ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 384
ตอนที่ 384 การประชุมขององค์กรดวงดาว
สำนักงานสาขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าพวกเขาจะต้องรับมือกับคำถามและข้อสงสัยมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์ทดสอบของพวกเขาที่ไม่เคยผิดพลาดเลยนับตั้งแต่เปิดตัวในตลาดมา
ในไม่ช้าสำนักงานสาขาก็ได้เผยแพร่ประกาศบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการเพื่อชี้แจงเรื่องนี้
ก่อนอื่นอุปกรณ์ไม่มีอะไรผิดปกติ
อุปกรณ์ที่ใช้ทดสอบซูผิงถูกเรียกคืนและตรวจสอบแล้วไม่มีอะไรเสียหายและไม่มีอะไรผิดปกติ มีเอกสารแนบท้ายประกาศซึ่งมีรูปภาพและข้อมูลจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ สิ่งเหล่านี้เป็นข้อพิสูจน์ว่าอุปกรณ์ไม่มีอะไรผิดปกติ
ประการที่สองมีการโพสต์ข้อความบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: จนถึงขณะนี้ไม่มีทักษะลับใดที่สามารถหลอกอุปกรณ์ทดสอบได้
คำแถลงทั้งสองระบุชัดเจนว่าอุปกรณ์ทดสอบของพวกเขาไม่ควรถูกตำหนิสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น
ในขณะที่บริษัทพิสูจน์คุณภาพของอุปกรณ์ผู้สังเกตการณ์ก็ตระหนักถึงสิ่งที่น่าทึ่ง
งั้นอุปกรณ์ก็ปกติ
แล้ว…
ซูผิงอยู่ในระดับหกขั้นกลาง?
ข้อสรุปนั้นเกินคาดเป็นอีกครั้งที่ข่าวนี้ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และความคิดเห็นมากมาย
ในขณะที่ผู้เข้าชมยังคงพูดคุยและถกเถียงกันอยู่อาจารย์บางคนก็เข้าร่วมความสนุกด้วย พวกเขาเริ่มวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของนักรบอสูรระดับหกที่มีความสามารถของนักรบอสูรกิตติมศักดิ์จากมุมมองของมืออาชีพ
มองจากมุมไหนก็ได้ข้อสรุปเหมือนกันมันเป็นไปไม่ได้!
ในขณะที่เมืองฐานหลงเจียงทั้งหมดกำลังพูดคุยเกี่ยวกับร้านขายอสูรพิกซี่และซูผิงตระกูลใหญ่ก็ยังคงเงียบ
ไม่ว่าซูผิงจะอยู่ที่ระดับหกหรือไม่ก็ไม่สำคัญไม่ว่าข้อสรุปจะเป็นยังไงมันก็ไม่มีความหมายสำหรับพวกเขา
ความสามารถของซูผิงแข็งแกร่งและนั่นเป็นความจริงเขายังสามารถปราบอสูรระดับเก้าได้อีกด้วย นั่นเพียงพอที่จะทำให้ตระกูลใหญ่ตกใจและเดือดร้อน ลำดับความสำคัญหลักสำหรับตระกูลในขณะนี้คือการตัดสินใจว่าควรไปที่ร้านของซูผิงในวันพรุ่งนี้หรือไม่
การตัดสินใจครั้งนี้มีความสำคัญต่ออนาคตของตระกูลพวกเขา!
ในคืนนั้นมีการประกาศผลสุดท้ายของลีกนักรบ
แชมป์คือซูหลิงเยวี่ย
รองชนะเลิศได้แก่สวี่คัง ส่วนฉินเส้าเทียนได้อันดับสาม
ผู้ชนะอันดับสี่และห้าได้แก่เย่หลงเทียนและมู่หยวนโส้วตามลำดับ
ในรายชื่อนี้ชื่อของซูผิง-หรือหยานปิงเยว่ไม่มีปรากฏ
ผู้คนนับไม่ถ้วนแสดงความคิดเห็นและขอคำอธิบายบนเว็บไซต์และคำตอบอย่างเป็นทางการคือทั้งสองคนได้ถอนตัว
ผู้คนเห็นวิดีโอพวกเขาไม่สามารถบอกได้ว่าคนที่อยู่บนเวทีกระซิบอะไร แต่พวกเขาเชื่อว่าเจ้าของร้านขายอสูรอย่างซูผิงต้องยอมแพ้โดยสมัครใจ สำหรับหยานปิงเยว่นั้นเขาลากเธอออกไปด้วย
แม้ว่าชื่อของพวกเขาจะไม่อยู่ในรายชื่อแต่พวกเขาก็ยังคงเป็นศูนย์กลางของการสนทนาที่ดุเดือด
พวกเขาได้แสดงความสามารถที่แข็งแกร่งหลายคนถือว่าพวกเขาเป็นผู้ชนะอันดับหนึ่งและสอง
ในคืนนั้น
ในเมืองฐานอันงดงามใจกลางเขตอนุทวีป
กำแพงชั้นนอกแสนงดงามของเมืองฐานนั้นสูงชันและตระหง่านมันสูงหลายเมตรและหนาหลายสิบเมตร หินดังกล่าวได้รับการขัดเกลาโดยอสูรพิเศษ ทนทานและขึ้นเงา แม้แต่อสูรร้ายระดับเก้าก็ไม่สามารถทำลายกำแพงได้!
เมืองฐานนั้นกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต
มีหลายเขตในเมืองฐาน;แต่ละเขตมีความเจริญรุ่งเรืองมาก
นอกเมืองฐานเมืองนี้ใช้อุโมงค์ใต้ดินที่มีทางรถไฟใต้ดินซึ่งนำไปสู่สถานที่ต่างๆ
ธงสีดำที่ไม่ซ้ำกันถูกแขวนไว้นอกอาคารสำคัญบางแห่งในย่าน;มีการพิมพ์วังวนในรูปดาวสีน้ำเงินเข้มเก้าดวง ธงสีเข้มเน้นขับเน้นดวงดาว
นี่คือธงขององค์กรดวงดาว
ทั้งเขตนี้เป็นขององค์กรดวงดาว!อาคารที่ยิ่งใหญ่และโอ่อ่าตั้งอยู่ใจกลางย่าน ต้องขอบคุณอสูรบางตัว วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างอาคารได้รับการเสริมความแข็งแกร่งจนถึงระดับสูงสุด ด้วยเหตุนี้รูปทรงของอาคารจึงขัดต่อกฎฟิสิกส์ อาคารสร้างจากสามส่วน ส่วนด้านล่างเป็นเหมือนมังกรที่กำลังนอนหมอบอยู่กับพื้น
ส่วนตรงกลางคือหลังของมังกรมีมือขนาดใหญ่สองมือที่ยื่นขึ้นไปด้านบนและ นิ้ว 10 นิ้วก็อยู่ในตำแหน่งตรงอย่างสมบูรณ์แบบ
นิ้วมือถือโครงสร้างแบนเหมือนกระจกไว้
นั่นคือลักษณะของอาคารถ้ามองจากระยะไกลมีมากกว่าร้อยชั้นในแต่ละ “นิ้ว” พร้อมด้วยลิฟต์อยู่ภายใน กระจกนั้นโปร่งใส ผู้คนอาจมองผ่านอาคาร“ เตี้ย” จำนวนนับไม่ถ้วนในย่านนี้เมื่อขึ้นลิฟต์
มีห้องทำงานรูปไข่อยู่บนชั้นสามของอาคาร”บางและแบน” เหนือนิ้วมือ
มันเป็นห้องประชุมที่สำคัญที่สุดขององค์กรดวงดาว!
ภายในห้องประชุม
เมื่อใดก็ตามที่มีการใช้ห้องประชุมนี้หมายความว่าผู้เข้าร่วมเป็นพวกระดับสูงและหัวข้อในการประชุมเป็นปัญหาที่ยุ่งยาก
ในห้องที่มีแสงสลัวมีคนเจ็ดคนนั่งรอบโต๊ะรูปไข่ ตรงกลางโต๊ะทำจากกระจกนิรภัย ผู้คนสามารถมองเห็นดวงดาวที่เคลื่อนที่ไปมาได้ด้วยการฉายภาพพิเศษ
ทั้งเจ็ดคนซ่อนใบหน้าไว้ในเงามืดเพิ่มความลึกลับ
“ประธานจู มีเรื่องอะไรเร่งด่วนที่พวกเราทุกคนต้องมาที่นี่?”
“ผนึกถูกย้ายไปที่นั่นล้ว?” สองคนตั้งคำถาม เสียงหนึ่งฟังดูสงบและอีกเสียงเป็นสียงผู้หญิง ทั้งสองฟังดูเหมือนจะอยู่ในวัยสี่สิบ
ปลายด้านหนึ่งของโต๊ะเป็นชายชราหลังค่อมผมหงอกและใบหน้าเหี่ยวย่น แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงความโกรธ แต่คนอื่น ๆ ก็มองเขาด้วยความกลัว
“ผมเพิ่งได้รับแจ้งว่าดาวขององค์กรดวงดาวของเราถูกจับตัวไป” ชายชรากล่าวช้าๆ
”แล้ว?”
คำพูดของประธานจูทำให้อีกหกคนประหลาดใจ
คนที่ถามคำถามแรกกล่าวว่า“แค่นั้น? ผมรู้ว่าการให้ความรู้แก่ดาวที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเป็นการลงทุนมหาศาล แต่นั่นไม่สำคัญพอที่เราทุกคนจะถูกเรียกตัวมา”
“ใครจับไป?” อีกคนถามอย่างไร้อารมณ์ เสียงนั้นแหบจนสามารถทำให้เลือดของผู้คนหยุดนิ่งได้
คนอื่นๆ ยังคงเงียบ
พวกเขาเชื่อว่าประธานจูจะอธิบายเรื่องนี้
“ลองดูวิดีโอนี้ก่อน”
ชายชราไม่ตอบสองคำถามนั้นเขารูดปาดโต๊ะ จากนั้นหน้าจอเสมือนก็ผุดขึ้นตรงกลางโต๊ะ เล่นวิดิโอ
มันคือสถานที่จัดการแข่งขันและมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยู่บนเวที
“ผมจำผู้หญิงคนนั้นได้”
“หยาน อะไรสักอย่าง”
“ใช่แล้วจากค่ายฝึกเมื่อห้าปีที่แล้ว เธอและเพื่อนของเธอฆ่าคนอื่น ๆ ทั้งหมดในค่าย”
“อืม เป็นเด็กดี”
“ดูสถานที่สิ เป็นการแข่งขันบางอย่าง?ลีกของเด็กๆใช่ไหม?”
“ผมคิดว่าอย่างนั้น”
ในขณะที่คนเหล่านั้นกำลังคุยกันทันใดนั้นภาพก็เริ่มสั่นไหวราวกับถูกโจมตีโดยบางสิ่ง จากนั้นกล้องก็เปลี่ยนไปที่ขอบเวที มีคนยืนอยู่ในอากาศและผนึกก็แตก!
”อะไรกัน?”
สีหน้าสบายๆ หายไปจากใบหน้าของพวกเขา
หากนี่เป็นสถานที่จัดงานของลีกนักรบโล่ควรได้รับการตั้งค่าเป็นมาตรฐานสูงสุด
เขาสามารถทำลายโล่?
กล่าวคือเขาไม่ควรอ่อนแอกว่าพวกเขามากนัก
ไม่มีใครพูดอะไรอีกต่อไปพวกเขาทั้งหมดจ้องมองไปที่ภาพนั้น
วิดีโอดำเนินต่อไป…
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
วิดีโอจบลงในห้องประชุมเงียบกริบ
ความเงียบดำเนินไปประมาณครึ่งนาทีก่อนที่จะมีคนถามด้วยเสียงเบา“แหวนที่ดูเหมือนทำด้วยเหล็กสีเข้มสามารถดึงอสูรระดับเก้าขั้นสูงสุดได้ มีใครเคยเห็นเรื่องแบบนี้ไหม?”
ไม่มีใครตอบคำถามนั้น
ไม่เคยมีใครเห็นอะไรแบบนั้นเมื่อไม่มีใครตอบห้องประชุมก็ยิ่งเงียบมากขึ้น
ครู่ต่อมาประธานจูกล่าวต่อ“ ผมรู้มาว่าสถานที่แห่งนี้เป็นเมืองฐานระดับสองที่เรียกว่าหลงเจียงทางตอนใต้ วิดีโอดังกล่าวส่งต่อโดยบริษัทเอกชนข้ามเมืองแห่งหนึ่งในเมืองฐานนั้น ผมส่งคนไปสืบมา วิดีโอเป็นของจริง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงและเหตุการณ์นี้ก็ได้เผยแพร่สู่สาธารณะ การหารายละเอียดไม่ใช่เรื่องยาก”
เขามองไปรอบๆ และตั้งคำถามว่า“ มีใครบอกอะไรเกี่ยวกับบุคคลในวิดีโอได้บ้าง?”
หนึ่งในหกคนตอบว่า“ผมมีประสบการณ์เกี่ยวกับการฝึกทักษะทางกายภาพ ผมไม่คิดว่าชายหนุ่มคนนี้จะเป็นนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ นอกจากนี้เขาต้องเรียนรู้ทักษะทางกายภาพบางประเภท ผมสามารถบอกได้จากความแข็งแกร่งที่ระเบิดออกมา”
“จริง ผมพบว่าการโจมตีของบุคคลนี้แปลก ไม่เหมือนกับสิ่งที่นักรบอสูรใช้ นอกจากนี้ผมไม่คิดว่าอุปกรณ์ทดสอบของกลุ่มหยวนเซิงจะผิดพลาดหลายครั้งติดต่อกัน คุณหยวนเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มหยวนเซิง เขาได้รวบรวมทักษะลับมากมายโอกาสที่จะมีทักษะซึ่งสามารถหลอกอุปกรณ์ทดสอบได้นั้นต่ำมาก”
“ผู้ชายคนนี้อาจเป็นอัจฉริยะหาจับตัวได้ยากยิ่ง”
“ดาวรุ่งที่น่ากลัว”
“เขาเป็นมากกว่านั้น เขาทรงพลังมากกว่านักรบอสูรกิตติมศักดิ์ เขาต้องใช้พลังงานพิเศษบางอย่างเมื่อเขาทำลายผนึกนั่น ถ้าคุณถามผมละก็นะ น่าเสียดายที่วิดีโอไม่สามารถจับภาพได้ แต่ผมคิดว่าพลังของชายหนุ่มควรอยู่ที่ระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูง”
“สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคืออสูรโครงกระดูก!”
“ผมเห็นด้วยผมไม่เคยเห็นโครงกระดูกแบบนั้นมาก่อน มันน่าจะเป็นประเภทที่ไม่รู้จัก ตัดสินจากความแข็งแกร่งและทักษะของโครงกระดูกที่ใช้ ความแข็งแกร่งของมันควรจะอยู่ในระดับเก้าขั้นสูงสุด แต่ทักษะระดับตำนานที่โครงกระดูกใช้ในการเคลื่อนย้ายเป็นเรื่องยุ่งยาก โครงกระดูกสามารถใช้ทักษะนั้นและฆ่านักรบอสูรกิตติมศักดิ์ได้อย่างง่ายดาย เว้นแต่นักรบอสูรกิตติมศักดิ์คนนั้นจะเชี่ยวชาญทักษะในตำนานเช่นกัน แต่นักรบอสูรกิตติมศักดิ์เช่นนี้มีน้อยมาก เช่นเรา“
”อัจฉริยะระดับหกที่ฝึกฝนทักษะทางกายภาพแต่สามารถโจมตีด้วยความแข็งแกร่งใกล้เคียงกับระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูง แถมยังมีโครงกระดูกและมังกรเพลิงนรกที่ดูเหมือนจะน่ากลัวพอ ๆ กัน บุคคลเช่นนี้จะอยู่ในเมืองฐานระดับสองได้ยังไง?”
ประธานจูรับฟังความคิดเห็นของพวกเขาสักพักก่อนที่เขาจะกล่าวว่า“ผมเรียกทุกคนมาไม่ใช่เพราะชายหนุ่มหรือโครงกระดูกแต่เป็น…คนที่อยู่เบื้องหลังเขา” ทั้งหกหันไปมอง
เขาพูดถูก
ชายหนุ่มนั้นโดดเด่นหากไม่ใช่วิดีโอที่บันทึกทุกอย่างพวกเขาก็คงไม่เชื่อเรื่องนี้ คนที่พวกเขาควรกลัวคือคนที่อยู่เบื้องหลังชายหนุ่ม
เป็นไปได้ไหมว่าจะมีนักรบอสูรในตำนานกำลังสนับสนุนและช่วยเหลือชายหนุ่มคนนี้?
ถึงกระนั้นเท่าที่พวกเขารู้ไม่มีนักรบอสูรระดับตำนานในเขตอนุทวีปนี้ที่อยู่ในเมืองฐานนั้น
พวกเขารู้ถึงความสามารถทั้งหมดที่นักรบอสูรในตำนานทั้งสองมีและพวกเขาได้เตือนคนของพวกเขาแล้วว่าอย่ายุ่งกับบุคคลทั้งสองเหล่านั้น
สำหรับนักรบอสูรในตำนานจากเขตอนุทวีปอื่นๆ มันไม่น่าเป็นไปได้ที่พวกเขาจะมาเยือนเขตอนุทวีปนี้ แม้ว่าพวกเขาต้องการ แต่นักรบอสูรในตำนานทั้งสองจะไม่ยอมให้ทำเช่นนั้น
“ประธานจู คุณกำลังบอกว่าพวกเราคนหนึ่งควรไปจัดการเขาสินะ?” มีคนถาม
คนอื่นๆ ดูเหมือนจะแปลกใจกับคำถามนี้
แต่ประธานประธานจูพยักหน้าเขามองไปรอบ ๆ และพูดว่า“ ชายหนุ่มและโครงกระดูกเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะทำให้เราตกใจ แต่เราจะลำบากหากมีนักรบอสูรในตำนานอยู่เบื้องหลังสิ่งนี้ ในทางกลับกัน…”
แววตาเยือกเย็นเปล่งประกายในดวงตาของเขา“ ใครก็ตามที่ทำให้องค์กรดวงดาวอับอายต้องถูกฆ่า!”
คนอื่นๆ เห็นด้วย
ชายหนุ่มลากหยานปิงเยว่ออกไปนั่นเป็นการตบหน้าองค์กรดวงดาว
พวกเขาเชื่อว่าข่าวนี้จะแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วและขุมกำลังหลักอื่น ๆ จะค้นพบ นักรบอสูรในตำนานผู้ก่อตั้งองค์กรได้ล่วงลับไปแล้ว เมื่อข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ขุมกำลังหลักอื่น ๆ อาจดูแคลนองค์กรดวงดาว
แต่ถ้านักรบอสูรในตำนานกำลังสนับสนุนชายหนุ่มคนนี้มันก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งไปโดยสิ้นเชิง
นั่นจะทำให้เป็นเรื่องระหว่างนักรบอสูรในตำนาน
จากนั้นจะไม่มีใครกล้าหัวเราะเยาะองค์การดวงดาวแม้ว่าพวกเขาจะจัดการกับสถานการณ์ด้วยท่าทางขี้ขลาดก็ตาม
“ชายหนุ่มฆ่าคนอื่น ๆ ทั้งหมด เหลือเพียงหยานปิงเยว่ เขาต้องการให้เราไปหาเขาแน่” ชายวัยกลางคนกล่าว
“มาดูข้อมูลเพิ่มเติมกันก่อน”
ประธานจูมองไปที่คนทั้งหกและจ้องมองไปที่หนึ่งในนั้น“ราชาแห่งแขน คุณมักใจเย็น ผมมอบหน้าที่นี้ให้คุณ”
ชายที่ถูกเรียกว่าราชาแห่งแขนนั้นตัวใหญ่มากเขาพยักหน้า “ ไม่มีปัญหา” เขาตอบหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง
ประธานจูถอนหายใจด้วยความโล่งใจ“ หากมีนักรบอสูรในตำนานเข้ามาเกี่ยวข้อง เราจะยอมรับความพ่ายแพ้ ถ้าไม่ ก็อย่ารีบทำอะไร ชายหนุ่มคนนี้คนเดียวสามารถเทียบกับคุณได้ เรายังไม่ได้เห็นเขาแสดงความแข็งแกร่งเต็มที่ บางทีเขาอาจจะซ่อนอะไรบางอย่างอยู่ หรืออาจจะมีคนแบบเขาแอบซุ่มอยู่”
”คุณสามารถส่งข้อความกลับมาและองค์กรดวงดาวของเราจะระดมกำลังไปที่นั่นเพื่อฆ่าเขา เข้าใจไหม?”
“ประธานจู ไม่ต้องห่วง ผมรู้ว่าต้องทำอะไร?”ราชาแห่งแขนพยักหน้า
“อ่า เอ่อ”
ชายชราพยักหน้าเขามั่นใจมากหลังจากให้ราชาแห่งแขนจัดการเรื่องนี้
คนอื่นแค่เพิ่มคำเตือนให้ราชาแห่งแขน
พวกเขาใช้เวลาที่เหลืออยู่คุยเรื่องอื่น
การประชุมสิ้นสุดลงในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาและทุกคนต่างแยกย้ายกันไป พวกเขาล้วนมี“ งาน” ของตัวเอง
สำนักงานสาขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าพวกเขาจะต้องรับมือกับคำถามและข้อสงสัยมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์ทดสอบของพวกเขาที่ไม่เคยผิดพลาดเลยนับตั้งแต่เปิดตัวในตลาดมา
ในไม่ช้าสำนักงานสาขาก็ได้เผยแพร่ประกาศบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการเพื่อชี้แจงเรื่องนี้
ก่อนอื่นอุปกรณ์ไม่มีอะไรผิดปกติ
อุปกรณ์ที่ใช้ทดสอบซูผิงถูกเรียกคืนและตรวจสอบแล้วไม่มีอะไรเสียหายและไม่มีอะไรผิดปกติ มีเอกสารแนบท้ายประกาศซึ่งมีรูปภาพและข้อมูลจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ สิ่งเหล่านี้เป็นข้อพิสูจน์ว่าอุปกรณ์ไม่มีอะไรผิดปกติ
ประการที่สองมีการโพสต์ข้อความบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: จนถึงขณะนี้ไม่มีทักษะลับใดที่สามารถหลอกอุปกรณ์ทดสอบได้
คำแถลงทั้งสองระบุชัดเจนว่าอุปกรณ์ทดสอบของพวกเขาไม่ควรถูกตำหนิสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น
ในขณะที่บริษัทพิสูจน์คุณภาพของอุปกรณ์ผู้สังเกตการณ์ก็ตระหนักถึงสิ่งที่น่าทึ่ง
งั้นอุปกรณ์ก็ปกติ
แล้ว…
ซูผิงอยู่ในระดับหกขั้นกลาง?
ข้อสรุปนั้นเกินคาดเป็นอีกครั้งที่ข่าวนี้ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และความคิดเห็นมากมาย
ในขณะที่ผู้เข้าชมยังคงพูดคุยและถกเถียงกันอยู่อาจารย์บางคนก็เข้าร่วมความสนุกด้วย พวกเขาเริ่มวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของนักรบอสูรระดับหกที่มีความสามารถของนักรบอสูรกิตติมศักดิ์จากมุมมองของมืออาชีพ
มองจากมุมไหนก็ได้ข้อสรุปเหมือนกันมันเป็นไปไม่ได้!
ในขณะที่เมืองฐานหลงเจียงทั้งหมดกำลังพูดคุยเกี่ยวกับร้านขายอสูรพิกซี่และซูผิงตระกูลใหญ่ก็ยังคงเงียบ
ไม่ว่าซูผิงจะอยู่ที่ระดับหกหรือไม่ก็ไม่สำคัญไม่ว่าข้อสรุปจะเป็นยังไงมันก็ไม่มีความหมายสำหรับพวกเขา
ความสามารถของซูผิงแข็งแกร่งและนั่นเป็นความจริงเขายังสามารถปราบอสูรระดับเก้าได้อีกด้วย นั่นเพียงพอที่จะทำให้ตระกูลใหญ่ตกใจและเดือดร้อน ลำดับความสำคัญหลักสำหรับตระกูลในขณะนี้คือการตัดสินใจว่าควรไปที่ร้านของซูผิงในวันพรุ่งนี้หรือไม่
การตัดสินใจครั้งนี้มีความสำคัญต่ออนาคตของตระกูลพวกเขา!
ในคืนนั้นมีการประกาศผลสุดท้ายของลีกนักรบ
แชมป์คือซูหลิงเยวี่ย
รองชนะเลิศได้แก่สวี่คัง ส่วนฉินเส้าเทียนได้อันดับสาม
ผู้ชนะอันดับสี่และห้าได้แก่เย่หลงเทียนและมู่หยวนโส้วตามลำดับ
ในรายชื่อนี้ชื่อของซูผิง-หรือหยานปิงเยว่ไม่มีปรากฏ
ผู้คนนับไม่ถ้วนแสดงความคิดเห็นและขอคำอธิบายบนเว็บไซต์และคำตอบอย่างเป็นทางการคือทั้งสองคนได้ถอนตัว
ผู้คนเห็นวิดีโอพวกเขาไม่สามารถบอกได้ว่าคนที่อยู่บนเวทีกระซิบอะไร แต่พวกเขาเชื่อว่าเจ้าของร้านขายอสูรอย่างซูผิงต้องยอมแพ้โดยสมัครใจ สำหรับหยานปิงเยว่นั้นเขาลากเธอออกไปด้วย
แม้ว่าชื่อของพวกเขาจะไม่อยู่ในรายชื่อแต่พวกเขาก็ยังคงเป็นศูนย์กลางของการสนทนาที่ดุเดือด
พวกเขาได้แสดงความสามารถที่แข็งแกร่งหลายคนถือว่าพวกเขาเป็นผู้ชนะอันดับหนึ่งและสอง
ในคืนนั้น
ในเมืองฐานอันงดงามใจกลางเขตอนุทวีป
กำแพงชั้นนอกแสนงดงามของเมืองฐานนั้นสูงชันและตระหง่านมันสูงหลายเมตรและหนาหลายสิบเมตร หินดังกล่าวได้รับการขัดเกลาโดยอสูรพิเศษ ทนทานและขึ้นเงา แม้แต่อสูรร้ายระดับเก้าก็ไม่สามารถทำลายกำแพงได้!
เมืองฐานนั้นกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต
มีหลายเขตในเมืองฐาน;แต่ละเขตมีความเจริญรุ่งเรืองมาก
นอกเมืองฐานเมืองนี้ใช้อุโมงค์ใต้ดินที่มีทางรถไฟใต้ดินซึ่งนำไปสู่สถานที่ต่างๆ
ธงสีดำที่ไม่ซ้ำกันถูกแขวนไว้นอกอาคารสำคัญบางแห่งในย่าน;มีการพิมพ์วังวนในรูปดาวสีน้ำเงินเข้มเก้าดวง ธงสีเข้มเน้นขับเน้นดวงดาว
นี่คือธงขององค์กรดวงดาว
ทั้งเขตนี้เป็นขององค์กรดวงดาว!อาคารที่ยิ่งใหญ่และโอ่อ่าตั้งอยู่ใจกลางย่าน ต้องขอบคุณอสูรบางตัว วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างอาคารได้รับการเสริมความแข็งแกร่งจนถึงระดับสูงสุด ด้วยเหตุนี้รูปทรงของอาคารจึงขัดต่อกฎฟิสิกส์ อาคารสร้างจากสามส่วน ส่วนด้านล่างเป็นเหมือนมังกรที่กำลังนอนหมอบอยู่กับพื้น
ส่วนตรงกลางคือหลังของมังกรมีมือขนาดใหญ่สองมือที่ยื่นขึ้นไปด้านบนและ นิ้ว 10 นิ้วก็อยู่ในตำแหน่งตรงอย่างสมบูรณ์แบบ
นิ้วมือถือโครงสร้างแบนเหมือนกระจกไว้
นั่นคือลักษณะของอาคารถ้ามองจากระยะไกลมีมากกว่าร้อยชั้นในแต่ละ “นิ้ว” พร้อมด้วยลิฟต์อยู่ภายใน กระจกนั้นโปร่งใส ผู้คนอาจมองผ่านอาคาร“ เตี้ย” จำนวนนับไม่ถ้วนในย่านนี้เมื่อขึ้นลิฟต์
มีห้องทำงานรูปไข่อยู่บนชั้นสามของอาคาร”บางและแบน” เหนือนิ้วมือ
มันเป็นห้องประชุมที่สำคัญที่สุดขององค์กรดวงดาว!
ภายในห้องประชุม
เมื่อใดก็ตามที่มีการใช้ห้องประชุมนี้หมายความว่าผู้เข้าร่วมเป็นพวกระดับสูงและหัวข้อในการประชุมเป็นปัญหาที่ยุ่งยาก
ในห้องที่มีแสงสลัวมีคนเจ็ดคนนั่งรอบโต๊ะรูปไข่ ตรงกลางโต๊ะทำจากกระจกนิรภัย ผู้คนสามารถมองเห็นดวงดาวที่เคลื่อนที่ไปมาได้ด้วยการฉายภาพพิเศษ
ทั้งเจ็ดคนซ่อนใบหน้าไว้ในเงามืดเพิ่มความลึกลับ
“ประธานจู มีเรื่องอะไรเร่งด่วนที่พวกเราทุกคนต้องมาที่นี่?”
“ผนึกถูกย้ายไปที่นั่นล้ว?” สองคนตั้งคำถาม เสียงหนึ่งฟังดูสงบและอีกเสียงเป็นสียงผู้หญิง ทั้งสองฟังดูเหมือนจะอยู่ในวัยสี่สิบ
ปลายด้านหนึ่งของโต๊ะเป็นชายชราหลังค่อมผมหงอกและใบหน้าเหี่ยวย่น แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงความโกรธ แต่คนอื่น ๆ ก็มองเขาด้วยความกลัว
“ผมเพิ่งได้รับแจ้งว่าดาวขององค์กรดวงดาวของเราถูกจับตัวไป” ชายชรากล่าวช้าๆ
”แล้ว?”
คำพูดของประธานจูทำให้อีกหกคนประหลาดใจ
คนที่ถามคำถามแรกกล่าวว่า“แค่นั้น? ผมรู้ว่าการให้ความรู้แก่ดาวที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเป็นการลงทุนมหาศาล แต่นั่นไม่สำคัญพอที่เราทุกคนจะถูกเรียกตัวมา”
“ใครจับไป?” อีกคนถามอย่างไร้อารมณ์ เสียงนั้นแหบจนสามารถทำให้เลือดของผู้คนหยุดนิ่งได้
คนอื่นๆ ยังคงเงียบ
พวกเขาเชื่อว่าประธานจูจะอธิบายเรื่องนี้
“ลองดูวิดีโอนี้ก่อน”
ชายชราไม่ตอบสองคำถามนั้นเขารูดปาดโต๊ะ จากนั้นหน้าจอเสมือนก็ผุดขึ้นตรงกลางโต๊ะ เล่นวิดิโอ
มันคือสถานที่จัดการแข่งขันและมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยู่บนเวที
“ผมจำผู้หญิงคนนั้นได้”
“หยาน อะไรสักอย่าง”
“ใช่แล้วจากค่ายฝึกเมื่อห้าปีที่แล้ว เธอและเพื่อนของเธอฆ่าคนอื่น ๆ ทั้งหมดในค่าย”
“อืม เป็นเด็กดี”
“ดูสถานที่สิ เป็นการแข่งขันบางอย่าง?ลีกของเด็กๆใช่ไหม?”
“ผมคิดว่าอย่างนั้น”
ในขณะที่คนเหล่านั้นกำลังคุยกันทันใดนั้นภาพก็เริ่มสั่นไหวราวกับถูกโจมตีโดยบางสิ่ง จากนั้นกล้องก็เปลี่ยนไปที่ขอบเวที มีคนยืนอยู่ในอากาศและผนึกก็แตก!
”อะไรกัน?”
สีหน้าสบายๆ หายไปจากใบหน้าของพวกเขา
หากนี่เป็นสถานที่จัดงานของลีกนักรบโล่ควรได้รับการตั้งค่าเป็นมาตรฐานสูงสุด
เขาสามารถทำลายโล่?
กล่าวคือเขาไม่ควรอ่อนแอกว่าพวกเขามากนัก
ไม่มีใครพูดอะไรอีกต่อไปพวกเขาทั้งหมดจ้องมองไปที่ภาพนั้น
วิดีโอดำเนินต่อไป…
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
วิดีโอจบลงในห้องประชุมเงียบกริบ
ความเงียบดำเนินไปประมาณครึ่งนาทีก่อนที่จะมีคนถามด้วยเสียงเบา“แหวนที่ดูเหมือนทำด้วยเหล็กสีเข้มสามารถดึงอสูรระดับเก้าขั้นสูงสุดได้ มีใครเคยเห็นเรื่องแบบนี้ไหม?”
ไม่มีใครตอบคำถามนั้น
ไม่เคยมีใครเห็นอะไรแบบนั้นเมื่อไม่มีใครตอบห้องประชุมก็ยิ่งเงียบมากขึ้น
ครู่ต่อมาประธานจูกล่าวต่อ“ ผมรู้มาว่าสถานที่แห่งนี้เป็นเมืองฐานระดับสองที่เรียกว่าหลงเจียงทางตอนใต้ วิดีโอดังกล่าวส่งต่อโดยบริษัทเอกชนข้ามเมืองแห่งหนึ่งในเมืองฐานนั้น ผมส่งคนไปสืบมา วิดีโอเป็นของจริง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงและเหตุการณ์นี้ก็ได้เผยแพร่สู่สาธารณะ การหารายละเอียดไม่ใช่เรื่องยาก”
เขามองไปรอบๆ และตั้งคำถามว่า“ มีใครบอกอะไรเกี่ยวกับบุคคลในวิดีโอได้บ้าง?”
หนึ่งในหกคนตอบว่า“ผมมีประสบการณ์เกี่ยวกับการฝึกทักษะทางกายภาพ ผมไม่คิดว่าชายหนุ่มคนนี้จะเป็นนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ นอกจากนี้เขาต้องเรียนรู้ทักษะทางกายภาพบางประเภท ผมสามารถบอกได้จากความแข็งแกร่งที่ระเบิดออกมา”
“จริง ผมพบว่าการโจมตีของบุคคลนี้แปลก ไม่เหมือนกับสิ่งที่นักรบอสูรใช้ นอกจากนี้ผมไม่คิดว่าอุปกรณ์ทดสอบของกลุ่มหยวนเซิงจะผิดพลาดหลายครั้งติดต่อกัน คุณหยวนเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มหยวนเซิง เขาได้รวบรวมทักษะลับมากมายโอกาสที่จะมีทักษะซึ่งสามารถหลอกอุปกรณ์ทดสอบได้นั้นต่ำมาก”
“ผู้ชายคนนี้อาจเป็นอัจฉริยะหาจับตัวได้ยากยิ่ง”
“ดาวรุ่งที่น่ากลัว”
“เขาเป็นมากกว่านั้น เขาทรงพลังมากกว่านักรบอสูรกิตติมศักดิ์ เขาต้องใช้พลังงานพิเศษบางอย่างเมื่อเขาทำลายผนึกนั่น ถ้าคุณถามผมละก็นะ น่าเสียดายที่วิดีโอไม่สามารถจับภาพได้ แต่ผมคิดว่าพลังของชายหนุ่มควรอยู่ที่ระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูง”
“สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคืออสูรโครงกระดูก!”
“ผมเห็นด้วยผมไม่เคยเห็นโครงกระดูกแบบนั้นมาก่อน มันน่าจะเป็นประเภทที่ไม่รู้จัก ตัดสินจากความแข็งแกร่งและทักษะของโครงกระดูกที่ใช้ ความแข็งแกร่งของมันควรจะอยู่ในระดับเก้าขั้นสูงสุด แต่ทักษะระดับตำนานที่โครงกระดูกใช้ในการเคลื่อนย้ายเป็นเรื่องยุ่งยาก โครงกระดูกสามารถใช้ทักษะนั้นและฆ่านักรบอสูรกิตติมศักดิ์ได้อย่างง่ายดาย เว้นแต่นักรบอสูรกิตติมศักดิ์คนนั้นจะเชี่ยวชาญทักษะในตำนานเช่นกัน แต่นักรบอสูรกิตติมศักดิ์เช่นนี้มีน้อยมาก เช่นเรา“
”อัจฉริยะระดับหกที่ฝึกฝนทักษะทางกายภาพแต่สามารถโจมตีด้วยความแข็งแกร่งใกล้เคียงกับระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูง แถมยังมีโครงกระดูกและมังกรเพลิงนรกที่ดูเหมือนจะน่ากลัวพอ ๆ กัน บุคคลเช่นนี้จะอยู่ในเมืองฐานระดับสองได้ยังไง?”
ประธานจูรับฟังความคิดเห็นของพวกเขาสักพักก่อนที่เขาจะกล่าวว่า“ผมเรียกทุกคนมาไม่ใช่เพราะชายหนุ่มหรือโครงกระดูกแต่เป็น…คนที่อยู่เบื้องหลังเขา” ทั้งหกหันไปมอง
เขาพูดถูก
ชายหนุ่มนั้นโดดเด่นหากไม่ใช่วิดีโอที่บันทึกทุกอย่างพวกเขาก็คงไม่เชื่อเรื่องนี้ คนที่พวกเขาควรกลัวคือคนที่อยู่เบื้องหลังชายหนุ่ม
เป็นไปได้ไหมว่าจะมีนักรบอสูรในตำนานกำลังสนับสนุนและช่วยเหลือชายหนุ่มคนนี้?
ถึงกระนั้นเท่าที่พวกเขารู้ไม่มีนักรบอสูรระดับตำนานในเขตอนุทวีปนี้ที่อยู่ในเมืองฐานนั้น
พวกเขารู้ถึงความสามารถทั้งหมดที่นักรบอสูรในตำนานทั้งสองมีและพวกเขาได้เตือนคนของพวกเขาแล้วว่าอย่ายุ่งกับบุคคลทั้งสองเหล่านั้น
สำหรับนักรบอสูรในตำนานจากเขตอนุทวีปอื่นๆ มันไม่น่าเป็นไปได้ที่พวกเขาจะมาเยือนเขตอนุทวีปนี้ แม้ว่าพวกเขาต้องการ แต่นักรบอสูรในตำนานทั้งสองจะไม่ยอมให้ทำเช่นนั้น
“ประธานจู คุณกำลังบอกว่าพวกเราคนหนึ่งควรไปจัดการเขาสินะ?” มีคนถาม
คนอื่นๆ ดูเหมือนจะแปลกใจกับคำถามนี้
แต่ประธานประธานจูพยักหน้าเขามองไปรอบ ๆ และพูดว่า“ ชายหนุ่มและโครงกระดูกเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะทำให้เราตกใจ แต่เราจะลำบากหากมีนักรบอสูรในตำนานอยู่เบื้องหลังสิ่งนี้ ในทางกลับกัน…”
แววตาเยือกเย็นเปล่งประกายในดวงตาของเขา“ ใครก็ตามที่ทำให้องค์กรดวงดาวอับอายต้องถูกฆ่า!”
คนอื่นๆ เห็นด้วย
ชายหนุ่มลากหยานปิงเยว่ออกไปนั่นเป็นการตบหน้าองค์กรดวงดาว
พวกเขาเชื่อว่าข่าวนี้จะแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วและขุมกำลังหลักอื่น ๆ จะค้นพบ นักรบอสูรในตำนานผู้ก่อตั้งองค์กรได้ล่วงลับไปแล้ว เมื่อข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ขุมกำลังหลักอื่น ๆ อาจดูแคลนองค์กรดวงดาว
แต่ถ้านักรบอสูรในตำนานกำลังสนับสนุนชายหนุ่มคนนี้มันก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งไปโดยสิ้นเชิง
นั่นจะทำให้เป็นเรื่องระหว่างนักรบอสูรในตำนาน
จากนั้นจะไม่มีใครกล้าหัวเราะเยาะองค์การดวงดาวแม้ว่าพวกเขาจะจัดการกับสถานการณ์ด้วยท่าทางขี้ขลาดก็ตาม
“ชายหนุ่มฆ่าคนอื่น ๆ ทั้งหมด เหลือเพียงหยานปิงเยว่ เขาต้องการให้เราไปหาเขาแน่” ชายวัยกลางคนกล่าว
“มาดูข้อมูลเพิ่มเติมกันก่อน”
ประธานจูมองไปที่คนทั้งหกและจ้องมองไปที่หนึ่งในนั้น“ราชาแห่งแขน คุณมักใจเย็น ผมมอบหน้าที่นี้ให้คุณ”
ชายที่ถูกเรียกว่าราชาแห่งแขนนั้นตัวใหญ่มากเขาพยักหน้า “ ไม่มีปัญหา” เขาตอบหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง
ประธานจูถอนหายใจด้วยความโล่งใจ“ หากมีนักรบอสูรในตำนานเข้ามาเกี่ยวข้อง เราจะยอมรับความพ่ายแพ้ ถ้าไม่ ก็อย่ารีบทำอะไร ชายหนุ่มคนนี้คนเดียวสามารถเทียบกับคุณได้ เรายังไม่ได้เห็นเขาแสดงความแข็งแกร่งเต็มที่ บางทีเขาอาจจะซ่อนอะไรบางอย่างอยู่ หรืออาจจะมีคนแบบเขาแอบซุ่มอยู่”
”คุณสามารถส่งข้อความกลับมาและองค์กรดวงดาวของเราจะระดมกำลังไปที่นั่นเพื่อฆ่าเขา เข้าใจไหม?”
“ประธานจู ไม่ต้องห่วง ผมรู้ว่าต้องทำอะไร?”ราชาแห่งแขนพยักหน้า
“อ่า เอ่อ”
ชายชราพยักหน้าเขามั่นใจมากหลังจากให้ราชาแห่งแขนจัดการเรื่องนี้
คนอื่นแค่เพิ่มคำเตือนให้ราชาแห่งแขน
พวกเขาใช้เวลาที่เหลืออยู่คุยเรื่องอื่น
การประชุมสิ้นสุดลงในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาและทุกคนต่างแยกย้ายกันไป พวกเขาล้วนมี“ งาน” ของตัวเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว