ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 591

ตอนที่ 591 นักรบอสูรระดับตำนาน
  พวกเขาอยู่ในทุ่งน้ำแข็งได้ไม่นาน
  ทันใดนั้นหอกน้ำแข็งก็โผล่ออกมาจากหิมะ ในขณะเดียวกันกลุ่มของอสูรร้ายก็กระโดดออกมาจากหิมะ พุ่งเข้าหาซูผิงกับอวิ๋นว่านหลี่
  ซูผิงบอกให้โครงกระดูกน้อยไปฆ่าอสูรร้ายโดยไม่ลังเล
  อสูรร้ายระดับเก้าเหล่านั้นตายด้วยดาบกระดูกของโครงกระดูกน้อยทันที
  เลือดสีแดงทำให้หิมะเปื้อนสี ซูผิงและอวิ๋นว่านหลี่เดินทางต่อ พวกเขาถูกโจมตีอีกหลายครั้ง แต่ซูผิงจัดการพวกมันได้อย่างง่ายดาย
  อสูรร้ายส่วนใหญ่ที่พวกเขาพบอยู่ในระดับแปดหรือเก้า มีราชาอสูรร้ายอยู่สองสามตัว แต่ไม่มีราชาในสภาวะว่างเปล่า
  พวกเขามาไกลกว่าหนึ่งแสนเมตร จู่ๆผู้ฟังสายลมติดปีกก็กระซิบกับอวิ๋นว่านหลี่”เฒ่าว่านฉันได้ยินการต่อสู้ข้างหน้าเราประมาณหนึ่งแสนเมตร”
  “การต่อสู้?”
  อวิ๋นว่านหลี่หันไปหาซูผิง
  ซูผิงกังวลเพราะคิดว่าซูหลิงเยวี่ยอยู่ที่นั่น เขาบอกมังกรเพลิงนรกให้รีบไป
  หวืด!
  มังกรนรกส่งเสียงคำราม กระพือปีก และบินไปข้างหน้าด้วยความเร็วเต็มที่
  มีบางอย่างคล้ายลมบ้าหมูปรากฏขึ้นบนปีกของมังกรเพลิงนรก มันเป็นทักษะที่เรียกว่าพลังแห่งลมซึ่งสามารถเพิ่มความเร็วได้เป็นอย่างมาก
  ผู้ฟังสายลมติดปีกรู้สึกประหลาดใจที่เห็นมังกรเพลิงนรกใช้พลังแห่งลมซึ่งควรเป็นทักษะในตำนานที่มีเพียงราชาอสูรร้ายในตระกูลลมจำนวนเล็กน้อยเท่านั้นที่จะมี เหตุใดมังกรเพลิงนรกจึงสามารถใช้ได้?
  อวิ๋นว่านหลี่ก็สังเกตเห็นเช่นกัน แต่โครงกระดูกของซูผิงนั้นแปลกประหลาดกว่า ดังนั้นสำหรับมังกรเพลงินรกที่จะใช้ทักษะนั้นก็ไม่มีอะไรน่าแปลก “ไปเถอะ ไปกัน” อวิ๋นว่านหลี่กระตุ้นอสูรของเขา
  ผู้ฟังสายลมติดปีกกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง มันก็ใช้พลังแห่งลมเช่นกัน เส้นทางบินของอสูรนั้นแปลก แต่ในไม่ช้ามันก็ตามมังกรเพลิงนรกทัน
  เพราะการเป็นอสูรของตระกูลลม ย่อมไม่ช้าไปกว่ามังกรเพลิงนรก
  หลังจากบินประมาณสิบนาที
  ซูผิงและอวิ๋นว่านหลี่มาถึงสถานที่ที่ผู้ฟังสายลมติดปีกได้บอกไว้ พวกเขายังคงต่อสู้กับอสูรร้ายมากมายมาตลอดทางเหมือนเดิม
  เมื่อพวกเขามองไปในระยะไกล พวกเขาเห็นทิวเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสวยงาม อสูรร้ายกลุ่มหนึ่งกำลังวิ่งเข้าหาบางคน!
  ราชาอสูรร้ายหลายสิบตัวพยายามหยุดการโจมตีของอสูรป่า
  “นั่นคือทางหลัก!”
  อวิ๋นว่านหลี่ไม่อยากจะเชื่อ “นี่คือทางเข้าทุ่งถัดไป พวกนั้นต้องเป็นนักรบอสูรในตำนานจากหอคอย!”
  ซูผิงตระหนักดีว่าคนเหล่านั้นเป็นนักรบอสูรในตำนาน
  พวกเขากำลังพยายามที่จะหยุดอสูรป่าในขณะนี้ อสูรร้ายที่อ่อนแอที่สุดอยู่ที่ระดับแปดและระดับเก้า ในขณะที่ยังมีอีกหลายสิบตัวในระดับราชาอสูรร้าย!
  มันเป็นฉากที่น่ากลัวมาก!
  คงจะเป็นเรื่องน่าสยดสยองที่เห็นราชาอสูรร้ายสามหรือสี่ตัวโจมตีร่วมกันบนพื้นดิน อย่างไรก็ตามที่ตรงนั้นมีราชาอสูรหลายสิบตัว!
  นั่นน่ากลัวกว่าการโจมตีที่ซูผิงเจอในเมืองฐานหลงเจียง!
  แน่นอน เขาไม่สามารถบอกได้ว่าราชาอสูรร้ายตัวใดเป็นเหมือนราชาสวรรค์ต่างโลก ที่อย่างน้อยก็อยู่ในสภาวะชะตากรรม ซึ่งเป็นระดับที่มีพลังมากกว่าสภาวะว่างเปล่ามาก
  ราชาสวรรค์ต่างโลกในสภาวะชะตากรรมมีพลังมากพอที่จะบดขยี้ราชาอสูรร้ายในสภาวะสมุทรได้หลายร้อยหรือหลายพันตัว
  “ไปช่วย” ซูผิงกล่าว
  เขาไม่ชอบหอคอย อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถนั่งเฉยๆ และไม่ทำอะไรเลยในขณะที่เขาเห็นนักรบอสูรในตำนานกำลังดิ้นรนเพื่อหยุดยั้งอสูรป่า
  ท้ายที่สุดโลกทั้งโลกจะต้องวุ่นวายหากราชาอสูรร้ายเหล่านั้นออกไป
  อวิ๋นว่านหลี่กลัว แต่ความกลัวนั้นทำให้เขาอับอาย แม้แต่ซูผิงที่หันหลังให้กับหอคอยก็เต็มใจที่จะก้าวเข้าไปช่วย ในทางกลับกัน เขาเป็นสมาชิกของหอคอย และเป็นคนที่นักเรียนจำนวนนับไม่ถ้วนจากสถาบันเคารพนับถือ แต่เขากำลังคิดที่จะหลบหนี ช่างน่าละอายใจนัก
  ”ไปกับฉัน!”
  อวิ๋นว่านหลี่กัดฟัน
  ผู้ฟังสายลมติดปีกมองอวิ๋นว่านหลี่ด้วยความกังวล แต่เมื่อเทียบกับหน้าที่และภาระผูกพัน ผู้ฟังสายลมติดปีกให้ความสำคัญกับชีวิตของอวิ๋นว่านหลี่มากกว่า
  มันมีเจ้านายเพียงคนเดียวคืออวิ๋นว่านหลี่ หวืด!
  ซูผิงบินไปที่หุบเขา นักรบอสูรในตำนานสังเกตเห็นเขาในทันที พวกเขามองซูผิงและอวิ๋นว่านหลี่อย่างโล่งใจเมื่อเห็นว่ามีมนุษย์กำลังเข้ามาใกล้ นักรบอสูรในตำนานกลับมาต่อสู้อีกครั้ง
  ซูผิงยืนอยู่ในอากาศ มองลงไปที่ฝูงอสูรร้าย เขาสามารถบอกพลังของราชาอสูรร้ายได้เพราะเขาอยู่ใกล้พอ
  ราชาอสูรร้ายส่วนใหญ่อยู่ที่สภาวะสมุทร และอีกสามคนอยู่ในสภาวะว่างเปล่า!
  ไม่มีราชาอสูรร้ายตัวใดอยู่ในสภาวะชะตากรรม!
  นั่นเป็นข่าวดีสำหรับซูผิง ราชาอสูรร้ายในสภาวะชะตากรรมยังคงค่อนข้างยุ่งยากสำหรับเขา เขาสามารถรวบรวมพลังในสภาวะชะตากรรมได้เมื่อเขารวมเข้ากับโครงกระดูกน้อย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่มีปัญหาในการต่อสู้กับราชาอสูรร้ายในสภาวะชะตากรรม
  เขาสามารถบังคับให้ราชาสวรรค์ต่างโลกหนีไปได้เพราะมันไม่เต็มใจเสี่ยงชีวิต เขาสังเกตเห็นว่าราชาสวรรค์ยังรักษาความแข็งแกร่งไว้ในขณะที่มันจากไป “ฉันเห็นว่าอสูรร้ายมีมากกว่าเรา มาแสดงให้อสูรพวกนั้นเห็นว่าการมีจำนวนมากกว่านั้นไม่มีความหมายอะไร” ซูผิงกล่าวกับโครงกระดูกน้อย โครงกระดูกน้อยเข้าใจ มันลงจากไหล่ของมังกรและบินเข้าไปในหุบเขา
  ในไม่ช้าโครงกระดูกน้อยก็ลอยอยู่เหนือการต่อสู้ บางคนสังเกตเห็นโครงกระดูกน้อยซึ่งถูกความมืดปกคลุม ในระหว่างนี้ ประตูโบราณก็เปิดในอากาศด้านหลังโครงกระดูกน้อย
  ประตูแห่งความตาย!
  ลมหนาวพัดมาจากด้านในของประตูขณะเปิดออก อสูรร้ายออกมากับสายลม ส่งเสียงกรีดร้องน่ากลัวออกมา
  สิ่งมีชีวิตอันเดธเหล่านั้นพุ่งออกจากโลกภายในประตู
  มีอัศวินโครงกระดูกและอสูรโครงกระดูก
  อสูรป่าถูกรบกวนเมื่ออสูรอันเดธเข้าร่วมการต่อสู้ ในไม่ช้ากองทัพอันเดธก็กระทืบอสูรร้ายระดับแปดและเก้าบางตัวจนตาย
  “ทักษะนั้นคืออะไร?”
  “การเรียกอันเดธ? ไม่ มันเป็นไปไม่ได้ น่าจะมีสื่อ…”
  “สิ่งมีชีวิตอันเดธเหล่านั้นเก่งมาก!”
  นักรบอสูรในตำนานสังเกตเห็นความโกลาหลที่เกิดจากโครงกระดูกน้อย อสูรของตระกูลอันเดธสามารถใช้ทักษะในการอัญเชิญสิ่งมีชีวิตอันเดธได้ แต่พวกมันต้องใช้ซากศพบางส่วน เป็นที่สังเกตได้ว่าสิ่งมีชีวิตที่พวกเขาเห็นนั้นแข็งแกร่งมาก
  อสูรประหลาดที่ออกมาจากประตูฟังคำสั่งของโครงกระดูก มันเป็นเจ้านายของพวกมันทั้งหมด!
  “ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทักษะนี้จะมีแต้มมากกว่า 80 สิ่งนี้สามารถเพิ่มพลังต่อสู้ได้อย่างมาก…”แน่นอนว่าซูผิงไม่แปลกใจ เขาได้ทดสอบความแข็งแกร่งของทักษะในสนามบ่มเพาะ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่โครงกระดูกน้อยเรียกสิ่งมีชีวิตที่สภาวะว่างเปล่าออกมา
  พลังต่อสู้ของโครงกระดูกน้อยในปัจจุบันอยู่ที่ 39 สูงกว่าอสูรในสภาวะว่างเปล่า แต่ต่ำกว่าสภาวะชะตากรรม หากแต้มของทักษะเกี่ยวข้องกับพลังต่อสู้ของอสูร ซูผิงก็แน่ใจว่าทักษะนี้เป็นของสภาวะชะตากรรม
  โครงกระดูกน้อยก้าวออกจากประตูอย่างมั่นคง ความมืดถูกสร้างขึ้นรอบๆโครงกระดูกน้อย ทักษะนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นสนามแห่งความมืด
  อสูรร้ายตัวใดก็ตามที่สัมผัสกับสนามแห่งความมืดจะกรีดร้องอย่างน่าสังเวช เสียงนั้นดูเจ็บปวดราวกับว่าอสูรร้ายกำลังถูกทอดอยู่ในน้ำมัน เกล็ดและขนของพวกมันถูกเผา
  โครงกระดูกน้อยเป็นเหมือนพ่อค้าความตายที่เดินได้
  สนามแห่งความมืดไม่ได้ผลกับราชาอสูรร้าย พวกมันจะได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่มีอะไรร้ายแรง ในทางกลับกันอสูรร้ายตัวอื่นๆโชคไม่ดี การกัดกร่อนจะฆ่าชีวิตพวกมัน
  ทักษะของราชาโครงกระดูกนั้นน่ากลัว ซูผิงยืนอยู่บนไหล่ของมังกรเพลิงนรกขณะที่เฝ้าดู โครงกระดูกน้อยตัวเดียวก็เพียงพอที่จะจัดการได้ เนื่องจากไม่มีราชาอสูรในสภาวะชะตากรรม
  นอกจากนี้ โครงกระดูกน้อยยังมีความสามารถในการฟื้นฟูที่แข็งแกร่ง แม้แต่ราชาอสูรร้ายในสภาวะชะตากรรมก็ยังต้องเจอปัญหามากมายหากจะฆ่าโครงกระดูกน้อย
  กรี้ส!
  ในเวลาเดียวกันอวิ๋นว่านหลี่ได้ฆ่าอสูรป่าด้วยอสูรของเขา อย่างไรก็ตาม เขากลัวที่จะเข้าไปในกลุ่มอสูรร้ายมากเกินไป เขาทำแค่ช่วยนักรบอสูรในตำนานคนอื่นๆ และฆ่าอสูรร้ายที่โครงกระดูกน้อยเหลือไว้
  สถาณการณ์เปลี่ยนไปเมื่อมีโครงกระดูกน้อย ราชาอสูรร้ายเริ่มโจมตีเพื่อจัดการกับโครงกระดูกน้อย ถึงกระนั้นทักษะของโครงกระดูกน้อยก็น่าทึ่ง มันฆ่าราชาอสูรร้ายหลายตัวติดต่อกัน ราชาอสูรร้ายตัวอื่นๆ รู้ว่าสถาณการณ์ของพวกมันเริ่มไม่ดี
  โฮ่กก!
  อสูรร้ายคำรามด้วยความโกรธที่ไม่อาจควบคุมได้
  ราชาอสูรร้ายตัวอื่นหยุด แม้ว่าจะไม่เต็มใจ แต่พวกมันก็เริ่มหนี
  อสูรร้ายตัวอื่นๆ บางส่วนยังคงอยู่ ในขณะที่บางตัวหนีไปพร้อมกับราชาอสูรร้าย
  ในชั่วพริบตา ไม่มีอะไรเหลือนอกจากพื้นดินที่เต็มไปด้วยซากศพและเลือด
  ซูผิงไม่ให้โครงกระดูกน้อยไล่ตามอสูรที่หลบหนี มันอาจเป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาไม่คุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้
  การต่อสู้สิ้นสุดลงและประตูถูกปิด สิ่งมีชีวิตอันเดธกลับไปยังโลกอีกด้านหนึ่งของประตู ซูผิงบอกให้โครงกระดูกน้อยกลับมา
  หวืด! หวืด! หวืด!
  นักรบอสูรในตำนานบินมาหาซูผิง
  “ฮ่า ฮ่า เรามีหนุ่มหล่อที่นี่ด้วย”
  “น้องชาย นายชื่ออะไร? อสูรของนายยอดเยี่ยมมาก!”
  “ขอบคุณพระเจ้าที่นายมาทันเวลา ไม่อย่างนั้นเราจะต้องเจอปัญหาหนักแน่”
  นักรบอสูรในตำนานยิ้มกว้าง ขณะที่พวกเขาพูดพล่ามและชื่นชมยินดีกับชัยชนะของพวกเขา
  ซูผิงมองพวกเขา มันทำให้เขาประหลาดใจที่เห็นว่าคนเหล่านี้ไม่เหมือนกับนักรบอสูรในตำนานที่เขาเจอในหอคอยโดยสิ้นเชิง พวกเขาเป็นคนดีจริงๆ
  “เรียกผมว่าซูผิงก็ได้ พวกคุณทั้งหมดอยู่ที่นี่ภายใต้คำสั่งของหอคอยหรือเปล่า?” ซูผิงถาม
  “ซูผิง? นั่นคือชื่อของนายหรอ ทำไมนายไม่บอกฉายาของนายให้เรารู้ละ? ฮ่า ฮ่า นายช่างเป็นชายหนุ่มที่เป็นมิตรและเป็นกันเองมาก” ชายร่างใหญ่ที่เต็มไปด้วยเลือดหัวเราะ เขาเช็ดเลือดออกจากหนวดและใบหน้า จากนั้นจึงทำความสะอาดเสื้อผ้า
  “น้องซู นายเป็นเด็กใหม่จากหอคอยหรือเปล่า?” ชายหนุ่มผมดำกล่าว ใบหน้าของเขาแข็งกร้าวขัดกับน้ำเสียงที่นุ่มนวลของเขา
  ซูผิงตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “ผมมาที่นี่เพื่อตามหาน้องสาวของผม นี่คือรูปของเธอ คุณเคยเห็นเธอไหม?”
  เขาแสดงรูปภาพที่เขามีในโทรศัพท์ให้ทุกคนดู
  นักรบอสูรในตำนานประหลาดใจที่พบว่าชายหนุ่มไม่ได้มาจากหอคอย พวกเขาดูภาพนั้น
  “ไม่”
  “เธอดูเหมือนนายมาก”
  “น้องสาวของนายเป็นเด็กสาว เธออยู่ที่นี่? นายไม่ได้ถามคนข้างหน้าหรอ?”
  ซูผิงส่ายหัว “ไม่มีใครอยู่ที่นั่น พวกคุณคือกลุ่มนักรบอสูรในตำนานกลุ่มแรกที่เราพบในนี้”
  ทุกคนถูกแช่แข็งนิ่ง
ตอนที่ 592 ติดต่อ
  “ไม่มีใครอยู่เหรอ?”
  “ฉันไม่เชื่อ!”
  “งั้นอสูรร้ายจะแอบออกไปทำลายโลกภายนอกไหม?”
  พวกเขามองหน้ากัน ไม่มีใครเชื่อซูผิง
  “มันเป็นเรื่องจริง ผมไม่ได้แต่งเรื่อง คุณจะไปดูก็ได้” ซูผิงกล่าว
  นักรบอสูรในตำนานดูกังวล
  “ก็ได้ งั้นไปดูกัน”
  ชายวัยกลางคนที่มีรอยแผลเป็นเดินเข้ามา รอยแผลเป็นดูน่ากลัว แต่ความสงบบนใบหน้าทำให้เขาดูเป็นมิตร
  ”ตกลง”
  ชายวัยกลางคนตัวเล็กพยักหน้า เขาเรียกราชาอสูรบินได้และรวมเข้ากับมัน ปีกคู่หนึ่งงอกขึ้นบนหลังของเขา ชายคนนั้นบินและหายตัวไปไกล
  หลังจากที่ชายชื่อเถียยี่ออกไป ชายที่มีรอยแผลเป็นก็เข้ามาใกล้ซูผิง“สวัสดี ฉันชื่อเย่อู่ซิว ฉันเป็นหัวหน้าที่นี่ น้องซูขอบคุณที่ช่วยเหลือ คงจะมีคนบาดเจ็บแน่ถ้านายไม่มาที่นี่ในวันนี้”
  ซูผิงมองเขา และรู้สึกว่าเย่อู่ซิวเป็นคนที่มีพลังดวงดาวลึกซึ้ง เขาเชื่อว่าเย่อู่ซิวควรเป็นนักรบในสภาวะว่างเปล่าและเป็นคนที่ทรงพลังมากคนนึง
  นักรบอสูรในตำนานของสภาวะว่างเปล่าได้รับการพิจารณาให้เป็นส่วนหนึ่งของชนชั้นสูงในหอคอย
  สภาวะว่างเปล่าและสภาวะสมุทรแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ผู้ที่อยู่ในสภาวะว่างเปล่าสามารถฆ่านักรบในสภาวะสมุทรได้อย่างง่ายดายด้วยความสามารถของมิติกักขัง
  “ผมเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันเป็นหน้าที่ของผมที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ ผมไม่สามารถยืนอยู่เฉยๆและปล่อยให้อสูรร้ายโจมตีคุณได้” ซูผิงพูดอีกครั้ง “คุณไม่เห็นน้องสาวของผมจริงๆ หรอ?”พวกเขามองหน้ากัน ไม่มีใครให้คำตอบ พวกเขาส่ายหัว
  ซูผิงรู้สึกผิดหวัง มีอะไรเกิดขึ้นกับซูหลิงเยวี่ยก่อนที่เธอจะมาถึงที่นั่นหรือเปล่า?
  เขากำหมัด ความกังวลใจกำลังคืบคลานเข้ามา
  “น้องซูน้องสาวของนายน่าจะยังสบายดี ไม่ต้องกังวล เราไม่เห็นเธอ แต่อาจมีคนอื่นที่เส้นทางอื่นที่อาจเจอเธอ”เย่อู่ซิวปลอบซูผิง
  ซูผิงส่ายหัวหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง “ผมจะไปหาเธอที่อื่น โปรดดูแลเธอแทนผมด้วยถ้าคุณเจอเธอ ผมจะกลับมา”
  “น้องซู นายจะไปไหน?” มีคนถาม
  “น้องซูน้องสาวของ นายเข้ามาในถ้ำจากทางเข้าไหน? บอกเราหน่อย เราอาจจะรู้อะไรบางอย่าง”ชายชราคนหนึ่งเสนอ
  นั่นเป็นความคิดที่ดี เหล่านักรบอสูรในตำนานมักจะอยู่ในถ้ำลึกตลอดทั้งปี พวกเขารู้จักสถานที่นี้ดีกว่าเขา
  “มาบอกพวกเขา” ซูผิงพูดกับอวิ๋นว่านหลี่
  นักรบอสูรในตำนานหันไปมองอวิ๋นว่านหลี่
  อวิ๋นว่านหลี่ฝืนยิ้ม “ผมชื่ออวิ๋นว่านหลี่ เป็นเกียรติที่ได้พบพวกคุณทุกคน น้องสาวของผู้ท้าทายโชคชะตาซูมาจากทางเข้าหมายเลข 7 ทางเข้าในเมืองฐานหลงหยาง ผมควรจะเป็นคนเฝ้าทางเข้า น้องสาวของเขาเข้ามาที่นี่โดยบังเอิญ เนื่องจากความผิดพลาดจากความรับผิดชอบในส่วนของผม”
  “หมายเลข 7? มันอยู่ไม่ไกลจากที่นี่”
  “จะพูดอย่างนั้นก็ไม่ได้ ทุ่งภายในถ้ำมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เราต้องหาให้ได้ว่าเธอเข้ามาเมื่อไหร่?”
  “ผู้ท้าทายโชคชะตาซู? ฉันคิดว่าชื่อของเขาคือซูผิง”
  “ผู้ท้าทายโชคชะตา? ผู้ท้าทายโชคชะตา?” พวกเขากำลังพูดถึงทางเข้า แต่ก็มีคนสังเกตเห็นคำที่อวิ๋นว่านหลี่เรียกซูผิง มีคนชี้ให้เห็น และคนอื่น ๆ เริ่มตั้งคำถามกับอวิ๋นว่านหลี่
  อวิ๋นว่านหลี่รู้สึกประหม่า นักรบอสูรในตำนานทั้งหมดนี้น่ากลัวกว่าที่เขาเคยเจอ แม้กระทั่งคนที่อยู่ในสภาวะสมุทร เหล่านักรบอสูรในตำนานใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำลึก พวกเขาก้าวร้าวมากกว่าที่เขาเคยเจอมา
  “เอ่อ คุณซูเพิ่งได้รับฉายาว่า ‘ผู้ท้าทายโชคชะตา’ เมื่อไม่นานมานี้ เขาฆ่านักรบอสูรในตำนานในขณะที่ยังอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ ผมเรียกเขาว่าผู้ท้าทายโชคชะตาเพื่อแสดงความเคารพ”อวิ๋นว่านหลี่อธิบาย
  นักรบอสูรในตำนานหันไปหาซูผิง และจ้องเขา พวกเขาตระหนักว่าซูผิงไม่ได้อยู่ในระดับตำนาน เขาอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ขั้นกลาง!
  พวกเขายังอยู่ในระดับที่สูงกว่า และซูผิงไม่ได้ใช้ทักษะใดๆ เพื่อปิดบังระดับของเขา ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถสังเกตเห็นได้อย่างรวดเร็ว
  อะไร…?
  หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง หนึ่งในนักรบอสูรในตำนานก็อดไม่ได้ที่จะถามอีกว่า “คุณหมายความว่าน้องซูยังคงอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์?”
  อวิ๋นว่านหลี่พยักหน้าและฝืนยิ้ม
  ใช่
  ยังคงเป็นนักรบอสูรกิตติมศักดิ์
  เขาเป็นเช่นนี้ในขณะที่ยังอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ เขาเป็นสัตว์ประหลาด!
  นักรบอสูรในตำนานต่างตกตะลึงเมื่อเห็นอวิ๋นว่านหลี่พยักหน้า แม้แต่เย่อู่ซิวที่สงบนิ่งที่สุดก็ยังตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
  มันเห็นได้ชัดว่าโครงกระดูกนั่นมีพลังที่สภาวะว่างเปล่า
  ซูผิงเป็นเจ้านายของมัน ซูผิงจะอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ได้ยังไง?
  นักรบอสูรไม่สามารถทำสัญญากับอสูรที่อยู่ข้ามระดับขนาดนั้นได้ มันเป็นกฎที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้!
  เว้นแต่… โครงกระดูกนั้นจริงๆ แล้วอยู่ที่สภาวะมหาสมุทร ไม่ใช่สภาวะว่างเปล่า!
  แต่นั่นจะยิ่งน่าโมโหกว่าเดิมอีก
  อสูรสภาวะสมุทรสามารถต่อสู้แบบนั้นได้ยังไง? ไม่มีใครเคยเห็นอสูรแบบนั้น!
  ซูผิงขมวดคิ้วขณะมองไปยังกลุ่มคนที่เงียบงัน “คุณพูดถึงบางสิ่งที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คุณหมายถึงอะไร?”
  นักรบอสูรในตำนานมองซูผิงด้วยความประหลาดใจ พวกเขาแทบจะไม่สามารถจินตนาการได้ว่าซูผิงอยู่แค่ระดับกิตติมศักดิ์
  นักรบอสูรกิตติมศักดิ์เข้ามาในถ้ำลึก ช่างกล้า!
  “น้องซู นายมาที่นี่เพื่อตามหาน้องสาวหรอ?”
  “น้องซูบอกผมเกี่ยวกับอสูรของคุณ ผมไม่เคยเห็นโครงกระดูกแบบนี้มาก่อน ทำไมมันถึงดูเหมือนโครงกระดูกทั่วไป?”
  เหล่านักรบอสูรในตำนานต่างตั้งคำถามพร้อมๆ กัน
  เย่อู่ซิวทำให้ทุกคนเงียบลงและพูดกับซูผิงว่า “น้องซู นายเป็นชายหนุ่มที่ซื่อสัตย์ ฉันเคารพนาย สำหรับทุ่งที่นี่นั้นมี… มีห้าทุ่งที่แตกต่างกัน และตำแหน่งของพวกมันจะเปลี่ยนตลอดเวลา ตัวอย่างเช่น ตอนนี้เราอยู่ใกล้ทางเข้าหมายเลข 7 ที่สุด แต่สถานที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง น้องสาวของคุณเข้ามาเมื่อไหร่”
  “สัปดาห์ที่แล้ว” ซูผิงตอบ “มีอะไรเปลี่ยนแปลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาบ้าง?”
  ”สัปดาห์?”
  เย่อู่ซิ่วพยักหน้า “อืม สถานที่จะเปลี่ยนสองถึงสามครั้งต่อสัปดาห์ สัปดาห์ที่ผ่านมานี้เปลี่ยนไปสองครั้งแล้ว ฉันไม่แน่ใจเกี่ยวกับข้อมูลที่แน่นอน แต่ฉันสามารถถามใครบางคนว่าพวกเขาเห็นน้องสาวของนายหรือเปล่าได้”
  “คุณติดต่อได้ไหม?” นั่นเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิด “ขอบคุณครับ”
  “อย่าพูดอย่างนั้น”เย่อู่ซิวโบกมือ “ฉันจะไปถามให้ พวกนายพาน้องซูกลับไปที่ฐานของเราก่อน”
  “หัวหน้าระวังตัวด้วย”
  “หัวหน้าให้ผมไปด้วย”
  คนอื่นๆ ดูเป็นกังวล
  ซูผิงตระหนักว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง “การติดต่อกับพวกเขาอันตรายหรือเปล่า?”
  เย่อู่ซิวยิ้ม “ไม่เป็นไรน้องซูไม่ต้องกังวล พวกนายกลับไปกับน้องซู เฉินไปกับฉัน”
  ชายชราคนหนึ่งก้าวมาข้างหน้า “ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่ปล่อยให้เขาเป็นอันตราย”
  นักรบอสูรในตำนานคนอื่นๆ ยอมรับข้อตกลงนี้
  “น้องซูไปกันเถอะ อย่างไรก็ตาม น้องซู นายมาจากโลกข้างบน นายเคยได้ยินเกี่ยวกับตระกูลซ่งซึ่งประจำการอยู่ในเมืองฐานเซียงเจิ้นไหม?”
  “น้องซู นายเคยได้ยินเกี่ยวกับตระกูลหานไหม? ฉันเป็นหนึ่งในสมาชิกของพวกเขา”
  กลุ่มนักรบอสูรในตำนานรวมตัวกันอยู่รอบ ๆ ซูผิง ขณะที่บางคนสังเกตเห็นว่าซูผิงโดนรุมล้อมมากพอแล้ว พวกเขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่อวิ๋นว่านหลี่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว