ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 530

“ มังกรกินมังกร”

ซูผิงไม่อยากเชื่อสิ่งที่เขาเพิ่งเห็น

เขายกโล่ดวงดาวขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้เลือดตกใส่เขา ไม่อย่างนั้นกลิ่นเลือดที่ติดตัวเขาจะเชิญชวนให้เกิดปัญหาตามมา

ราวกับรู้สึกได้ถึงการพลังงานที่รบกวน มังกรตัวใหญ่ที่มีหัวมังกรตัวเล็กอยู่ในปากของมันปรือตาลง ร่างเล็กกระโจนเข้าสู่สายตามังกร มังกรมองและบินหนีไป

“ มังกรเพิ่งจะเห็นฉันหรือเปล่า? ฉันคิดว่ามันไม่สนใจฉัน”

ค่อยยังชั่ว

เขาสามารถบอกได้ว่ามังกรนั้นมีพลังครอบงำเช่นเดียวกับราชาสวรรค์ต่างโลก มันต้องอยู่ที่สภาวะชะตากรรม ราชาสวรรค์ต่างโลกอาจอ่อนแอกว่ามังกรนี่ด้วยซ้ำ ท้ายที่สุดแล้วมังกรเป็นสิ่งมีชีวิตระดับต้น ๆ ในบรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในโลก

ซูผิงมองไปรอบ ๆ เขางุนงนไปหมด

“ บอกฉันหน่อยสิว่าอาณาจักรนี้ใหญ่แค่ไหน? ฉันจะหาต้นกำเนิดมังกรได้จากที่ไหน?”

เขาต้องพูดขึ้นหลังจากเวลาผ่านไปสักพัก เนื่องจากดูเหมือนว่าระบบจะตรวจไม่พบความคิดของเขา

“ ระบบไม่มี GPS ภายในสนามบ่มเพาะ เจ้าของจะต้องสำรวจทั้งหมดด้วยตัวเอง” ระบบตอบอยากชัดเจน

ซูผิงพูดไม่ออก

เขาคิดส่านี่เป็นโลกแห่งมังกร แต่มังกรที่พบโดยทั่วไปมักมีระดับสูง ผู้ที่อยู่ในระดับตำนานจะได้เรียนรู้ภาษาของสายพันธุ์อื่น เขาสามารถสื่อสารกับมังกรเหล่านั้นได้

เขาอาจจะรู้ว่าเขาควรไปที่ไหนถ้าเขาสำรวจรอบๆ

เขากระโดดลงมาจากก้อนหินที่เขายืนอยู่ และรีบตรงไปป่าตรงจุดที่มังกรบินออกมา หินและต้นไม้มีขนาดใหญ่มากจนซูผิงรู้สึกว่าเขาเป็นเหมือนแมลงอ่อนแอ

ในไม่ช้าซูผิงก็พบรอยเท้ามังกร และได้กลิ่นเหม็นฉุนของมูลพวกมัน

ซูผิงตามรอยของรอยเท้าเหล่านั้นและมูลในป่าเหมือนนักล่าที่มีประสบการณ์

เขาเห็นซากศพอยู่ระหว่างทาง พวกมันถูกทิ้งไว้ในป่าโดยไม่มีใครจัดการ เนื้อถูกกัดออกเหลือแต่กระดูกผุๆ

ความรู้สึกเก่าแก่นั้นกระตุ้นซูผิง เขาเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา

หลังจากนั้นไม่นานซูผิงก็เห็นสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ที่มีขาหนา แต่ได้สัดส่วน ปีกด้านหลังของสิ่งมีชีวิตที่คล้ายแมลงนั้นโปร่งแสง ด้วยดวงตาสีแดงเลือดหลายคู่ แมลงนั้นน่ากลัวมากและทั้งตัวก็มีกลิ่นรุนแรงและกลิ่นเลือดปนออกมา แมลงประหลาดสังเกตเห็นซูผิง และบินเข้าหาเขาราวกับว่าเขาเป็นเหยื่อของมัน

สิ่งมีชีวิตนั้นยาวหลายเมตร ไม่น่าแปลกใจที่มันจะเล่นเกมล่ากับซูผิง

มันเข้าหาซูผิงโดยทิ้งภาพเสมือนจริงว่าแมลงอยู่ที่ไหน ซูผิงเกือบจะถูกหลอกด้วยสิ่งนี้ ซูผิงเรียกโครงกระดูกน้อยเมื่อแมลงขยับเข้ามาใกล้ แทนที่จะรวมเข้ากับโครงกระดูกน้อย ซูผิงบอกให้มันจัดการแมลงด้วยตัวเอง

ปฏิกิริยาของโครงกระดูกน้อยรวดเร็วมาก มันชักดาบออกมาทันทีที่ซูผิงสั่ง หลังจากฟันแมลงประหลาดก็ขาดครึ่ง เลือดพุ่งออกมา

แมลงประหลาดอยู่ในสภาวะสมุทร แม้จะเร็วแต่ก็ยังช้ากว่าโครงกระดูกน้อย

“ แกนอสูร”

ซูผิงขุดผลึกพลังงานออกมาจากซากแมลงประหลาด แกนอสูรเป็นสิ่งที่ควบคุมพลังงานที่ไหลภายในอสูรร้ายและจะกลายเป็นผลึกหลังจากเวลาผ่านไป แกนอสูรมีมูลค่าทางเภสัชกรรมสูง และยังสามารถนำไปใช้กับอสูรร้ายอื่น ๆ ในตระกูลเดียวกันเพื่อให้ได้รับพลังที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

หากไม่ต้องการ แกนอสูรก็ยังสามารถใช้เป็นระเบิดพลังงานได้ แกนอสูรมีความรุนแรงใกล้เคียงกับขีปนาวุธขนาดเล็ก และสามารถทำร้ายอสูรร้ายระดับเจ็ดได้

ซูผิงนำแกนอสูรออกมา เขากำลังจะนำมันกลับไปที่ร้านเพื่อขาย แมลงประหลาดตัวนั้นมาจากตระกูลลม ดังนั้นเขาสามารถขายแกนอสูรให้กับคนที่มีอสูรตระกูลลมได้

ซูผิงสำรวจต่อหลังจากที่จัดการแมลงเสร็จแล้ว

จากนั้นเขาก็เข้าใจว่ามีสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ในโลกของมังกร แต่อาจไม่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป

ในเวลาเดียวกันซูผิงใช้เวลาตรวจสอบโครงกระดูกน้อย

ซูผิงไม่มีเวลาตรวจสอบโครงกระดูกน้อยโดยละเอียดหลังจากฟื้นตัว เขายุ่งอยู่กับการต่อสู้ และเรื่องอื่น ๆ

เขาร่ายคาถาระบุเพื่ออ่านข้อมูลของโครงกระดูกน้อย

โครงกระดูกน้อย

คุณสมบัติ: อสูรตระกูลปีศาจ

ระดับ: ระดับเก้าขั้นกลาง

ความแข็งแกร่ง: 39

ไหวพริบ: สูงกว่าค่าเฉลี่ย

ทักษะพรสวรรค์ : พรสวรรค์ด้านความคล่องตัวระดับพื้นฐาน

ทักษะทางสายเลือด: ปีศาจกระดูก, วิญญาณนิรันดร์, การจุติของราชากระดูก

ความสามารถ: การฟื้นฟู, ทาสอันเดธ , การใช้ดาบระดับสูง, หุ่นกระบอก, เสียงกระซิบปีศาจ, มิติฝันร้าย, การลงทัณฑ์แห่งบาป ความมืดเคลื่อนย้าย อาณาจักรความตาย…

ซูผิงรู้สึกประทับใจอย่างมาก

ไหวพริบ ความแข็งแกร่งและความสามารถใหม่ ๆ ของโครงกระดูกน้อยทำให้เขาประหลาดใจ

ก่อนหน้านี้โครงกระดูกน้อยอยู่เพียงระดับ 7 โดยมีไหวพริบที่ค่าเฉลี่ย แต่เมื่อมันกินผลึกเลือดจนหมดแล้ว มันก็เพิ่มขึ้นสองระดับ! จากระดับเจ็ดเป็นระดับเก้า!

จะต้องใช้เวลาหลายปีในอัตราปกติที่โครงกระดูกน้อยจะไต่ขึ้นสองระดับ

สิ่งที่น่าตกใจกว่านั้นคือพลังต่อสู้ของโครงกระดูกน้อยอยู่ที่ 39!

ในกรณีปกติอสูรร้ายระดับเก้าจะมีพลังต่อสู้เพียงแค่ 9 เท่านั้น! แต่ของโครงกระดูกน้อยคือ 39!

แม้แต่อสูรระดับตำนานในสภาวะว่างเปล่าก็มีพลังเพียง 20 เท่านั้น!

เมื่อเทียบกับพลังต่อสู้ของโครงกระดูกน้อยแล้วนั้นมากกว่าเกือบสองเท่า !! โครงกระดูกน้อยยังได้รับทักษะสายเลือดสามอย่างซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับซูผิง เป็นเรื่องจริงที่อสูรได้รับสายเลือดของราชาโครงกระดูก แต่สมาชิกทั่วไปของตระกูลราชาโครงกระดูกก็จะมีทักษะทางสายเลือดเพียงหนึ่งหรือสองทักษะเท่านั้น ส่วนตัวที่มีความสามารถมากจะมีทักษะทางสายเลือดสามหรือสี่ทักษะ

เนื่องจากโครงกระดูกน้อยสามารถได้รับทักษะสายเลือดถึงสามทักษะในขณะที่สายเลือดใหม่เพิ่งถูกปลุกขึ้นมา โครงกระดูกน้อยจึงมีพรสวรรค์มากกว่า!

ไม่น่าแปลกใจที่ไหวพริบของมันไม่ได้ลดลง กล่าวคือในบรรดาสิ่งมีชีวิตที่มีสายเลือดของราชาโครงกระดูก โครงกระดูกน้อยนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ย!

แน่นอนโดยพื้นฐานแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลยที่โครงกระดูกทั่วไปอื่น ๆ จะบรรลุผลดังกล่าว โครงกระดูกน้อยบรรลุความสำเร็จดังกล่าวเพราะได้รับการฝึกฝนมาเป็นพิเศษขณะที่ใช้ประโยชน์จากสายเลือดของราชาโครงกระดูก

มันเหมือนกับการขอพรดวงจันทร์เพื่อให้โครงกระดูกน้อยมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ โดยไม่มีสายเลือดของราชาโครงกระดูก

โครงกระดูกน้อยควรจะยังคงเทียบได้กับสภาวะว่างเปล่า ฉันสงสัยว่ามันอยู่ห่างจากสภาวะชะตากรรมมากแค่ไหน…ซูผิงถามตัวเอง ในขณะนี้พลังต่อสู้ของโครงกระดูกน้อยนั้นสูงกว่าโจแอนนาด้วยซ้ำ

แน่นอนว่านั่นหมายถึงของผู้หญิงที่ทำงานให้เขา ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของโจแอนนา

ตัวตนที่แท้จริงของโจแอนนาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอย่างแท้จริง แม้กระทั่งในจักรวาล เป็นคนที่ซูผิงนึกไม่ถึง

พลังต่อสู้ในฐานะพนักงานของเธอคือ 29.6 คะแนน

พลังต่อสู้ของโครงกระดูกน้อยสูงกว่าเกือบ 10 เมื่อพูดอย่างนั้นซูผิงตระหนักดีว่าจุดสนใจหลักของพนักงานเขาคือจิตใจเธอ เธอสามารถพัฒนาพลังต่อสู้ของเธอได้ตลอดเวลาหากเธอต้องการ

การผสานนั้นต้องเป็นทักษะปีศาจกระดูก ซูผิงเข้าใจว่าทักษะทางสายเลือดทั้งสามต้องเป็นทักษะหลักสำหรับโครงกระดูกน้อย

มีคำอธิบายง่ายๆเกี่ยวกับทักษะทางสายเลือดทั้งสามอย่าง

อย่างแรกคือปีศาจกระดูกซึ่งเป็นทักษะที่ทำให้โครงกระดูกน้อยสามารถรวมเข้ากับซูผิงได้ ในสภาพนั้นโครงกระดูกน้อยจะแบ่งปันความแข็งแกร่งทั้งหมดให้กับซูผิง และอสูรจะกลายเป็นชุดเกราะที่ไม่สามารถแตกหักได้สำหรับเขา

ทักษะดังกล่าวไม่ได้มีความหมายมากนักสำหรับราชาโครงกระดูก แต่มันมีความหมายอย่างแท้จริงสำหรับตัวที่ทำสัญญากับมนุษย์

นั่นคือเหตุผลที่ราชาโครงกระดูกจึงเป็นที่ชื่นชอบของนักรบอสูรในระดับดวงดาว

ทักษะสายเลือดที่สอง วิญญาณนิรันดร์จะช่วยให้โครงกระดูกน้อยดึงพลังมืดจากความว่างเปล่า เพื่อฟื้นฟูร่างกายไม่ว่ามันจะบาดเจ็บแค่ไหนก็ตาม

โครงกระดูกน้อยไม่สามารถถูกฆ่าได้!

เมื่อสิ่งมีชีวิตตาย มันมักจะถูกดึงเข้าสู่อาณาจักรอันเดธ …

แต่เมื่อราชาโครงกระดูกตกอยู่ในสภาพปางตายและอาณาจักรแห่งอันเดธพยายามที่จะดูดมันเข้าไป ราชาโครงกระดูกก็จะสามารถดึงพลังงานจากอาณาจักรอันเดธ และกลับมามีชีวิตได้!

แทบจะเป็นอมตะ!

แน่นอน มันไม่ได้ไร้ทางแก้

สิ่งมีชีวิตบางชนิดสามารถตรึงเวลาและมิติและ พลังงานทั้งหมดออกจากกันได้ ในกรณีเช่นนี้การใช้ทักษะนั้นจะยากมากขึ้น

เขาจะรอความตายหากต้องพบเจอกับสิ่งมีชีวิตเช่นนี้ นั่นจะทำให้สิ่งต่างๆง่ายขึ้นสำหรับเขา

สำหรับทักษะสุดท้ายของการจุติของราชากระดูก เป็นทักษะจู่โจม มันสามารถเรียกบรรพบุรุษของราชาโครงกระดูกทั้งหมด และใช้ความแข็งแกร่งของบรรพบุรุษได้!

มีเพียงบรรพบุรุษของสายพันธุ์หลักที่มีสายเลือดระดับดวงดาวเท่านั้นที่สามารถสร้างทักษะดังกล่าวและทิ้งทักษะดังกล่าวไว้เพื่อช่วยลูกหลานของพวกเขา!

นอกเหนือจากทักษะทางสายเลือดทั้งสามแล้วทักษะอื่น ๆ ก็น่าทึ่งมาก รายการทักษะใหม่ที่ยาวมากๆนั้นทำให้เขาตื่นตา น่าทึ่งเหลือเกิน!

โครงกระดูกน้อยกลายเป็นสิ่งที่น่าประทับใจในทุกๆด้านหลังจากการตื่นครั้งนั้น

ไม่น่าแปลกใจที่มันบรรลุพลังต่อสู้เช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่ามันมีทักษะมากมายจนเกินไป!

ฉันสงสัยว่าราชาโครงกระดูกที่ดีที่สุดจะเป็นยังไง ซูผิงคิด

โครงกระดูกน้อยอยู่ในระดับเก้า แต่มีพลังต่อสู้เทียบเท่ากับสภาวะว่างเปล่า ด้วยเหตุนี้อสูรจึงสามารถฆ่าสิ่งมีชีวิตในสภาวะว่างเปล่าโดยเฉลี่ยได้

น่าทึ่งมาก!

จากนั้นซูผิงก็ได้ยินเสียงดังขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว