ซูผิงมองไปที่อสูรและไม่สนใจพวกมัน
บางทีอาจเป็นเพราะโครงกระดูกน้อยและอสูรตัวอื่นๆ ของเขา ซูผิงจึงใจกว้างต่ออสูรของคนอื่นมาโดยตลอด และอยากจะจัดการนักรบอสูรก่อน แทนที่จะจัดการกับอสูร
หวืด!
ซูผิงออกจากมิติชั้นสามพร้อมกับอสูรของเขา และกลับไปที่โลกภายนอกผ่านมิติชั้นสอง
มือยักษ์จากสนามพลังของเขากระจัดกระจายไปในทันที
ซูผิงเข้าหาชายหนุ่มผมแดงและพูดอย่างเฉยเมยว่า “อย่าพยายามที่จะหนี ไม่เช่นนั้นฉันจะตัดหัวแกทันทีที่แกหนี ถ้าไม่เชื่อก็ลองดู”
นั่นค่อนข้างเป็นการคุกคาม
ชายหนุ่มผมแดงที่กำลังดิ้นรนจะหนี หยุดเคลื่อนไหวและถามว่า “นายต้องการอะไร?”
ความเร็วจนน่าอัศจรรย์ที่ซูผิงแสดงให้เห็นในการต่อสู้ครั้งก่อนนั้นเร็วเกินไป เขาไม่มั่นใจว่าจะเอาชีวิตรอดได้
เขาสามารถฉีกเข้าไปในมิติชั้นสี่wได้ แต่เขาต้องใช้เวลาในการเข้าสู่มิติที่สี่ นอกจากนี้เมื่อพิจารณาระหว่างความเร็วของเขากับซูผิงแล้ว เขาอาจจะถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ ก่อนที่เขาจะเข้าไปในมิติชั้นสี่!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้ชายคนนั้นอยู่ในระดับดวงดาวขั้นกลาง!
บางทีโอนีลเองอาจจะไม่แข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะเขาได้!
“นายมาหาเรื่องฉัน แต่ยังมาถามฉันว่าฉันต้องการอะไรเนี่ยนะ?” ซูผิงถามอย่างเฉยเมยในขณะที่ก้มมองลงไปที่เขา
ในระหว่างนี้—
ที่ถนนด้านหลัง คลีโอ มีอาและผู้คนสภาวะว่างเปล่าคนอื่น ๆ ก็กลับออกมาจากมิติชั้นสอง
ฟีลัสอยู่ท่ามกลางพวกเขาด้วย
แม้ว่าเขาจะอยู่ที่สภาวะสมุทร แต่เขามีอสูรสภาวะว่างเปล่าซึ่งสามารถช่วยให้เขาเข้าไปในมิติชั้นสองได้
หัวของฟีลัสยุ่งเหยิงในขณะนี้ เขาสะบัดหัว ลูบหน้าเพื่อสลัดความตกใจ
เขาไม่สามารถมองเห็นการต่อสู้ครั้งล่าสุดได้อย่างชัดเจน แต่ภาพตรงหน้าก็น่าประหลาดใจมากพอแล้ว ยอดฝีมือระดับดวงดาวที่ทรงพลังก่อนหน้านี้กำลังนอนอยู่บนพื้นคุยกับซูผิง
ในทางกลับกันซูผิงก้มมองมาในฐานะผู้ชนะ
นั่นคือยอดฝีมือระดับดวงดาว!
เขาเป็นยอดฝีมือเช่นเดียวกับโอนีล ผู้ครองดาว มีความสามารถในการเดินในจักรวาลโดยไม่ต้องใช้ยานพาหนะ!
ถึงกระนั้นชายผู้นี้ก็ยังพ่ายแพ้ต่อซูผิง!
เจ้าของร้านเล็กๆ ก็เป็นยอดฝีมือระดับดวงดาวด้วย ฟีลัสจำการกระทำของเขาที่ทำกับซูผิงได้ เขาไม่ได้รู้สึกว่าเขาทำอะไรที่ไม่เหมาะสมมากมายในตอนนั้น แต่ถึงกระนั้นมันก็กล้าหาญและอุกอาจเกินไปเมื่อตระหนักถึงตัวตนของซูผิง!
เขาอาจถูกโจมตีและลงโทษอย่างรุนแรง หากใครก็ตามในตระกูลของเขารู้ว่าเขาพูดกับนักรบระดับดวงดาวอย่างไม่สุภาพแบบนั้น!
ฟีลัสตกใจมากขึ้นเมื่อเขาครุ่นคิดถึงสถานการณ์ เขาเริ่มพิจารณาแล้วว่าควรขอโทษซูผิงอย่างไร
คลีโอยืนอยู่ใกล้ๆ เธอตกตะลึงมากกว่า เพราะเธอรู้ว่าชายที่ซูผิงเพิ่งจัดการคือหนึ่งในแขกผู้มีเกียรติของตระกูลเธอ!
เห็นได้ชัดว่ามีความแค้นระหว่างเขากับตระกูลไรอัน!
ไม่น่าแปลกใจที่ซูผิงไม่สนใจข้อเสนอก่อนหน้านี้ของเธอตอนที่เธอพยายามจะเข้าแถว!
คลีโอเจอคำตอบ แต่ก็ยังสับสนเล็กน้อย หากมีความขัดแย้งระหว่างซูผิงกับตระกูลไรอัน ทำไมเขาถึงยอมรับคำขอฝึกฝนมืออาชีพของเธอ?
เขาตั้งใจจะฆ่าอสูรของฉันหรือเปล่า?
ความคิดนั้นทำให้เธอกลัว แต่ในไม่ช้าเธอก็คิดได้ว่าถ้าเขาต้องการจะทำร้ายเธอจริงๆ เขาสามารถฆ่าเธอได้อย่างง่ายดายในทันที ไม่ต้องยุ่งยาก
คลีโอสับสนมากจนคิดไม่ออก..ไอรีนโนเวล
มีอาก็ตกใจเหมือนกัน เธอคาดไม่ถึงว่าเจ้าของร้านค้าแบบสุ่มบนดาวเคราะห์ระดับ 3 จะเป็นยอดฝีมือระดับดวงดาว!
พ่อของเธอพูดถูก ยอดฝีมือบางคนชอบเก็บตัว เป็นการดีที่สุดที่จะไม่โอ้อวดเมื่อต้องออกไปข้างนอก!
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผลของการฝึกของร้านนี้จะน่าตกใจมาก แม้แต่คนในระดับระดับดวงดาวก็ยังทำงานเป็นแค่เจ้าของร้านเท่านั้น ในร้านจะต้องมีปรมาจารย์ผู้ฝึกสอน ไม่ใช่แน่อาจะเป็นผู้ฝึกสอนระดับเทพปรมาจารย์สามดาว!
มีอาตกใจมาก แม้แต่ผู้นำของตระกูลไลเยฟายังต้องปฏิบัติผู้ฝึกสอนระดับเทพปรมาจารย์อย่างสุภาพ พยายามจะไม่ทำให้พวกเขาขุ่นเคือง
ท้ายที่สุดผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์สามารถเลี้ยงดูอสูรของเจ้าดวงดาวได้ และพวกเขามักจะผูกมิตรกับเจ้าดวงดาวหลายคน การล่วงละเมิดผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์ก็เท่ากับการดูหมิ่นกลุ่มเจ้าดวงดาว ซึ่งเป็นเรื่องที่เลวร้ายมากๆ
ทั้งถนนเงียบสงัด ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง
ขณะที่ยังคงอยู่ในหลุมบนถนน ชายหนุ่มผมแดงมีสีหน้าซับซ้อน เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันและพูดว่า“เป็นความจริงที่ฉันทำหาเรื่องนายก่อน ฉันยินดีชดใช้!”
”ยังไง?” ซูผิงตอบอย่างไม่ใส่ใจ
“นายต้องการให้ฉันชดเชยยังไงล่ะ?” ชายหนุ่มผมแดงมีความหวังมากขึ้นหลังจากได้ยินว่าซูผิงไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าเขา
ซูผิงกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ชีวิตของนายอยู่ในมือของฉัน พันธมิตรของนายก็หนีไปแล้ว จะไม่มีใครมาช่วยนายได้ ตอนนี้บอกราคาชีวิตนายมา”
สีหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย ด้วยน้ำเสียงที่สงบสุขของซูผิง เขาจึงเดาได้ว่าคู่หูของเขาหลบหนีไปแล้ว
เขาโล่งใจเล็กน้อยที่ได้ยินว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ แต่เขาก็ยังรู้สึกแย่
ชายหนุ่มผมแดงดึงตัวเองขึ้นและมองไปที่ซูผิง ขอร้อง “ฉันจะให้สมบัติลับและทรัพย์สมบัติทั้งหมดของฉัน ฟังดูยังไง?”
“ฉันจะได้รับทั้งหมดนั่นอยู่แล้วหลังจากที่ฉันฆ่านาย” ซูผิงกล่าวอย่างใจเย็น
ชายหนุ่มหวาดกลัว
ซูผิงกำลังหมายความว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ใช่ของเขาอีกต่อไป และเขาต้องแลกเปลี่ยนด้วยสิ่งอื่นเพื่อแลกกับชีวิตของเขา!
อย่างไรก็ตาม…
คนอย่างเขามักจะนำของมีค่าติดตัวมาด้วย ยกเว้นบ้านและทรัพย์สินอื่นๆ ที่ไม่สามารถแบกมาด้วยได้
มิฉะนั้นของมีค่าจะไม่เป็นของพวกเขาอีกต่อไปหลังจากที่พวกเขาตาย
ชายหนุ่มผมแดงกัดฟันและตัดสินใจ “นายต้องการเงินไหม? ฉันสามารถให้เงินนายได้ ถ้านายไม่ต้องการเงิน ฉันมีแหล่งซื้อสมบัติหายาก ฉันสามารถซื้อและมอบให้นาย ฉันยังมีคำเชิญที่มีจำนวนจำกัด ฉันสามารถมอบให้นาย เพื่อที่ร่นจะได้เข้าร่วมในแวดวงสังคมของชนชั้นสูง…”
พวกมันเป็นสมบัติเพิ่มเติมทั้งหมดที่เขาสามารถมอบให้ได้
ตัวอย่างเช่นเขาได้เข้าร่วมบางสังคมด้วยความพยายามอย่างมาก สังคมดังกล่าวต้อนรับคนจำนวนจำกัดเท่านั้น เงินและยศระดับดวงดาวไม่เพียงพอที่จะทำให้เข้าไปได้
”จริงหรอ?”
ซูผิงเลิกคิ้วขึ้นหลังจากได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มพูด ไม่คิดว่าเขาจะเสนอสิ่งที่น่าสนใจได้จริงๆ
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยที่มีคนจำนวนมากจับตามอง “โอเค ลุกขึ้น ไปคุยกันในร้านฉัน”
ชายหนุ่มผมแดงรู้สึกโล่งใจที่รู้สึกว่าเจตนาฆ่าของซูผิงหายไป เขาพยักหน้าและยืนขึ้น เขายังจำอสูรของเขาที่ยังอยู่ในมิติชั้นสามได้
ซูผิงพาชายหนุ่มเข้าไปในร้าน และผ่อนคลายขึ้นพอเข้ามาในเขตปลอดภัยของร้าน เขาจะสามารถกดขี่เขาด้วยพลังของระบบ ถ้าระบบปฏิเสธที่จะช่วย เขาก็ยังสามารถขอให้โจแอนนาจัดการได้
แม้ร่างจุติของโจแอนนาจะยังไม่ได้อยู่ในระดับดวงดาว แต่ชายหนุ่มผมแดงคนนี้ไม่มีทางเอาชนะเธอได้
ท้ายที่สุดโจแอนนารู้กฎมากกว่าซูผิงมาก และวิธีการของเธอก็รุนแรง พลังต่อสู้ที่แท้จริงของเธอนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าอสูรของซูผิงรวมกันเสียอีก
เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มไม่รู้ว่าเขาเข้ามาในที่ที่หลบหนีไม่ได้ เขารู้เพียงว่าชีวิตของเขาอยู่ในอันตรายชั่วขณะ เมื่อเขาผ่อนคลาย เขาก็สังเกตเห็นว่าทั้งถนนวุ่นวายแค่ไหนจากการทะเลาะกันของพวกเขา และร้านค้าฝั่งตรงข้ามถนนบางแห่งก็พังทลายลง
อย่างไรก็ตาม ร้านของซูผิงยังคงไม่บุบสลาย
เขาจำได้อีกครั้งว่าการโจมตีที่พวกเขาร่วมกันโจมตีร้านของซูผิงนั้นไม่ได้ทำให้ร้านของซูผิงสั่นคลอน และทำได้เพียงยิ้มอย่างขมขื่น กลายเป็นระวังตัวกับซูผิงมากขึ้นกว่าเดิม
เขาระมัดระวังซูผิงมากกว่าที่เขาเคยระวังโอนีล
โอนีลเป็นเพื่อนของเขา และเขาระวังตัวแค่ 30%
อย่างไรก็ตามเขาระวังซูผิง 120%!
ท้ายที่สุดซูผิงก็กล้าที่จะอยู่ที่นี่หลังจากฆ่านักเรียนของสถาบันมีอาหลักซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาที่ดีที่สุดในซิลวี่
ซูผิงแข็งแกร่งกว่าตัวเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ยังห่างไกลจากระดับดวงดาวขั้นสูง แต่ใครจะไปรู้ว่ามีคนที่แข็งแกร่งกว่าคอยหนุนหลังเขาอยู่ไหม?
มันสมเหตุสมผลแล้วที่เขามีความกล้าหาญที่จะฆ่านักเรียนของสถาบันที่มีชื่อเสียง ถ้าเขามีผู้สนับสนุนเป็นเจ้าดวงดาว
ชายหนุ่มผมแดงยิ่งกลัวและเสียใจมากขึ้นไปอีกเมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ เขาเป็นนักรบระดับดวงดาวที่น่านับถือ แต่พ่ายแพ้หลังจากยืนหยัดเพื่อหลานชายของโอนีล มันไม่คุ้มเลยสักนิด!
แม้ว่าหลานชายคนนั้นจะเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ยอดเยี่ยม แต่เขาก็ยังเป็นแค่หลานชายอยู่ดี!
เขามีศักยภาพที่จะไปถึงระดับดวงดาว แต่ก็มีเพียง “ศักยภาพ” เขาสามารถไปถึงระดับนั้นได้ก็ต่อเมื่อเขาเติบโตอย่างราบรื่นโดยไม่มีปัญหาใดๆ
ถึงกระนั้นชีวิตก็ไม่เคยราบรื่น ความพ่ายแพ้และความทุกข์ทรมานเป็นบรรทัดฐาน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว