ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 795

ภายในอาณาจักรสภาวะชะตากรรม—
　　โครงกระดูกน้อยกำลังปีนขึ้นไปบนยอดภูเขาอันงดงามพร้อมกับมังกรเพลิงนรกและสุนัขมังกรดำ
　　อสูรร้ายส่วนใหญ่หลีกพ้นทางของพวกมัน
　　พวกที่ก้าวร้าวบางตัวพยายามจะหยุดพวกมัน แต่พวกนั้นก็ถูกกระแทกตกจากภูเขาและถูกมังกรเพลิงนรกหักกระดูกก่อนที่โครงกระดูกน้อยจะได้ทำอะไร
　　โครงกระดูกน้อยมาถึงยอดเขาในไม่ช้า
　　มันแย่งชิงธงมามากมายจนทุกอันโบกสะบัดด้านหลังมันราวกับลูกธนูหมื่นลูกที่พร้อมยิง
　　อสูรนับไม่ถ้วนในอาณาจักรมองขึ้นไปบนยอดเขา
　　มีธงมากมายอยู่ที่นั่น แต่ไม่มีใครกล้าอ้างสิทธิ์
　　อสูรร้ายทั้งสามตัวสูงสองตัวและเตี้ยหนึ่งตัวมองลงมาที่สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ด้านล่าง
　　“ธงทั้งหมดถูกยึดไปแล้ว พะ-พวกมันจะเป็นเพียงสามตัวที่มีคุณสมบัติเหมาะสมหรอ?
　　“มีเพียงสามตัวเท่านั้นที่จะผ่านรอบคัดเลือก?”
　　”เอ่อ…”
　　ผู้ชมในเมืองตกใจมากเมื่อเห็นสิ่งนี้จนไม่แน่ใจว่าจะพูดอะไรดี
　　ทันใดนั้นเสียงคำรามดังขึ้นอีกครั้งจากอาณาจักรสภาวะว่างเปล่า
　　ทุกคนมองไปยังที่มาของเสียงคำราม แต่ก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง
　　มังกรอสนีบาตเกล็ดขาวกระพือปีกและโหมกระหน่ำไปทั่วอาณาจักรที่เล็กกว่านั่น มันดึงดูดธงหลายสิบผืนด้วยพลังดวงดาว ซึ่งลอยไปด้านหลังของมัน!
　　ธงเหล่านั้นได้รับการดึงดูดโดยพลังของกฎและไม่สามารถทำลายได้อย่างแท้จริง
　　ธงทั้งหมดบนภูเขาถูกดึงออกและลอยไปที่ด้านหลังของมังกรอสนีบาต
　　มีอสูรจำนวนมากพยายามที่จะแข่งขันกับมัน แต่พวกมันถูกสายฟ้าฟาด
　　“ม-มังกรอสนีบาตของฉัน!”
　　“เคียวเวทย์อาชูร่าของฉัน!”
　　“นี่คือการกลายพันธุ์แบบไหน? มันน่ากลัวมาก!”
　　ทั้งเมืองเกิดความโกลาหลเมื่อเห็นเช่นนั้น
　　ทั้งฟีลัสและมีอาต่างตกตะลึง อสูรของพวกเขาก็พ่ายแพ้อสูรของซูผิง ง่ายกว่าที่พวกเขาคาดไว้มาก!
　　พวกมันไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันอย่างแน่นอน!
　　ต้องพิจารณาด้วยว่าอสูรของพวกเขาได้รับการฝึกฝนในร้านของซูผิง และพวกมันมีสายเลือดที่ดีที่สุด!
　　พวกมันไม่สามารถต้านทานได้!
　　อสูรจำนวนมากพุ่งไปข้างหน้า แต่พวกมันทั้งหมดถูกมังกรอสนีบาตสีขาวบดขยี้อย่างง่ายดายด้วยพลังแห่งสายฟ้า
　　“หนึ่งต่อร้อย!”
　　“แม้แต่อสูรสภาวะชะตากรรมก็ยังทำอะไรไม่ได้ มังกรตัวนั้นเป็นอสูรระดับ S หรือเปล่า?”
　　“ฉันไม่คิดว่ามันเป็นแค่ระดับ S ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ทั้งหมดเป็นอสูรชั้นนำที่มีคุณสมบัติสูงกว่า แต่พวกมันไม่สามารถเอาชนะได้ แม้จะร่วมมือกันก็ตาม!!”
　　“แข็งแกร่งมาก! มันครองสนามรบ!”
　　“มังกรตัวนี้กับโครงกระดูกนั้นเป็นของเจ้าของคนเดียวกันหรือเปล่า?”
　　เมื่อการต่อสู้ในอาณาจักรสภาวะว่างเปล่ารุนแรงขึ้น ทุกคนต่างตกตะลึงจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ในที่สุด
　　อสูรกำลังบดขยี้ศัตรูทั้งหมด เหมือนกับที่สภาวะว่างเปล่าบดขยี้นักรบฝึกหัด!
　　อสูรยอดนิยมที่ผู้คนวางเดิมพันไว้จัดการได้อย่างง่ายดายในสนามรบ ทักษะของพวกมันไม่สามารถทำร้ายมังกรเกล็ดขาวได้แม้แต่น้อย
　　ในระหว่างนี้—
　　ในไม่ช้าก็มีคนค้นพบว่าสิ่งที่คล้ายกันกำลังเกิดขึ้นในอาณาจักรสภาวะสมุทร
　　งูยักษ์เลื้อยอย่างสง่างามราวกับจะกลืนท้องฟ้า และเหวี่ยงอสูรทุกตัวที่ขวางทางออกไป
　　มันดึงธงทั้งหมดที่มันเห็นและวางไว้บนหลังของมันเหมือนหนาม
　　สถานการณ์เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกในทั้งสามอาณาจักร—การแข่งขันที่เข้มข้นกลายเป็นการต่อสู้ฝ่ายเดียว
　　อาณาจักรสภาวะสมุทรมีเพียงงูยักษ์ตัวนั้นเป็นฮีโร่ มันทนต่อทักษะทรงพลังมากมายโดยไม่มีอะไรนอกจากร่างกาย แสดงให้เห็นถึงการป้องกันที่แข็งแกร่ง
　　ในอาณาจักรสภาวะว่างเปล่า— มังกรอสนีบาตกลายพันธุ์ได้ปราบปรามอสูรอื่นๆ ทั้งหมดด้วยพลังล้วนๆ!
　　ในฝูงชนมีอาตกตะลึงเมื่อมองไปยังการแข่งขัน
　　เจ้าของร้านซูจะทำให้อสูรของเขาได้รับรางวัลทั้งหมดอย่างงั้นหรอ?
　　เธอคิดไม่ถึง เธอได้เห็นส่วนความยุติธรรมของพลังงานตั้งแต่เธอเข้าเป็นนักเรียนที่สถาบันราชวงศ์อามิลล์ แต่เธอก็ยังประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดอยู่ดี
　　ในทางกลับกันฟีลัสเกือบจะร้องไห้ อสูรของเขาได้รับการฝึกฝนหลายครั้งในร้านของซูผิง แต่มันปลดธงออกทันทีที่เห็นมังกรอสนีบาต ไม่กล้าแม้แต่จะสู้
　　เขาจำได้ว่าไม่เคยเห็นอสูรของเขาทำตัวขี้ขลาดแบบนี้มาก่อนไปฝึกที่ร้านของซูผิง!
　　มันโหดร้ายและก้าวร้าวมาโดยตลอด แต่จู่ๆ มันก็กลายเป็นแมวที่หวาดกลัวไปซะอย่างงั้น
　　การประเมินของเขาคือมันน่าจะอยู่ในสามอันดับแรกหรือห้าอันดับแรกของเมือง อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเขาจะไม่ผ่านรอบคัดเลือก!
　　สิ่งที่เกิดขึ้นภายในสามอาณาจักรทำให้ทุกคนในเมืองวอฟเฟ็ตตกตะลึง เหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
　　ที่ลาน—ผู้เข้าแข่งขันที่ตั้งใจจะเข้าร่วมในนาทีสุดท้ายไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร
　　ธงทั้งหมดถูกชิงไปแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะส่งอสูรเข้าไป ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลได้
　　เมื่อเวลาผ่านไป อาณาจักรทั้งสามก็ค่อยๆ สงบลง และภูเขาทั้งสามก็ถูกยึดครอง
　　ธงทั้งหมดภายในอาณาจักรถูกอ้างสิทธิ์.ไอรีนโนเวล.
　　อสูรอื่น ๆ รวมตัวกันอยู่กลางภูเขา แต่ไม่กล้าขึ้นไปบนยอดเขา
　　อสูรบางตัวทนไม่ไหวแล้วเดินขึ้นไปบนยอดเขาแต่ก็ถูกโจมตีกลับอย่างน่าอนาถ
　　การคัดเลือกอย่างดุเดือดได้กลายเป็นการเผชิญหน้าอย่างเงียบ ๆ ในทันที
　　สำนักงานที่รับผิดชอบรอบการแข่งขันอสูรระดับเมืองได้รับการร้องเรียนและการประท้วงมากมาย
　　พวกมันถูกส่งมาจากผู้เข้าแข่งขันนิรนามซึ่งประท้วงพฤติกรรมที่ไม่สมเหตุผลในการแข่งขัน
　　ธงทั้งหมดถูกอ้างสิทธิ์แล้ว อสูรระดับ A ของพวกเขาไม่ผ่านรอบคัดเลือกด้วยซ้ำ มันเกินไป!
　　”นายกเทศมนตรี เราจะทำยังไงดี?”
　　ผู้อำนวยการสำนักงานตื่นตระหนกอย่างที่ไม่เคยเป็นก่อน พวกเขาวางแผนสำหรับทุกสถานการณ์ฉุกเฉินที่เป็นไปได้ในระหว่างการแข่งขัน แต่พวกเขาไม่เคยคิดว่าอสูรตัวเดียวจะอ้างสิทธิ์ในธงทั้งหมดได้
　　จำนวนธงสูงสุดที่อสูรได้รับไม่เคยถูกจำกัดในการแข่งขันที่ผ่านมา
　　อสูรที่แข็งแกร่งที่สุดมีสิทธิ์ที่จะขโมยธงได้มากเท่าที่ทำได้ และหากอสูรตัวอื่นไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ก็สามารถต่อสู้กลับได้เสมอ
　　แต่แล้ว… อสูรที่แข็งแกร่งกว่าตัวอื่นๆ มากๆก็โผล่ออกมา การแข่งขันควรดำเนินต่อไปยังไง?
　　“!!”
　　นายกเทศมนตรีก็ดูเหมือนจะตื่นตระหนกเมื่อเขามองไปที่ผู้อำนวยการ ความตกใจทำให้เขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ เขาเล็งเห็นถึงความดุเดือดของการแข่งขันอสูรในเมืองวอฟเฟ็ต
　　ท้ายที่สุดอสูรระดับ A จำนวนมากโผล่ขึ้นมาในช่วงไม่กี่วันมานี้ การต่อสู้ของพวกมันอาจกลายเป็นเหตุการณ์รุนแรง
　　แต่ตอนนี้ อสูรระดับ A เหล่านั้นกลับถูกจัดการ พวกมันไม่สามารถผ่านการคัดเลือกได้!
　　เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์แล้ว จะมีผู้ชนะเพียงไม่กี่ตัวในการคัดเลือก
　　รอบแรกของเมืองจะมาหลังรอบคัดเลือกจบ
　　แต่ถ้ามีผู้ชนะเพียงไม่กี่ตัว รอบแรกจะมีความจำเป็นจริงหรือ?
　　เขารู้สึกว่าอสูรที่ครอบครองบนภูเขาสามารถเป็นแชมป์ของระดับนั้น ๆ ได้ แม้ในรอบชิงชนะเลิศระดับดาว!
　　“มิลลี่ หาซิว่าอสูรเหล่านี้เป็นของใคร?” นายกเทศมนตรีกระซิบ
　　สาวสวยในชุดเซ็กซี่พยักหน้าข้างๆ เขาแล้วหายตัวไป
　　เวลายังคงผ่านไปช้า ๆ ในขณะนั้นผู้คนต่างพูดคุยกันอย่างดุเดือดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
　　มีคนบ่นเกี่ยวกับอสูรโดยอ้างว่าไม่ยุติธรรมที่พวกมันกีดกันอสูรตัวอื่น ๆ จากโอกาสในการผ่านรอบคัดเลือก
　　อีกคนไม่เห็นด้วย ไม่มีกฎเกณฑ์เกี่ยวกับจำนวนธงสูงสุดที่อสูรครอบครอง ใครบอกว่าพวกมันไม่สามารถครองธงทั้งหมดได้?
　　เกือบจะเที่ยงแล้ว หญิงสาวกลับมาพบนายกเทศมนตรีและกล่าวว่า “นายกเทศมนตรี จากสิ่งที่ฉันพบ อสูรเหล่านั้น… เป็นของคนเดียวกัน เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจ้าของ’ร้านขายอสูรพิกซี่!”
　　เธอเงยหน้าขึ้นขณะพูด มองชายชราอย่างแปลกๆ
　　นายกเทศมนตรีถึงกับอึ้ง
　　เจ้าของคือคนเดียวกัน?
　　แล้วคนๆ นั้นก็คือหนุ่มนั้น?
　　ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คนใหญ่คนโตระดับดวงดาวที่จับการ์แลนด์ทั้งเป็นเหรอ? ทำไมเขาถึงมีอสูรระดับต่ำแบบนี้?
　　นายกเทศมนตรีหันกลับมามองหญิงสาว “เธอแน่ใจหรอ?”
　　”แน่ใจค่ะ”
　　“!!”
　　นายกเทศมนตรีเงียบ
　　ทันใดนั้นเขาก็จำได้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นเจ้าของร้านขายอสูร ผู้ชายคนนั้นฝึกอสูรเหล่านั้นโดยเฉพาะเพื่อชนะการแข่งขันระดับดาวหรือเปล่า?
　　เขาทำทั้งหมดนี้เพื่อที่จะได้รับผลแห่งการหลุดพ้นหรอ?
　　นายกเทศมนตรีตระหนักว่าเกิดอะไรขึ้นและถอนหายใจ
　　เรื่องทั้งหมดยุ่งยากเกินไป!
　　เมื่อพิจารณาถึงตัวตนของบุคคลแล้ว นายกเทศมนตรีต้องละทิ้งมาตรการรับมือทั้งหมดที่เขาคิดไว้
　　เขาต้องยอมรับกับผลลัพธ์
　　การเปลี่ยนกฎระหว่างทางอาจทำให้คนใหญ่คนโตระดับดวงดาวไม่พอใจ และความโกรธของชายคนนั้นจะมากเกินไปสำหรับเขาหรือแม้แต่ตระกูลไรอันจะรับไหว!
　　ข่าวลือของผู้ฝึกสอนระดับเทพปรมาจารย์ทำให้เขาหวาดกลัวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ เมืองวอฟเฟ็ตอยู่ในการดูแลของเขา เขานอนไม่หลับมาหลายวันเพราะกลัวว่าจะมีใครโผล่ขึ้นมาและทำให้ผู้ฝึกสอนระดับเทพปรมาจารย์ไม่พอใจ
　　หากแหล่งพลังงานโกรธ… ไม่ใช่แค่เขา ดาวทั้งดวงอาจต้องทนทุกข์ทรมาน!
　　“สร้างกฎใหม่สำหรับรอบคัดเลือก ยกเลิกรอบแรกถ้ามีอสูรไม่ถึงสิบตัวที่ผ่านรอบแรก ปล่อยให้ผู้ชนะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศระดับดาวเคราะห์โดยตรง” นายกเทศมนตรีกล่าว
　　ผู้อำนวยการค่อนข้างจะตกตะลึงในตอนแรก แต่แล้วเขาก็รู้ว่ามันหมายถึง
　　พวกที่ไม่แข็งแกร่งต้องทำตามกฎ…
　　แต่ผู้ทรงพลังสามารถเปลี่ยนกฎได้!
　　เที่ยง
　　รอบคัดเลือกสิ้นสุดลงในที่สุด
　　อสูรบางตัวในสามอาณาจักรได้จับมือกันในช่วงห้านาทีสุดท้าย พร้อมที่จะพุ่งเข้าหายอดเขาและต่อสู้เพื่อแย่งธง
　　ถึงกระนั้นความพยายามของพวกมันก็ล้มเหลวอย่างน่าอนาถ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์สุดท้าย
　　อสูรของซูผิงบดขยี้อสูรที่เหลือและครอบครองธงทั้งหมด รอบคัดเลือกสิ้นสุดลง
　　เขาพูดไม่ออก เขาต้องโทษตัวเองที่ไม่ได้อธิบายสถานการณ์ให้อสูรของเขาฟังอย่างชัดเจน ผลที่ได้ทำให้เขาดูโดนเด่นเกินไป…
　　อย่างไรก็ตามเขารู้สึกสบายใจเมื่อเห็นว่าอสูรของเขาได้หยามหน้าอสูรยอดนิยมในสหพันธ์
　　ครั้งนึง… สุนัขมังกรดำเคยเป็นสุนัขตามดวงจันทร์ที่ต่ำต้อยและถูกทอดทิ้ง และโครงกระดูกน้อยเป็นเพียงโครงกระดูกระดับสองที่คาดว่าคงไม่สามารถก้าวไปสู่ระดับสูงขึ้นได้อีกตลอดชีวิต!
　　แม้ว่ามังกรเพลิงนรกจะมีสายเลือดที่ดีกว่า แต่ก็ถูกจำกัดให้อยู่ในสภาวะสมุทรเท่านั้น มันไม่มีแม้แต่สายเลือดระดับราชา!
　　พวกมันได้ลุกขึ้นมามีชื่อเสียงในตอนนี้!
　　แม้แต่ในสหพันธ์อันกว้างใหญ่ พวกมันก็ยังแยกตัวเองออกจากอสูรในระดับเดียวกันได้!
　　ซูผิงรู้สึกเหมือนพ่อที่ได้เห็นการเติบโตของลูกๆ เมื่อเห็นว่าพวกมันยอดเยี่ยมขนาดไหน
　　ผู้ตัดสินพร้อมที่จะนับธงที่อสูรแต่ละตัวครอบครองไว้แล้ว เพื่อทำรายชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือก