ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 368

ตอนที่ 368 รอบชิง
  การแข่งขันคู่ที่สองสิ้นสุดลง
  เป็นไปตามที่คาด
  ทุกคนรู้ว่าซูหลิงเยวี่ยเป็นผู้เข้าแข่งขันคนสำคัญแต่ความจริงที่ว่าเธอสามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างง่ายดายด้วยทักษะเดียวนั้นยังคงเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ
  เย่หลงเทียนก็เหมือนกับฉินเส้าเทียนทั้งสองพ่ายแพ้ในทันที
  หลังจากถึงตาของซูหลิงเยวี่ยคนต่อไปคือสวี่คังและมู่หยวนโส้ว
  สวี่คังปล่อยให้สุนัขมังกรดำจัดการหลังจากผ่านการทดสอบของบททดสอบสวรรค์ ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของสุนัขมังกรดำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 9.9!
  สุนัขมังกรดำมีพลังงานสำรองที่มากกว่าเดิมและสามารถปลดปล่อยทักษะได้เร็วกว่าเดิม เป็นผลให้อสูรของมู่หยวนโส้วถูกบดขยี้อย่างสมบูรณ์
  การต่อสู้จบลงอย่างรวดเร็วไม่มีความรุนแรงอย่างที่ทุกคนคาดการณ์ไว้ สวี่คังชนะหยวนโส้ว
  ซึ่งเกินความคาดหมายของทุกคนการประมาณโดยรวมคือเย่หลงเทียนและมู่หยวนโส้วเป็นผู้เข้าร่วมที่มีแนวโน้มสองคน แต่เมื่อผลปรากฏออกมาเป็นแบบนี้ แน่นอนว่าผู้ชมบางคนสามารถบอกได้ว่าไม่ใช่เพราะเย่หลงเทียนกับมู่หยวนโส้วมีคุณสมบัติไม่เพียงพอ แต้เป็นเพราะอสูรของซูหลิงเยวี่ยและสวี่คังทรงพลังมากเกินไป เมื่อต้องเผชิญกับอสูรสองตัวนั้น อสูรร้ายของเย่หลงเทียนและมู่หยวนโส้วจึงไม่มีโอกาสได้แสดงความสามารถของพวกมันด้วยซ้ำ
  “สุนัขมังกรดำ…”
  หัวหน้าตระกูลหยานปิงเยว่และหยินเฟิงเซียน…พวกเขาทั้งหมดดูเคร่งขรึมและตกใจ พวกเขาได้รับรู้บางอย่างที่น่ากลัวอย่างแปลกประหลาดเกี่ยวกับสุนัขมังกรดำ; มันเป็นอสูรระดับหกที่สามารถเอาชนะมังกรระดับเก้าได้อย่างง่ายดาย
  สุนัขมังกรดำซ่อนบางสิ่งที่ค่อนข้างลึกลับและน่ากลัว อสูรตัวนี้อันตราย! เป็นครั้งแรกที่หยานปิงเยว่ดูกังวลและรอยยิ้มบนใบหน้าของหยินเฟิงเซียนก็ถูกแทนที่ด้วยการขมวดคิ้ว ไม่คาดคิดมาก่อนว่าพวกเขาจะได้พบกับอสูรที่น่ากลัวเช่นนี้ในสถานที่เล็ก ๆ แห่งนี้ ที่สำคัญกว่านั้นอสูรที่มีสายเลือดระดับหกจะแสดงความสามารถที่น่าทึ่งเช่นนี้ได้ยังไง? หรือนี่ไม่ใช่สุนัขมังกรดำแต่เป็นอะไรที่ดูเหมือนกัน?
  หลังจากที่สวี่คังต่อสู้จบชื่อของสามอันดับแรกก็ถูกประกาศ หลังจากนั้นมีโอกาสให้ผู้เข้าร่วมที่แพ้จะท้าทายใครก็ได้ในสามคนแรก
  ผู้ชนะจะอยู่ในสามอันดับแรก
  การท้าทายนี้ไม่ได้เป็นเพียงการประเมินความแข็งแกร่งเท่านั้นแต่ยังรวมถึงการตัดสินด้วย
  ไม่มีใครก้าวออกมาท้าทายสามอันดับแรก
  นับตั้งแต่พ่ายแพ้ฉินเส้าเทียนก็ก้มหน้าก้มตาจ้องมองดาบของเขาไม่หยุด เขาไม่เคยเงยหน้าขึ้นมาดูการแข่งขันอีกเลย
  เย่หลงเทียนและมู่หยวนโส้วยังคงเงียบอยู่บนที่นั่งของพวกเขาไม่ได้วางแผนที่จะท้าทายคนที่แข็งแกร่งสามคน ทั้งซูหลิงเยวี่ยและสวี่คังต่างมีอสูรที่น่ากลัว และไม่สามารถเอาชนะได้ สำหรับหยานปิงเยว่เธอเป็นสัตว์ประหลาด
  ในขณะนี้ทั้งสามจะจับสลากเพื่อแข่งขันชิงตำแหน่งแชมป์รองชนะเลิศและรองชนะเลิศอันดับสอง จากนั้นคนที่แพ้จะแข่งขันกันเพื่อชิงระดับสี่และห้า
  ทุกคนหันไปสนใจหน้าจอขนาดใหญ่
  เนื่องจากมีสามคนตามกฎสองคนจะต่อสู้ก่อนและอีกคนจะรอ
  หนึ่งในคนที่ต้องรอจะต่อสู้กับคนที่แพ้และจากนั้นก็มาต่อสู้กับคนที่ชนะหากคนรอชนะ ในทางกลับกันหากคนรอพ่ายแพ้ เขาหรือเธอจะได้ระดับสามและสามอันดับแรกจะถูกตัดสิน
  ทุกคนกลั้นหายใจและดูประกาศ
  ซูหลิงเยวี่ยปะทะหยานปิงเยว่!
  สวี่คังรอ!
  เมื่อเห็นผลลัพธ์นี้ซูหลิงเยวี่ยก็ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัดเธออดไม่ได้ที่จะจ้องมองหญิงสาวและมองเห็นแสงสะท้อนเย็นเยียบไร้ความรู้สึกส่งกลับมา
  ซูหลิงเยวี่ยรู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะเธอหันหน้าหนีโดยสัญชาตญาณ
  ”อืม?”
  หยานปิงเยว่ขมวดคิ้วแต่ในไม่ช้าเธอก็เชื่อว่าเธอเข้าใจบางอย่าง รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ
  สวี่คังให้กำลังใจซูหลิงเยวี่ยอย่างห้าวหาญ“ขอให้โชคดี ถ้าเธอเอาชนะได้ เธอจะเป็นแชมป์เพราะฉันจะยอมแพ้ถ้าต้องสู้กับเธอ”
  ซูหลิงเยวี่ยรู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินคำพูดของเขา“ นายจะยอมแพ้จริงๆหรอ?” เขาเข้าใกล้การคว้าแชมป์อย่างสมศักดิ์ศรี
  ”ใช่”
  สวี่คังตอบเหมือนไม่ใส่ใจ“ ฉันได้คุยเรื่องนี้กับอาจารย์แล้ว ในฐานะผู้ชายทุกคำที่ฉันพูดฉันต้องทำตาม เพียงแค่พยายามอย่างเต็มที่และไม่ต้องกังวล เราต้องทำให้ผู้หญิงคนนั้นที่มาจากไหนก็ไม่รู้ว่าไม่ใช่ใครก็สามารถเป็นที่ 1 ในเมืองฐานหลงเจียงได้!”
  ซูหลิงเยวี่ยพยักหน้าให้เขาเล็กน้อย
  เธอทำได้เพียงยิ้มอย่างขมขื่นจากข้างในพยายามให้ดีที่สุด? สิ่งที่ดีที่สุดที่ฉันทำได้คือไม่ถ่วงก้อนน้ำแข็ง
  จากนั้นเธอก็นึกถึงการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้นเธอส่ายหัวและกำจัดความคิดที่ยุ่งเหยิงในใจออกไป
  หากสวี่คังจริงจังกับการยอมแพ้การต่อสู้ครั้งนี้จะถือเป็นนัดตัดสิน!
  ถ้าเธอชนะเธอก็จะสำเร็จตามความต้องการของซูผิง!
  นั่นจะส่งผลดีกับตัวเธอเอง!
  เธอหายใจเข้าลึกและดูจริงจัง มันเป็นการเดินทางที่น่าตื่นเต้นสำหรับเธอ บนเวทีเธอรู้สึกว่าเธอเป็นเพียงหุ่นเชิดที่ไม่มีความรู้สึกถึงการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงพิจารณาสิ่งต่าง ๆ ด้วยความกังวลใจ
  เธอแบกรับภาระหนักมากแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ด้วยตนเอง
  เธอต้องปล่อยให้มันขึ้นอยู่กับโชคชะตา
  เธอรู้สึกหดหู่ใจเพราะความรู้สึกนั้นเกือบจะทำให้ใจเสียแต่ทั้งหมดนั้นกำลังจะจบลง
  ทั้งหมดนี้จะจบลงได้หากก้อนน้ำแข็งชนะการต่อสู้ครั้งสุดท้ายนี้!
  ซูหลิงเยวี่ยลุกขึ้นยืนก้าวขึ้นไปบนเวทีตามคำสั่งของผู้ตัดสิน
  ทุกคนจ้องมองเธอยืนขึ้นรวมทั้งเย่หลงเทียนและมู่หยวนโส้ว พวกเขาสองคนแสดงสีหน้าหนักใจ
  การต่อสู้ที่กำลังจะมาถึงนี้จะทำให้ทั้งโลกสั่นสะเทือน!
  ฉินเส้าเทียนที่จ้องมองดาบของเขาเงยหน้าขึ้นมองไปที่ซูหลิงเยวี่ย
  ซูหลิงเยวี่ยสังเกตเห็นสิ่งนั้นจากหางตาของเธอเธอมองไปเห็นเขาพยักหน้าให้เธอและขยับริมฝีปาก เขาบอกว่า “ขอให้โชคดี”
  ซูหลิงเยวี่ยกำลังประสบกับความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายได้
  มันเป็นความหลงใหลหรือความตื่นเต้น?
  กลัว?คาดหวัง?
  เธอไม่สามารถที่จะบอกได้แต่สิ่งหนึ่งที่เธอรู้แน่ชัดคือเธอต้องชนะ!
  ต่อให้เธอจะทำอะไรไม่ได้เลยแม้ว่าเธอจะไร้ประโยชน์ และแม้ว่าเธอจะทำได้เพียงแค่ขอร้องและอธิษฐานก็ตาม
  แต่เธอต้องชนะ!
  ทันทีที่เฟยหยานป๋อเห็นผลการจับฉลากเขาก็พูดกับซูผิงว่า“ ถึงตาน้องสาวของคุณแล้ว”
  ซูผิงพยักหน้าเขาเห็นแล้ว
  เขาเหลือบไปมองหญิงสาวที่นั่งอยู่แถวหน้าเขาเป็นห่วง หญิงสาวปกปิดความแข็งแกร่งของเธอตอนที่เธอต่อสู้กับฉินเส้าเทียน ท้ายที่สุดเมื่อพิจารณาถึงความแข็งแกร่งของเธอ มันไม่น่าเป็นไปได้ที่เธอจะมีอสูรแค่สามตัว
  ผลลัพธ์ของการต่อสู้ครั้งนี้ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งที่ซ่อนอยู่ของผู้หญิงคนนั้น
  มังกรจันทราเหมันต์มีความแข็งแกร่งเท่ากับระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงอสูรแบบนี้สามารถคว้าแชมป์ระดับโลกได้ และแน่นอนว่าจะต้องขึ้นอยู่กับนักรบอสูรด้วย
  แต่เนื่องจากการแข่งนี้อยู่ในระดับเมืองฐานเท่านั้นอสูรอย่างเดียวตงพอ
  ถึงกระนั้นคนนอกคนนี้ก็ทำให้ความเชื่อมั่นของซูผิงสั่นคลอนเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัวและกังวล
  ในเวลาเดียวกันหยานปิงเยว่ก็ลุกขึ้นยืน
  “คุณหนูหยาน ระวังตัวด้วย” หยินเฟิงเซียวกระซิบกับเธอเป็นครั้งแรกตั้งแต่มาที่นี่
  จ้าวอู่จื่อก็ดูกังวลเช่นกันมังกรตัวนั้นได้พิสูจน์แล้วว่าค่อนข้างอันตราย เขาไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นอสูรเช่นนี้ในเมืองฐานหลงเจียง “ ไม่ต้องกังวล”
  หยานปิงเยว่ยังคงสงบตามแบบฉบับของเธอและยังมีรอยยิ้มบาง ๆ ที่บ่งบอกว่าเธออารมณ์ดี
  หยินเฟิงเซียนจ้องมองเธออย่างว่างเปล่าเขารู้ว่าเธอจะเผยสีหน้าเช่นนี้ก็ต่อเมื่อเธอพบเหยื่อที่มีคุณสมบัติเหมาะสม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว