม่สามารถเรียกอสูรของเธอได้ นักรบอสูรที่ไม่มีอสูรนั้นเหมือนคนแขนขาด
นักเรียนจากสถาบันดาบคลั่งกำลังคุยกันด้วยเสียงเบาๆ ว่าการทดสอบนั้นโหดเกินไป
ในทางกลับกันซูผิงให้ความสนใจเป็นอย่างมากนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นอสูรหุ่นยนต์แบบนี้ มันคล้ายกับกันดั้มมากทีเดียว
เขาสงสัยว่าอสูรหุ่นยนต์จะดีพอๆ กับอสูรระดับแปดอื่น ๆ ไหม
ผู้ตัดสินบอกให้กรรมการประกาศว่าการทดสอบได้เริ่มขึ้นแล้วผู้คนในกลุ่มผู้ชมกลั้นหายใจ และฟังอย่างเงียบ ๆ
”เริ่มการส่งออกพลังงานได้!“
”กำลังสร้างจิตสำนึก!”
”กำลังเข้าสู่สถานะต่อสู้
เจ้าหน้าที่เริ่มส่งสัญญาณ
สายเคเบิลและสายไฟรอบๆปีศาจลาวาระดับแปดหลุดออกและหดกลับเข้าไปในอุปกรณ์เหมือนงูพิษที่เคลื่อนไหวยั้วเยี้ย ราวกับถูกปลดปล่อยจากพันธนาการ ดวงตาของปีศาจลาวาก็เปลี่ยนเป็นสีแดง มันก้าวไปข้างหน้าและสร้างเสียงร้องที่ทำให้จิตวิญญาณแตกสลาย
โฮก!!
เสียงคำรามทำให้อากาศสั่นสะเทือน
ทันทีหลังจากนั้นเปลวไฟได้ลุกโชนขึ้นจากปีศาจลาวา ซึ่งกำลังอาบไปด้วยทะเลลาวา นี่คืออสูรประหลาดที่มีไฟลุกโชนตลอดเวลา
ผู้คนที่เฝ้าดูก็ยิ่งกระวนกระวายใจมากขึ้นเมื่อปีศาจลาวาเปิดเผยรูปลักษณ์ที่น่ากลัว
ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้สัตว์ประหลาดตัวนี้
อย่างไรก็ตามหยานปิงเยว่ยังคงสงบนิ่งเหมือนเดิมเมื่อปีศาจลาวาคำรามออกมา เธอแสดงความมุ่งมั่นและกำดาบของเธอไว้แน่น
โฮก!
ปีศาจลาวายังคงคำรามจู่ๆลาวาและเปลวไฟที่ลุกไหม้ก็มาบรรจบกัน ก่อตัวเป็นกำแพงไฟด้านหลัง และลาวาทรงกลมจำนวนมากก็พุ่งออกมาจากกำแพงไฟ
นั่นคือทักษะระดับแปดอุกกาบาตหลอมเหลว!
ทักษะวงกว้าง
ขณะที่อุกกาบาตหลอมเหลวถูกใช้งานผู้คนต่างอ้าปากค้าง แม้แต่สวี่คังและคนที่เหลือใน 5 อันดับแรกก็ตะลึง
ทันใดนั้นหยานปิงเยว่ก็พุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับก้มตัวลง!
ทักษะลับเนตรสายฟ้า!
ทักษะลับความเร็วเสียง!
หวีด!
หยานปิงเยว่หายตัวไปจากจุดนั้นอุกกาบาตหลอมเหลวที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางสองเมตรตกลงมาในจุดที่เธออยู่ หลุมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนพื้น
แต่หยานปิงเยว่อยู่ห่างจากจุดที่ที่เธอเคยอยู่ไปมากกว่าสิบเมตรจากนั้นอุกกาบาตหลอมเหลวลูกที่สองก็พุ่งมาและตกใส่จุดที่เธอยืนอยู่ แต่เธอก็หลบได้
ปัง!
อุกกาบาตหลอมเหลวพลาดเป้าหมาย
ปังปัง ปัง!
อุกกาบาตหลอมเหลวที่ตามมายังคงเล็งไปที่หยานปิงเยว่แต่เธอก็สามารถหลบได้ตลอดเวลา ปีศาจลาวาใช้ข้อมูลในการคำนวณว่าจะปล่อยอุกกาบาตหลอมเหลวไปที่จุดไหน แต่ก็ยังไม่สามารถโจมตีโดนเธอได้
มีฝนอุกกาบาตหลอมเหลวหลายลูกหยานปิงเยว่พุ่งไปรอบ ๆ ท่ามกลางอุกกาบาตหลอมเหลว และทุกครั้งที่เธอเคลื่อนไหว เธอจะเข้าใกล้ปีศาจลาวามากขึ้นเรื่อยๆ ในชั่วพริบตา เธอก็ย่นระยะทางได้กว่าสองร้อยเมตร
แววตาของเธอเย็นชาหวีด!
หยานปิงเยว่ก็วิ่งไปด้วยความเร็วที่เร็วกว่าเดิมมากเธอก้าวข้ามสามสิบเมตรในพริบตา และก็มาถึงด้านหน้าของปีศาจลาวา
แสงเย็นยะเยือกสะท้อนจากดาบแหลม
ปัง!
เกราะลาวาที่ปีศาจลาวาสวมหลุดออกเป็นชิ้นๆ ลาวาที่กระเซ็นใส่หยานปิงเยว่โดนดีดออกด้วยม่านพัลงโปร่งใสทีท่ปกคลุมตัวเธอ เธอแทงดาบคมเข้าไปในเกราะลาวาที่แตกแล้วเฉือนมันทิ้ง ในเวลาเดียวกันเธอกระทืบเท้า กระโจนผ่านปีศาจลาวาไปไกลกว่ายี่สิบเมตร ก่อนสะบัดดาบ หมุนตัวและเดินจากไป
ปัง!!
เกิดเสียงดังมาบาดแผลขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนตัวของปีศาจลาวา มันระเบิด!
ไฟทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าหลังการระเบิดทุกคนเงียบราวกับปลา เธอสังหารปีศาจลาวาได้!
เธอฆ่าอสูรหุ่นยนต์ระดับแปดด้วยความแข็งแกร่งของเธอเอง!
ทุกคนตกตะลึงกับฉากที่น่าตกใจนี้
ฉินเส้าเทียนและอีกสี่คนดูบูดบึ้งความเร็วและความแข็งแกร่งทางกายของเธอท่วมท้น เธอเป็นสัตว์ประหลาด
ทักษะที่อสูรหุ่นยนต์ใช้ในระดับแปดเป็นทักษะที่เร็วอย่างไม่น่าเชื่อแม้แต่อสูรที่อยู่ในระดับหกก็ไม่สามารถหลบมันได้ ผู้หญิงคนนี้ต้องใช้ทักษะลับเฉพาะอย่างแน่นอน
ทักษะลับบางอย่างจะมีผลหลังจากที่คุณภาพร่างกายของบุคคลได้รับการพัฒนาแล้วเท่านั้น
น่ากลัวมาก!
ความปรารถนาที่จะต่อสู้ของฉินเส้าเทียนกำลังลุกโชนน่าสนใจ น่าสนใจมาก!
ทั้งสวี่คังและซูหลิงเยวี่ยต่างตกตะลึงลีกนักรบนี้เปิดหูเปิดตาพวกเขา อันดับแรกพวกเขาได้เห็นว่าฉินเส้าเทียนใช้อสูรระดับเจ็ดตัวหนึ่งเพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้จนติด 10 อันดับแรก ในวันนี้พวกเขาได้เห็นผู้หญิงคนนี้ต่อสู้กับอสูรที่มีระดับสูงกว่าเธอสองระดับ
เธอเป็นคนแบบไหน?!
“นั่นวิเศษมาก!” เฟยหยานป๋อ, คุณหลินและคุณลั่วต่างก็มึนงงเหมือนคนอื่น ๆ
นักเรียนที่นั่งอยู่ข้างหลังพวกเขารวมทั้งลั่วเฟิงเทียนและยู่เว่ยหานเป็นใบ้ไปจากความตกใจ
เธอยังเด็กมากและมีระดับใกล้เคียงกับพวกเขา แต่เธอน่ากลัวกว่ามาก ทำไมเธอถึงแตกต่างจากพวกเขามากขนาดนี้?
ซูผิงเองก็ตะลึงเช่นกัน
อะไร…ทำให้มันง่ายขนาดนั้น!ไหนพวกเขาบอกว่าอสูรหุ่นยนต์จะใช้พลังเต็มที่?
ซูผิงพูดไม่ออกอสูรหุ่นยนต์กำลังต่อสู้กับคน ๆ หนึ่ง แต่ใช้ทักษะวงกว้าง มันคือปีศาจลาวาที่โง่หรือเจ้าหน้าที่ที่โง่?
หรือพวกเขาคิดว่าผู้คนในกลุ่มผู้ชมโง่?
ถ้าปีศาจลาวาใช้ทักษะระดับแปดอื่นๆอย่างคมมีดลาวา ผู้หญิงคนนั้นจะไม่ชนะได้ง่ายๆแน่
คมมัดลาวานั้นรวดเร็วและแทบไม่ต้องใช้เวลาเตรียมเลยทักษะนั้นสามารถสร้างความเสียหายได้อย่างมาก และนั่นเป็นทักษะที่ทรงพลังที่สุดที่ปีศาจลาวาควรใช้
ซูผิงถอนหายใจและส่ายหัวไม่เป็นไร
ไม่ว่ายังไงเธอก็ผ่านการทดสอบแล้ว
นอกจากนี้หญิงสาวยังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะมีคุณสมบัติเป็น1 ใน 5 อันดับแรก
การทดสอบสิ้นสุดลงและไม่ต้องสงสัยเลยว่าหยานปิงเยว่ประสบความสำเร็จ
ผลกระทบของการระเบิดเงียบลงพื้นเต็มไปด้วยเศษซากของศพ
เจ้าหน้าที่พูดไม่ออก
อสูรหุ่นยนต์ระดับแปดมีราคาแพงเกือบจะแพงพอๆ กับอสูรต่อสู้ระดับแปดวัยผู้ใหญ่ มันกลับถูกทำลายแบบนี้ แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไรแน่นอน พวกเขายิ้มอย่างขมขื่น
ในไม่ช้าชายคนหนึ่งจากรัฐบาลก็สั่งให้เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดเวทีและให้อสูรตระกูลหินซ่อมแซมความเสียหายบนเวที หลิวเทียนจงรู้สึกตื่นเต้นขณะมองหยานปิงเยว่กลับไปที่ที่นั่งของเธอ เธอช่างน่าเกรงขาม เธอกลายเป็นคนที่โดดเด่นกว่านายน้อยของตระกูลหลิวซะอีก แม้ว่าพวกเขาจะทุ่มเททรัพยากรมากมายเพื่อฝึกฝนเขาแล้วก็ตาม
หัวหน้าตระกูลของตระกูลฉินมู่ และเย่ต่างไม่พอใจ แต่พวกเขายังคงรักษารอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติไว้บนใบหน้า
“น่าสนใจ”
หยินเฟิงเซียวยิ้มกว้างเมื่อเห็นปฏิกิริยาจากผู้คนรอบข้างทดสอบความสามารถของคุณหนูหยาน? พวกเขาคิดอะไรกัน!
ไม่นานการแข่งขันอย่างเป็นทางการก็เริ่มขึ้น
หยานปิงเยว่จะเข้าร่วมในฐานะผู้เข้าแข่งขันคนที่หกและชื่อของเธอถูกรวมกับอีกห้าคน
คราวนี้ไม่มีใครพูดประท้วงอะไรบางคนที่ศึกษาอสูรอย่างถี่ถ้วนพบว่ามันแปลกที่ปีศาจลาวาไม่ใช้คมมีดลาวา อย่างไรก็ตามหญิงสาวได้พิสูจน์แล้วว่าน่ากลัวพอที่สามารถต้านทานอุกกาบาตหลอมเหลวได้ด้วยตัวเอง
หลายคนหันมาสนใจภาพบนจอใหญ่
ในไม่ช้าทั้งสามคู่ก็ถูกกำหนด
ฉินเส้าเทียนกับหยานปิงเยว่
ซูหลิงเยวี่ยกับเย่หลงเทียน
และมู่หยวนโส้วกับสวี่คัง
พวกเขาทั้งหมดมองไปที่คู่ต่อสู้ของพวกเขาและในไม่ช้าทุกคนก็หันไปหาฉินเส้าเทียน
เขาเป็นคนแรกที่ต้องต่อสู้และเขาต้องต่อสู้กับหยานปิงเยว่ที่น่ากลัว
ฉินเส้าเทียนยิ้มและลูบดาบในอ้อมแขนของเขาเบาๆ
“ฉินเส้าเทียน?”
หยานปิงเยว่จ้องไปที่คู่ต่อสู้ของเธอ
เมื่อเธอพบว่าเธอต้องต่อสู้กับตระกูลฉินเธอก็มองไปที่ฉินตู้หวง
แต่ฉินตู้หวงยังคงสวมยิ้มอย่างเป็นมิตรเธอไม่สามารถบอกได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
”ช่างน่าแปลกใจเราเคยได้ยินมาว่าฉินเส้าเทียนมีความสามารถ ตอนนี้เราจะได้เห็นกัน”หยินเฟิงเซียวยิ้ม
ฉินตู้หวงตอบอย่างยิ้มแย้ม“เขายังไม่ดีเท่าคุณหนูหยาน”หยินเฟิงเซียวรู้สึกประหลาดใจ
“ฉันได้ยินมาว่าตระกูลฉินมีทักษะลับหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับดาบ และทักษะเหล่านั้นไม่เคยรั่วไหล”หยานปิงเยว่กล่าว เธอหยิบดาบออกจากอ้อมแขนของเสี่ยวจู คราวนี้เธอไม่ได้ดึงดาบออกมา เธอกลับหยิบฝักดาบมาด้วยและยืนขึ้น“ หวังว่าจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง”
ฉินตู้หวงไม่พอใจกับคำพูดของเธอแต่แล้วเขาก็หัวเราะเบา ๆ โดยไม่พูดอะไร ด้วยเหตุนี้เขาจึงทำให้หยานปิงเยว่เข้าใจว่าเธอยังไม่มีคุณสมบัติที่จะพูดว่าผิดหวัง หยานปิงเยว่ไม่สนใจปฏิกิริยาของเขาและขึ้นไปบนเวที
ฉินเส้าเทียนลุกขึ้นยืนและค่อยๆเดินไปที่เวทีเช่นกัน
ม่านพลังปิดทันทีที่พวกเขาและผู้ตัดสินอยู่ข้างใน
เสียงเชียร์ดังออกมาไม่หยุดทุกคนรอคอยการแข่งขันที่กำลังจะมาถึง
“ฉันขอบอกเลยว่าเธอใช้ดาบได้ดี ฉันอยากเห็นมากกว่านี้”ฉินเส้าเทียนยิ้มน่ากลัวและกล่าวกับหยานปิงเยว่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของเวที
หยานปิงเยว่เหลือบมองไปที่ดาบที่เขาถือ“ ฉันได้ยินมาว่านายแพ้มาแล้ว นายไม่ได้ดีอย่างที่ใคร ๆ พูดกัน อย่าทำให้ฉันผิดหวังในครั้งนี้เสียล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว