ตอนที่ 425 ทดสอบและ…ภารกิจ
พลังดวงดาวที่กลั่นโดยบททดสอบสวรรค์ลอยรอบใจกลางเหมือนหมอก
แต่กลุ่มหมอกเหล่านี้สามารถดึงพลังดวงดาวจากภายนอกซึ่งสามารถอำนวยความสะดวกแก่การบ่มเพาะของซูผิง
บททดสอบสวรรค์ไม่ใช่แค่ช่วยกลั่นพลังดวงดาวของซูผิงแต่ยังเป็นร่างกาย
เขายังอยู่ที่ระดับหนึ่งของกายแสงอาทิตย์แต่เขาสามารถบอกได้ว่าร่างกายเขาแข็งขึ้น
นี่แน่นอนใครก็ตามที่โดนฟ้าผ่าย่อมแข็งแกร่ง
ซูผิงไปฝึกกับเทพแท้จริงบางคนเพื่อทดสอบความสามารถเขา
หลังปะทะอย่างดุเดือดซูผิงก็สังเกตเห็นว่าเขาสามารถืร้ายคนอย่างนักรบอสูรในตำนานตัวจริงได้ตอนใช้แรงเต็มที่!
ถ้าเขาสามารถลอบโจมตีนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุดได้เขาจะฆ่าได้ในหมัดเดียว!
แต่เขาเป็นแค่ระดับเจ็ด
เขากำลังทดสอบพลังเขาและไม่ได้คำนวณพลังของอสูรตัวเองมาเป็นส่วนหนึ่ง
เวลาที่เขาทะลวงผ่านระดับแปดเขาสามารถใช้ทักษะที่ชื่อ’แบ่งปันความรู้สึก’ได้
ด้วยสัญชาตญาณซูผิงสามารถยืมการมองเห็นหรือการได้ยินของอสูร ซึ่งเพิ่มพลังของเขา!
ในไม่ช้ากว่าสิบวันก็ผ่านไป
มันถึงเวลาต้องออก
ซูผิงกลับไปร้านและวางอสูรที่ฝึกแล้วในคอกหรือพื้นที่เก็บของ
กว่าสิบวันได้ผ่านไปเขาต้องออกหลุมศพกึ่งเทพเพราะมีจำนวนอสูรจำกัดที่เขาสามารถพาเข้าไปได้ ซูผิงส่งเต่าดินกลับไปหลังการฝึกมันจบและหยิบเอาอสูรขั้นกลางตัวอื่นไปฝึกมืออาชีพ เมื่อเขาถึงระดับเจ็ด เขาสามารถพาอสูรไปได้มากขึ้น ตอนนี้ เขาสามารถเอาอสูรไปได้ถึงสิบตัว!
นั่นคือขีดจำกัดสูงสุดสำหรับระดับกิตติมศักดิ์
การทดสอบในสนามบ่มเพาะทำให้จิตวิญญาณของซูผิงแกร่งกล้าเขาไม่ได้เรียนทักษะที่เกี่ยวกับจิตวิญญาณ แต่ก็ดีขึ้นมากในด้านนี้
หนึ่งวันผ่านไปซูผิงไปอาบน้ำ โกนหนวดตามปกติ เขาเปลี่ยนเป็นชุดสะอาดและเรียกถังยู่หรานออกมา
สำหรับหยานปิงเยว่ซูผิงไม่นำเธอออกมา หยานปิงเยว่ไม่สามารถทำงานในร้านเขาได้ เขายังจำตอนเขาฆ่าคนใช้ของเธอได้ หยานปิงเยว่กับถังยู่หรานนั้นต่างกัน คนแรกเกลียดเขาเข้าไส้
หยานปิงเยว่พยายามซ่อนความเกลียดชังและจิตสังหารแต่ซูผิงสัมผัสได้ดี
เขาไม่คิดสนใจเรื่องนี้โดยธรรมชาติ เขาไม่มองว่ามันเป็นภัยคุกคามเลย
แต่ซูผิงก็ไม่มีแผนฆ่าเธอ
เขาเก็บเธอไว้ในม้วนภาพในอนาคต เมื่อเขาตั้งฐานชั่วคราวเพื่อปลูกพืชในสนามบ่มเพาะบางแห่ง เขาสามารถเรียกให้เธอมาเฝ้าได้
กล่าวอีกนัยหนึ่งเขาจะขังเธอไว้ตลอดชีวิต ไม่ให้เธอเห็นแสงตะวันอีก
มันฟังดูโหดร้ายแต่นี่คือโลกแห่งความเป็นจริง เมื่อพวกเขาเป็นศัตรูกัน มันไม่มีคำว่าโหดร้าย
เมื่อถังยู่หรานไปล้างหน้าล้างตาซูผิงก้ได้ยินเสียงคุยกันนอกร้าน เขาเปิดประตู
มีทะเลผู้คนด้านนอก
มันยังเช้าแต่มีคนจำนวนมากมารอกันแล้ว
เมื่อรัฐบาลเลิกปิดถนนลูกค้าหลายคนจึงมา นอกจากนี้ รัฐบาลยังส่งเสริมร้านของซูผิง ถนนนี้จึงครึกครื้นสุดในเมือง
ลูกค้าเก่าบางคนดีใจที่เห็นซูผิงในที่สุดเขาก็เปิดประตู!
หลังเจอฉากเช่นนั้นคนจำนวนมากจึงไม่กล้าจ้องซูผิงนาน เขาเดินกลับไปเคาน์เตอร์อย่างสงบ ถังยู่หรานออกมา เธอไม่ได้แต่งหน้า แต่แก้มกลับเป็นสีกุหลาบ เธอเกิดมาเป็นสาวงาม
ลูกค้าหลานคนไม่สามารถละสายตาจากเธอได้
ผู้ชายบางคนยังแกล้งทำเป็นอายทำเหมือนกำลังเบือนหน้าหนี ถังยู่หรานชินกับตัวตนใหม่เธอแล้ว ช่างเป็นวันที่สดใสอีกวัน
เธอสวมรอยยิ้มอบอุ่นทักทายลูกค้า
”เห้สาวน้อย เธอชื่ออะไร?ฉันขอเบอร์ได้ไหม?”
”นี่เบอร์ฉัน”
”คนสวยแบมือสิ ฉันมีอะไรจะให้…เธอจะยอมรับฉันไหม?”
แกร๊ก!
เสียงกระดูกหัก
ถังยู่หรานถามอย่างอ่อนโยน”พูดอีกครั้งสิ?”
พวกหน้าหม้อที่เข้าไปคุยกับถังยู่หรานก่อนโดนจัดการ
ลูกค้าเก่าที่ชินกับภาพนี้ลิงโลดพวกเขาเองก็เคยผ่านเรื่องนี้มาก่อน
ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งกับเธออีก
กุหลาบมีหนามแต่กุหลาบดอกนี้ไม่เพียงมีหนามเยอะ แต่มันยังแหลมมาก!
คนที่ได้รับการสั่งสอนยืนตัวตรงในแถวทำตัวดี เดินตามคำพูดของถังยู่หราน
ซูผิงไม่สนใจ’ปฏิสัมพันธ์’ระหว่างถังยู่หรานกับลูกค้า
ปฏิสัมพันธ์สามารถทำให้บรรยากาศมีชีวิตชีวาได้
ซูผิงรับอสูรของลูกค้ามาทีละตัว
ลูกค้าบางคนมารับอสูรและออกไปทันทีแต่เมื่อมีคนอยากทดสอบ ถังยู่หรานก็จะพาพวกเขาไปห้องทดสอบ
มีคนเข้ามามากขึ้นซูผิงตระหนักว่าเขาขาดคน
ถังยู่หรานโดนห้อมล้อมเธอทักทายลูกค้า พาพวกเขาไปห้องทดสอบ หรือรับคำสั่งซื้อที่ประตูเหมือนคนคุ้มกัน
โจแอนนาคือพนักงานของเชาเช่นกันแต่ซูผิงต้องให้เธอจัดการอสูรและวางพวกมันในพื้นที่เก็บของเหนือสิ่งอื่นใด ซูผิงไม่สามารถทำให้อสูรหายไปต่อหน้าลูกค้าได้ นั่นคือความลับของร้านค้าและมันคงน่าตกใจเกินกว่าจะรู้ เพราะแม้กระทั่งนักรบอสูรระดับตำนานก็ทำเช่นนี้ไม่ได้
ซูผิงสังเกตเห็นลูกค้าหลายคนคือคนหนุ่มสาวจากห้าตระกูลใหญ่
เขาไม่รู้จักอีกฝ่ายแต่อีกฝ่ายกลับขานชื่อตัวเองตอนถึงคิวและระบุว่ามาจากตระกูลไหน
มันเห็นได้ชัดว่าพวกเขาโดนส่งมาสนับสนุนธุรกิจของซูผิง
ซูผิงพยักหน้า
สำหรับรางวัลของการประพฤติเช่นนี้ซูผิงคิดว่าเขาจะไม่รังแกอีกฝ่าย
ไม่นานซูผิงก็เห็นฉินชูไห่ เขาผสมกับฝูงชน ทำตัวไม่โดดเด่น
บางคนจากตระกูลใหญ่จำเขาได้แต่ก็กลัวที่จะพูดกับเขา
มันคือคราวของฉินชูไห่เขาพูดกับซูผิงอย่างตื่นเต้น”น้องซู ร้านของนายเป็นที่นิยมมาก!”เขาจ่ายให้ซูผิงไปร้อยล้านเมื่อวานแต่ก็กลับไปบ้านและบอกผู้นำตระกูลถึงชื่อของหญิงสาวลึกลับ ผู้นำตระกูลจึงชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดโดยไม่ลังเล
”เกรงว่าจะเป็นงั้น”ซูผิงพูด”รอก่อนผมจะไปเอาอสูรมา”
ฉินชูไห่พยักหน้า
ขณะที่ซูผิงยุ่งในร้านฉิงชูไห่กลับไม่รู้สึกอิจฉาเลย ฉินชูไห่ตั้งใจจะเป็นนักรบอสูรระดับตำนาน การทำธุรกิจเป็นเรื่องของสามัญชน เขาสามารถทำเงินได้แต่แล้วไง?
ฉินชูไห่ไม่เข้าใจว่าทำไมซูผิงถึงอยากเสียพรสวรรค์ของเขาตอนยังหนุ่ม
ซูผิงบอกโจแอนนาให้ไปเอาเต่าดินมาเขาต้องยอมรับว่าโจแอนนาเป็นผู้ช่วยที่ดี ถังยู่หรานอาจไม่สามารถสั่งการอสูรระดับเก้าอย่างเต่าดินที่เขาฝึกได้
ในไม่ช้าเต่าดินก็ก้าวออกจากห้องอสูร
.อะไรกัน?
ฉินชูไห่แปลกใจกับสภาพของเต่าดิน
มีหนามบนหลังมันทำไม?
ฉินชูไห่รีบตรวจสอบจิตสำนึกเขาเขาสามารถรู้สึกได้ถึงพันธะ
ถ้ามันไม่ใช่เพราะสิ่งนี้เขาคงสงสัยว่าซูผิงได้สลับอสูรของเขา
แต่เต่าดินดูแปลก
ฉินชูไห่กังวลเขาได้ยินว่ามีวิธีการฝึกเร่งรัดบางอย่างที่คนจะฉีดยาพิษให้อสูรเพื่อกระตุ้นการกลายพันธุ์ หรือซูผิงจะทำแบบนั้นในร้าน?
แต่ยาพิเศษแบบนี้มักมีผลข้างเคียงรุนแรง
ฉินชูไห่เต็มไปด้วยความรู้สึกซับซ้อน
เต่าดินคลานไปทางเคาน์เตอร์ซูผิงหยิบบันทึกที่เขาแตะไว้บนหัวของเต่าดินและพูดกับฉินชูไห่”คุณสามารถตรวจสอบได้ ถ้าอยากคุณควรไปห้องทดสอบ เต่าดินของคุณในตอนนี้ควรมีพลังเทียบเท่าระดับเก้าขั้นสูงแล้ว”
ฉินชูไห่อ่านบันทึกยืนนิ่งหลังได้ยิน
ฉินชูไห่เห็นรายชื่อทักษะมากมายบนบันทึก
เต่าดินของฉัน..เรียนทักษะเหล่านี้จริง?!
นั่นเป็นไปไม่ได้มันผ่านไปแค่คืนเดียว เขาเชื่อการเพิ่มพลัง แต่การเรียนทักษะไม่สามารถทำได้ผ่านยาพิเศษ!
ฉินชูไห่มองซูผิงจากนั้นก็โจแอนนาที่ยืนหลังเต่าดิน เขาจึงสวมรอยยิ้ม”ท่านหญิงโจแอนนา ยินดีที่ได้พบครับ น้องซู อย่าคิดมาก ฉันเชื่อนายอยู่แล้ว ฉันไม่ต้องการทดสอบอะไร”
ซูผิงไม่อธิบายฉินชูไห่น่าจะไปหาสถานที่ทดสอบด้านนอกเอง ยังไงก็ตาม ซูผิงได้ทำสิ่งที่ควรทำไปแล้ว
”เอาล่ะถ้าไม่มีอะไรแล้วก็เก็บอสูรของคุณไปได้ คุณควรแนะนำคนรวยให้ผมเพิ่มถ้าชอบผลลัพธ์”
ฉินชูไห่คือตัวเชื่อมต่อเขากับชนชนั้สูง
ธุรกิจของเขาจะดีขึ้นถ้านักรบอสูรกิตติมศักดิ์มากัน
เหนือสิ่งอื่นใดอสูรขั้นสูงตัวหนึ่งที่รับการฝึกมืออาชีพจะเท่ากับการฝึกอสูรขั้นต่ำทั่วไปร้อยตัว
เพราะระบบซูผิงจึงไม่มีสิทธิ์เลือกลูกค้า ดังนั้น เพื่อให้ทำเงินได้มากขึ้น เขาต้องดึงดูดลูกค้ารายใหญ่!
”ได้ได้ ฉันจะแนะนำคนให้นายทีหลัง”ฉินชูไห่รับปาก มันไม่เหมือนเขามีทางเลือกอื่น
แต่เขาไม่พอใจอยู่ข้างใน
ฉิงชูไห่รีบออกไปหลังสัญญากลัวว่าซูผิงจะขออะไรอีก
เขาตรงกลับไปตระกูลฉินและตรงไปลานต่อสู้
เขาเรียกผู้อาวุโสตระกูล
”อยากทดสอบ?”
”ใช่ไม่มีอะไรจริงจัง”ฉินชูไห่พูด เขาตรงเข้าข้างใน เรียกเต่าดินและรอให้ผู้อาวุโสมาถึง
กลับไปในร้าน
ซูผิงได้รับลูกค้ามากมายหลังฉินชูไห่ไป
ก่อนเขาจะปิดประตูเขาบอกโจแอนนาว่าให้เธอจัดการดูแลร้านเพราะเขาจะไปสมาคมผู้ฝึกสอนเพื่อทำภารกิจ เขาผูกขาดที่นี่และไม่มีใครแข่งขันกับเขาได้แล้ว เขาจึงอยากตรงไปทำภารกิจ
เทียบกับรายได้ของแต้มพลังงานซูผิงต้องการหนังสือทักษะกว่า
เหนือสิ่งอื่นใดหนังสือทักษะบางอย่างไม่สามารถหาได้ในร้านค้าระบบ
เขาต้องโชคดีมากถึงเจอพวกมัน
ต่อให้เจอราคาก็คงสูงมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว