ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 379

ตอนที่ 379 ทำให้เป็นเรื่องใหญ่
  จิตสังหารรุนแรงป่าเถื่อนแผ่ออกไป!ปีศาจร้ายค่อยๆบินขึ้นยืนด้านหน้าหยานปิงเยว่ในอากาศพร้อมดาบในมือ โครงกระดูกน้อยจ้องหยานปิงเยว่ด้วยดวงตาสีแดงเลือดทั้งสองที่ปราศจากอารมณ์ ในระยะไกล เด็กสาวร้องด้วยความเศร้าโศก”ไม่!”
  สาวใช้เสี่ยว๗โดนล้อมด้วยอสูรต่อสู้ของเธอพุ่งกระโจนไปทางหยานปิงเยว่ ตัดสินโดยพลังดวงดาวที่เธอแสดง เสี่ยวจูคือนักรบอสูรระดับเจ็ด!
  แต่เธอยังอายุไม่ถึง20 !
  สาวใช้เป็นนักรบอสูรขั้นสูงด้วยความสามารถเช่นนี้ เธอสามารถแข่งกับนายน้อยในตระกูลใหญ่ได้ด้วยซ้ำ!
  แน่นอนนายน้อยเหล่านั้นระดับต่ำกว่า แต่มีรากฐานมั่นคงกว่า ระดับพลังไม่ใช่ตัวชี้วัดความแข็งแกร่ง!
  เมื่อรู้สึกถึงความผันผวนพลังงานจากด้านหลังโครงกระดูกน้อยก็หันไป เอียงหัว สะบัดดาบ
  ปัง!
  พลังงานมืดดุดันสับลงใส่อสูรระดับแปดด้านหน้าโล่สายลมด้านหน้าอสูรแตกร้าวและด้านก็ตัดหัวมัน ครึ่งหนึ่งของหัวอสูรหายไป เลือดไหลกระฉูด
  ทาสอันเดท!
  วินาทีที่อสูรตายพลังงานมืดก็พุ่งจากส่วนหัวที่ยังเหลือของมัน พลังงานมืดนั้นดูเหมือนจะเป็นสิ่งตกค้างจากการฟัน
  กลุ่มพลังงานมืดลุกโชยอสูรที่ควรตายดีดตัวขึ้น ซึ่งดึงดูดความแปลกใจของทุกคน อสูรกระโจนใส่เสี่ยวจูที่กำลังพุ่งไปหาหยานปิงเยว่ เสี่ยวจูไม่มีเวลาพอตอบสนอง ความประหลาดใจยังอ้อยอิ่งบนหน้าเธอเมื่อมือขนาดใหญ่ทุบเธอลงกับพื้น
  ปัง!
  เสี่ยวจูแสนบอบบางโดนบดขยี้เป็นเศษเนื้อขณะที่อสูรระดับแปดตะโกนด้วยความโกรธ!
  มือยักษ์ทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน!
  อสูรตัวอื่นหยุดสิ่งที่ทำมองด้วยสายตาหม่นหมอง
  หยานปิงเยว่เห็นทั้งหมดรูม่านตาของเธอหดลงและเธอก็รู้สึกว่าเลือดของเธอแข็งตัว ทิ่มแทงใส่กระดูก!
  วินาทีต่อมาเธอก็กรีดร้องแหลม!
  ”ไม่!!”
  น้ำตาไหลอาบแก้มเธอ
  เธอคิดว่าเธอร้องไห้จนน้ำตาหยดสุดท้ายหมดไปแล้วหลายปีก่อน
  เธอใช้ชีวิตด้วยการฝึกแสนโหดร้ายเธอเห็นเพื่อนมากมายของเธอลาจากระหว่างฝึก เธอเรียนรู้ที่จะเช็ดน้ำตาและใช้ชีวิต
  อย่างไรก็ตามวันนี้…เสี่ยวจู สาวใช้ของเธอ เพื่อนของเธอผู้ก้าวออกค่ายฝึกพร้อมกับเธอ คนที่ตัวติดกับเธอ ช่วยเหลือซึ่งกันและกันกลับตายต่อหน้าต่อตาเธอ
  เธอถูกตบจนตาย!
  หยานปิงเยว่ยังจำสิ่งที่อาจารย์พูดกับพวกเธอตอนพวกเธอเรียนได้
  เขาบอกกับเสี่ยวจู”จากนี้ไปเธอจะเป็นสาวใช้ เธอต้องปกป้องเจ้านายเธอ”
  เขาพูดกับหยานปิงเยว่”และเธอเธอต้องปกป้องสาวใช้ด้วยดาบของเธอ”
  วันนี้เสี่ยวจูตายเพื่อปกป้องเธอ แต่เธอล้มเหลวที่จะปกป้องเสี่ยวจู!
  ”อ้ากกกก!”
  หยานปิงเยว่ตะโกนอย่างคลุ้มคลั่งเธอไม่ใช่เด็กสาวอ่อนโยนอย่างที่เคยเป็นอีก เธอกลายเป็นอสูรจนตรอก
  ที่ค่ายฝึกไม่มีใครกล้าปฏิบัติกับเธอเหมือนเด็กสาว
  ดังนั้นทุกคนจึงเหมือนกัน ความแตกต่างเดียวคือชีวิตและความตาย!
  กลิ่นอายชั่วร้ายซึมออกจากตัวหยานปิงเยว่การครอบครองอสูรของเธอยังไม่สิ้นสุด บนตัวเธอ ลวดลายสีดำเลื้อยขึ้นหน้าเธอ เหมือนหนอน ทำให้เธอดูน่าเกลียดน่ากลัว วินาทีที่หยานปิงเยว่กำลังจะสูญเสียความคิด โครงกระดูกน้อยก็หันมาหลังจัดการเสี่ยวจูเสร็จ
  ดวงตาสีแดงก่ำจับจ้องเธอ
  ร่างของราชาโครงกระดูกกำลังจ้องเธอ
  เงาขนาดใหญ่กดทับเธอแทรกซึมความกลัวเข้าส่วนลึกของห้วงวิญญาณเธอ!
  ขัดขวาง!
  หยานปิงเยว่ผู้กำลังจะขาดสติได้สติความบ้าคลั่งบนหน้าเธอหายไป น้ำตาพรั่งพรูออกจากตาเธอ
  เลือดที่เดือดพล่านในเส้นเลือดเธอเย็นตัวลงความหนาวเย็นวิ่งจากมือและเท้าเธอเข้าหัวใจ
  ”หยุด!”ซูผิงพูดขณะที่โครงกระดูกน้อยกำลังจะใช้ดาบเพื่อฆ่าเธอ
  ”เอาตัวเธอมาให้ฉัน”เขาพูดอย่างไร้อารมณ์โครงกระดูกน้อยหันมาและเอียงหัว มันใช้เวลาคิดสักพักและย่อยความหมายของคำสั่งนั้น ไม่ช้า มันก็เข้าใจ มันเก็บดาบกลับไปในกระดูก จากนั้นก็หันไปหาหยานปิงเยว่ โครงกระดูกน้อยปล่อยพลังงานมืด ซึ่งไหลไปทางเธอ
  พลังงานแปรเปลี่ยนเป็นรูปมือที่ตบใส่หยานปิงเยว่
  หยานปิงเยว่พยายามป้องกันแต่ทันทีที่มือนั้นสัมผัสเธอ เธอก็สั่นกระตุกและกระอักเลือด
  หลังโครงกระดูกน้อยทำร้ายหยานปิงเยว่มือใหญ่ก็คว้าเธอ หยานปิงเยว่โดนลากไปหาซูผิงจากที่ที่อสูรระดับเก้าโดนผ่าครึ่ง เมื่อเห็นว่าหยานปิงเยว่ขยับตัวไม่ได้ เขาก็พูดอย่างสงบ”ฉันจะไว้ชีวิตเธอ รอให้องค์กรเธอมาช่วยเธอ”ไม่มีน้ำตาไหลออกจากตาเธออีก เธอลดหัวลงเพื่อป้องกันเขาจากการเห็นความโกรธและความเกลียดในดวงตาเธอ เธอต้องไม่เผยความเกลียดชังต่อซูผิงในเวลานี้
  เธอต้องมีชีวิต
  การมีชีวิตสำคัญสุด!
  นั่คือการฝึกที่เธอยอมรับตั้งแต่เด็กแม้เธอจะตกอยู่ในสภาพน่าสิ้นหวัง เธอก็ต้องไม่ปล่อยให้โอกาสรอดชีวิตหายไป
  เกลียด!
  เธอเกลียดซูผิงแต่เธอต้องไม่แสดงมันเพราะมันจะทำให้เธอตายหรือโดนทรมาน
  คนอื่นอาจเสียความคิดหลังประสบกับเรื่องเช่นนี้พวกเขาอาจทำการดูถูก แต่เธอไม่ นั่นคือความพิเศษของเธอ
  ซูผิงมองเธอเขายิ่งมุ่งมั่นใจที่จะจบชีวิตเธอ สุนัขที่ไม่เห่าอันตรายกว่ามาก!
  แต่มันยังไม่ถึงเวลา
  เขาไม่ทำมันเขาไม่ใช่คนที่จะโดนความโกรธบังตา
  หลังผ่านความตายมานับไม่ถ้วนในสนามบ่มเพาะเขาก็สามารถควบคุมอารมณ์ได้ตลอดเวลา
  แต่ความสงบไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมคนอยู่ตลอดเขายังมีอารมณ์ แต่แม้จะในสภาพนั้น ความคิดของเขาก็ยังชัดเจน เขายังสามารถเลือกวิธีการที่เหมาะสมสุดได้
  การไว้ชีวิตหยานปิงเยว่จะดีกว่า
  ตระกูลอื่นต้องรู้ว่าเธอเป็นขององค์กรไหนเขาสามารถไปถามข้อมุลได้
  เขาลงมือที่่นี่และฆ่าคนสามคนในที่สาธารณะแค่นี้ก็ดึงดูดความสนใจมากพอแล้ว!
  ถ้าเขาฆ่าพวกเขาที่อื่นเขาจะสามารถแยกส่วนศพและกำจัดร่องรอยได้ แต่ความจริงที่พวกเขาตายก็จะหลุดออกมาอยู่ดี จากนั้น องค์กรต้องส่งคนมาสืบสวน
  ขณะที่เกิดการสืบสวนความขัดแย้งช่วงการแข่งขันย่อมเป็นที่สังเกต ซูผิงไม่กลัวการสืบสวนใด แต่อย่างว่า เขาไม่สามารถยอมให้ซูหลิงเยวี่ยกับแม่ของเขาตกเป็นเป้าไปด้วยได้ นั่นอันตรายเกินไป!
  นอกจากนี้นั่นจะทำให้เขาเสียเปรียบ
  เขาไม่รู้ว่าข่าวการตายของพวกเขาจะกระจายไปตอนไหนหรือจะเกิดการสืบสวนเมื่อไร
  เขาจึงอยากทำให้เรื่องใหญ่โตเขากำลังบอกทุกคนว่าใช่ ฉันเป็นคนฆ่าพวกมัน!
  มาหาฉันสิถ้ากล้า!
  เขากลัวไหม?
  ไม่อยู่แล้วแต่เขาปรารถนาให้มันเกิดขึ้นต่างหาก!
  เขาสามารถฆ่าใครก็ตามที่มาหน้าร้านเขาได้เขาสามารถลบรากเหง้าปัญหาทั้งหมดได้
  เหนือสิ่งอื่นใดนักรบในตำนานคนนั้นยังแทบทิ้งชีวิตไว้ในร้าน ด้วยโจแอนนา ตราบเท่าที่เขาอยู่ในขอบเขตของร้าน ซูผิงจะไม่กลัวใครหน้าไหน!
  นอกจานี้จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครพบเกี่ยวกับระบบ ไม่แม้แต่นักรบอสูรในตำนานที่รู้ โจแอนนาถูกจำกัดให้อยู่ในร้านเท่านั้นและนั่นคือกฏที่ทำให้เขาได้เปรียบ
  เขาเมินหยานปิงเยว่ไปเขากำลังมองอสูรบนเวทีที่กลายเป็นไร้เจ้านาย
  ”ไป!”
  ซูผิงล้วงกระเป๋าเสื้อและหยิบแหวนจับอสูรขั้นกลางออกมาหลายวง
  เขาใช้แหวนจับอสูรขั้นกลางเพื่อจับอสูรสองตัวที่ระดับเก้าขั้นสูงสุดแหวนเช่นนี้สามารถจับอสูรอะไรก็ได้ที่ต่ำกว่าระดับตำนาน!
  แหวนจับอสูรขั้นกลางเหล่านี้มีโอกาสจับอสูรระดับเก้า50%!
  และ1.25%สำหรับอสูรในตำนาน!
  มันแน่นอนว่าซูผิงไม่ได้นับว่าแหวนจับอสูรขั้นกลางจะจับอสูรในตำนานได้แต่แหวนเหล่านั้นเหมาะกับการจับอสูรเหล่านี้มาก เหนือสิ่งอื่นใด พวกมันกำลังสับสน ถ้าอสูรเหล่านี้ไป พวกมันจะก่อให้เกิดความเสียหายกับผุ้ชม
  หวือหวือ หวือ!
  เขาโยนแหวนไปทีละวง
  แหวนประหลาดเหล่านั้นทำให้ตระกูลใหญ่ประหลาดใจอีกครั้ง!
  ไม่ช้าอสูรที่ถูกจับโดยมังกรเพลิงนรกก็หายไปในแหวนจับอสูร
  แหวนบางวงพลาดเป้าหมายแต่ซูผิงก็แค่ใช้อีกวงเขามักจะได้รับแหวนเหล่านี้บ่อยๆในร้านค้าของระบบและเขาก็ซื้อพวกมันทุกครั้งที่ปรากฏ เขาได้สะสมพวกมันไว้นับสิบ ซึ่งมากพอจะจับอสูรไร้เจ้านายเหล่านี้ ในเวลาไม่กี่นาที อสูรทั้งหมดก็โดนเก็บและแหวนก็บินกลับไปหาซูผิง
  เวทีขนาดใหญ่กลายเป็นว่างมีแค่มังกรเพลิงนรกกับมังกรจันทราเหมันต์บนเวที เทียบกับขนาดของเวทีแล้ว มังกรทั้งสองไม่ดูใหญ่นัก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว