ตอนที่ 649 การโจมตีอีกระลอก
จริงจังมาก?
ลู่ฉิว กลอกตาใส่ซูผิง
เนื่องจากซูผิงไม่ฟังเหตุผล ลู่ฉิวจึงคิดว่าสมควรที่จะเตือนประธาน “ท่านครับ คุณซูยังเด็กมาก อย่าโกรธเขาถ้าเขาทำให้ท่านขุ่นเคือง ”
ชายชรายิ้ม “โอ้ ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับการกระทำที่กล้าหาญของคุณซู อัจฉริยะอย่างคุณซูต้องมองเห็นและแสดงสิ่งที่ไม่ธรรมดา อัจฉริยะแตกต่างจากคนทั่วไป…”
ลู่ฉิว ฝืนยิ้ม
ซูผิงแตกต่างอย่างแน่นอน เขาบ้า!
ซูผิงถามว่า “ท่านประธาน ผมจะเรียกคุณว่าไงดี?”
“เรียกผมว่าเฒ่าจู่” เขายิ้ม
”จริงหรอ? จู่ ที่ดูเหมือนสวนสัตว์” ซูผิงกระพริบตา
ผู้คนรอบข้างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่พวกเขาเพิ่งได้ยิน ซูผิงกล้าพอที่จะล้อเลียนท่านประธาน!
ลู่ฉิว หวาดกลัว “คุณซู!”
”ฮ่า…”
แต่เฒ่าจู่หัวเราะ “น้องซู ผมเห็นแล้วว่าคุณแตกต่างจริงๆ คุณผิดแปลกจากบรรทัดฐาน และผมชอบ นามสกุลของผมคือจู่ และพวกเขามักจะเรียกผมแบบนั้น แต่ผมคิดว่าคุณพูดถูก ฮ่า…”
“เฒ่าจู่ ถ้ำลึกกำลังมีปัญหา โลกก็เช่นกัน เมืองฐานแสงศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่สถานที่ปลอดภัย ผมได้ยินจากพี่ลู่ว่าคุณใกล้จะเป็นผู้ฝึกสอนจิตวิญญาณเทวะแล้ว คุณไปที่บ้านของผมไหม มีสถานที่ที่ปลอดภัยมากๆ ผมสัญญาว่าคุณจะปลอดภัย”
ซูผิงเชิญเขาให้ออกจากเมืองฐาน
เขาตัดสินใจผ่านการพูดคุยกันสั้นๆ ว่าเฒ่าจู่เป็นคนดี และคู่ควรกับความช่วยเหลือของเขา
ยังไงซะ มันน่าเสียดายถ้าผู้ฝึกสอนจิตวิญญาณเทวะจะต้องตายที่นี่
”คุณซู!” ลู่ฉิวกำลังหมดความอดทน
เขาเพิ่งบอกซูผิงให้หลีกเลี่ยงการพูดบ้าๆ!
และเขาก็พูดอีกครั้ง! ในโลกทั้งใบ นอกจากหอคอย ไม่มีที่ใดที่ปลอดภัยไปกว่าเมืองฐานแสงศักดิ์สิทธิ์!
นอกจากนั้น เมืองนี้ยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับผู้ฝึกสอนทุกคน และซูผิงก็ขอให้ประธานของที่นี่ย้ายที่อยู่ ช่างเป็นเรื่องตลกเสียนี่กระไร!
เฒ่าจู่รู้สึกประหลาดใจ มันทำให้เขาประหลาดใจมากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะเขาสามารถเห็นความจริงใจที่ซูผิงถ่ายทอด เฒ่าจู่ถามต่อว่า “น้องซู ผมได้ยินมาว่าคุณไม่ได้เป็นเพียงผู้ฝึกสอนชั้นนำเท่านั้น แต่ยังเป็นนักรบอสูรที่โดดเด่น คุณสามารถฆ่านักรบอสูรในตำนานได้ในขณะที่คุณอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์เท่านั้น คุณยังสามารถบุกเข้าไปในหอคอยและออกมาได้อย่างปลอดภัย คุณซู ผมสงสัยว่า… ใครเป็นอาจารย์ของคุณ”
คนอื่นๆ ตกตะลึงในความเงียบ ลู่ฉิวและผู้ฝึกสอนชั้นนำคนอื่นๆ เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ
ฆ่านักรบอสูรในตำนาน?! บุกเข้าไปในหอคอย?!
ทั้งหมดเป็นเรื่องตลกหรือ?
“เฒ่าจู่คุณตรวจสอบภูมิหลังของผมแล้วใช่ไหม?” ซูผิงเลิกคิ้วขึ้น ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสจะรวบรวมข้อมูลมาเพียงพอ ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ทราบรายละเอียดเหล่านั้น
ไม่แปลกใจเลยที่เขาให้ความเคารพซูผิง
“ใครก็ตามที่เป็นอาจารย์ของผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผมทำ ผมฆ่านักรบอสูรในตำนานเพราะพวกเขาทำให้ผมโมโหหรือสมควรตาย สำหรับหอคอย… คุณรู้ว่าผมไม่ชอบพวกเขา และผมไม่ได้พยายามปิดบังความจริงนั้น แต่ที่ผมขอให้คุณไปกับผม ไม่ใช่เพราะผมต้องการทำให้หอคอยโกรธ!
“ความจริงก็คือถ้าหอคอยสามารถส่งนักรบอสูรในตำนานมาปกป้องเมืองเมืองฐานแสงศักดิ์สิทธิ์ได้มากกว่านี้ ผมคงดีใจมากที่ได้เห็นสิ่งนั้น!”
ซูผิงยอมรับว่าเขาทำสิ่งเหล่านั้นจริง ลู่ฉิวและคนอื่นๆ มองมาที่เขาด้วยความประหลาดใจ ทันใดนั้นพวกเขาก็ตระหนักว่าพวกเขายังไม่รู้จักซูผิงดีพอ
ผู้ฝึกสอนชั้นนำที่เป็นผู้ท้าทายโชคชะตาด้วย?
มีอยู่จริงหรอ?!
เฒ่าจู่พยักหน้าที่ซูผิง “คุณพูดถูก ขอบคุณคุณซู ผมเชื่อใจคุณ แต่ผมต้องบอกว่าผมเป็นประธานสมาคมผู้ฝึกสอน และสำหรับผมแล้ว เมืองเมืองฐานแสงศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่แค่บ้านเกิด นี่คือสถานที่ที่ผมใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อปกป้อง
“ถ้ามีอะไรผิดพลาด ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะยืนหยัดกับเมืองฐานแสงศักดิ์สิทธิ์จนถึงวินาทีสุดท้าย
“แน่นอน มันคงดีที่สุดถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น” เขากล่าวเสริมด้วยรอยยิ้ม
”… ถ้าคุณพูดอย่างนั้น”
เนื่องจากเฒ่ายืนกรานที่จะอยู่ต่อ ซูผิงจึงตัดสินใจเลิกวิ่งเต้น เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ หากเป็นเขาและมีคนมาบอกให้เขาออกจากเมืองฐานหลงเจียงเพื่อมีชีวิตอยู่ เขาจะ… ไปแน่นอน!
ในที่สุดเขาก็ไม่เข้าใจ
ซูผิงส่ายหัว ถ้าเป็นเขา เขาจะเอาชีวิตรอดก่อนแล้วจึงกลับไปบ้านเกิดเพื่อขึ้นมาสร้างใหม่ นั่นคือสิ่งที่เขาจะทำ ทำไมต้องอยู่จนชีวิตตกอยู่ในอันตราย? แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจ แต่เขาเคารพทางเลือกของเฒ่าจู่
เป็นเรื่องยากที่ผู้คนจะปฏิบัติตามความเชื่อของตน ผู้ที่ทำได้ต้องได้รับการเคารพ
”คุณซู คุณมาที่นี่เพื่อช่วยพวกเราเหรอ?” เฒ่าจู่ถามด้วยรอยยิ้ม
ซูผิงพยักหน้า “ผมอยู่เมืองฐานหลงหยางเพื่อจัดการธุระ และได้ยินเรื่องเมืองฐานของคุณ ดังนั้นผมจึงมาช่วย แต่ปัญหาได้รับการแก้ไขแล้ว ราชาอสูรร้ายถูกสังหาร และอสูรป่าที่เหลือจะไม่ทำอันตรายร้ายแรงใด ๆ ได้ ” “เราได้ยินเรื่องนี้จากลู่ฉิว พวกเขากำลังรวบรวมรายละเอียดเพิ่มเติมอยู่”
เฒ่าจู่จ้องมองซูผิง “คุณซู ผมได้ยินมาว่าคุณฆ่าราชาอสูร ผมอยากจะขอบคุณแทนทุกคนในเมืองฐานแสงศักดิ์สิทธิ์!”
เฒ่าจู่วางเท้าชิดกัน ไขว้แขนขวาไว้ข้างหน้าหน้าอกแล้วโค้งคำนับ
นั่นทำให้ ลู่ฉิว และผู้ฝึกสอนคนอื่นๆ ตกใจ
เฉพาะนักรบสัตว์อสูรในตำนานอาวุโสเท่านั้นที่คู่ควรกับการคำนับของเฒ่าจู่!
แม้แต่นักรบในตำนานสภาวะสมุทรก็ยังต้องปฏิบัติต่อผู้อาวุโสจู่ด้วยความเคารพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขากำลังจะเป็นผู้ฝึกสอนจิตวิญญาณเทวะ พวกเขาจะต้องพึ่งพาเขาในการฝึกอสูรของพวกเขา
“ท่านอย่าทำแบบนี้”
“ท่านครับ ได้โปรดอย่า”
ผู้ฝึกสอนระดับแนวหน้าหวังว่าพวกเขาจะสามารถขอให้เฒ่าจู่ลุกขึ้นได้ แต่พวกเขากลัวที่จะเข้าไปแทรกแซง
ซูผิงไม่ได้คาดหวังท่าทางที่เคารพเช่นนี้เช่นกัน เขาปลดปล่อยพลังดวงดาวเพื่อช่วยเฒ่าจู่ลุกขึ้นและกล่าวว่า “คุณพูดเกินไป มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ท้ายที่สุดผมไม่ได้ทำสิ่งนี้ฟรีๆ ดูสิ พี่ลู่ได้ให้เอกสารผมมาสามม้วนแล้ว มันมากเกินพอที่จะขอบคุณและตอบแทนผม”
เฒ่าจู่ยืนขึ้นและจ้องมองที่ ลู่ฉิว
“อย่าพูดถึงมันเลยคุณซู คุณวางแผนที่จะใช้สื่อเหล่านี้สำหรับศิษย์ของคุณใช่หรือไม่?” เฒ่าจู่ถาม
ซูผิงฝืนยิ้ม “ผมเห็นว่าคุณรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับผม ใช่ ผมขอเอกสารเหล่านั้นสำหรับศิษย์ของผม เนื่องจากผมไม่มีเวลาสอนเธอ เธอจะต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง”
เฒ่าจู่ทำหน้านิ่งและพูดกับ ลู่ฉิว ว่า “ลู่ เมืองเมืองฐานแสงศักดิ์สิทธิ์เป็นหนี้คุณซู เขากอบกู้เมืองฐานของเรา นี้เป็นวิธีที่นายขอบคุณเขาหรอ? ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าคุณซูจะขออะไร ตราบใดที่เรามี เราก็ต้องให้เขาให้ได้!” ลู่ฉิวตะลึงงัน
คนอื่นๆ ก็เช่นกัน
ซูผิงจะได้ทุกอย่างที่เขาต้องการ?
เรื่องของราชาอสูรยังไม่ได้รับการยืนยัน!
ซูผิงอ้างสิทธิ์เหล่านั้นโดยไม่แสดงหลักฐาน ทำไมประธานถึงเชื่อแบบนั้น?
“ท่านครับ เรายังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับเรื่องนั้น คุณซูมาที่นี่เพื่อช่วย แต่ทว่า…” ลู่ฉิวต้องการอธิบายแต่ไม่สามารถหาคำที่เหมาะสมได้
เฒ่าจู่ดุเขาว่า “ไปถามผู้มีตาทิพย์ว่าใครคือคุณซู! เขาฆ่านักรบอสูรระดับตำนานในที่สาธารณะที่ลีกสูงสุด และออกจากหอคอยอย่างปลอดภัยหลังจากฆ่านักรบอสูรในตำนานสองคน หอคอยไม่ได้คิดที่จะให้เขารับผิดชอบด้วยซ้ำ มีอะไรน่าแปลกใจที่คุณซูสามารถฆ่าราชาอสูรร้ายได้? ทำไมชายที่มีความสามารถนี้จึงต้องโกหก?”
ลู่ฉิวและคนอื่นๆ พูดไม่ออก งั้นมันก็จริง
พวกเขาจ้องมองซูผิงอย่างงงงวย
แน่นอน ไม่น่าเป็นไปได้ที่ประธานของพวกเขาจะโกหก แต่มันก็ยากที่จะเชื่อ
ซูผิงมองไปที่ฝูงชนที่ตกใจ ” ประธาน ขอบคุณสำหรับความกรุณา ตามที่คุณเสนอมา ผมต้องการเอกสารหลายสิบฉบับที่เกี่ยวข้องกับสื่อการสอนหลัก และสื่อสำหรับผู้ฝึกสอนชั้นนำ เอาทุกสิ่งที่คุณมีมาให้ผมแล้วผมจะคืนให้คุณเมื่อผมใช้เสร็จแล้ว”
เมื่อคนอื่นๆ กลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง พวกเขาก็ต้องตกใจอีกครั้งกับความโลภของซูผิง
เขากำลังจะล้างห้องสมุดของพวกเขา!
“น้องซู ซู…” ลู่ฉิวพูดตะกุกตะกัก เฒ่าจู่สับสน “คุณซู ผมไม่คิดว่าศิษย์ของคุณจะสามารถเรียนทั้งหมดได้”
“เธอมีเวลา”
ลู่ฉิวโพล่งเข้ามา “คุณสามารถกลับมาเอาเพิ่มได้หลังจากที่เธออ่านจบ”
ซูผิงตอบว่า “แต่ผมเกรงว่าหนังสือทั้งหมดจะหายไปในไม่ช้า”
“ทำไมถึงคิดเช่นนั้น? เราจะทำให้พวกมันปลอดภัย…” ลู่ฉิวกล่าว
ซูผิงส่ายหัว “ผมพูดไปแล้วและผมจะพูดอีกครั้ง สถานการณ์ซับซ้อนมาก ผมจัดการการโจมตีของวันนี้ได้ แต่ไม่มีใครสามารถพูดได้อย่างแน่นอนว่าอสูรร้ายจะไม่กลับมาอีก หอคอยไม่สามารถส่งนักรบอสูรในตำนานมามากกว่านี้ได้ คุณคิดจริงๆหรอว่าคุณสามารถปกป้องเมืองฐานได้?
ลู่ฉิวขยับริมฝีปาก แต่ไม่สามารถพูดได้
เฒ่าจู่ถามว่า “น้องซู คุณรู้อะไร?”
ซูผิงพยักหน้า “คุณจะรอให้หอคอยแจ้งรายละเอียดให้คุณทราบก็ได้ เพราะผมไม่ว่างที่จะพูด เผื่อในกรณีที่ข้อมูลลับรั่วไหล และประชาชนทั่วไปตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนก โดยสรุปแล้ว ข้างนอกนั้นอันตราย เมืองฐานแสงศักดิ์สิทธิ์อาจหายไปอย่างรวดเร็วหากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ถ้าคุณต้องการที่จะอยู่รอด ไปที่เมืองฐานหลงเจียงผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อให้สถานที่นั้นปลอดภัย”
เฒ่าจู่ตกอยู่ในความเงียบ
ปฏิกิริยาของเขาบอกคนอื่นๆ ว่าเขาเชื่อใจซูผิง เป็นความจริงหรือไม่ที่สถานการณ์เลวร้ายจนแม้แต่หอคอยก็ไม่สามารถรับมือได้?
”ผมเข้าใจ ขอบคุณคุณซูที่บอกเรา” เฒ่าจู่กลับมารู้สึกตัว
“อย่าพูดอย่างนั้นเลย คุณสามารถไปหาผมได้ทุกเมื่อที่ต้องการ” ซูผิงกล่าว “ผมรีบ เรื่องสื่อการเรียน…”
“ลู่ พาคุณซูไปเอา” เฒ่าจู่พูดกับลู่ฉิว
ลู่ฉิวพยักหน้า
“พี่ชือ ไปกับผมแล้วพาลูกสาวของคุณไปด้วย” ซูผิงพูดกับชายวัยกลางคน
ชายวัยกลางคนคนนั้นคือชือหาวจื่อ เขารู้ว่าซูผิงมาที่นี่เพื่อมาหาเขา แต่ความสุขของการได้พบกันกลับกลายเป็นอารมณ์ที่ซับซ้อนหลังจากได้ยินบทสนทนานั้น
“ผมจะไป” ชือ หาวจื่อกล่าว เขาได้ตัดสินใจแล้ว
เขากับลู่ฉิวต่างกัน ภรรยาของชือหาวจื่อเสียชีวิตก่อนเวลาอันควร และเขากังวลเกี่ยวกับลูกสาวสองคนของเขา ตราบใดที่เด็กสาวทั้งสองปลอดภัย เขาก็ยอมสละเหรียญในฐานะผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์
ซูผิงออกจากฝูงชนและไปที่ห้องสมุดกับลู่ฉิว ซูผิงเข้าไปในห้องสมุดและนำทุกอย่างที่เขาหยิบได้
เขาทิ้งพวกสมบัติและชุดเกราะสำหรับอสูร จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเมืองเมืองฐานแสงศักดิ์สิทธิ์ถูกโจมตีอีกครั้ง? สมาคมผู้ฝึกสอนจะต้องจัดเตรียมนักรบอสูร
”ไปกันเถอะ”
ลู่ฉิว โล่งใจเมื่อเห็นว่าซูผิงไม่สนใจสมบัติล้ำค่า ทว่าการกระทำของชายหนุ่มกลับยิ่งน่าสับสน
“คุณจะไปทันทีเลยเหรอ?” ลู่ฉิวถาม “ท่านประธานชอบคุณ หากคุณต้องการขอคำแนะนำ ผมแน่ใจว่าประธานยินดีที่จะบอกคุณ”
ซูผิงพูดไม่ออก “พี่ลู มันไม่มีประโยชน์ที่จะเป็นผู้ฝึกสอนจิตวิญญาณเทวะในเวลานี้ อสูรร้ายกำลังมา มันจะดีอะไรที่จะเป็นผู้ฝึกสอนจิตวิญญาณเทวะตอนนี้?
“แม้แต่ผู้ฝึกสอนจิตวิญญาณเทวะก็ยังต้องการเวลาในการฝึกฝนราชาอสูร คงไม่มีโอกาสได้แสดงปาฏิหาริย์ มันจะไม่เป็นวิธีแก้ปัญหาที่รวดเร็ว อสูรป่าจะไม่ให้เวลาคุณฝึกฝน”
ลู่ฉิวตกใจ “มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
”ไม่มากก็น้อย”
ซูผิงตบไหล่ของเขาแต่ไม่ได้พูดอะไรอีกในขณะที่เขาเดินจากไป
ลู่ฉิวเดินตามซูผิงทันที
พวกเขาออกจากสมาคมและไปที่กำแพงชั้นนอก
พวกเขากำลังจะไปถึงกำแพงชั้นนอก ในทันใด ผนังด้านนอกก็เริ่มสั่นสะเทือน หลังจากนั้นก็เกิดรอยร้าวบนผนังด้านนอก!
จากใต้กำแพงชั้นนอกที่แตกร้าว เอื้อมมือออกไปเห็นหนวดที่บิดเบี้ยวสีเข้ม แต่ละเส้นหนาและยาวหลายร้อยเมตร
กำแพงชั้นนอกสร้างโดยอสูรตระกูลหิน และมันก็ทั้งแข็งแรงและยืดหยุ่น แม้แต่ขีปนาวุธก็ไม่สามารถทำลายมันได้… แต่อสูรร้ายทำได้!
คำราม!!
เสียงคำรามดังก้องไปทั่ว นักรบอสูรหลายคนที่ยืนอยู่ใกล้รอยแยกถูกกลายเป็นฝุ่น
“มันมาแล้ว!”
ลู่ฉิวหรี่ตาลง อุปกรณ์ส่งเสียงบี๊บ มีแสงสีน้ำเงินส่องผ่านผ้าในกระเป๋าของเขา นั่นคือเครื่องตรวจจับอสูรป่า
ซูผิงขมวดคิ้ว ปลาหนีจากอวน และตัวใหญ่อยู่ตรงนั้น!
หวืด! หวืด! หวืด!
ในขณะนั้น ผู้คนจำนวนมากบินขึ้นไปที่กำแพงชั้นนอก วังวนนับสิบๆ อันปรากฏขึ้นใกล้กับคนเหล่านั้น อสูรที่ดุเดือดพุ่งออกมาจากวังวน อสูรบางปีก บางตัวเหมือนตั๊กแตนตำข้าวแปลก ๆ และบางตัวก็เต้นรำไปรอบ ๆ เหมือนผี อสูรเหล่านั้นโจมตีหนวด
ถึงกระนั้นอสูรระดับเก้าเหล่านั้นก็ดูตัวเล็กเมื่อเทียบกับหนวดพวกนั้น อสูรสามหรือสี่ตัวรวมกันไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่ากับหนวดเดียว
โฮก!!
ทันใดนั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากสิ่งมีชีวิตประเภทอื่น
ตอนที่ 650 ฆ่าราชาอสูรสภาวะว่างเปล่าในชั่วพริบตา
มังกรที่ปกคลุมไปด้วยผลึกคำรามขณะที่มันยืนอยู่บนพื้นดินนอกกำแพง
มังกรตัวนั้นยาวหลายร้อยเมตรและสูงเกือบแปดสิบเมตร ผลึกที่แหลมคมทั่วทั้งตัวของมันเหมือนกับหนามของเม่น
ซูผิงจำได้ทันทีว่ามันเป็นอสูรร้ายที่มีสายเลือดสภาวะว่างเปล่าที่ชื่อว่ามังกรดินผลึก!
มังกรตัวนั้นใกล้โตเต็มวัย แต่ยังอยู่ในสภาวะสมุทร สายเลือดของสภาวะว่างเปล่าไม่ได้รับประกันว่าจะไปถึงสภาวะว่างเปล่า หากไม่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี หรือ “ขาดสารอาหาร” เช่นนั้นมังกรจะไม่มีวันไปถึงสภาวะว่างเปล่าตลอดชีวิต
พื้นดินรอบๆ หนวดสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเมื่อมังกรคำราม กำแพงผลึกจำนวนมากโผล่ออกมาจากพื้นดินและล้อมรอบหนวดไว้
พื้นดินกำลังตกผลึก
ก้อนหินถูกรวบรวมไว้หกมุม กลายเป็นเสาผลึก 6 เสาที่หยั่งรากลึก เผื่อว่าอสูรป่าจะพยายามแอบหนีไปใต้ดิน
“ไปซ่อน!” ชายคนหนึ่งตะโกน
เขากำลังตะโกนใส่ผู้บัญชาการสูงสุด และบรรดานักรบอสูรกิตติมศักดิ์
พวกเขาอ่อนแอเกินกว่าจะจัดการกับราชาอสูรได้ พวกเขาต้องหาที่ซ่อน
”นั่น…”
ผู้บัญชาการสูงสุดและคนอื่นๆ ตกใจกับการโจมตีกะทันหัน พวกเขาถูกลอบโจมตี!
เมืองฐานแสงศักดิ์สิทธิ์ลงทุนเงินจำนวนมากเพื่อสร้างเครื่องตรวจจับอสูรร้าย แต่พวกเขาไม่ได้รับการแจ้งเตือนใดๆเลย ไม่มีใครสัมผัสได้ถึงการปรากฏตัวของราชาอสูรตัวนั้น!
เนื่องจากมีอสูรตระกูลหินหลายชนิด เมืองฐานหลายแห่งจึงติดตั้งเครื่องตรวจจับอสูร เผื่อในกรณีที่มีอสูรร้ายใดพยายามแทรกซึมเข้ามาใต้ดิน
เครื่องตรวจจับอสูรร้ายที่ใช้ในเมืองฐานแสงศักดิ์สิทธิ์นั้นยอดเยี่ยมที่สุด!
พวกเขาควรจะสามารถตรวจจับราชาอสูรร้ายได้แม้พวกมันจะอยู่ห่างออกไปหลายแสนเมตร! แต่ราชาอสูรร้ายนี่ก็โผล่ขึ้นมาทันที ดูเหมือนว่ามันเพิ่งจะเคลื่อนย้ายมายังจุดนั้น!
แต่อสูรร้ายประเภทไหนที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ไกลขนาดนี้!
หวืด หวืด หวืด!
ผู้บัญชาการสูงสุดและคนอื่นๆ ได้ปล่อยอสูรของพวกเขาเพื่อปกป้องพวกเขา พวกเขาต้องหาจุดที่ปลอดภัยและรอให้ตำนานริมแม่น้ำต่อสู้
ทันทีที่ผู้บัญชาการสูงสุดและคนอื่นๆ จากไปตำนานริมแม่น้ำก็เปิดวังวนสองและสามวังวนโดยไม่ลังเล!
โฮก!
ฟ่อ!
อสูรสองตัวออกมา อสูรตัวที่สองคือนกที่ปกคลุมไปด้วยขนเพลิง มันมีเขี้ยวและส่งเสียงคำรามดังสนั่น ใช่ มันเป็นเสียงคำราม แทนที่จะเป็นเสียงร้องปกติที่นกส่วนใหญ่ใช้
อสูรอีกตัวหนึ่งคืออสรพิษที่มีเกล็ดสีดำและมีเขาแหลมคมอยู่บนหัว มีเกล็ดสีอ่อนผสมกับสีดำ เมื่อมองจากระยะไกล เกล็ดสีอ่อนกว่านั้นเหมือนตาสีเทาซึ่งทำให้ไม่น่ามองมากๆ
ตำนานริมแม่น้ำได้สั่งให้ราชาอสูรทั้งสองเข้าจู่โจมราชาอสูรป่าทันทีที่พวกมันออกมา
ลำแสงแผดเผาถูกยิงไปทางหนวดหนึ่งอันที่โบกอยู่ มันดูคล้ายกับรังสีแผดเผาแต่รังสีของแสงนั้นอันตรายยิ่งกว่า รังสีทะลุผ่านหนวด สร้างรูโหว่ไว้
อสรพิษเกล็ดสีดำเลื้อยเข้าหาราชาอสูรร้ายหนวดอย่างรวดเร็ว
หวืด หวืด หวืด!
หนวดสัมผัสได้ถึงศัตรูที่ใกล้เข้ามา และหยุดเข้าไปพัวพันกับเหล่านักรบอสูรที่น่ารำคาญและอสูรของพวกเขา มันหันไปเผชิญหน้ากับอสรพิษเกล็ดสีดำ
ระหว่างนั้น หมอกดำทะมึนทะลักออกมาจากพื้นดิน
อสูรที่อยู่ใกล้ๆ ที่สัมผัสกับหมอกดำร้องอย่างน่าสังเวช พวกมันถึงกับขนร่วง
“หมอกพิษ!”
“ออกไป! ปิดกั้นหมอก!”
เหล่านักรบอสูรกิตติมศักดิ์บางคนตะโกนและก้าวถอยหลังทันที
คนอื่นๆ ก็ก้าวออกไปด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาใช้อสูรบางตัวสร้างกำแพงลม และหมอกน้ำแข็งเพื่อป้องกันพิษ
หมอกนั้นดูเหมือนจะไม่รบกวนอสรพิษดำ มันยังคงโจมตีหนวดบางอัน และพื้นดินก็สั่นสะเทือน
ในระยะไกลผลึกแหลมจำนวนมากรวมกันบนหลังมังกรดินผลึก มังกรกำลังเตรียมการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่
“บัดซบ ทำไมอสูรร้ายถึงมาอยู่ที่นี่? เครื่องตรวจจับของเราใช้ไม่ได้ผลแล้วหรือไง? ฉันไม่คิดว่าอย่างนั้น”
“การเคลื่อนย้าย? แต่อย่างน้อยอสูรร้ายจะต้องอยู่ในสภาวะว่างเปล่า แม้แต่ราชาอสูรร้ายสภาวะว่างเปล่าก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ไกลขนาดนี้!”
“ชายคนนั้นบอกว่าเขาฆ่าราชาอสูรร้ายสิบสองตัวแล้วไม่ใช่หรอ? นี่มันอะไรกันเนี่ย”
“นายยังคงเชื่ออย่างนั้นหรือ? ยสบเข้าใจหรือยังว่าราชาอสูรร้ายทั้งสิบสองเป็นตัวแทนของอะไร? ฉันจะกิน***ของตัวเองถ้าเขาสามารถฆ่าพวกมันทั้งหมดได้ด้วยตัวเอง!”
ผู้บัญชาการสูงสุดเป็นกังวล บรรดานักรบอสูรและอสูรหลายตัวไม่สามารถหลบหนีได้ และพวกเขาก็ล้มลงทีละคน/ตัว บางคนที่ไม่สามารถออกไปได้ทันเวลากำลังละลายเหมือนเทียน น่ากลัวเกินกว่าจะมอง
การปรากฏตัวของราชาอสูรร้ายอย่างกะทันหันเป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัว
ข้อดีคือราชาอสูรร้ายอยู่นอกกำแพง ถ้ามันปรากฏขึ้นในเมืองฐานโดยตรง โอกาสที่ผู้บาดเจ็บจะเกินจินตนาการ! อย่างไรก็ตามมีนักรบอสูรไม่มากนักที่ประจำการอยู่ในเมือง
“เตรียมขีปนาวุธรังสีทมิฬ!”
“เล็งไปที่ร่างของราชาอสูรร้าย วิเคราะห์ข้อมูลและดูว่าสามารถหาข้อมูลที่ตรงกันในฐานข้อมูลได้หรือไม่!”
“จับตาดูให้ดี ฉันกังวลว่าสิ่งนี้เป็นเพียงภาพลวงตาและการโจมตีจะเกิดขึ้นที่อื่น อาจมีราชาอสูรตัวอื่นแอบแฝงอยู่ด้วย!”
ผู้บัญชาการสูงสุดออกคำสั่ง แม้จะกังวลแต่ชายชราก็ยังควบคุมได้
ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นปฏิบัติตามคำสั่งของเขา ด้วยความหวาดกลัวและประหม่า อีกตัว?
เมืองฐานแสงศักดิ์สิทธิ์จะถึงวาระหากมีราชาอสูรอีกตัว!
โฮก!!
ขณะที่พวกเขากำลังยุ่งอยู่กับหน้าที่ พวกเขาได้ยินเสียงคำรามของมังกรมาจากในหมอก แต่มังกรร้องด้วยความเจ็บปวด
มีการกระแทกบนพื้น ร่างยักษ์ปรากฏตัวขึ้น
หมอกทำให้สายตาของผู้คนมองไม่ชัด พวกเขามองเห็นเพียงโครงร่างเท่านั้น
สิ่งนั้นดูเหมือน…หอยสังข์!
เปลือกมีปลายแหลมและมีหนวดหนาหลายเส้นโบกไปมา ในขณะนั้นเอง ก็มีแถบเงาขนาดมหึมาปกคลุมหนวด เงาคืออสรพิษเกล็ดดำ
อสรพิษถูกหนวดบางอันพัน และมันกำลังดิ้นรน
อสรพิษพยายามโต้กลับ แต่ไม่มีอะไรที่จะทำลายเปลือกนั้นได้ “บัดซบ!”
ตำนานริมแม่น้ำกัดฟัน
ทันทีที่อสูรร้ายออกมา เขาก็สังเกตเห็นว่ามันอยู่ในสภาวะว่างเปล่า!
เขาไม่มั่นใจในการต่อสู้กับอสูรสภาวะว่างเปล่า แต่เขาเป็นนักรบอสูรในตำนานเพียงคนเดียวในเมืองฐาน ดังนั้นเขาจึงต้องเผชิญหน้ากับมัน! เพียงแค่ว่าเขาไม่คาดคิดว่าเพื่อนของเขาอสรพิษจะถูกโจมตีอย่างรวดเร็ว!
”ผสาน!”
ตำนานริมแม่น้ำผสานเข้ากับนกอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นนกก็กลายเป็นเปลวเพลิงที่ล้อมรอบตัวเขาในทันที
หลังจากที่เปลวเพลิงหายไป ชายผู้ยิ่งใหญ่ก็ปรากฏตัวขึ้น ตำนานริมแม่น้ำมีขนาดใหญ่กว่าเมื่อก่อนถึงสามเท่า เขามีปีกสีแดงคู่หนึ่ง มีขนอยู่บนตัว มือของเขากลายเป็นกรงเล็บ
”ไปลงนรกซะ!”
ตำนานริมแม่น้ำพุ่งเข้าไปในหมอก
ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเปลวเพลิงที่ลุกโชน เขาพุ่งไปในหมอกพิษ มุ่งตรงที่จะโจมตีราชาอสูรร้ายที่มีรูปร่างคล้ายหอยสังข์
ม่ออ!!
ราชาอสูรที่เหมือนหอยสังข์สัมผัสได้ว่าตำนานริมแม่น้ำกำลังใกล้เข้ามา ราชาอสูรร้ายส่งเสียงร้องคล้ายกับกลุ่มวัว
บรรดานักรบอสูรกิตติมศักดิ์ซึ่งยังไม่หลุดจากหมอกพิษปิดหูของพวกเขา และตั้งโล่ขึ้น ทันใดนั้นโล่ก็พังทลาย ในไม่ช้า นักรบอสูรกิตติมศักดิ์บางคนก็เริ่มมีเลือดออกทางตาหรือจมูก
ตำนานริมแม่น้ำรู้สึกวูบวาบแต่เขาไม่สนใจความรู้สึกไม่สบายนั้น เขาสร้างลูกไฟแล้วขว้างใส่ราชาอสูรร้าย
ลูกไฟนั้นขุ่นมัว แม้ว่าจะอันตรายถึงขีดสุด
ปัง!
วินาทีถัดมา ลูกไฟก็หายไป อย่างไรก็ตามกำแพงอีกด้านกลับสั่นสะท้านในทันใด
มีเมฆเห็ด
ตำนานริมแม่น้ำหรี่ตาลง ใจเขาเต้นแรง
นั่นคือพลังของราชาอสูรสภาวะว่างเปล่า!
ราชาอสูรร้ายในสภาวะนั้นเชี่ยวชาญเทคนิคเชิงมิติ ราชาอสูรร้ายกำลังกลั่นแกล้งตำนานริมแม่น้ำที่อ่อนแอกว่า
จี๊ดดด!
ราชาอสูรร้ายส่งเสียงเหมือนหนู ดูเหมือนว่าราชาอสูรร้ายกำลังหัวเราะใส่ตำนานริมแม่น้ำ
วินาทีถัดมา จู่ๆ ก็มีวังวนปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา และในไม่ช้าก็ดูดเขาเข้าไป
ตำนานริมแม่น้ำรู้ว่าเขาจะพบกับมิติปั่นป่วน ในนั้น การก้าวเข้าสู่มิติปั่นป่วนจะไม่มีความหมายอะไรนอกจากความหายนะสำหรับเขา!
วิ่ง!
ตำนานริมแม่น้ำหันหลังกลับทันที แต่มีอีกวังวนหนึ่งปรากฏขึ้นข้างหลังเขา และเขาเกือบจะล้มลง
“ผลึก!”
จากความกลัวตำนานริมแม่น้ำเรียกอสูรของเขา
มังกรดินผลึกคำราม เจตนาฆ่าถูกฉายออกมาจากมังกร แท่งผลึกหนาที่มังกรสร้างขึ้นพุ่งออกมา
หวืด!
ดูเหมือนว่าแม้แต่อากาศก็เริ่มบิดเบี้ยว ผลึกแหลมทะลุผ่านหมอกพิษ และตกลงบนอสูรที่มีลักษณะคล้ายหอยสังข์
ปัง! ราชาอสูรร้ายที่มีเปลือกไม่เห็นสิ่งที่กำลังพุ่งมา ผลึกแหลมกระแทกบนเปลือกและราชาอสูรร้ายก็เอียงไปด้านข้าง
จิ๊ด จี๊ดด!
ราชาอสูรร้ายโกรธจัด
วังวนมากกว่าสิบสองวังวนปรากฏขึ้นรอบๆ ตำนานริมแม่น้ำ ราชาอสูรร้ายตั้งใจที่จะดึงตำนานริมแม่น้ำเข้าไป
ตำนานริมแม่น้ำกำลังลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิงที่รุนแรงกว่าเดิม เขาต้องการทำลายวังวนด้วยพลังไฟ แต่วังวนยังคงดูดเปลวเพลิงเข้าไป
“อึก!”
ใบหน้าของตำนานริมแม่น้ำขุ่นมัว เมื่อเขากำลังจะหยิบสมบัติอื่นออกมาเพื่อปกป้องชีวิตของเขา…วังวนรอบตัวเขาเริ่มพังทลาย และหายไปในทันใด
ชายคนหนึ่งมาถึงและดึงตำนานริมแม่น้ำกลับมา
ตำนานริมแม่น้ำถูกจับโดยไม่ได้เตรียมตัว เขาถูกเหวี่ยงกลับ สิ่งสุดท้ายที่เขาเห็นคือชายหนุ่มยืนอยู่หน้าอสูรร้าย
“แกควรจะหาที่ซ่อนและใช้ชีวิตต่อไปอีกหน่อย แทนที่จะมาที่นี่”
”ไปลงนรกซะ!”
ซูผิงจ้องไปที่ราชาอสูรร้ายอย่างเย็นชา มันคือหอยสังข์หกเวียนระดับตำนานสภาวะว่างเปล่าซึ่งเป็นอสูรหายากที่เกิดมาพร้อมธาตุทั้งหก ราชาอสูรร้ายประเภทนี้ไม่ได้มีสายเลือดที่ทรงพลัง มันจะไปถึงสภาวะว่างเปล่าหลังจากโตขึ้นเท่านั้น
มีโอกาสเล็กน้อยที่หกสามารถพัฒนาเป็นหอยสังข์เก้าเวียนได้
ฆ่า!
ดาบแห่งความว่างเปล่า!
มิติถูกแยกออกต่อหน้าซูผิง คลื่นดาบยาวหลายร้อยเมตรปรากฏขึ้น มันหายไปอย่างเงียบ ๆ ลงไปในพื้นดิน
หลังจากที่คลื่นดาบส่องลงสู่ดิน พื้นดินด้านหลังหอยสังข์ก็แตกเป็นเสี่ยงๆ
ในเวลาเดียวกัน หอยสังข์ก็ถูกแช่แข็งทันที วินาทีถัดมา อสูรร้ายก็ถูกแยกออกเป็นสองส่วน เลือดสีเขียวไหลออกมาพร้อมกับอวัยวะภายในบางส่วน
ในที่สุดอสรพิษเกล็ดดำก็สามารถหนีไปได้ มันมองมาที่ซูผิงด้วยความกลัว เมื่อมีระยะห่างระหว่างพวกเขาแล้ว อสรพิษก็ก้มหัวลง และแตะพื้นเพื่อแสดงความขอบคุณ
ซูผิงพุ่งชำเลืองมองและเก็บดาบของเขา หอยสังข์นั้นอยู่ในสภาวะว่างเปล่า เขาสามารถบอกได้ว่าสิ่งมีชีวิตนั้นมีทักษะด้านหิน ความมืด และพิษ เขาไม่สังเกตเห็นราชาอสูรร้ายเพราะมันใช้ทักษะการปกปิดที่ทรงพลังเพื่อซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง
ฟ่อ!
ซูผิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ และดูดหมอกพิษเข้าไป
หมอกพิษไหลเข้าปากของซูผิง ในไม่ช้าก็กลืนกินเข้าไปทั้งหมด
เอิ๊กก
ซูผิงเรอและตบท้อง เขารู้สึกว่าเขาสามารถงดอาหารเย็นของวันนี้ได้
เขาไม่มีภูมิต้านทานต่อสารพิษ แต่เขามีการต้านทานสูง
ซูผิงเคยชินกับสภาพแวดล้อมที่รุนแรงในสนามบ่มเพะ รวมทั้งสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษ ท้ายที่สุดแล้ว อสูรพิษนั้นค่อนข้างจะรับมือได้ยาก
ในระยะไกล บรรดาผู้ที่ยุ่งวุ่นวายในการเตรียมขีปนาวุธและแผนต่างๆ ได้หยุด และจ้องมองที่ซูผิงด้วยความมึนงง ซูผิงแค่ดูดหมอกนั่นหรอ? เขาหรอ?
ตำนานริมแม่น้ำซึ่งถูกเหวี่ยงไปข้างหลังหลายสิบเมตรจ้องมองซูผิงด้วยใบหน้าที่หมองคล้ำ
อะไร?
ราชาอสูรร้ายสภาวะว่างเปล่าถูกฟันจนตาย?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว