ตอนที่ 380 แชมป์
จากนั้นเวทีที่เคยแออัดก็แทบว่างเปล่า เหล่าผู้นำตระกูลประสบกับการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์อีกครั้ง นอกจากความประหลาดใจ พวกเขายังกลัวชายหนุ่มที่ยืนบนเวที
ชายหนุ่มคนนั้นไม่ธรรมดา!
เหล่าผู้นำเชื่อว่าถ้าเป็นพวกเขาพวกเขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อควบคุมอสูรมากมายบนเวที
แม้จะด้วยโครงสร้างแข็งแกร่งของสถานที่มันก็ยังไม่สามารถทนผลกระทบได้ตอนพวกเขาลงมือ
ไม่มีใครสามารถกำจัดอสูรได้ด้วยแหวนประหลาดแบบที่ซูผิงทำ
นอกจากนี้พวกเขาไม่สามารถบอกได้ว่าอสูรเหล่านั้นโดนฆ่าหรือโดนจับ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด สิ่งที่ซูผิงทำก็น่ากลัวมาก อสูรระดับเก้าเหล่านั้นไม่มีโอกาสได้หลบหนีแหวนประหลาดนั่นเลย เหล่าผู้นำตระกูลไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าอสูรพวกเขาจะสามารถหลบหนีแหวนนั่นได้!
นั่นเป็นอีกสาเหตุที่ทำไมฉินตู้หวงถึงไม่สามารถสงบอารมณ์ได้อีกเหนือสิ่งอื่นใด แหวนกประหลาดที่ซูผิงใช้จับมังกรระดับเก้าขั้นสูงสุดได้ง่ายๆ!
ตอนนี้ผู้ชมเริ่มตื่นตระหนกน้อยลง
บางคนยังไม่หลบหนีเมื่อตระหนักว่าการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่พวกเขาคาดไว้จบลงแล้ว พวกเขาก็หยุดลงด้วยวความงุนงง
นักรบอสูรบางคนก้าวใกล้เวทีแค่เพื่อให้มีมุมมองชัดเจนขึ้น
ไม่แปลกใจที่ซูผิงกล้าเริ่มฆ่าในที่สาธารณะ!
เขาไม่กลัวความเป็นไปได้ที่จะทำรายคนบริสุทธิ์เลย!
มันกลายเป็ฯว่าอีกฝ่ายไม่มีคุณสมบัติพอจะสู้กับซูผิงด้วยซ้ำ!
แม้กระทั่งอสูรที่เสียเจ้านายก็ยังไม่สามารถก่อปัญหาใดได้อสูรทั้งหมดถูกควบคุม!
น่ากลัวมาก!
บุคคลแบบนี้มาที่เมืองฐานหลงเจียงตั้งแต่เมื่อไร!
แถมการทดสอบชายหนุ่มทำไปเพื่ออะไร?เขาคือนักรบอสูรกิตติมศักดิ์หรือระดับหก?
หากมันไม่ใช่ความจริงที่ว่ามีนักรบในตำนานแค่สองคนบนอนุทวีปทั้งหมดพวกเขาคงคิดว่าชายหนุ่มคือนักรบอสูรในตำนาน!
”ไปดูแลเจ้านั่นซะ”
เมื่อยุติเรื่องแล้วซูผิงก็สามารถบรรเทาความโกรธได้ โมเมนตัมหายไป เขากลายเป็นคนที่ใครๆก็รู้จัก
เขาเหลือบมองอสูรเพลิงมายาที่กำลังนอนจมกองเลือดและออกคำสั่งกับสุนัขมังกร
สุนัขมังกรดำยังจำได้ว่าอสูรเพลิงมายาเคยเป็นอสูรที่ซูผิงฝึกในสนามบ่มเพาะ แมวดำได้กล้ำกลืนความอวดดีไปจนหมด หลังสุนัขมังกรดำสอนบทเรียนดีๆให้แมวอ้วนนี้ มันก็เริ่มประพฤติดีและกลายเป็นลูกสมุนของสุนัขมังกรดำ
อสูรเพลิงมายาคือสมุนของมันเพราะทั้งสองมีรสนิยมเดียวกันหลบข้างหลังคนอื่นระหว่างต่อสู้
ตอนแรกสุดอสูรเพลิงมายาไม่ได้ขี้ขลาดขนาดนั้น ซูหลิงเยวี่ยเลี้ยงดูมันจนถึงจุดที่มันโอ้อวดด้วยความภาคภูมิ แต่หลังลิ้มรส’ความตื่นเต้น’ของการต่อสู้หลายครั้ง มันก็เปลี่ยนนิสัย มันตระหนักว่าการมีชีวิตอยู่โดยไม่มีความทะเยอทะยานคือแก่นแท้ของชีวิต!
การมีชีวิตอยู่ดีกว่าสิ่งใด!
หวือ!
สุนัขมังกรดำรีบวิ่งไปหาอสูรเพลิงมายา
ดาบได้เฉือนท้องของมันและอวัยวะภายในก็หลุดออกมาแต่อวัยวะภายในไม่ได้ฉีกขาดเยอะนัก ตอนนี้ มันไม่ได้อันตรายถึงตาย
สุนัขมังกรรีบร่ายทักษะรักษาใช้ลิ้นมันเพื่อช่วยดันอวัยวะภายในกลับเข้าท้องไป
ขณะที่สุนัขมังกรดำดูแลอสูรเพลิงมายาซูผิงก็จ้องหยานปิงเยว่ เขาไม่อยากเปิดเผยม้วนภาพในที่สาธารณะ
”จับตาดูเธอไว้’ซูผิงปล่อยโครงกระดูกน้อยให้ดูแลเธอหลังจากนั้นเขาก็เก็บมังกรเพลิงนรกที่ยังหายใจแรงอยู่อย่างเกรี้ยวกราด เจ้าหมอนี่เพิ่งกลับจากบททดสอบสวรรค์และกำลังกระหายเลือด
ซูผิงมองนักรบอสูรกิตติมศักดิ์สองคนจากรัฐบาลและถาม”พวกคุณอยากแข่งขันต่อไหม?”
ทั้งสองจ้องซูผิงด้วยสายตาว่างเปล่าและปากก็กระตุก
แข่งต่อ?
จะทำไปทำไม?นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ตายไปถึงสาม!
โดยปกติทั้งเมืองจะต้องเศร้าเมื่อนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ตายไปสักคน แต่นี่กลับตายถึงสามในวันเดียว!
นักรบอสูรกิตติมศักดิ์คือเสาหลักของสังคมมนุษย์ทั้งสามโดนฆ่าในวันเดียวกัน แถมคนหนึ่งยังมาจากรัฐบาล อีกสองจากองค์กรดวงดาว หนึ่งในนั้นยังเป็นอัศวินมังกร นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ชื่อดัง
ถ้ามันไม่ใช่ความจริงที่อัศวินมังกรขาดศักยภาพและไม่สามารถไปถึงระดับตำนานได้ เขาคงมีชื่อเสียงมากกว่านี้
”คือ..”
พวกเขาต้องให้คำตอบเนื่องจากซูผิงได้โยนคำถามนักรบอสูรวัยกลางคนเป็นคนแรกที่เข้าหาซูผิงด้วยรอยยิ้มแห้ง”คุณซู คือ เราจะแบ่งรางวัลตามอันดับปัจจุบันเป็นไงครับ?”
ซูผิงเหลือบมอง’อธิบาย’
”คุณซูได้ที่หนึ่งคุณหนูซูที่สอง และสวี่คังที่สาม คุณคิดว่าไงครับ?”
นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ตอบด้วยความเคารพอย่างสูงโดยทั่วไป นักรบอสูรกิตติมศักดิ์จะใช้น้ำเสียงแบบนี้ก็ต่อเมื่อพวกเขาคุยกับนักรบอสูรในตำนาน หรือไม่ก็ผู้ฝึกอสูรระดับสูงเท่านั้น
ซูผิงตอบอย่างเย็นชา”คุณคิดว่าผมจะรอจนถึงวันนี้หรือไงถ้าผมอยากได้แชมป์?”
หัวใจของอีกฝ่ายเต้นกระหน่ำแน่นอน เขารู้”งั้นคุณคิดว่าพวกเราควรทำยังไงครับ?”
”ผมบอกว่าผมเป็นคนมีเหตุผล”ซูผิงพูดย้ำ”ผมแทรกแซงเพราะผู้หญิงคนนี้แต่เนื่องจากเธอยอมรับความพ่ายแพ้และโดนผมคุมตัว แชมป์จึงเป็นของผม แต่ผมขอถอนตัว ดังนั้น พวกคุณสามารถแข่งขันหาแชมป์ต่อได้หรือจะทำให้น้องสาวผมเป็นแชมป์เลยก็ได้ เหนือสิ่งอื่นใด ผมไม่คิดว่าจะมีใครเอาชนะเจ้าตัวนี้ได้” ‘เจ้าตัวนี้’ที่เขาพูดถึงคือมังกรจันทราเหมันต์
ฉินเส้าเทียนกับคนอื่นหน้าซีดพวกเขาไม่พูดอะไร
ฉินเส้าเทียนเคยแพ้มังกรมาแล้วสำหรับเย่เทียนหลงและมู่หยวนโส้ว พวกเขายังเอาชนะฉินเส้าเทียนไม่ได้ด้วยซ้ำ
นักรบอสูรสองคนจากรัฐบาลกลางฝืนยิ้มขณะสาปแช่งในใจแกฆ่าคุณเฮ่อหลังเกิดความไม่เห็นด้วยเพียงเล็กน้อย
แกยังฆ่าอัศวินมังกรกับปีศาจหอกจากองค์กรดวงดาว!
แกยังคุมตัวหยานปิงเยว่!และยังอ้างว่าตัวเองเป็นคนมีเหตุผล?!
”ถ้าไม่มีใครค้านงั้นน้องสาวผมจะเป็นแชมป์ สำหรับคนอื่น จัดการตามเห็นชอบเอาละกัน ผมจะพาน้องสาวกลับไปถ้าพวกคุณไม่ว่าอะไร”ซูผิงพูด
ทั้งสองอดใจรอที่จะส่งซูผิงไปไม่ได้พวกเขาสั่นด้วยความกลัวขณะยืนต่อหน้าปีศาจตนนี้
วิธีที่ซูผิงฆ่านักรบอสูรกิตติมศักดิ์ทั้งสองสบายเกินไปราวกับเขากำลังเชือดไก่ ทั้งสองกลัวว่าจะกลายเป็นรายต่อไป แผ่นหลังของพวกเขาเปียกไปด้วยเหงื่อเย็น
ในที่สุดทั้งสองจากรัฐบาลก็เข้าใจว่าหัวหน้าพวกเขาหมายถึงอะไรที่บอกว่าร้านของซูผิงอันตราย
ด้วยคนแบบนี้แน่นอนว่าร้านย่อมอันตราย!
เธอคือน้องสาวของเขาไม่แปลกใจที่เธอจะมีมังกร…นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ทั้งสองเหลือบมองซูหลิงเยวี่ย แต่ก็แค่วินาทีเดียว ด้วยซูผิงที่ยืนอยู่ พวกเขาไม่กล้าจ้องเธอนาน
ตระกูลใหญ่ที่นั่งใกล้เวทไม่พูดอะไรตอนซูผิงกำหนดแชมป์
วันนี้กลานยเป็นวันที่ร้อนระอุการชิงแชมป์ที่เคยเห็นจุดเด่นของวันกลับกลายเป็นเรื่องเล็กน้อย
เทียบกับแชมป์การตายของนักรบอสูรกิตติมศักดิ์สามคนคือจุดเด่น!
คนจากองค์กรดวงดาวโดนฆ่าในเมืองฐานหลงเจียงและหยานปิงเยว่โดนจับไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าองค์กรดวงดาวจะส่งขุมกำลังแบบไหนมาเมืองฐานหลงเจียงและเมืองฐานจะต้องเจอกับอะไร!
เหนือสิ่งอื่นใดถ้าองค์กรดวงดาวแทรกแซงเต็มกำลัง พวกเขาสามารถลบทั้งเมืองได้ง่ายๆ!
ใบหน้าของหลิวเทียนจงไม่สู้ดีเขาซ่อนร่องรอยพลังงานเขาไว้ ถ้าไม่ใช่เพราะคนยังมองเห็นเขาได้ พวกเขาคงคิดผิดว่านี่เป็นที่นั่งเปล่า เขากลัวว่าซูผิงจะเห็นเขา เนื่องจากซูผิงได้ฆ่าคุณเฮ่อจากรัฐบาล การฆ่าเขาด้วยก็ไม่นับเป็นอะไร
เมื่อเห็นโครงกระดูกกับมังกรเพลิงนรกรวมถึงแหวนประหลาด หลิงเทียนจงก็หมดความมั่นใจ หลิงเทียนจงอยากย้อนเวลากลับไปและตบหน้าหลิวหยวน ถ้าหลิวหยวนรู้เกี่ยวกับซูผิง หลิงเทียนจงจะไม่มีวันแข่งขันกับร้านของเขา ต่อให้จะเป็นบ้าก็ตาม
ขณะที่ความคิดของเขาโดนครอบงำซูผิงก็หันมาหาเขา
ทั้งสองสบตากัน
ตอนนั้นหัวใจของหลิวเทียนจงหยุดเต้น เขารู้สึกว่าเลือดของเขาพุ่งขึ้นหัว
แต่วินาทีต่อมาซูผิงก็เบือนหน้าหนี ก่อนหน้านั้น การสบตาเสี้ยววินาทีนั้นมีความหมาย
หลิงเทียนจงเข้าใจความหมายทันที
ชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้วางแผนฆ่าเขาแต่ถ้าเขายังตอแยไม่หยุด ความตายจะเป็นเรื่องใกล้ตัว!
เขานึกถึงสิ่งที่ซูผิงเคยพูดซูผิงบอกว่าเขาสามารถปิดปากตระกูลหลิวหรือลบพวกเขาได้ ตามความสามารถเขา เขาย่อมทำได้จริง!
นอกจากนี้ด้วยพลังของเขา เขาสามารถร่วมมือกับตระกูลใหญ่อื่นเพื่อทำลายพวกเขาได้!หลิวเทียนจงเสียใจกับการตัดสินใจของเขา เขาใช้ชีวิตมาหลายปี และยังสั่งการโง่ๆ หลิวหยวนไม่ใช่คนเดียวที่ผิด หลิวเทียนจงรู้ว่าเขาไม่สามารถหลบหนีจากความรับผิดชอบของเขาได้เช่นกัน เขาประมาทซูผิงและตัดสินใจสร้างศัตรูเอง
ตอนนี้เขาได้แต่หวังว่าคนจากองค์กรดวงดาวจะสามารถกวาดล้างร้านขายอสูรพิกซี่ได้
นั่นคือทางเดียวที่ตระกูลหลิวจะได้โงหัวต่อไม่งั้น ในอนาคต เมื่อคนจากตระกูลหลิวพบคนจากร้านอสูรพิกซี่ พวกเขาก็ต้องก้มหัวด้วยความเคารพ
ซูผิงละสายตาจากหลิวเทียนจงพูดกับนักรบอสูรกิตติมศักดิ์สองคนจากรัฐบาล”คนไหนที่รู้เกี่ยวกับองค์กรดวงดาวมากกว่ากัน?”
”หือ?”
หนึ่งในนั้นรู้ว่าซูผิงกำลังจะทำอะไรแต่เขาไม่คิดว่าจะได้ยินคำถามนี้ มันปรากฏว่าซูผิงไม่รู้จักองค์กรดวงดาว
ทำไมแกถึงฆ่าคนของพวกเขาล่ะ?
ทั้งสองพูดไม่ออกหนึ่งในนั้นยิ้มขมขื่น”คุณซู องค์กรดวงดาวคือขุมกำลังที่แข็งแกร่งสุดในเขตอนุทวีปของเรา และพวกเขาก็มีนักรบอสูรกิตติมศักดิ์มากมาย อดีตผู้นำองค์กรดวงดาวยังเป็นถึงนักรบอสูรในตำนาน ต่อมา เนื่องด้วยเหตุผลพิเศษ เขาได้ล่วงลับไป”
”อย่างที่พูดขุมกำลังที่จัดตั้งโดยนักรบอสูรในตำนาน และดำรงอยู่มาหลายสิบปี องค์กรมีสมบัติ ทักษะและอสูรหายากมากเกินกว่าจะนับได้ นักรบอสูรกิตติมศักดิ์หลายคนเต็มใจเข้าร่วมกับพวกเขา”
ด้วยคำพูดนั้นเขาจึงมองซูผิงด้วยแววตาที่บ่งบอกว่าเขากำลังลำบาก!
”ขุมกำลังที่แข็งแกร่งสุดในเขตอนุทวีปเรา?”
ซูผิงเลิกคิ้ว
อีกฝ่ายใหญ่จริงๆ
ไม่แปลกใจที่คนเหล่านี้จะจองหอกองค์กรพวกเขามีนักรบอสูรในตำนานเป็นผู้ก่อตั้ง
แต่ทว่านักรบอสูรในตำนานได้ตายไปแล้ว นอกจากนี้ ต่อให้เป็นนักรบอสูรในตำนานซูผิงก็สามารถฆ่าได้!พลังต่อสู้ของโครงกระดูกน้อยเกินสิบแล้ว การจัดการกับนักรบอสูรในตำนานทั่วไปเป็นของเด็กเล่นสำหรับโครงกระดูกน้อย!
ซูผิงคิดสักพักและพลันหันไปหาเหล่าผู้นำตระกูลด้วยรอยยิ้ม”เรียนเหล่าผู้นำตระกูลผมได้ยินเกี่ยวกับพวกคุณมามาก”
”หือ?”
พวกเขาแปลกใจที่จู่ๆซูผิงก็เรียกพวกเขา
ในบรรดาพวกเขาหลิวเทียนจงเครียดสุด ขนของเขาตั้งชัน
โจวเทียนหลินเองก็กลัวกลัวว่าซูผิงจะเปิดฉากโจมตี
”ผมยังไม่ได้เชิญพวกคุณไปร้านของผมเลยตอนนี้ที่ลีกนักรบจบแล้ว ผมหวังว่าพวกคุณจะให้เกียรติไปเยี่ยมเยียนร้านของผมในวันพรุ่งนี้”ซูผิงพูดด้วยรอยยิ้ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว