ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 677

ตอนที่ 677 ภารกิจพนักงาน
  “จะต้องไปจับราชาอสูรร้ายในสนามบ่มเพาะ แต่ฉันไม่มีเวลา แล้วถ้าฉันไปที่นี่จะเป็นยังไง…”
  ซูผิงกังวล
  เขากลัวว่าอสูรป่าจะมาถึงทันทีที่เขาเข้าไปในสนามบ่มเพาะ ไม่มีใครสามารถติดต่อเขาได้เวลาที่เขาอยู่ในสนามบ่มเพาะ เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งพร้อมกับขมวดคิ้ว
  ในที่สุดซูผิงตัดสินใจว่าเขาจะไปที่สนามบ่มเพาะเพื่อค้นหาอสูรก่อน!
  สงครามกำลังมาไม่ช้าก็เร็ว อยู่ที่นี่และเอาแต่กังวลไปไม่มีประโยชน์ เขาเลือกที่จะทิ้งโครงกระดูกน้อย มังกรเพลิงนรกและอสูรอื่นๆ ไว้ที่นี่
  หากเมืองฐานถูกโจมตีในขณะที่เขาไม่อยู่ อสูรของเขาสามารถฆ่าอสูรป่าไว้ได้ชั่วขณะหนึ่ง
  เหนือสิ่งอื่นใด เมื่ออสูรของเขาทำงานร่วมกันไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเขา ซูผิงรู้สึกดีขึ้น
  ในสนามบ่มเพาะเขาสามารถต่อสู้ได้โดยไม่ต้องมีอสูร สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือการเสียแต้มพลังงานบางส่วนในการคืนชีพ
  เขาเรียกอสูรของเขาทันที
  หวืด หวืด หวืด!
  สามวังวงเปิดออก โครงกระดูกน้อย มังกรเพลิงนรก สุนัขมังกรดำ และอสรพิษม่วงออกมา
  หลังจากฝึกฝนกับซูผิงและสำรวจสนามบ่มเพาะต่างๆ ร่วมกับเขาแล้ว อสูรเหล่านี้กลายเป็นอสูรที่ลึกลับ และชั่วร้าย
  ซูผิงมองพวกมัน เขาจำการเผชิญหน้าครั้งแรกของพวกเขาได้ตอนที่เขามาโลกนี้ครั้งแรก
  สมัยนั้นพวกมันยังอ่อนแออยู่มาก โครงกระดูกน้อยเป็นเพียงโครงกระดูกขั้นต่ำทั่วไป
  สุนัขมังกรดำเป็นหมาที่เจ้านายคนเก่าทิ้งไป
  อสรพิษม่วงออกมาจากไข่ และอยู่ที่ระดับหก แต่ก็มีพลังต่อสู้เท่าสภาวะสมุทร และยังมีพลังงานดั้งเดิมอยู่บ้าง
  อสูรที่มีสายเลือดที่ดีที่สุดคือมังกรเพลิงนรก ซูผิงไม่คิดว่าบนดาวเคราะห์สีน้ำเงินจะมีมังกรตัวอื่นที่ทรงพลังเท่ากับมังกรเพลิงนรกของเขา!
  “ฉันจะฝากที่นี่ไว้กับพวกนาย”
  ซูผิงบอกแผนของเขากับอสูร
  อสูรเข้าใจความตั้งใจของเขาอย่างรวดเร็ว
  สุนัขมังกรดำเห่าและตบพื้นราวกับพูดว่า ‘ไม่ต้องกังวล ฉันจะดูแลมันเอง’
  พื้นจะแตกอยู่แล้วถ้านี่ไม่ใช่ร้านของซูผิง
  อสรพิษม่วงกระดิกตัว กระตือรือร้นที่จะต่อสู้
  ซูผิงมองไปที่อสรพิษม่วง ภารกิจที่มอบให้กับอสรพิษม่วงคืออยู่บนถนนและถ้าหลงเจียงถูกทำลาย ถนนจะเป็นสถานที่สุดท้ายที่ยังปลอดภัย อาณาเขตของร้านค้าจะปลอดภัย
  อสรพิษม่วงเป็นอสูรที่อ่อนแอที่สุด ซูผิงยังคงกังวลเรื่องนี้
  ซูผิงลูบหัวกะโหลกของโครงกระดูกน้อย และพูดเบา ๆ ว่า “ดูแลพวกมันแทนฉันด้วย”
  โครงกระดูกน้อยเงยหน้าขึ้นด้วยใบหน้าหมองคล้ำ ถึงกระนั้นโครงกระดูกน้อยก็พยักหน้า
  กระดูกสันหลังส่วนคอเกือบหักและกะโหลกก็เกือบร่วง
  ซูผิงยิ้มให้โครงกระดูกและหันไปทางมังกรเพลิงนรก “เฮ้ เจ้าตัวโต อย่าลงน้ำถ้าศัตรูแข็งแกร่งเกินไป”
  มังกรเพลิงนรกเกาหัว พยายามเข้าใจคำพูดของซูผิง หลังจากครุ่นคิดข้อความอยู่ครึ่งนาที มังกรเพลิงนรกก็พยักหน้าและกล่าวว่า “อ้า… เข้าใจแล้ว”
  นั่นคือสำเนียงอะไร? ซูผิงส่ายหัวอละไม่พูดอะไร หลังจากคุยกับอสูรทีละตัวแล้ว ซูผิงก็พูดกับโจแอนนาว่า “เธอช่วยฉันหาราชาอสูรสภาวะว่างเปล่าสี่สิบตัวได้ไหม?”
  “มันไม่ง่ายเลย”
  โจแอนนาขมวดคิ้ว ราชาอสูรร้ายสภาวะว่างเปล่าอาจเป็นผู้ปกครองอาณาเขตของหลุมศพกึ่งเทพ แน่นอนเธอสามารถจัดการมันได้อย่างง่ายดาย แต่ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะหาพวกมันเจอ
  ท้ายที่สุดราชาอสูรเหล่านั้นก็จะมีอาณาเขตของตัวเอง และโดยปกติราชาอสูรร้ายสภาวะว่างเปล่าเพียงหนึ่งหรือสองตัวเท่านั้นถึงสามารถอยู่ในร่วมกันได้ อีกทางหนึ่งคือการหาอสูรสภาวะชะตากรรมที่โดยปกติจะมีอสูรสภาวะว่างเปล่าทำหน้าที่เป็นสมุน
  ซูผิงรู้ว่านี่ไม่ใช่งานง่ายสำหรับโจแอนนา ท้ายที่สุดเวลาเร่งรีบ และมันไม่ง่ายเลยที่จะพบอสูรระดับสูงสี่สิบตัวในขณะที่ต้องกังวลเรื่องเวลา
  โจแอนนาช่วยเขาได้มากแล้ว
  “ในฐานะเจ้าของร้าน พนักงานของนายทำในสิ่งที่เธอควรทำ นี่เป็นงานเสริมสำหรับเธอ นายสามารถวางภารกิจของพนักงาน และเธอจะได้รับรางวัลบางอย่างหากเธอทำสำเร็จ” ระบบอธิบาย
  ทุกครั้งที่ระบบพูด มันจะแอบเข้าไปในใจของซูผิง
  ซูผิงเหนื่อยเกินกว่าจะบ่นเรื่องนี้
  โชคดีที่เขายังโสด
  มิฉะนั้น…
  เขาคิดไม่ถึงด้วยซ้ำ!
  “อย่ากังวล นายทื่อเกินไปที่จะหาแฟน” ระบบให้ความเห็น
  อะไร!
  ซูผิงกลอกตา เขาไม่อยากจะเถียงกับระบบในเวลานี้ “รางวัลหมายความว่ายังไง? ฉันให้รางวัลได้หรอ?”
  “นายสามารถเลือกรางวัลใดก็ได้ที่นายอยากจะมอบให้เธอ แต่นายจะต้องเลือกจากคอลเลกชันของนายเอง ไม่มีสิทธิ์ให้ของจากร้านค้าระบบ”
  ซูผิงรู้ดีว่าระบบจะไม่ใจกว้างขนาดนั้น “พูดอีกครั้งสิ?”
  “นายจะไม่รู้ว่าฉันสาปแช่งนาย ถ้านายหยุดแอบเข้าไปในใจของฉัน”
  “ถ้านายไม่ด่าฉัน ทำไมฉันต้องอ่านใจนายด้วย?”
  “อ่าน? ไปลงนรกไป…”
  “ความผิดครั้งที่สอง” ระบบนับ
  ซูผิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์
  “ให้ระบบที่ยอดเยี่ยมแนะนำนาย ในฐานะหัวหน้า นายสามารถที่จะให้แต้มพนักงานห้าสิบแต้มในแต่ละไตรมาสได้ นายสามารถให้รางวัลแก่พนักงานดีเด่น หรือนายสามารถให้แต้มในภารกิจได้ เธอจะชอบแน่” ระบบอธิบาย
  ซูผิงรู้สึกประหลาดใจ
  ฉันสามารถให้แต้ม 50 แต้มในแต่ละไตรมาส?
  เขาเปล่งเสียงคำถามของเขา “ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน?”
  “ฉันไม่ได้บอกนาย แน่นอนนายคงไม่รู้”
  “…ทำไมนายไม่บอกฉัน”
  “นายไม่ได้ถาม ทำไมฉันถึงต้องบอก”
  ซูผิงรู้สึกว่าเขากำลังจะบ้า
  ระบบต้องมาเพื่อลงโทษเขาแน่ๆ “ฉันมาที่นี่เพื่อบอกนาย ไม่อย่างนั้นนายจะแพ้อยู่เสมอ” ระบบกล่าว
  ระบบชนะ
  ซูผิงตัดสินใจที่จะทำงานให้เสร็จและไม่ต้องขายหน้าอีก เขาดึงข้อมูลของโจแอนนาขึ้นมา แต้มสะสมของเธออยู่ที่ 165!
  เธอมี 100 ตอนเขาทำสัญญาครั้งแรก!
  เธอจะถูกทำเครื่องหมายว่าเป็นพนักงานดีเด่นเมื่อมีแต้ม 200 แต้ม ในขณะที่หากต่ำกว่า 80 จะถือว่าเธอไม่มีคุณสมบัติ
  โจแอนนาได้รับมอบหมายภารกิจชั่วคราวบางส่วนจากระบบ และเธอก็ทำภารกิจทั้งหมดเสร็จสิ้น ตัวอย่างเช่น เธอช่วยดูแลอสูรและได้รับคำชมจากลูกค้า ทั้งหมดนี้นับเป็นส่วนหนึ่งของการประเมิน
  อีกเพียง 35 แต้มเธอก็จะได้เป็นพนักงานดีเด่น… เธอจะได้เดินทางรอบจักรวาล และไปต่างโลกเป็นเวลาเจ็ดวันโดยไม่มีอะไรต้องกังวล… ทันใดนั้นซูผิงก็อิจฉาโจแอนนา
  ทริปเจ็ดวันโดยไม่ต้องกังวล!
  ในช่วงเจ็ดวันนี้ เธอสามารถคืนชีพได้ตามต้องการ และเธอสามารถเยี่ยมชมสนามบ่มเพาะใดก็ได้ที่เธอต้องการ!
  ซูผิงใช้เวลาคืนชีพอย่างอิสระเพื่อเยี่ยมชมอาณาจักรโกลาหลแห่งอันเดธ แต่เป้าหมายของโจแอนนาคือการไปที่แดนเทพอาเคี่ยน
  ซูผิงนึกถึงความช่วยเหลือทั้งหมดที่โจแอนนามอบให้เขา เขามีความสุขมากกว่าที่จะได้มอบสิ่งที่เธอปรารถนาไอรีนโนเวล
  โจแอนนาพูดในทันใดว่า “ฉันสามารถขอให้คนที่เฝ้าตัวตนดั้งเดิมของฉันมาช่วยเราจับได้”
  ซูผิงรู้สึกประหลาดใจ “แล้วตอนนี้ล่ะ?”
  “องครักษ์เฝ้าตัวตนดั้งเดิมของฉันอยู่” โจแอนนากล่าว
  ซูผิงสงสัยเกี่ยวกับตัวตนดั้งเดิมของเธอ “เราจะไม่ทำงานให้เสร็จเร็วกว่านี้เหรอถ้าตัวตนดั้งเดิมของเธอมาด้วยตัวเองได้?”
  โจแอนนามีสีหน้าลำบากใจ “ฉันก็หวังอย่างนั้น แต่…เธอทำไม่ได้”
  “หมายความว่ายังไง?”
  “ให้ตายเถอะ มันซับซ้อน” ซูผิงถามเธอว่า “ตัวตนดั้งเดิมของเธอจะไม่ตกอยู่ในอันตรายหรอกหรอ ถ้าเธอให้องครักษ์คนนั้นมาหาเรา?”
  “เธอน่าจะสบายดี ตราบใดที่เราเร็วพอ” โจแอนนาให้ความมั่นใจกับเขา
  ซูผิงจำได้ว่าโจแอนนาบอกว่าตัวตนดั้งเดิมของเธอไม่สามารถเข้าร่วมกับพวกเขาได้เมื่อพวกเขาไปหลุมศพกึ่งเทพ ตัวตนดั้งเดิมของเธอต้องติดอยู่ที่ใดที่หนึ่งหรือกำลังได้รับบาดเจ็บในขณะนี้ “งั้นเรารีบไปกันเถอะ”โจแอนนาเป็นคนเดียวที่สามารถช่วยเขาได้
  “ฉันมีภารกิจให้เธอ ยอมรับมัน”
  ซูผิงถามระบบในระหว่างนี้ “ฉันจะส่งคำขอภารกิจให้เธอได้ยังไง”
  “เขียนภารกิจและรางวัล ฉันจะส่งให้เธอ” ระบบฟังดูค่อนข้างเป็นมิตรในทันใด
  กรอบโผล่ออกมาต่อหน้าซูผิง มันทำหน้าที่เป็นสื่อกลางสำหรับเขาในการจดรายละเอียดภารกิจและรางวัล
  ซูผิงคิดเกี่ยว และเริ่มเขียน
  ช่วยจับราชาอสูรสภาวะว่างเปล่า สี่สิบตัวและส่งพวกมันมาที่ร้าน
  รางวัล: 35 แต้มสะสมและ… กอด!
ตอนที่ 678 ล่าและเคลื่อนไหว
  ”จริงหรอ?”
  ระบบเยาะเย้ย
  ซูผิงเลิกคิ้วขึ้น ใช่สิ!
  เขาพยายามที่จะรักษาความสัมพันธ์กับพนักงานของเขา!
  บี๊บ บี๊บ! โจแอนนากำลังคิดว่าจะจับราชาอสูรร้ายได้ที่ไหนขณะที่ได้ยินเสียงบี๊บในใจ ต่อมาหน้าต่างเสมือนโปร่งใสปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ
  “เจ้าของร้านมอบหมายภารกิจให้เธอ อ่านหรือไม่?”
  “ภารกิจ”
  โจแอนนามองซูผิงและอ่านภารกิจ
  ในไม่ช้าคำอธิบายก็ปรากฏขึ้น ช่วยซูผิงจับราชาอสูรสภาวะว่างเปล่า 40 ตัวเพื่อรับ… 35 แต้ม
  35?
  โจแอนนาไม่อยากจะเชื่อ
  เธอรู้ว่าเธอมีแต้มสะสมเท่าไร และเธอก็ใส่ใจกับคะแนนของเธอตลอด เธอเต็มใจที่จะทำงานในร้านของซูผิงเพราะผลประโยชน์ของพนักงานนั้นน่าดึงดูดใจ!
  เธอสามารถเยี่ยมชมแดนเทพอาเคี่ยนด้วยแต้มสะสมอีก 35 แต้ม!
  “รับภารกิจสิ” ซูผิงพูดกับเธออย่างอ่อนโยน
  โจแอนนามองเขาอย่างลึกซึ้งและเนิ่นนาน จากนั้นจึงรับภารกิจ “ไปกันเถอะ เราควรพยายามทำให้เสร็จในขณะที่ที่นี่ยังสงบอยู่” ซูผิงกล่าว
  วังวนปรากฏขึ้นข้างหน้าพวกเขา
  โจแอนนาพยักหน้า ต่างก็ก้าวเข้าไปในวังวนด้วยกัน
  หลุมศพกึ่งเทพ
  คนสองคนปรากฏตัวบนเนินเขาในถิ่นทุรกันดาร
  โจแอนนามองไปรอบๆ เธอไม่ได้รับรู้ถึงอันตรายใด ๆ เธอจึงโล่งใจ เธอพูดกับซูผิงว่า “ฉันได้ส่งข้อความถึงตัวตนดั้งเดิมของฉันแล้ว องครักษ์จะมาที่นี่ในไม่ช้า เรารอที่นี่แหละ”
  “โอเค”
  ซูผิงพยักหน้า โจแอนนานั่งลงเพื่อคิด
  ซูผิงไม่ได้กวนใจเธอ
  ครู่ต่อมาอากาศตรงหน้าพวกเขาเริ่มสั่นคลอน ร่างยักษ์แข็งแกร่งซึ่งสูงเกือบห้าเมตรปรากฏตัวขึ้น มันดูดุดัน นัยน์ตาลึกและจมูกโด่ง ดูเหมือนว่ากาลเวลาได้ทิ้งร่องรอยต่างๆไว้ในสายตาของเขา “ฝ่าบาท”
  ยักษ์วัยกลางคนยกแขนข้างหนึ่งไว้ข้างหน้าหน้าอกและก้มหัวลง
  ”ดี” โจแอนนามีปฏิกิริยาเหมือนสตรีผู้สูงศักดิ์ “รู้ไหมฉันเรียกนายมาที่นี่ทำไม? พาเราไปที่ห้วงอเวจี”
  ” ห้วงอเวจี? สถานที่นั้นทีน่า เครน เทพสูงสุดปกครองอยู่ เราจะ…” ยักษ์วัยกลางคนลังเล
  ”แล้ว?”
  โจแอนนาจ้องมองไปที่ยักษ์ ยักษ์รนรานขอโทษ “ผมขออภัย ฝ่าบาท โปรดยกโทษให้ผมด้วย”
  “อย่ากังวลเรื่องนั้น เวลาน้อยลงทุกที ไปกันเถอะ” โจแอนนาสั่ง
  ซูผิงมองเธอ เธอดูไม่เหมือนตอนที่เธออยู่ในร้าน เธอเป็นราชินีของที่นี่
  ”ขอรับ”
  ยักษ์วัยกลางคนก้มหัวลง เขาอยากรู้ว่าซูผิงเป็นใคร แต่ไม่ได้ถาม ยักษ์สะบัดนิ้วในอากาศและทำท่าทางต้อนรับ
  โจแอนนาพูดกับซูผิงว่า “ไปกันเถอะ”
  ซูผิงพยักหน้า เขาก้าวเข้าไปในประตูมิติโดยไม่ถามคำถามใดๆ
  ยักษ์วัยกลางคนยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นเมื่อเห็นว่าซูผิงกำลังเดินอยู่ข้างหน้าโจแอนนา ถึงกระนั้นยักษ์ก็อดใจไม่ถามคำถามใดๆ
  มีทางเดินโปร่งใสอยู่ภายในมิติวังวนนั่น ซูผิงรู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าไปในหลอดแก้วสีขาวขุ่น แต่พื้นผิวใต้เท้าของเขานั้นนุ่มมาก ราวกับว่ากำลังเหยียบอยู่บนปุยเมฆ
  ข้างหลังเขาคือร่างที่ทรงพลัง
  ยักษ์วัยกลางคนเป็นองครักษ์ที่รอคอยตัวตนดั้งเดิมของโจแอนนา
  เขารู้สึกว่าสิ่งมีชีวิตนี้มีพลังมากกว่ามังกรระดับดวงดาวที่เขาเคยเห็นในโลกของมังกรเลือดม่วง
  ทันใดนั้นชายวัยกลางคนก็พูดว่า “พวกเราถึงแล้วขอรับ”
  วังวนอีกวังวนหนึ่งเปิดออกที่ปลายอุโมงค์ เผยให้เห็นทัศนียภาพภายนอก มันเป็นโลกที่รกร้างและมืดมิด บนท้องฟ้ามีจุดมืดนับไม่ถ้วน สีน้ำตาลแดง สีม่วงเข้ม สีกากี… มันเหมือนกับกลุ่มเมฆหลากสีที่ปะปนกัน
  ซูผิงก้าวออกจากวังวน ลมหนาวทำให้เขาตัวสั่น
  เขาค่อนข้างทนต่อความหนาวเย็นได้ดี แต่เขาก็ตัวสั่น ใครๆ ก็นึกภาพออกว่าสภาพแวดล้อมนี่โหดร้ายเพียงใด
  “นั่นคือห้วงอเวจี” โจแอนนาพูดกับซูผิง
  เธอชี้ไปที่ทิศทางหนึ่ง ซูผิงเห็นประตู มันเหมือนคุกมากกว่าประตู เสาที่หนาหลายเมตรตั้งตระหง่านอยู่ตรงนั้น และโครงของประตูก็สูงมาก สถานที่แห่งนี้มีกลิ่นอายของความป่าเถื่อน และกลิ่นอายของเลือด
  โจแอนนาอธิบายว่า “ห้วงอเวจีเป็นเรือนจำที่ใหญ่ที่สุดในหลุมศพกึ่งเทพ”
  “เราไม่เพียงขังเทพไว้ที่นี่ แต่ยังรวมถึงอสูรร้ายที่ดุร้ายด้วย เราจะเลือกอสูรป่าที่นี่เพราะพวกมันจะเหนือกว่าอสูรระดับเดียวกันที่พบภายนอก นายไม่จำเป็นต้องฝึกพวกมัน”
  ซูผิงรู้สึกประหลาดใจ ในที่สุดเขาก็รู้ว่าทำไมโจแอนนาถึงเลือกมาที่นี่
  “ขอบคุณ” เขากล่าว
  โจแอนนายิ้มอ่อนโยน “อย่าพูดงั้นเลย ฉันแค่พยายามทำภารกิจให้สำเร็จ”
  ยักษ์วัยกลางคนหรี่ตาลง ภารกิจ? ใครมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะให้เธอทำภารกิจ?
  ยักษ์พบว่าซูผิงลึกลับมากขึ้นเรื่อย ๆ
  “นำไป ฉันจะให้นายดูแลส่วนที่เหลือ” โจแอนนาพูดกับยักษ์วัยกลางคน
  ยักษ์ก้มหัวและตอบรับ เขาบินไปและไม่นานก็มาถึงประตูคุกห้วงอเวจี
  ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีวังวนปรากฏขึ้นในอากาศและมีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพวกเขา
  ชายคนนั้นแต่งตัวเหมือนผู้คุม แม้ว่าเครื่องแบบของเขาจะถูกทำอย่างประณีต
  ทั้งสองพูดคุยกัน จากนั้นชายคนนั้นก็ชำเลืองมาที่โจแอนนาและซูผิง ในไม่ช้ายักษ์วัยกลางคนก็กลับมา “ฝ่าบาท เขาตอบว่าได้ เข้าไปได้เลยขอรับ”
  ”ตกลง ” โจแอนนาพยักหน้า
  อีกครั้งซูผิงไม่ได้ถามคำถามใดๆ ยักษ์วัยกลางคนปลดปล่อยพลังเทพเหนือซูผิงและโจแอนนา เขาพาพวกเขาไปที่คุกที่ใหญ่ที่สุดในหลุมศพกึ่งเทพ
  โลกภายในประตูไม่ใช่สิ่งที่ซูผิงคิดไว้ มีเกาะหลายเกาะลอยอยู่ในอากาศ และมีที่ดินผืนใหญ่อยู่ตรงกลาง
  โจแอนนาเม้มปากและอธิบายว่า “นักโทษที่สำคัญที่สุดถูกเก็บไว้ที่นั่น เราจะไปที่เกาะนั้นเท่านั้น เรากำลังมองหาเพียงราชาอสูรร้ายสภาวะว่างเปล่าเท่านั้น เราไม่ต้องไปถึงดินแดนนั่น”
  ”ตกลง”
  ซูผิงพยักหน้า
  เขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ เขาแค่ต้องทำตามการแนะนำของโจแอนนา
  ทั้งสามคนมาถึงเกาะกว้างขวาง ซูผิงยังรู้สึกว่าเกาะนี้ใหญ่เท่ากับครึ่งทวีป!
  ทันทีที่พวกเขามาถึง ซูผิงรู้สึกว่ามีบางอย่างซ่อนอยู่ในป่าบนเกาะ
  ยักษ์วัยกลางคนก็พูดขึ้นมาทันทีว่า “มานี่!”
  วินาทีถัดมา อากาศที่ด้านหน้าของซูผิงดูเหมือนกำลังเดือด อสูรร้ายห้าตัวปรากฏตัวขึ้น
  อสูรร้ายทั้งห้าตัวนั้นใหญ่มาก บางตัวสูงหลายร้อยเมตรด้วยซ้ำ ลักษณะทั่วไปของพวกมันคือธรรมชาติรุนแรงและป่าเถื่อย พวกมันลอยและขดตัวอยู่ในถ้ำ ดูเหมือนว่ามีบางอย่างกักขังพวกมัน และหยุดพวกมันไม่ให้ขยับ
  “ห้าตัวนั้นเป็นอสูรร้ายที่สภาวะว่างเปล่า” ยักษ์วัยกลางคนกล่าว
  ซูผิงตกใจ นั่นคือพลังขององครักษ์เทพ!
  เขาพูดคำสองคำแล้วอสูรสภาวะว่างเปล่าห้าตัวก็ถูกขัง ซูผิงไม่เข้าใจพลังนั้นด้วยซ้ำ
  “นายต้องการพวกมันไหม” โจแอนนาถามซูผิง
  ซูผิงกลับมารู้สึกตัวและพยักหน้า “ต้องการๆ
  อสูรสภาวะว่างเปล่าทั้งห้าไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ แต่ซูผิงมีความสุขที่รับรู้ถึงความรุนแรงจากพวกมัน อสูรร้ายเหล่านั้นน่ากลัวกว่ามากเมื่อเทียบกับอสูรร้ายระดับเดียวกันบนดาวเคราะห์สีน้ำเงิน
  “เก็บพวกมันไว้” โจแอนนาพูดกับยักษ์วัยกลางคน
  ยักษ์วัยกลางคนพยักหน้า เขาไม่ได้ทำอะไรเลยแต่วังวนปรากฏขึ้น และอสูรห้าตัวถูกดูดเข้าไปก่อนที่มันจะปิด “พวกมันทั้งหมดอยู่ในพิภพของข้าแล้ว” ยักษ์วัยกลางคนกล่าว
  พิภพ?
  ซูผิงพบว่ามันน่าสนใจ
  “ไปต่อเถอะ” โจแอนนาบอก
  ยักษ์วัยกลางคนพยักหน้าและหลับตาลง ต่อมาเขาก็ดึงอสูรร้ายสภาวะว่างเปล่ามา “นายต้องการพวกมันไหม” “ต้องการ!”
  “แล้วพวกนั้นล่ะ?”
  “แน่นอน”
  “แล้วนี่ล่ะ”
  “ได้สิ ดีเลย”
  เขามาเพื่อจับอสูรร้าย แต่ซูผิงรู้สึกว่าเขาไม่ต้องทำอะไรเลย
  “ฉันก็ต้องการเช่นกัน”
  “แบบนี้ยิ่งดี”
  “ใช่ ใช่แน่นอน”
  ทั้งสามคนบินผ่านเกาะหนึ่งไปอีกเกาะหนึ่ง ยักษ์วัยกลางคนจะจับอสูรสภาวะว่างเปล่าเพื่อให้ซูผิงเลือก ส่วนใหญ่
  เขาพอใจกับสิ่งที่ยักษ์นำมา
  หลายชั่วโมงต่อมา
  ยักษ์วัยกลางคนนำอสูรร้ายสามตัวสุดท้ายเข้าไปใน พิภพของเขา และบอกโจแอนนาว่า “ฝ่าบาท เราจับได้เพียงพอแล้ว”
  โจแอนนาถามซูผิงว่า “นายต้องการมากกว่านี้ไหม?”
  ซูผิงรู้สึกทึ่ง แต่เขาสามารถบอกได้ว่ายักษ์วัยกลางคนกำลังขมวดคิ้ว เขาจำสิ่งที่ยักษ์พูดก่อนที่พวกเขาจะมาที่นี่ เห็นได้ชัดว่าสถานที่นี้เป็นของเทพสูงสุด โจแอนนาไม่สามารถทำทุกอย่างที่เธอต้องการที่นี่ได้
  “ไม่ พอแล้ว” ซูผิงส่ายหัว
  โจแอนนาเลิกคิ้ว “นายแน่ใจหรอ? นี่ดูไม่ใช่นาย”
  ฉันทำไม
  ซูผิงกลอกตาและพูดว่า “มันสายแล้ว ฉันต้องพาพวกมันกลับ ฉันไม่รู้ว่าจะต้องไปกี่รอบ”
  ”แล้วแต่นาย” โจแอนนารู้ว่าซูผิงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ภายนอก เธอหันไปหายักษ์วัยกลางคนแล้วพูดว่า “พวกเรากลับกันได้แล้ว”
  ”ขอรับ” ยักษ์วัยกลางคนโล่งใจ เขาใช้พลังเทพและพาผู้มาเยือนสองคนออกจากคุก
  “คุกนั้นเงียบมาก”
  ซูผิงจ้องมองที่เกาะลอยน้ำ สถานที่นั้นดูสงบสุขทีเดียว โจแอนนาบอกเขาว่า “อันที่จริงมีการก่ออาชญากรรมและการเข่นฆ่ามากมายที่นี่ พวกที่เสียงดังจะถูกฆ่าตายก่อน พวกที่เงียบสงบคือผู้ที่สามารถมีชีวิตอยู่ในเกมล่าอสูรได้”
  ซูผิงไม่ได้พูดอะไรตอบ
  ในไม่ช้ายักษ์วัยกลางคนก็เคลื่อนย้ายพวกเขากลับไปที่ภูเขาที่โจแอนนาอาศัยอยู่
  เมื่อทั้งสามปรากฏตัว เทพสวรรค์จำนวนมากและเทพนักรบสองคนก็เข้ามาหาพวกเขา เทพนักรบอยู่ในระดับดวงดาว เทพทั้งหมดประหลาดใจเมื่อเห็นยักษ์
  “ฝ่าบาท!”
  “ฝ่าบาท!”
  เหล่าทวยเทพทักทายโจแอนนา
  โจแอนนาโบกมือให้พวกเขา
  ยักษ์วัยกลางคนคำนับโจแอนนา “ฝ่าบาท ผมจะนำอสูรร้ายเหล่านั้นออกมาและให้เทพนักรบสองคนคุมพวกมันแทนท่าน ผมจะต้องกลับไปปกป้องตัวตนเดิมของท่าน”
  ”ไปถอะ” โจแอนนาพยักหน้า
  เทพนักรบทั้งสองมีความสามารถพอที่จะจัดการอสูรร้ายสภาวะว่างเปล่าเหล่านั้น
  ยักษ์วัยกลางคนดีดนิ้ว วังวนเรืองแสงสีทองปรากฏบนพื้นดิน อสูรร้ายจำนวนมากออกมาจากวังวน จริงๆก็คือ พวกมันกลิ้งออกมาพราะมีบางอย่างห่อหุ้มพวกมันไว้ในลูกบอล
  ตึง ตึง ตึง! อสูรเหล่านั้นตกลงมาทำให้ภูเขาสั่นไหว
  ” หด!” ยักษ์วัยกลางคนตะโกน เกิดสิ่งที่น่าอัศจรรย์ขึ้น: อสูรเหล่านั้นหดตัวจากสูงหลายร้อยเมตรเหลือเพียงไม่กี่เมตร
  แม้ว่าจะหดตัว แต่อสูรเหล่านั้นยังคงเปล่งพลังงานดุเดือดออกมา แต่ดูน่ากลัวน้อยลง
  ในไม่ช้ากลุ่มอสูรร้ายของสภาวะว่างเปล่าสี่สิบตัวที่อยู่ในลูกบอลวางอยู่บนพื้นดิน
  ยักษ์วัยกลางคนกล่าวด้วยความเคารพว่า “ฝ่าบาท ผมขอตัวก่อน”
  โจแอนนาพยักหน้า
  ซูผิงพบว่ามันแปลกที่จะเห็นยักษ์แสดงความเคารพต่อโจแอนนา
  เมื่อยักษ์วัยกลางคนไปแล้ว โจแอนนาบอกกับเทพนักรบให้คุมอสูรตัวเล็ก ๆ เหล่านั้น
  ”นายจะเอาอสูรกลับไปยังไง? นายมีพื้นที่เก็บไหม? “โจแอนนาถาม
  ซูผิงฝืนยิ้ม และส่ายหัว “ฉันจะต้องทำสัญญากับพวกมันและพาพวกมันไปที่ร้านทีละกลุ่ม”
  โจแอนนาไม่อยากจะเชื่อ “สัญญา? นายมีอสูรแล้ว ฉันไม่คิดว่านายจะเหลือที่มากมาย นอกจากนี้การยกเลิกสัญญาก็หมายความว่านายจะได้รับบาดเจ็บ หากนายไม่มีพื้นที่เก็บ… ฉันสามารถให้ยืมได้ ” ”
  ทำไมเธอไม่ให้ฉันเลยล่ะ?”
  ”อย่าหน้าด้าน”
  ”ก็ฉันโอเคนี่ … ” ซูผิงยักไหล่ “ไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่ใช้ของของเธอ ฉันถามเธอหลายอย่างและฉันก็เสียใจมาก ‘
  ”นายคิดถึงคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่?” โจแอนนาถาม
  ซูผิงกลิ้งตาของเขา “เรามีเวลาไม่พอ ฉันจะเริ่มพาพวกมันกลับไป เธอให้คนของเธออยู่ที่นี่และดูพวกมันไว้ ”
  แน่นอนว่าเขาต้องการใช้บางอย่างเพื่อนำอสูรร้ายไป แต่ระบบห้ามไม่ให้เขาทำแบบนั้น
  มิฉะนั้นเขาจะรวย จักรวาลทั้งหมดจะเป็นซัพพลายเออร์ของเขา เขาสามารถพาอสูรร้ายที่ร้ายกาจสุดกลับไปที่ร้านของเขาตลอด
  อย่างไรก็ตามกฎของระบบระบุไว้ว่าเขาสามารถพาอสูรที่เขาทำสัญญากลับไปด้วยอำนาจสัญญาเท่านั้น มันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้สมบัติแบบนั้นนำกลับไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว