ตอนที่ 378 โกรธและสังหาร
ไม่มีใครสามารถเปล่งเสียงได้
ในช่วงเวลานั้นแม้แต่ฉินตู้หวงก็ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้อีกต่อไปเขาไม่เคยตกตะลึงขนาดนี้มาก่อน ตอนที่ซูผิงฆ่านักรบอสูรกิตติมศักดิ์ว่าน่าตกใจแล้ว แต่มันน่าตกใจยิ่งกว่าที่เห็นว่าซูผิงสามารถกำจัดอสูรระดับเก้าขั้นสูงสุดสองตัวได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามเลยแม้แต่น้อย!
อสูรระดับเก้าขั้นสูงสุด!
เป็นรองจากอสูรระดับตำนาน!
หากเขาสามารถจัดการกับอสูรทั้งสองได้อย่างง่ายดายนั่นก็หมายความคนที่ต่ำกว่าระดับตำนานไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซูผิงอีกต่อไปหรือไง?!
บนเวที
เหงื่อเย็นๆ ไหลออกมาจากหน้าผากของจ้าวอู่จื่อและหยินเฟิงเซียว หยานปิงเยว่ยืนอยู่ข้างหลังพวกเขา สายตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสน
เธอภูมิใจในตัวเองมาโดยตลอดที่ได้เป็นหนึ่งในสมาชิกขององค์กรดวงดาวเธอเชื่อเสมอว่าเธอได้เห็นทุกสิ่ง แต่เธอกลับไม่พบคำอธิบายสำหรับเหตุการณ์แปลก ๆ นี่
เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่น่ากลัวเช่นนี้จะพบได้ในสถานที่ที่น่าสังเวชและห่างไกลแห่งนี้!
“จัดการพวกมันให้หมด!”
หลังจากที่เขาจับอสูรระดับเก้าขั้นสูงสุดสองตัวได้ซูผิงก็ออกคำสั่งกับมังกรเพลิงนรก สำหรับอสูรที่เหลือมังกรเพลิงนรกสามารถปราบพวกมันได้ทั้งหมด
โฮก!
ทันทีที่ซูผิงออกคำสั่งมังกรเพลิงนรกก็ก้าวไปข้างหน้า ไฟนรกรุนแรงแผดเผารอบตัวมังกร และดวงตาของมันก็ดุร้ายยิ่งกว่าเดิม มังกรเพิ่งผ่านบททดสอบสวรรค์ในหลุมศพกึ่งเทพ และยังไม่ฟื้นตัวจากความเจ็บปวดนั้น
เมื่อมังกรออกมาและเห็นอสูรทั้งหมดมังกรก็ไม่สามารถระงับความกระหายเลือดได้อีกต่อไป
ฆ่าพวกมัน!
ทำลายพวกมัน!!
โฮก!!!
มังกรอ้าปากแผดเสียงคำรามอย่างรุนแรง!
เสียงคำรามของมังกรดังก้องไปทั่วทั้งสถานที่จัดงานและทะลุผ่านกลุ่มเมฆผู้คนที่กำลังวิ่งเอาชีวิตรอดรู้สึกว่าหัวเข่าอ่อนแรง บางคนขี้ขลาดกว่านั้น กางเกงเปียกหรือไม่ก็เป็นลม!
กระหายเลือดความโหดร้าย นั่นคืออารมณ์เชิงลบที่มังกรแสดงออกมาพร้อมกับเสียงคำราม!
ความกดดันที่ท่วมท้นลอยอยู่ทั่วทั้งในสถานที่จัดงาน!
แม้แต่หัวหน้าตระกูลก็ยังรู้สึกว่าหัวใจของพวกเขาเต้นแรงเมื่อได้ยินเสียงคำรามนั้นความกลัวดูเหมือนจะทำให้เลือดของพวกเขาเดือด
พวกเขาไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้มาก่อน!
นี่คือมังกรเพลิงนรกที่โชว์อยู่นอกร้านขายอสูรพิกซี่จริงๆใช่ไหม?!
มังกรเพิ่งถึงวัยผู้ใหญ่จริงๆหรอ?!
ตอนที่พวกเขาเห็นมังกรจันทราเหมันต์พวกเขาคิดว่ามังกรจันทราเหมันต์นั้นทรงพลังอย่างประหลาด และสามารถเอาชนะอสูรอื่น ๆ ทั้งหมดในระดับเดียวกันได้ ในเวลานั้นพวกเขาไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นมังกรตัวอื่นที่โหดร้ายยิ่งกว่าอย่างมังกรเพลิงนรกตัวนี้!
อสูรทั้งห้ารวมถึงเสือเหล็กที่จ้องมองหยานปิงเยว่อย่างกินเลือดกินเนื้อต่างก็ตกใจกับเสียงคำรามของมังกรอสูรบางตัวหมอบอยู่ในจุดนั้น ตัวสั่น ธรรมชาติที่รุนแรงของพวกมันลดลง
เพราะในขณะนี้อสูรรู้สึกว่าพวกมันกลายเป็นเหยื่อ
เหยื่อที่ไม่สามารถหลบหนีได้
อสูรตัวสั่นมันไม่สามารถขยับได้อีกต่อไป!
มังกรเพลิงนรกแค่มองไปรอบๆ และก็ปราบอสูรระดับเก้าขั้นกลางทั้งห้าได้
ซูผิงไม่ได้อยู่เฉยๆในขณะที่มังกรเพลิงนรกจัดการทุกอย่างเขาสั่งให้โครงกระดูกน้อยทำหน้าที่มัน!
เขาจะไม่ฆ่าอสูรเหล่านั้นแต่เป็นเป้าหมายหนึ่งเดียวของเขา!
โครงกระดูกน้อยรับคำสั่งของซูผิงแสงสีแดงเข้มสว่างขึ้นในเบ้าตากลวงโครงกระดูกน้อยค่อยๆดึงดาบกระดูกออก พลังความมืดแผ่ออกมารอบ ๆ พลังที่น่ากลัวซึ่งยากจะเข้าใจได้เกิดมาจากโครงกระดูกน้อย ในที่สุดโครงกระดูกน้อยก็ได้รับความสนใจจากคนอื่นที่นอกเหนือจากตระกูลโจวที่ไม่กล้าละสายตาจากโครงกระดูก
ก่อนหน้านี้เมื่อโครงกระดูกน้อยกำลังไล่ตามอสูรของตระกูลปีศาจที่ระดับเก้าขั้นสูงสุดผู้คนได้สังเกตเห็นแล้วว่าโครงกระดูกไม่ธรรมดา ตอนนี้ที่โครงกระดูกน้อยปลดปล่อยพลังงานโหดร้าย ผู้คนก็เริ่มสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว พวกเขารู้สึกราวกับว่าราชาแห่งปีศาจกลับมามีชีวิต!
ร่างที่ซ่อนอยู่ในพลังมืดคือราชา!
จริงอยู่ที่ร่างนั้นเล็กแต่มันทำให้ผู้คนรู้สึกว่าร่างเล็ก ๆ นั้นสามารถยืนหยัดค้ำสวรรค์ได้!
ตาย!!
เงาร่างไหววูบ
โครงกระดูกน้อยลงมือและหายตัวไปทันที
หยินเฟิงเซียวกลัวมากขึ้นกว่าเดิมเขาไม่เคยคิดว่าชายหนุ่มจะมีอสูรที่น่ากลัวขนาดนี้!
ผลการทดสอบที่บอกว่าเขาอยู่ในระดับหกขั้นกลางเป็นเรื่องตลก!
ไม่มีใครในระดับหกจะทำแบบนี้ได้!!
อัญเชิญอสูร!
หยินเฟิงเซียวฉีกอากาศและวังวนมากมายปรากฏขึ้นเขาไม่สามารถรอได้อีกต่อไป เขาเรียกอสูรทั้งหมดของเขาออกมา
“พาคุณหนูหนีไป !!”หยินเฟิงเซียวตะโกน
หอกปีศาจจ้าวอู่จื่อยังคงจมอยู่กับความกลัวเมื่อได้ยินคำพูดของหยินเฟิงเซียว จ้าวอู่จื่อก็ตัดสินใจและคว้าหยานปิงเยว่ “ คุณหนูหยานไปกันเถอะ!”
สำหรับเสี่ยวจูสาวใช้ของเธอ จ้าวอู่จื่อไม่ได้มองเธอเลย
เวลาจำกัดตอนนี้เขาดูแลเธอไม่ได้
เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าพวกเขาจะตกอยู่ในอันตรายร้ายแรงในเมืองฐานหลงเจียงเล็กๆนี่!
หยานปิงเยว่ไม่ได้ขัดขืนเธอได้สติในขณะที่หยินเฟิงเซียวตะโกนคำเหล่านั้น ใบหน้าของเธอยังคงซีด แต่ความสับสนในดวงตาของเธอหายไป หลังจากผ่านการฝึกฝนแสนโหดร้ายหลายต่อหลายครั้งตั้งแต่เด็ก จิตใจของเธอก็แข็งแกร่งกว่าคนอื่น ๆ เธอมองไปที่เสี่ยวจูรู้สึกเสียใจที่ทิ้งเธอไว้
แต่เสี่ยวจูรู้ดีว่าในตอนนี้เรื่องมันร้ายแรงแค่ไหนเธอยิ้ม “ คุณหนูหยาน ฉันขอโทษที่ไม่สามารถดูแลคุณต่อไปได้ ให้ฉัน … ปกป้องคุณ!”
”ไป!”หยินเฟิงเซียวตะโกน
จ้าวอู่จื่อกัดฟันแน่นเขาเปิดวังสนและเรียกอสูรอีกสองสามตัวออกมา
รวมถึงอสูรตระกูลสายลมที่สามารถขี่ได้
โฮก!!
มังกรร้องอยู่ข้างหลังหยินเฟิงเซียวมังกรวิ่งไปข้างหน้าและตั้งโล่มากมายพยายามที่จะปกป้องเขา อย่างไรก็ตามโครงกระดูกน้อยกลับโผล่ออกมาอีกครั้ง ซึ่งอยู่ห่างจากหยินเฟิงเซียวแค่สิบกว่าเมตร ล้อมรอบด้วยหมอกมืดมีเพียงดวงตาสีแดงเย็นชาสองดวงเท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้ โครงกระดูกใช้ดาบของมัน! ปัง ปัง ปัง! โล่หลายอันพังทลายลงภายใต้ดาบยาวมืดมิด
หยินเฟิงเซียวตะโกนเสียงหลง“เวทย์เคลื่อนย้าย!”
อสูรของตระกูลปีศาจที่เก่งในการโจมตีทางวิญญาณพลันปลดปล่อยคลื่นพลังวิญญาณอย่างไรก็ตาม ก่อนที่คลื่นนั้นจะไปถึงโครงกระดูกน้อย เงาร่างยิ่งใหญ่ก็ได้ปรากฏขึ้นด้านหลังโครงกระดูก ซึ่งดูเหมือนว่าเดินทางมาจากโลกอื่น
ราชาโครงกระดูกผู้งดงาม!
โฮก!!
เงาใหญ่ของราชาโครงกระดูกคำราม!
เสียงคำรามนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าเสียงคำรามของมังกร!
นอกจากนี้เสียงคำรามนั้นดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความหนาวเหน็บและความบิดเบี้ยวอย่างแปลกประหลาด
อสูรตระกูลปีศาจหยุดเคลื่อนไหวและจิตใจของหยินเฟิงเซียวก็ว่างเปล่าหลังจากได้ยินเสียงคำรามนั่น
จ้าวอู่จื่อที่กำลังจะกระโดดขึ้นไปบนอสูรตระกูลลมรวมถึงหยานปิงเยว่ต่างรู้สึกว่าจิตใจของพวกเขามึนงงเพราะผลของเสียงคำราม อสูรระดับเก้าที่พวกเขาขี่นั้นมีชื่อเสียงในด้านความไม่เกรงกลัว ถึงกระนั้นแขนขาของอสูรก็ยังสั่นและเกือบจะร่วงลงมาเพราะเสียงคำรามของราชาโครงกระดูก ราวกับว่ามันไม่ได้แบกมนุษย์สองคน แต่แบกภูเขาเป็นสิบลูก
ฆ่า!!
คลื่นดาบที่มืดมิดพลันระเบิดออกมา
พรึ่บ!
คลื่นดาบตัดผ่านมังกรที่ยืนอยู่ตรงหน้าหยินเฟิงเซียวเกล็ดบนหน้าอกของมังกรแตกและมีเลือดไหลทะลักออกมา บาดแผลลึกยังปรากฏบนอสูรอีกสองตัวที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ
โห่!
โครงกระดูกน้อยหายไปในจุดนั้นเมื่อมันปรากฏขึ้นอีกครั้ง พลังงานความมืดก็ได้พัดพามันไปยังที่ที่หยินเฟิงเซียวอยู่ ร่างเล็กค่อยๆเดินออกลงมา หยุดอยู่ที่ระดับสายตาของหยินเฟิงเซียว
หยินเฟิงเซียวเพิ่งปรับสภาพจิตได้จากผลของเสียงคำรามและกลับมาสังเกตเห็นดวงตาสีแดงเข้มกำลังจับจ้องเขา
หัวใจของเขาเต้นรัว!
เขาไม่สามารถมองเห็นอสูรของเขาและไม่ได้ยินเสียงอื่นใด ทุกอย่างอยู่ห่างไกลจากเขา เขาถูกกีดกันจากความรู้สึกทั้งหมด
สิ่งเดียวที่หลงเหลืออยู่ในโลกคือเขากับสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวตรงหน้าเขา
เวลาหยุดลงหยินเฟิงเซียวรู้สึกถึงความตายที่ใกล้เข้ามาอย่างที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน
ไม่พระเจ้า ไม่ …
เขาอยากจะอ้าปากและตะโกน
เขาไม่อยากตายไม่
ชีวิตมีค่าแต่ในขณะที่เขายืนอยู่ตรงหน้าความตาย นอกเหนือจากการตระหนักว่าตัวเขาเองอ่อนแอแล้ว เขาไม่สามารถคิดอะไรได้อีก
ไม่…
ฟิ้ว!!
คลื่นดาบสว่างวาบหัวของหยินเฟิงเซียวขาด โล่พลังงานที่เขาตั้งไว้รอบตัวแตกสลายเหมือนเศษแก้ว เมื่อดาบมาถึงคอของเขา เกราะมืดก็ดีดออกจากคอเสื้อเขา พยายามป้องกันดาบ อย่างไรก็ตาม เกราะนั้นกลับไร้ค่าเมื่อเทียบกับความแข็งแกร่งของดาบ มันหยุดดาบไม่ได้สักนิด หยินเฟิงเซียวถูกฟันหัว!
หัวที่ยังคงแสดงความกลัวตกลงบนพื้น
อสูรทั้งหมดหยุดเคลื่อนไหว
จ้าวอู่จื่อและหยานปิงเยว่เพิ่งได้สติจากเสียงคำรามของราชาโครงกระดูกและพวกเขาก็ยิ่งตกใจกว่าเดิมเมื่อเห็นสิ่งนี้
มันเกิดขึ้นภายในเวลาไม่ถึงครึ่งนาที!
หยินเฟิงเซียวอัศวินมังกร นักรบอสูรที่ครั้งหนึ่งเคยโด่งดังในดาวเคราะห์สีน้ำเงินถูกฆ่าแบบนี้!
เขามีมังกรและอสูรคอยปกป้องแต่กระนั้นเขาก็ยังถูกฆ่าตายโดยการตัดหัว!
จ้าวอู่จื่อตกใจมากเมื่อเขาเห็นโครงกระดูกหันมาทางพวกเขาทันใดนั้นเขาก็นึกถึงบางสิ่งในช่วงเวลาวิกฤตนี่ เขาหันไปหาเหล่าหัวหน้าตระกูล
”ช่วยด้วย!!”
”ช่วยเราด้วย!!!”
จ้าวอู่จื่อตะโกนว่า“เราไม่สามารถสูญเสียคุณหนูหยานของเราไปได้ มิฉะนั้น องค์กรดวงดาวจะโทษเมืองฐานหลงเจียง พวกคุณไม่สามารถนั่งเฉยๆได้!”
หยานปิงเยว่ลืมทุกอย่างเกี่ยวกับความสง่างามและความสงบของเธอเธอร้องอ้อนวอนกับฉินตู้หวง“จิตวิญญาณคลั่ง ได้โปรดช่วยฉันด้วย ฉันจะช่วยให้คุณกลายเป็นนักรบอสูรในตำนาน!”
คำสัญญานั้นทำให้ทุกคนประหลาดใจ
ช่วยให้เขาไปถึงระดับตำนาน?
ฉินตู้หวงตัวสั่นสะท้าน
แต่โครงกระดูกน้อยก็ได้ไปถึงเป้าหมายมันแล้ว
มันใช้เวลาเพียงชั่วครู่
ด้วยความกลัวจ้าวอู่จื่อหันกลับมา เขารีบหยิบหอกที่สะพายอยู่บนหลังของเขาออกมา ปลายหอกเปล่งประกายแวววาว เขาคือปีศาจหอก ผู้คลั่งใคล้กับการฝึกหอกเป็นอย่างมาก
ปัง!
ดาบแห่งความมืดกดลงบนหอกและสับหัวของจ้าวอู่ฉี แยกตัวจ้าวอู่ฉีเป็นสองส่วนรวมถึงอสูรระดับเก้าที่เขานั่งอยู่!
เลือดที่ไหลออกมาจากจ้าวอู่จื่อและอสูรกระเซ็นใส่หยานปิงเยว่
ความกลัวทำให้ใบหน้าของเธอแข็งทื่อ
เลือดไหลหยดลงบนผมบนแก้มของเธอ กลิ่นฉุนเกินจะทน
ในระยะไกลเมื่อเขาเห็นเหตุการณ์นี้ ฉินตู้หวงก็ตัดสินใจไม่เข้าไปยุ่ง!
เขาต้องยอมรับว่าคำพูดของหยานปิงเยว่นั้นน่าสนใจ
กลายเป็นนักรบอสูรในตำนาน!
นั่นเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักรบอสูรระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุดได้ทุกคน!
นั่นคือระดับที่พวกเขาต้องขวนขวายท่ามกลางอันตราย!
ฉินตู้หวงอยากจะตอบตกลง!
แต่ที่เขาไม่ทำเพราะเขาเชื่อว่าหยานปิงเยว่พูดเพราะอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่กดดันเท่านั้นผู้หญิงคนนี้ช่างซับซ้อน เธอนั้นไร้เดียงสา เขาสามารถบอกความคิดเธอได้จากความจริงที่เธอพูดแบบนี้กับเขา
นอกจากนี้เขายังกลัวโครงกระดูกประหลาดนั่นจริงๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว