ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 385

ตอนที่ 385 ตระกูลถังลงมือ
  ในเมืองฐานใหญ่อีกแห่งใจกลางเขตอนุทวีป
  มีพื้นที่เจริญรุ่งเรืองซึ่งมีการปลูกสวนขนาดใหญ่ลักษณะของสวนคล้ายคฤหาสน์เก่าแก่
  ผู้คุ้มกันที่ยืนอยู่ข้างประตูสวมชุดเกราะสีทอง
  อสูรที่ยืนอยู่ข้างผู้คุ้มกันคืออสูรระดับแปดเสือปีกไฟ นี่เป็นอสูรชนิดหนึ่งของตระกูลไฟที่มีสายเลือดปีศาจถึงหนึ่งในสามว่ากันว่า เสือปีกไฟที่เก่งกาจสามารถเรียนรู้ทักษะบางอย่างของตระกูลปีศาจได้
  หน้าอกของชุดเกราะพวกเขาสลักด้วยดาบสีทองรูปทรงร่มทุกคนในเมืองฐานต่างรู้ดีว่าเครื่องหมายนี้เป็นสัญลักษณ์ของ ร่มมหาสมุทรซึ่งเป็นมรดกตกทอดของตระกูลถัง!
  สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ
  สวนมีอุปกรณ์ครบครันมันมีสนามรบ ห้องโถงจำลอง สนามวิ่งเล่นสำหรับอสูร และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ที่พักอาศัยมีอาคารโบราณสวยงามมากมาย
  ในส่วนลึกสุดของสวนเป็นอาคารที่ตั้งตระหง่านสุดคนห้าคนนั่งอยู่ในห้องโถงโดยมีผู้คุ้มกันและสาวใช้ยืนเรียงแถว
  ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์พูดอย่างเย็นชา“เรารู้ที่อยู่ของยู่หรานแล้ว”
  เขานั่งเหมือนราชาที่ก้มมองโลก
  ใบหน้าของอีกสี่คนขุ่นมัว
  “ตระกูลอื่นเป็นคนทำหรือเปล่า?”
  “เธอยังมีชีวิตอยู่ไหม?”
  “ฉันได้ยินมาว่าตระกูล ซือถูก็ไปที่อาณาจักรลับด้วยใช่หรือไม่?”
  ชายวัยกลางคนกล่าวขณะเหล่ตา“ เธอยังมีชีวิตอยู่ ปัจจุบันยู่หรานถูกคุมขังอยู่ในเมืองฐานธรรมดาทางตอนใต้ มีคนเห็นเธอหลายครั้งในร้านขายอสูรที่นั่น เธอเป็นพนักงานต้อนรับที่ร้านขายอสูรจริงๆ”
  ทั้งสี่คนประหลาดใจพวกเขามีหลายสิ่งหลายอย่างที่จะถาม
  ว่าที่ผู้นำตระกูลของพวกเขาอยู่ในร้านขายอสูรทำงานเป็นพนักงานต้อนรับ?
  พวกเขาไม่สามารถจินตนาการถึงได้เลยด้วยซ้ำ
  ถ้าไม่ใช่เพราะหัวหน้าตระกูลทำหน้าจริงจังพวกเขาคงคิดว่าเขาล้อเล่น
  ”ท่านแน่ใจ?” ชายชราถามด้วยความประหลาดใจ
  ชายวัยกลางคนส่ายหัว“ ผมมีรูปภาพและได้ยืนยันข้อมูลแล้ว มันเป็นเรื่องจริง เธอติดอยู่ในร้านนั้นและไม่สามารถออกมาได้!”
  “ผมได้ส่งคนไปตรวจสอบร้านก่อนที่จะเรียกทุกคนมา แต่มันไม่ได้ผลใดๆ ร้านขายอสูรนั้นลึกลับ ว่ากันว่ามีนักรบอสูรกิตติมศักดิ์อยู่ในร้าน นอกจากนี้ผมยังรู้มาว่าในร้านมีมังกรเพลิงนรกด้วย! “
  ”คนที่ผมส่งไปเปิดเผยความจริงว่าพวกเขามาจากตระกูลถังอย่างไรก็ตาม รัฐบาลท้องถิ่นปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ นายกเสนอคำแนะนำเป็นการส่วนตัว เตือนเราอย่างชัดเจนว่าให้หลีกเลี่ยงการรุกรานร้านค้านั่น”
  “นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ในร้าน?”
  “หลีกเลี่ยงการตอแยพวกเขา?”
  ทั้งสี่ไม่อยากจะเชื่อเรื่องนี้
  ความจริงที่ว่านักรบอสูรกิตติมศักดิ์อยู่ในร้านขายอสูรนั้นเป็นเรื่องแปลกแต่ก็ไม่แปลกมากนัก ท้ายที่สุด นักรบอสูรบางคนต้องทำธุรกิจเพื่อหารายได้ แต่เกิดอะไรขึ้นกับนายก? ทำไมเขาถึงบอกว่าอย่าไปยั่วยุร้านขายอสูรล่ะ?
  เขาบอก‘พวกเขา’ ว่าอย่าทำอย่างนั้นหรือ?
  พวกเขาตระกูลถังคือหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ที่สุดของเขตอนุทวีป!
  ความจริงพวกเขามีอำนาจที่จะทำลายเมืองฐานนั้นได้ง่ายๆ แต่นายกกลับบอกพวกเขาว่าอย่าไปยั่วยุร้านขายอสูรนั่นเนี่ยนะ?!
  “ฉันคิดว่าตระกูลถังของเราให้ความสำคัญกับดินแดนใจกลางของเขตอนุทวีปมากเกินไปจนเราลืมนึกถึงพรมแดน” ทันใดนั้นชายชราก็ถอนหายใจ “ เมืองฐานบางเมืองได้ลืมชื่อของเราไปแล้ว”
  “ฉันไม่รู้ว่าอิทธิพลของเราลดลงถึงระดับนี้” หญิงสูงวัยที่แทบจะไม่มีฟันเหลือกล่าว
  “ผู้คนจากสถานที่ล้าหลังแห่งนั้นอ่อนหัดและไม่มีประสบการณ์”
  “มังกรเพลิงนรกทำให้พวกเราตกใจ…ใช่แล้วมังกรเพลิงนรกนั้นหายากแต่ร้านก็มีแค่นั้น ถ้าไม่ใช่เพราะเราไม่สามารถนำร่มมหาสมุทรออกไปจากที่ดินของตระกูลได้ เราคงสามารถแสดงให้โลกเห็นได้ว่าตระกูลถังสามารถล่าและฆ่าอสูรระดับตำนานได้!”
  “กลุ่มคนโง่!”
  สองคนส่ายหัวและเย้ยหยันพวกเขารู้สึกหงุดหงิดและผิดหวังในเวลาเดียวกัน ในช่วงวันปีที่ผ่านมา ในที่สุดตระกูลถังก็ตั้งหลักได้อย่างมั่นคงในใจกลางของเขตอนุทวีป โดยไม่รู้ว่าผู้คนไม่เคารพพวกเขาอีกต่อไป หากถังยู่หรานถูกลักพาตัวไปยังเมืองฐานอื่น ๆ ในใจกลางเขตอนุทวีป พวกเขาคงได้รับข้อความตั้งแต่ต้น
  พูดให้ถูกมันคงมากกว่าข้อความ นายกคงพาตัวถังยู่หรานกลับมาหาพวกเขาด้วยความเคารพ!
  อย่างไรก็ตามนายกของเมืองฐานห่างไกลกลับบอกพวกเขาว่าอย่ายั่วยุร้านขายอสูรนั้น นี่มันหมายความว่ายังไง?
  งั้นว่าที่ผู้นำของตระกูลถังควรอยู่ที่นั่นหรือไง?
  คำพูดที่ฟังดูโง่เขลาเช่นนี้ทำให้พวกเขาหัวเราะแต่ก็ทำให้พวกเขาโกรธในเวลาเดียวกัน
  “ท่าน ผมจะไปรับคุณหนูยู่หรานเอง” ผู้อาวุโสคนหนึ่งลุกขึ้นยืน ความเย็นชาเปล่งประกายในดวงตาของเขา “ ผมจะสอนบทเรียนให้กับเมืองฐานนั้น เพื่อให้พวกเขารู้ว่าเราเป็นใคร!”
  ”ใช่เมืองเหล่านั้นต้องคิดว่าเราเป็นเหมือนตระกูลเล็ก ๆ เช่นพวกมันแน่!”
  คนอื่นๆ เห็นด้วย
  ชายวัยกลางคนละเว้นที่จะตอบเขายังคงคิด
  ครู่ต่อมาเขากล่าวกับผู้อาวุโสคนนั้น“ เราไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับร้านค้า แต่บุคคลนั้นสามารถลักพาตัวยู่หรานจากอาณาจักรลับได้โดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ เราได้ตรวจสอบภูเขาหลงไท่ แต่ไม่พบเบาะแส บุคคลนั้นมีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงหรือสูงสุด!
  “นอกจากนี้ยู่หรานไม่ได้ถูกขัง เธอสามารถเดินไปรอบ ๆ ในร้านได้ บุคคลนั้นต้องรู้เกี่ยวกับตัวตนของเธอ และยังกล้าที่จะทำให้เธออับอายต่อหน้าสาธารณชนโดยไม่กลัวว่าจะมีใครเห็นเธอ บุคคลนั้นไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเราหรือเขาไม่กลัวเรากันแน่ แต่เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน ผมเอนเอียงไปยังความเป็นไปได้ที่สอง เหนือสิ่งอื่นใด บุคคลที่อยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงหรือสูงสุดจะต้องรู้เกี่ยวกับตระกูลถังของเราแน่”
  เมื่อเขาพูดจบอีกสี่คนก็ระงับความโกรธและเริ่มคิด
  พวกเขาแทบคลั่งกับคำเตือนของนายกเมืองฐานนั้นแต่เมื่อพวกเขาหันมาสนใจร้านค้า พวกเขาก็ตระหนักว่ามีหลายสิ่งที่อธิบายไม่ได้
  ทำไมคนๆ นั้นถึงปล่อยถังยู่หรานไว้ที่ร้านเพื่อรับลูกค้า ถ้าเขาลักพาตัวเธอไป?
  เขาไม่กลัวว่าคนอื่นจะจำเธอได้?
  สำหรับเรื่องที่ไม่กลัวตระกูลถัง…นั่นไม่น่าเป็นไปได้
  แม้แต่ตระกูลใหญ่อีกสามตระกูลก็ยังไม่กล้าขังถังยู่หรานไว้แบบประเจิดประเจ้อนั่นจะเป็นการประกาศสงคราม!
  ยิ่งพวกเขาคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่พวกเขาก็ยิ่งงง
  สุดท้ายพวกเขาก็ได้ข้อสรุปสองประการ: หนึ่ง ร้านซ่อนพลังไว้หรือไม่เจ้าของร้านก็หยิ่งและโง่มาก!
  คำอธิบายที่สองเข้าท่าสุด!
  เหนือสิ่งอื่นใดมีคนโง่ในโลกเสมอ
  แม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบบทสรุปแรกแต่พวกเขาก็รู้ว่าต้องเตรียมพร้อม เพราะหากปรากฎว่าร้านค้ามีสัตว์ประหลาดซ่อนอยู่ พวกเขาจะได้พร้อมรับมือ
  “งั้นก็ให้ผมไปด้วย”ผู้อาวุโสอีกคนพูด
  ”ฉันด้วยถ้าเราสามคนไปด้วยกัน ฉันไม่คิดว่าเราจะจัดการไม่ได้!” หญิงชราที่แทบไม่มีฟันกล่าว
  ชายวัยกลางคนครุ่นคิดเขาพยักหน้า “ตกลง ผมจะให้นักรบอสูรกิตติมศักดิ์อีกสองคนไปกับพวกคุณ ลองดูก่อนและส่งข้อความกลับมาหากมีอะไร ผมจะให้ชิปบางอย่างที่ให้พวกคุณสามารถโทรข้ามทวีปได้ เราจะส่งกำลังเสริมไปหากพวกคุณพบสิ่งผิดปกติ” ทั้งสามคนพยักหน้า แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมหัวหน้าตระกูลของพวกเขาถึงทำเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้
  พวกเขาทั้งสามคนก็มากเกินพอที่จะจัดการกับร้านขายอสูรเพียงแห่งเดียวนั่นมันจะกลายเป็นเรื่องตลกหากพวกเขาต้องการกำลังเสริม
  แต่หัวหน้าตระกูลของพวกเขามีความรอบคอบและระมัดระวังมาโดยตลอดพวกเขายังเชื่อว่ามันเสี่ยงเกินไปหากหนึ่งในนั้นต้องไปคนเดียว
  ร้านค้าอาจมีนักรบอสูรกิตติมศักด์ขั้นสูงสุดนอกจากนี้พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่พวกเขาไม่สามารถควบคุมได้ หากไปคนเดียวอาจตกอยู่ในอันตรายได้ ผลลัพธ์ที่แย่กว่านั้นคือการไม่สามารถเอาถังยู่หรานกลับมาได้
  “ยู่หรานเป็นเพียงแค่‘หน้ากาก’ แต่คนทั่วไปคิดว่าเธอคือว่าที่ผู้นำของเรา ยังไงก็ตามเพื่อรับรองความปลอดภัยของเธอ ด้วยวิธีนี้ตระกูลอื่น ๆ จะเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเธอคือว่าที่ผู้นำตระกูลของเราจริงๆ!”
  “ในทางกลับกันการเสียยู่หรานไปก็ไม่เป็นไรหากร้านค้านั้นใช้ชีวิตของเธอเพื่อคุกคามพวกคุณ และเป็นอันตรายต่อชีวิตของพวกคุณ”
  ชายวัยกลางคนพูดกับทั้งสามว่า“คุณทั้งสามเป็นคนสำคัญของตระกูล ไม่สามารถปล่อยให้อะไรเกิดขึ้นกับพวกคุณได้”
  พวกเขาทั้งสามดูดูเหมือนจะซาบซึ้งแน่นอนว่าภายในพวกเขามีความคิดที่แตกต่างกัน เขาสามารถเสียถังยู่หรานได้อย่างง่ายดายเพียงเพราะเธอมีค่าน้อยกว่าพวกเขา ไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์ของพวกเขาแนบแน่น
  ตระกูลถังไม่ได้ถูกสร้างขึ้นหรือดำรงอยู่บนความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดแต่เป็นเพราะผลประโยชน์ ผู้ที่มีประโยชน์ต่อตระกูลจะมีค่า
  คนที่ไร้ประโยชน์จะถูกทอดทิ้งแม้ว่าพวกเขาจะเป็นสายเลือดแท้ๆของตระกูลถังก็ตาม
  นั่นดูเหมือนเลือดเย็นแต่นั่นเป็นวิธีการของตระกูลถังมาโดยตลอด และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ตระกูลถังยังคงรุ่งเรืองได้
  การดำเนินตามความสัมพันธ์จะทำให้ตระกูลถังเสียหายในไม่ช้าเพราะคนไร้ประโยชน์จะครองตำแหน่งที่สูงเพียงเพราะพวกเขาเกิดในสายเลือดใกล้ชิดในขณะที่คนมีค่าจะต้องอยู่ที่ฐานล่างสุด ด้วยเหตุนี้แม้ว่าพวกเขาจะเข้าใจว่าหัวหน้าตระกูลกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ทั้งสามคนก็ยังรู้สึกดีใจเล็กน้อย
  ตระกูลที่พวกเขากลัวคือตระกูลที่ละทิ้งคนมีประโยชน์
  ตระกูลเหล่านั้นช่างปัญญาอ่อนจริงๆ!
  “ท่านไม่ต้องห่วง เราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อพาเธอกลับมา” ทั้งสามสัญญา
  ชายวัยกลางคนพยักหน้า
  ”งั้นเราจะออกเดินทางเดี๋ยวนี้ เนื่องจากเรากำลังจะสำแดงพลังอำนาจของเรา ผมอยากขอพากองทัพขนนกและกองทัพกลยุทธ์ไปด้วย!”หนึ่งในนั้นพูด
  “ได้” ชายวัยกลางคนพยักหน้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว