ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 468

ตอนที่ 468 การโจมตีของอสูร
  ไม่มีเมฆสักก้อนบนท้องฟ้าสีคราม
  สูงเหนือท้องฟ้ามีร่างมหึมายาวกว่าสิบเมตรกำลังบินผ่านมันเป็น นกเขี้ยวดาบระดับเก้า และบนหลังของมันมีคนนั่งอยู่สามคน
  ชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่บนคอของนกขณะที่ด้านหลังเขาเป็นชายและหญิง ซึ่งคือซูผิงและจงหลิงถงที่กำลังจะกลับไปที่เมืองฐานหลงเจียง
  ชายชราเป็นผู้อาวุโสจากตระกูลจงซึ่งเป็นนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ขั้นกลาง เขาได้รับคำสั่งให้พาซูผิงและจงหลิงถงกลับไป “อาจารย์…”
  เนื่องจากเธอนั่งข้างซูผิงจงหลิงถงรู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อย เธออยากรู้เรื่องเกี่ยวกับอาจารย์หนุ่มที่เธอเพิ่งจะมาเป็นศิษย์ แต่เธอกลัวที่จะถามคำถาม
  ตัวอย่างเช่นคุณดูเด็กมากคุณอายุเท่าไหร่?
  นอกจากนี้คุณเรียนรู้ด้วยตนเองใช่ไหม?มีอาจารย์หรือไม่? อาจารย์ของคุณยังมีชีวิตอยู่ไหม?
  เธอไม่รู้เกี่ยวกับอารมณ์ของซูผิงและเธอต้องกดคำถามทั้งหมดให้อยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ เธอรู้สึกว่าตัวเองหายใจแทบไม่ออก หลังจากลังเลใจเธอก็เริ่มเรียกความกล้า “ อาจารย์คะ คุณมีศิษย์คนอื่นไหม?”
  “ไม่มี” ซูผิงกล่าว
  นั่นเป็นคำตอบสั้นๆ …
  จงหลิงถงพูดไม่ออกเธอพยายามอย่างมากเพื่อเรียกความกล้า และคำตอบกลับมีเพียงคำเดียว
  กลัวดอกพิกุลจะร่วงหรือไง!
  จงหลิงถงก้มหัวลงเธอขยำปลายเสื้อ ดวงตาของเธอเริ่มมีน้ำใสๆ
  ชายชราที่นั่งอยู่บนคอของนกหันกลับมาและแจ้งซูผิงด้วยความเคารพ“อาจารย์ซู เราจะถึงเมืองฐานหลงเจียงในไม่ช้า”
  ซูผิงพยักหน้า
  โฮก!!
  ทันใดนั้นเสียงร้องอย่างดุเดือดก็ดังมาจากข้างหน้า
  เสียงคำรามดังมากจนทั้งสามคนได้ยินแม้จะบินอยู่เหนือพื้นดินหลายพันเมตรจงหลิงถงและชายชราคนนั้นก้มหน้างุดด้วยความตกใจ พวกเขาเห็นว่ามีคนหลายสิบคนถูกไล่ล่าโดยฝูงอสูรร้ายบนพื้นดิน อสูรร้ายขนาดใหญ่สองตัวดูเหมือนจะดุร้าย และแข็งแกร่ง
  “ผมไม่คิดว่าพวกเขาเป็นนักสำรวจ”
  ชายชราตกใจมากที่เห็นผู้หญิงเด็ก และคนอ่อนแออื่น ๆ อยู่ในฝูงชน นักรบอสูรบางคนได้สร้างม่านพลังเพื่อปกป้องผู้คนทั่วไปที่ไม่ได้บ่มเพาะ
  ไม่มีนักสำรวจที่ออกไปล่าอสูรคนใดจะพาคนทั่วไปร่วมเดินทาง
  “อาจารย์ซู…”
  ชายชราตั้งใจจะถามซูผิงว่าเขาเต็มใจช่วยไหม
  “ลงไปที่นั่น” ซูผิงพูดทันที
  เขายืนอยู่บนอานราวกับว่ามีพลังแม่เหล็กดึงเท้าของเขาไปที่อานชายชราบังคับนกให้บินลงไป ซูผิงก้มหน้า ลมพัดผมของเขาตั้งขึ้น
  “ดูแลศิษย์ของผมด้วย” ซูผิงร้องขอ เขาระดมพลังดวงดาวของเขา และบินลงไปทั้งที่เขาอยู่ห่างจากพื้นดินถึงหนึ่งพันเมตร
  คำเตือนของซูผิงสร้างความประหลาดใจให้กับจงหลิงถงทันใดนั้นเธอก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วหัวใจของเธอ
  หวีด!
  ซูผิงรีบไปที่พื้น
  เขาสามารถเห็นได้ว่าฝูงอสูรร้ายที่กำลังโจมตีฝูงชนนี้มีอสูรร้ายระดับเก้าสองตัวซูผิงพุ่งใส่วัวเสาระดับเก้า
  หวีด!
  เขาดิ่งลงพื้นราวกับดาวตกนักรบอสูรบางคนที่จัดการกับอสูรร้ายต่างก็รู้สึกประหลาดใจที่เห็นนักรบอสูรกิตติมศักดิ์กำลังลอยลงมาจากท้องฟ้า
  วัวเสาคำรามชั้นของเกราะสีเหลืองเหมือนดินปรากฏขึ้นเหนือตัวของมัน ขณะที่มันปัดนักรบอสูรคนหนึ่งออกไป
  เมื่อรู้สึกถึงอันตรายวัวเสาจึงเงยหน้าขึ้น ภาพของชายคนหนึ่งเข้าสู่สายตามัน
  โฮก!!
  ด้วยความโกรธวัวเสากระทืบพื้น หนามแหลมจำนวนมากพุ่งออกมา และหนามแหลมก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเหนือหัวของมัน!
  มาเลย!
  ซูผิงไม่ได้ชะลอเขาตั้งหมัด!
  เมื่อเทียบกับวัวเสาแล้วซูผิงเป็นคนตัวเล็ก ๆ มันเหมือนกับว่าหินก้อนเล็ก ๆ กำลังจะตกลงไปบนก้อนหินก้อนใหญ่
  อย่างไรก็ตามในวินาทีถัดมาพร้อมกับเสียงแตกดังและพื้นสั่นสะเทือน วัวเสาที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ยอดแหลมกำลังหวาดกลัว หมัดของซูผิงบดขยี้ลงบนหัววัวเสา ร่างของมันหลุดออกเป็นชิ้น ๆ เกิดเป็นหลุมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่าสิบเมตรปรากฏขึ้นที่พื้น!
  ตายคาที่
  ซากของวัวเสากระจัดกระจายไปทั่วสถานที่ซูผิงลอยนิ่งอยู่เหนือตำแหน่งที่วัวเสาอยู่ เขาไม่ได้พัก ซูผิงรีบบินขึ้นไปบนอากาศเพื่อจัดการกับอสูรร้ายระดับเก้าอีกตัว
  หวีด!
  เสียงหวีดในอากาศแจ้งเตือนอสูรระดับเก้าที่กำลังต่อสู้กับอสูรต่อสู้ของเหล่านักรบอสูรอสูรร้ายหันมา เห็นว่ามนุษย์กำลังมุ่งหน้ามาทางมัน พร้อมศพของเพื่อนมันด้านล่าง
  มุมมองนั้นคุกคามอสูรร้ายอย่างมากตาย!
  ซูผิงรีบบินไปที่อสูรร้ายและปล่อยหมัด!
  ปัง!!
  ซูผิงกระแทกอสูรที่มีลักษณะคล้ายเนินเขาออกไปซึ่งแทบหมดลมหายใจ
  อสูรตัวอื่นกรีดร้องและวิ่งเตลิดไปเมื่อจ่าฝูงพวกมันถึงคราวเคราะห์
  มันเกิดขึ้นเร็วมากจนเหล่านักรบอสูรหลายคนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นคนที่พวกเขาปกป้องในม่านพลังตกใจมากจนอ้าปากค้าง
  ภายในพริบตาอสูรร้ายระดับเก้าตัวหนึ่งตายและอีกตัวบาดเจ็บหนัก!
  ไม่มีใครสามารถเปล่งเสียงได้ขณะที่พวกเขามองชายหนุ่มในอากาศ
  ”เป็นคุณนั้นเอง…”
  ในฝูงชนชายวัยกลางคนคนหนึ่งไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เขาเพิ่งเห็นด้วยตาตัวเอง
  ซูผิงหันไปหาชายที่พูดคำนั้นบุคคลนั้นดูคุ้นเคย หลังจากนึก เขาก็จำได้ว่านี่คือนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ซึ่งได้ช่วยเขาให้เขาได้ขี่อินทรีสิงโตเพื่อไปยังเมืองฐานแสงศักดิ์สิทธิ์
  ”คุณ?”ซูผิงเลิกคิ้ว “ คุณคงไม่บอกว่ารถไฟใต้ดินถูกโจมตีอีกแล้วหรอกใช่ไหม?” ซูผิงมองไปรอบ ๆ
  อู่เทียนหมิงบินไปหาซูผิงเขายังจำชายหนุ่มคนนี้ที่ชกนักรบอสูรกิตติมศักดิ์จนตายได้ แต่เขาไม่รู้ว่าซูผิงน่ากลัวขนาดนี้ สิ่งต่างๆชี้ให้เห็นว่าซูผิงอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุดเนื่องจากเขาสามารถกำจัดอสูรร้ายสองตัวที่ระดับเก้าขั้นสูงสุดได้อย่างง่ายดาย!
  “ขอบคุณมากนะครับ” อู่เทียนหมิงแสดงความขอบคุณทันที ด้วยความอาย เขายิ้มอย่างฝืน ๆ และพูดต่อว่า“ ที่จริงเราถูกโจมตีอีกแล้ว อสูรมีจำนวนมากขึ้นในช่วงปลายปี เมื่อพิจารณาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ผู้นำกำลังคิดที่จะปิดเส้นทางนี้และเปิดอีกครั้งหลังจากที่อสูรร้ายทั้งหมดถูกกำจัดแล้ว ”
  ซูผิงไม่รู้จะพูดอะไรเป็นเรื่องจริงที่เส้นทางรถไฟใต้ดินอาจถูกโจมตีด้วยอสูรร้าย แต่จะเกิดขึ้นเพียงครั้งหรือสองครั้งต่อปี อย่างไรก็ตาม เขาได้เผชิญกับการโจมตีถึงสองครั้งระหว่างทางไปและกลับ ภายในหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น
  มันเป็นเขาหรืออสูรร้ายที่โชคไม่ดี?
  ซูผิงโบกมือ“ โอเค ผมไปล่ะ”
  เมื่อพูดอย่างนั้นเขาก็บินกลับไป
  สูงขึ้นไปในอากาศทั้งจงหลิงถงและผู้อาวุโสตระกูลจงต่างตกตะลึง พวกเขาทั้งคู่ตระหนักดีว่าซูผิงอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ แต่ทั้งคู่คิดว่าเขาใช้สมุนไพรพิเศษ พวกเขาไม่รู้ว่าซูผิงจะแข็งแกร่งขนาดนี้ ข่าวลือที่พวกเขาได้ยินดูเหมือนจะเป็นความจริง คุณซูอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุด!
  ผู้อาวุโสตระกูลจงจ้องมองซูผิงด้วยความเคารพระหว่างระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุดกับระดับตำนาน มันห่างเพียงก้าวเดียวเท่านั้น!
  ซูผิงเป็นนักรบอสูรกิตติมศักดิ์และเป็นผู้ฝึกสอนชั้นนำ ถ้าเขาสามารถก้าวไปสู่ระดับในตำนาน นั่นจะไม่เท่ากับว่าเขามีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นผู้ฝึกสอนจิตวิญญาณเทวะในภายหลังงั้นเหรอ?
  ไม่น่าแปลกใจที่หัวหน้าตระกูลจะเตือนหญิงสาวครั้งแล้วครั้งเล่าให้ประพฤติและเรียนรู้จากคุณซูให้ดีปรากฎว่าหัวหน้าตระกูลรู้แล้วเกี่ยวกับศักยภาพของคุณซู เขาอาจจะกลายเป็นผู้ฝึกสอนจิตวิญญาณเทวะในอนาคต! ผู้อาวุโสตระกูลจงคิด เขารีบขี่ไปยังทางที่ซูผิงอยู่
  ซูผิงนั่งลงบนอาน”ไปกันเถอะ”
  การจัดการกับอสูรร้ายระดับเก้าสองตัวนั้นง่ายมากเขาไม่จำเป็นต้องหยุดหายใจด้วยซ้ำ
  ความสงบของซูผิงทำให้ผู้อาวุโสตระกูลจงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายเขารีบบินจากไป
  บนพื้นดินอู่เทียนหมิงนักรบอสูรคนอื่น ๆ และคนธรรมดาเฝ้ามองซูผิงจากไป บางคนถึงกับคุกเข่าลงบนพื้น
  การยื่นมือเข้ามาช่วยของซูผิงสำหรับคนเหล่านั้นคือการดึงพวกเขาออกจากสถานการณ์ที่สิ้นหวังพวกเขารู้สึกขอบคุณอย่างมาก ในขณะที่พวกเขาเดินทางต่อไป ซูผิงสังเกตเห็นว่าดูเหมือนจะมีอสูรร้ายมากกว่าที่ควรจะเป็นในป่า
  นี่ไม่ใช่จำนวนปกติ
  ซูผิงขมวดคิ้วหรือการโจมตีจะไม่ใช่อุบัติ แต่มีคนวางแผน?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว