ตอนที่ 426 ออกเดินทาง
ในฐานะพนักงานโจแอนนาสามารถดูแลร้านแทนซูผิงได้
ตัวอย่างเช่นการรับลูกค้าและการเก็บค่าบริการ
สำหรับการฝึกอสูร
โจแอนนาไม่ได้รับอนุญาตให้ไปที่สนามบ่มเพาะด้วยตัวเองซูผิงต้องเป็นคนพาเธอไปที่นั่น
แต่โจแอนนาสามารถช่วยซูผิงใช้หุ่นฝึกซ้อมได้
ซูผิงจำเป็นต้องเลือกสนามบ่มเพาะสำหรับการฝึกหุ่นก่อนที่เขาจะออกไป โจแอนนาสามารถเลือกอสูรจากพื้นที่เก็บของ และใส่ตัวใหม่เข้าไป ด้วยวิธีนี้เมื่อซูผิงไม่อยู่โจแอนนาก็ยังคงดำเนินการต่อได้ แม้ว่าเธอจะทำได้เพียงการฝึกทั่วไป แต่การทำเงินได้ย่อมดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ซูผิงบอกโจแอนนาทุกอย่างที่เธอต้องรู้ จากนั้นเขาก็มองไปที่ถังยู่หราน คราวนี้เขาไม่ได้ส่งเธอกลับเข้าไปในม้วนภาพ โจแอนนาจะยุ่งเกินไปถ้าต้องทำทุกอย่างคนเดียว
“อย่าลืมออกไปช่วยโจแอนนา”ซูผิงพูดกับถังยู่หราน ถังยู่หรานมีความสุขมากที่เธอไม่ต้องเข้าไปในม้วนภาพ เธอพยักหน้า
นับตั้งแต่ที่เธอเห็นโจแอนนาแสดงทักษะถังยู่หรานก็ไม่เคยกล้าเถียงเธออีกเลย
ซูผิงไม่มีความกังวลที่ต้องฝากร้านไว้กับสองสาวโจแอนนาเป็นผู้ปกครองในหลุมศพกึ่งเทพ และเธอเป็นผู้จัดการที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เธอดูแลร้านให้เขามามากเกินพอแล้ว
ในระหว่างทานอาหารกลางวันซูผิงกลับบ้าน บอกกับแม่และและซูหลิงเยวี่ยว่าเขาจะไม่อยู่บ้าน
เขาบอกว่าเขาจะไปนานสุดห้าวัน
เขาบอกว่าห้าวันเพราะเขามีเวลาเจ็ดวันในการทำภารกิจให้เสร็จและนี่ก็ผ่านมาแล้วสองวัน
ซูหลิงเยวี่ยอยากรู้มากกว่านี้แต่เธอก็ไม่ได้ถามคำถามมากมาย เธอรู้ว่าซูผิงไม่ใช่เด็กผู้ชายที่เธอเคยรู้จัก เขาถูกลิขิตให้ทำบางสิ่งที่เธอไม่สามารถเข้าไปเกี่ยวข้องได้
หากเธอต้องการมีส่วนร่วมเธอจะต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อที่จะตามเขาให้ทัน
สำหรับแม่ของเขาหลี่ฉิงรู่ต้องการถามรายละเอียดแต่ซูผิงก็ตอบเธอแล้ว
แน่นอนว่าซูผิงไม่เบื่อกับเรื่องนั้นหลี่ฉิงรู่ถามเพียงเพราะเธอเป็นห่วง
หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จซูผิงก็พร้อมที่จะไป
เขาบอกลาโดยไม่รอช้า
เขาขึ้นรถไฟใต้ดินไปยังเมืองฐานที่สมาคมผู้ฝึกสอนแห่งอนุทวีปตั้งอยู่
สำหรับสาเหตุที่เขาไม่เลือกวิธีที่เร็วกว่าอย่างการขี่อสูรเหตุผลง่ายๆก็คือเขาไม่รู้ทาง
ซูผิงมักจะอยู่ในเมืองฐานเขาไม่เคยไปเมืองฐานอื่น ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาในยุคนี้
มีเพียงแค่คนที่มีความกระตือรือร้นเท่านั้นที่จะไปเมืองฐานต่างๆ
ประชาชนทั่วไปสามารถเดินทางไปยังเมืองฐานอื่นๆ ได้เช่นกันโดยใช้รถไฟใต้ดิน แต่คนส่วนใหญ่จะเลือกอยู่ในเมืองฐานที่พวกเขาเกิด อีกอย่างรถไฟใต้ดินก็ไม่ปลอดภัยนัก จะมีอุบัติเหตุบางอย่างทุก ๆ สองสาม มีทั้งคนเจ็บและเสียชีวิต
เป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกันอสูรร้ายที่วิ่งอยู่ใต้ดินได้อย่างมีประสิทธิภาพหลังจากที่หลี่ฉิงรู่รู้ว่าซูผิงกำลังไป ในวันนั้นเธอก็เตรียมเสื้อผ้าพร้อมกับอาหารและขนมและใส่กระเป๋าเป้ให้เขา
เนื่องจากเธอได้เตรียมตัวอย่างละเอียดแล้วซูผิงจึงไม่สามารถปฏิเสธได้ เขาสะพายกระเป๋าเป้
”ได้เวลาต้องไปแล้ว”
ซูผิงบอกลาแม่ของเขาและและซูหลิงเยวี่ยนี่เป็นครั้งแรกที่ซูผิงจะเดินทางไกล ด้วยความเป็นห่ว พวกเธอจึงอยากไปส่งซูผิงสถานี แต่เขาปฏิเสธ
นี่เป็นเพียงการเดินทางครั้งเดียวเขาไม่กลัวแม้ว่าเขาจะไม่เคยไปเมืองฐานอื่น เขาสามารถไปทั่วโลกได้ด้วยความแข็งแกร่งตอนนี้
แต่เขายังคงเป็นเด็กในสายตาของแม่ไม่ว่าเขาจะอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์หรือไม่ก็ตาม
ซูผิงบอกให้ซูหลิงเยวี่ยห้ามแม่เขาเรียกรถแท็กซี่แล้วออกไป
รถไฟใต้ดินข้ามเมืองอยู่ในบริเวณที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดมีเพียงสถานีเดียวในพื้นที่ย่านเมืองทรุดโทรมทั้งหมด ซูผิงนั่งรถแท็กซี่เป็นเวลาสองชั่วโมงก่อนที่เขาจะมาถึงสถานีในเขตจันทร์เสี้ยว ที่นี่ยังคงเป็นพื้นที่ย่านเมืองทรุดโทรมแต่โครงสร้างพื้นฐานค่อนข้างดีคล้ายกับพื้นที่ทางตอนเหนือของเมือง มีอาคารสูงตระหง่านมากมาย และถนนก็สะอาดและเรียบร้อย
ซูผิงเห็นนักเดินทางหลายคนถือกระเป๋าใบใหญ่พวกเขาส่วนใหญ่เป็นคนที่ไม่มีพลังดวงดาว นักเดินทางบางคนอยู่กันเป็นกลุ่มและพวกเขามีพลังดวงดาว ดูเหมือนว่าคนเหล่านั้นเป็นนักผจญภัยที่กำลังจะไปหาเลี้ยงชีพในเมืองฐานอื่น
ซูผิงสวมหน้ากากปลอมตัวเขามีชื่อเสียงในเมืองฐานหลงเจียง เขาอาจทำให้ผู้คนวุ่นวายถ้าเขาเปิดเผยใบหน้าของเขา
เขาดินตามฝูงชนมาถึงบูธจำหน่ายตั๋วชั้นใต้ดิน
มีโปสเตอร์อยู่สองข้างทางเดินซูผิงเห็นโปสเตอร์ของซูหลิงเยวี่ยและอสูรมังกรจันทราเหมันต์ของเธอ
อิทธิพลของลีกนักรบยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องซูผิงเห็นว่ามีตั๋วหลายประเภท เบาะนั่งแบบแข็ง เบาะนอนนุ่ม ห้องโดยสารแบบห้องนอนเดี่ยว และห้องโดยสารส่วนตัว
ราคาสำหรับเบาะแข็งและเบาะนอนนุ่มมีตั้งแต่ไม่กี่ร้อยถึงหลายพันคนธรรมดาและชนชั้นสูงทั่วไปสามารถจ่ายได้ แต่ห้องโดยสารแบบห้องนอนเดี่ยวมีราคาแพง ราคามากกว่าหนึ่งแสนเหรียญรัฐบาลกลาง!
แน่นอนราคาแตกต่างกันไปตามระยะทาง
ส่วนห้องโดยสารส่วนตัวนั้นมีราคาหลักล้าน!
ซูผิงไม่คิดว่าคนทั่วไปจะต้องการใช้เงินจำนวนมากในการเดินทางครั้งเดียว
แม้กระทั่งเขาก็ยังคิดว่ามันเกินไปใครจะใช้เงินเป็นล้านเพื่อนั่งรถไฟ?
แน่นอนว่านอกเหนือจากความสะดวกสบายในห้องโดยสารส่วนตัวแล้วพวกเขายังได้รับประโยชน์อีกอย่าง วัสดุก่อสร้างของห้องโดยสารแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่นห้องโดยสารส่วนตัวทั้งหมดทำจากโลหะผสมพิเศษที่สามารถป้องกันได้ในระดับสูง แม้แต่ระเบิดก็ไม่สามารถทำลายห้องโดยสารส่วนตัวเหล่านั้นได้ โดยปกติแล้วห้องโดยสารส่วนตัวสามารถรอดจากการโจมตีของอสูรร้ายระดับแปดได้
อสูรร้ายระดับแปดสามารถทำให้ห้องโดยสารส่วนตัวตกรางได้แต่ตัวห้องโดยสารเองจะไม่ถูกฉีกออก ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุคนที่อยู่ในห้องโดยสารส่วนตัวจะมีโอกาสรอดสูงกว่า
ซูผิงเชื่อว่าห้องโดยสารส่วนตัวเหล่านั้นเตรียมไว้สำหรับคนร่ำรวยที่ไม่ใช่นักรบอสูร
ท้ายที่สุดแล้วนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ที่สามารถจ่ายเงินเป็นล้านเพื่อซื้อตั๋วรถไฟจะไม่ได้รับอันตรายใดๆ แม้ว่าพวกเขาจะต้องเจอกับอสูรร้ายระดับเก้าก็ตาม คนเหล่านั้นไม่ต้องการห้องโดยสารส่วนตัวเพื่อปกป้องตัวเอง
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาซูผิงจึงเลือกขบวนห้องโดยสารแบบห้องนอนเดี่ยว
ในหนึ่งขบวนมีห้องหลายห้องที่เป็นเตียงเดี่ยว ด้วยวิธีนี้เขาสามารถใช้เวลาในห้องเพื่อบ่มเพาะขณะที่เขาอยู่บนรถไฟ
เขาไม่เดือดร้อนเรื่องเงินแต่ในขณะเดียวกันการใช้เงินหนึ่งล้านเพื่อขบวนโดยสารส่วนตัวนั้นสิ้นเปลืองไป
“คุณค่ะ นี่ตั๋วค่ะ”
พนักงานขายตั๋วหญิงที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ยิ้มหวานขณะที่เธอให้ตั๋วแก่ซูผิง
ซูผิงรับตั๋วเป็นสีน้ำเงินเข้มและมีพื้นผิวที่สวยงาม เขาเห็นตั๋วที่คนอื่นถืออยู่ ตั๋วเหล่านั้นบางเหมือนกระดาษและงอได้ง่ายๆ
ซูผิงไปหาห้องรอตามข้อมูลบนตั๋วห้องรอสำหรับผู้โดยสารของห้องโดยสารห้องนอนเดี่ยวมีผู้คนพลุกพล่านน้อยกว่าห้องรอทั่วไปอื่น ๆ สภาพแวดล้อมดีกว่า และมีโซฟาให้ด้วย
ซูผิงมองไปรอบๆ คนที่อยู่ที่นี่มีทั้งนักรบอสูร หรือคนธรรมดาที่แต่งตัวหรูหรา
ซูผิงเจอที่ว่างและนั่งลงหลับตาเพื่อพักผ่อน
ในไม่ช้าเขาก็ได้ยินเสียงที่เกิดจากกระแสลมดังเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยซูผิงลืมตาขึ้น เขาเห็นลำแสงสองลำแสงผ่านกระจกกันกระสุนโปร่งใส ขณะที่พวกมันเคลื่อนเข้ามาใกล้ในอุโมงค์มืด
รถไฟมาแล้ว
ซูผิงขึ้นรถไฟอย่างอยากรู้อยากเห็น
มันเหมือนรถไฟใต้ดินแต่มีบางอย่างที่แตกต่างออกไป หัวขบวนเป็นใบหน้าของอสูรร้าย ในตอนนั้น ราวกับว่าหัวของอสูรร้ายได้รับการปลูกถ่ายโดยตรงบนรถไฟ
รางรถไฟค่อนข้างกว้าง
มีเซ็นเซอร์พิเศษบนล้อหากไม่มองดีๆ อสูรต่างๆจะถือว่ารถไฟเหล่านี้เป็นอสูร และจะหลบหนีโดยสัญชาตญาณ
รถไฟเข้ามาในสถานีและหยุด
ซูผิงเห็นห้องโดยสารบางห้องแออัดและบางห้องแคบ
เขาตระหนักว่าเขาสามารถมองทะลุบางห้องได้แม้แต่ภาพความร้อนของผู้คนที่อยู่ภายในเขาก็สามารถมองเห็นได้
แต่มีห้องโดยสารบางห้องที่เขามองไม่เห็นวัสดุของห้องโดยสารเหล่านั้นต้องมีความพิเศษ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว