สายตาว่างเปล่าของราชาอสูรร้ายทำให้พวกเขาตกตะลึงเพราะพวกเขาคุ้นเคยกับสถานการณ์นี้มาก มันเป็นท่าทางของสัญญาที่ถูกตัดขาด ตำนานพลูโตตายแล้วหรอ?
นั่นคือจุดจบของตำนานพลูโต?
เขาอยู่ในสภาวะว่างเปล่า! เขาตายด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวได้ยังไง?
นักรบอสูรในตำนานบางคนพยายามมองหาตำนานพลูโต มีร่องรอยของเขาอยู่ในซากปรักหักพัง ดังนั้นพวกเขาจึงรีบไป และยกก้อนหินออกไป
“ ตำนานพลูโต!”
สิ่งที่พวกเขาเห็นทำให้พวกเขาหวาดหวั่นและทำให้พวกเขาเม้มริมฝีปากแน่น ศพของตำนานพลูโตถูกเจอในซากปรักหักพัง หัวของเขาถูกบดขยี้เช่นเดียวกับหน้าอกของเขา มีเพียงลำตัวของเขาเท่านั้นที่ยังอยู่ดี แต่เลือดและผิวหนังที่ฉีกขาดทำให้มันน่ากลัวเกินไปที่จะมอง
ตำนานพลูโตไม่หายใจ การตายของเขาน่าเศร้าเกินไป!
น่ากลัวมาก!
ผู้คนต่างมองไปที่ชายหนุ่มที่ลอยอยู่ในอากาศ ซึ่งเป็นเหมือนเทพเจ้า เขายืนก้มมองพวกเขาจากด้านบน
ราชาแดนเหนือและชายชราตัวใหญ่ตกใจมาก พวกเขาเหมือนกันกับตำนานพลูโต พวกเขาอยู่ที่สภาวะว่างเปล่า แต่ถึงกระนั้นตำนานพลูโตก็ไม่สามารถรอดมาได้หลังจากการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว พวกเขาไม่จำเป็นต้องไตร่ตรองก็รู้ว่าพวกเขาอ่อนแอกว่าเมื่อเทียบกับซูผิง!
พวกเขาสงสัยว่าซูผิงได้ไปถึงสภาวะชะตากรรมแล้ว!
ท้ายที่สุดพวกเขาวัดพลังของหมัดจากการมอง และพวกเขาก็สามารถเห็นว่ามิติกำลังแตก พวกเขาทั้งสองคนไม่สามารถทำเช่นนั้นได้!
โห่!
สนามพลังอันเงียบสงบเบื้องหลังตำนานเสียงพุทธหายไป เขาตกใจเกินกว่าจะสู้กับซูผิงได้
ตำนานพลูโตมีพลังมากกว่าเขา อย่างไรก็ตามตำนานพลูโตได้ถูกซูผิงฆ่าในชั่วพริบตา ตำนานเสียงพุทธเพียงรู้สึกว่าโชคดีที่เขาไม่ยอมแพ้ต่อแรงกระตุ้นของเขา มิฉะนั้นคงจะต้องมีคนไปขุดศพของเขาออกมาแล้ว แม้ว่าซูผิงจะไม่ได้อยู่ในสภาวะชะตากรรม แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่พวกเขาสามารถสู้ด้วยได้
นักรบอสูรในตำนานทั้งหมดในสภาวะสมุทรยืนเหมือนคนโง่
ตำนานพลูโตตายในทันที ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถจินตนาการได้ เขาคนนี้คือเทพแห่งการฆ่า!
“ฮะ?”
ซูผิงยืนอยู่กลางอากาศ และสนามพลังกำลังม้วนอยู่ข้างหลังเขา เขาสังเกตเห็นว่าตำนานเสียงพุทธล้มเลิกความตั้งใจที่จะต่อสู้ ถึงกระนั้นซูผิงก็ไม่ได้ผ่อนคลาย เขากลับยิ่งตื่นตัวและโกรธมาก
เขาไม่รู้ว่าความโกรธและความตื่นตัวนี่มาจากไหน แต่เขาไม่สามารถหยุดความรู้สึกผิดหวังได้
แท้จริงแล้วเขาผิดหวัง
คนเหล่านี้เป็นนักรบที่ทรงพลังที่สุดในดาวเคราะห์สีน้ำเงิน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาเห็นคือใบหน้าที่ดูตกใจ และหวาดกลัว
นี่คือลักษณะของผู้มีอำนาจหรอ?
เขากำหมัดแน่น และเข้าใจได้ทันทีว่าทำไมพวกเขาถึงไม่กล้าไปเมื่อพวกเขาได้ยินชื่อราชาสวรรค์
พวกเขากลัวเขาคนที่อยู่ในระดับเจ็ด ไม่ต้องพูดถึงราชาสวรรค์ต่างโลกที่อยู่ในสภาวะชะตากรรม
เขาเปิดปาก “ ให้สิ่งที่ฉันต้องการ! เราจะไม่รบกวนซึ่งกันและกันต่อจากนี้!”
นักรบอสูรในตำนานและนักรบอสูรกิตติมศักดิ์กลับมามีสติ นักรบอสูรกิตติมศักดิ์นั้นยิ่งตื่นตระหนกมากขึ้น พวกเขาทำงานที่หอคอยมาหลายปีแล้ว แต่ก็ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ภูเขารัตติกาลอยู่ที่นี่มานานแล้ว หากผู้คนได้รู้ว่ามันถูกแยกออกไป โลกทั้งใบจะกลายเป็นศูนย์กลาง!
ซูผิงแสดงความในใจเสร็จ แต่ไม่มีใครตอบ
นักรบอสูรในตำนานมองหน้ากันโดยไม่พูด ผู้ที่อยู่ในสภาวะสมุทรตั้งความหวังไว้กับผู้ที่อยู่ในสภาวะว่างเปล่า ในขณะที่ผู้ที่อยู่ในระดับดังกล่าวกำลังลังเล
พวกเขาสามารถร่วมมือกันเพื่อจัดการกับซูผิงได้ หากเขาเป็นเหมือนพวกเขา ถึงกระนั้นซูผิงได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่ทรงพลังกว่ามาก พวกเขาไม่รู้ว่าจะตอบกลับว่ายังไง
คงจะเป็นเรื่องน่าอับอายสำหรับหอคอย หากพวกเขาตอบตกลงและให้สิ่งที่เขาต้องการ!
ซูผิงสร้างปัญหามากเกินไปที่จะปล่อยไปแบบนั้น อย่างไรก็ตาม … ไม่มีใครในปัจจุบันที่สามารถหยุดซูผิงได้ ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าที่จะพูดคำพูดแย่ๆออกมา เพราะกลัวว่าความโกรธของซูผิงจะกลับมาอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าความขัดแย้งอีกรอบจะตามมาหากพวกเขาตัดสินใจไม่ยอมให้เขา ไม่มีใครอยากตกเป็นเป้าหมายของซูผิง
ไม่มีใครพูดอะไรสักคำในขณะที่พวกเขากำลังคิดเรื่องต่างๆ ซูผิงตะโกน“ อะไร ไม่มีใครสามารถตัดสินใจได้เลยหรือไง?”
ผู้ที่อยู่ในสภาวะว่างเปล่าดูซีดเซียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้การจ้องมองของผู้ที่อยู่ในสภาวะสมุทร ทำไมพวกนายไม่ไปบอกเขาเองล่ะ พวกเขาบ่นอยู่ในใจ แต่ตอนนั้นเอง มีคนบินมาจากระยะไกลในขณะที่พวกเขากำลังดิ้นรน
เสียงนั้นค่อยๆดังขึ้นเมื่อเขาเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ
พวกเขาเงยหน้าขึ้น พวกเขาดีใจมากกว่าที่ได้เห็นคน ๆ นั้น “ รองหัวหน้า!”
“ รองหัวหน้ามาแล้ว ผู้ชายคนนี้จบแล้ว”
“ เขาทำลายภูเขารัตติกาล เขาถึงวาระแล้ว!”
นักรบอสูรในตำนานหลายคนอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างสะใจ พวกเขากลัวเกินกว่าที่จะหายใจพอคิดว่าจะต้องต่อสู้กับซูผิงด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้พวกเขาไม่ลืมที่จะซ่อนความสุขไว้ พวกเขาเริ่มตึงเครียดน้อยลง
ตำนานเสียงพุทธ ตำนานราชาแดนเหนือและคนอื่น ๆ ที่อยู่ในภาวะว่างเปล่าต่างก็โล่งใจ พวกเขาจะสูญเสียศักดิ์ศรีทั้งหมดหากไม่มีใครรับผิดชอบในการเผชิญหน้ากับซูผิง
ซูผิงหันกลับไปมองเมื่อได้ยินเสียงดัง คนที่อยู่ระหว่างทางคือชายวัยกลางคนผมสีขาว ผมสีขาวของเขายาวลงมาที่ด้านหลัง มีความเฉยเมยสะท้อนอยู่บนใบหน้าของเขา เขาวางมือไว้ข้างหลังขณะบิน
“ฮะ?”
ชายผมขาวขมวดคิ้วเมื่อเห็นภูเขารัตติกาลที่ถูกบดขยี้ เขามองไปรอบ ๆ และจับจ้องไปที่ซูผิง
เขาประหลาดใจที่เห็นคนที่ถูกปกคลุมไปด้วยกระดูกสีขาว
รูปแบบการผสานแปลก ๆ ! เขาสามารถบอกได้ทันทีว่านั่นไม่ใช่การรวมตัวกันตามปกติ เพราะซูผิงและอสูรของเขาไม่ได้รวมเข้าด้วยกัน มันเหมือนกับว่าซูผิงกำลัง “สวม” อสูร
“นายเป็นใคร?” ชายผมขาวถามด้วยน้ำเสียงที่น่าเชื่อถือ
ซูผิงได้ยินบทสนทนาของนักรบอสูรในตำนาน “ คุณใช่รองหัวหน้าหรือเปล่า? ผมชื่อซูผิงมาจากเมืองฐานหลงเจียง ผมมาที่นี่เพื่อขอสมุนไพร”
“ สมุนไพร?”
ชายผมขาวขมวดคิ้ว ชายคนนั้นถามอย่างเย็นชาในขณะที่จ้องมองไปที่ภูเขารัตติกาลที่ถูกบดขยี้“ถ้าเป็นเช่นนั้นทำไมถึงมาแสดงท่าทีดุร้ายที่นี่”
“ไม่มีเหตุผล พวกเขาแค่ต้องการฆ่าผม ดังนั้นผมจึงต่อยกลับ” ซูผิงตอบ
“ ไร้สาระ!”
นักรบอสูรในตำนานคนหนึ่งลุกขึ้นยืน “ แกกล่าวหาว่าเราไม่ช่วยแกปกป้องเมืองฐานของแก และแกมาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา!”
“ ใช่!”
“ ฉันพิสูจน์เรื่องนั้นได้”
“ รองหัวหน้าคุณต้องแก้ไขเรื่องนี้ให้เรา เขาฆ่านักรบอสูรในตำนานไปแล้วสามคน!” นักรบอสูรในตำนานต่างพากันโกรธเกรี้ยว ไม่เอ่ยถึงคำดูถูกและคำพูดเพ้อเจ้อของซูผิง เพียงแค่ความจริงที่ว่าเขาฆ่าคนรอบข้าง และเพื่อนของพวกเขาสามคนโดยไม่ทิ้งซากศพที่สมบูรณ์ไว้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้พวกเขาเดือดดาล
ชายผมขาวทำใจเชื่อได้ยาก เขาพูดขณะที่จ้องมองซูผิง“ คุณบอกว่ามาจากเมืองฐานหลงเจียง ผมมีความทรงจำเกี่ยวกับสถานที่นั้น สถานที่ที่ราชาสวรรค์ต่างโลกกำลังจะโจมตีคือเมืองฐานหลงเจียงใช่ไหม? เรามีสิทธิ์พิจารณาว่าจะส่งนักรบอสูรในตำนานไปหรือไม่ นั่นคือสิทธิ์ของเรา และเราต้องทำด้วยความสมัครใจ นั่นไม่ใช่ภาระหน้าที่ของเรา”
เขากล่าวเสริมว่า“ ถ้าเราเต็มใจช่วยก็คงเป็นเพราะเราเมตตา คุณไม่สามารถตำหนิเราได้หากเราไม่เต็มใจไป ใครจะพูดถึงคนแข็งแกร่งที่เสียสละตัวเองเพื่อช่วยคนอ่อนแอ”
“ใช่!”
“ ฟังซะ!”
นักรบอสูรในตำนานคนอื่น ๆ จ้องมองซูผิงด้วยความเป็นปรปักษ์
ซูผิงหัวเราะ “ ฉันเห็นด้วยกับแกจริงๆ! ฉันไม่เคยพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่พวกแกต้องช่วยเรา แต่แกเอาเงินของเราไป ภาษีครึ่งหนึ่งที่คนจ่ายทุกปีเป็นของแก ผู้คนเก็บเงินอย่างยากลำบากเพื่อให้เงินกับพวกแก!”
“ แกควรจะทำอะไรสักอย่างเพราะแกเอาเงินของเราไป หากแกไม่มีความสามารถ งั้นอย่างน้อยก็หัดฟังคำพูดคนอื่นซะบ้าง!”
“ การที่ฉันฆ่าพวกมันไม่เกี่ยวอะไรกับการที่แกไม่ช่วยเรา”
“ ฉันฆ่าทั้งสามคนเพราะพวกเขาเกลียดในสิ่งที่ฉันพูด และพวกเขาคิดว่าฉันไม่มีสิทธิ์กล่าวหาพวกเขา หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง นั่นคือกฎของฉัน!
“ ถ้าฉันฆ่าคนเพียงเพราะมันกอดอกในขณะที่มองคนกำลังจะตาย ถ้าอย่างงั้นมันจะไม่ใช่แค่สามศพ!”
“สามหาว!” มีคนตะโกน
“ รองหัวหน้าอยู่นี่แล้ว กล้าดียังถึงทำตัวอวดเก่งอีก!”
“อะไร? แกจะบอกว่าแกสามารถฆ่าพวกเราทั้งหมดได้หรือไง? ทุเรศ! แกต้องตาย!”
รอยบิดปรากฏขึ้นในอากาศ แสงทั้งหมดหายไปราวกับดวงอาทิตย์ตก
ซูผิงตะโกนและปลดปล่อยหมัดขับไล่วิญญาณของเขา
หมัดสีทองขนาดใหญ่พุ่งออกมา และราชาโครงกระดูกผู้สง่างามที่อยู่ข้างหลังเขาก็ต่อยจากบัลลังก์
ตูม !!
สวรรค์และโลกสั่นสะเทือน
ดาบและหมัดปะทะกัน เสียงทั้งหมดในโลกดับลง
เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แสงระเบิดออกมา นักรบอสูรกิตติมศักดิ์บางคนรู้สึกเจ็บตา ตาของพวกเขาบางคนเริ่มมีเลือดออก
แม้แต่นักรบอสูรในตำนานยังต้องใช้มือป้องกันแสง
หลังจากแสงจ้า พายุพลังงานร้อนแรงได้ผลักดันให้ทุกคนถอยหลัง
ตูม !!!
เสียงนั้นดังสนั่นทั่วทั้งอาณาจักรลับ!
เสียงนั้นดังอยู่เป็นเวลานาน
ไม่มีใครรู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนมันถึงสงบ เมื่อพวกเขากลับมามองเห็นได้พวกเขาก็พยายามเพ่งมอง
สิ่งที่พวกเขาเห็นสร้างความประหลาดใจ
ซูผิงและรองหัวหน้ายังคงยืนอยู่กลางอากาศ เขาทั้งคู่?
พวกเขาเห็นว่าชายหนุ่มปกคลุมไปด้วยเลือด
รองหัวหน้าก็ไม่ดีนัก ผมสีขาวของเขาหายไปหมดแล้ว
มีเลือดที่มุมปากของเขาเช่นกัน
ซูผิงหายใจเข้าลึก มีอาการปวดทุกจุดในร่างกาย เขาไม่ได้รับบาดเจ็บเพราะสิ่งที่รองหัวหน้าทำกับเขา แต่เป็นเพราะเขาเอาแต่ใจตัวเองมากเกินไป เขาอยู่แค่ระดับเจ็ด เขาต้องใช้ประโยชน์จากโครงกระดูกน้อยและสนามพลังเพื่อต้านทานการโจมตีจากนักรบในสภาวะชะตากรรม
รองหัวหน้าจ้องมองซูผิงอย่างไม่เชื่อสายตา
มือที่เขาใช้จับดาบสั่นสะท้านและแขนของเขาก็ชาไปหมด พลังงานนั้นส่งผ่านแขนของเขาไปยังอวัยวะภายในของเขา เขารู้สึกว่าพลังดวงดาวภายในตัวเขากำลังเดือด ทำให้เขาอยากจะอาเจียนออกมา
ชายหนุ่มคนนี้รอดชีวิตจากการกระบวนท่าที่แข็งแกร่งสุดของฉัน!
แม้แต่ราชาสวรรค์ทั้งสี่ก็ยังต้องบาดเจ็บสาหัส! รองหัวหน้าตระหนักว่าซูผิงได้รับบาดเจ็บสาหัสและดูเหมือนว่าจะเป็นอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้
“ฆ่าเขาซะ!”
เขากวัดแกว่งดาบของเขาอีกครั้ง ดาบนั้นส่องแสงด้วยรัศมีไร้ขอบเขต!
“ฮะ?”
ซูผิงมองชายที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับเขา ความเย็นชาปรากฏบนใบหน้าของเขา รองหัวหน้าบอกว่าจะปล่อยเขาไปหลังหนึ่งกระบวนท่า แต่เขาก็กวัดแกว่งดาบของเขาอีกครั้ง เขากำลังตัดวัชพืชและขุดรากออกมา!
ซูผิงไม่อยากเชื่อว่าคนสูงส่งเช่นเขาจะผิดคำพูด!
“ แกยัง..ไม่คู่ควรพอจะฆ่าฉัน!”
ซูผิงถูกคลื่นแห่งความโกรธซัดเข้าใส่ เขามีไพ่ตายอีกใบจากราชามังกรที่เขาสามารถใช้ได้ ไพ่ตายที่สามารถส่งเขาไปยังสถานที่สุ่ม แต่มันสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว
เขาไม่ได้ใช้มันตอนที่เขาต่อสู้กับราชาสวรรค์ต่างโลก ในตอนนั้นเขาอาจถูกส่งออกไปจากเมืองฐานหลงเจียง แม้ว่าเมืองฐานจะถูกทำลายไปแล้วและร้านค้าของเขาไม่เป็นอะไร แม้ว่าในท้ายที่สุดราชาสวรรค์จะก้าวเข้ามาในอาณาเขตของร้านค้าและถูกฆ่าตาย เมืองฐานหลงเจียงก็ยังคงหายไป ซูผิงไม่อยากเห็นมัน ท้ายที่สุดเขารักและขอบคุณลูกค้า และเพื่อนมากมายที่อาศัยอยู่ในเมืองฐาน
นักรบอสูรกิตติมศักดิ์ และนักรบในตำนานคนอื่น ๆ ประหลาดใจที่เห็น รองหัวหน้าของพวกเขาแกว่งดาบอีก บางคนพอใจ ในขณะที่บางคนไม่ดีใจ
ทันใดนั้นผู้คนก็ได้ยินเสียงถอนหายใจ
“พอแค่นั้นแหละ”เสียงถอนหายใจดังสะท้อนไปทั่วทุกที่พร้อมกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว