ในอวกาศ นอกทวีปว่างเปล่า—
วังวนปรากฏขึ้นในพื้นที่กว้างใหญ่ แต่แล้วก็ดึงดูดความสนใจของทุกคน เมื่อมีคนก้าวออกมา
ทุกคนอุทานด้วยความตกใจเมื่อเห็นชัดเจนว่าผู้มาใหม่เป็นใคร
ฮวนเลี่ยเซิ่น!
ผู้บ่มเพาะสภาวะเทพดวงดาวอีกคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น!
สื่อในบริเวณใกล้เคียงมุ่งกล้องไปที่เขาเพื่อถ่ายทอดสดบนดาวเคราะห์ของพวกเขาแล้ว
ว้าว!
ทุกคนที่ดูอินเทอร์เน็ตถ่ายทอดสดทั่วกาแล็กซี่ต่างตื่นเต้น
แม้ว่าการแข่งขันต่อเนื่องที่ผ่านมาจะยอดเยี่ยม แต่ก็อาจกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อเมื่อเวลาผ่านไป อย่างไรก็ตามผู้มาใหม่ปลุกทุกคนให้ตื่นเหมือนระเบิดนิวเคลียร์ เป็นการยากที่จะพบกับยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาว พวกเขาเป็นผู้นำที่เหนือชั้น รองจากยอดฝีมสภาวะเทพอมตะสวรรค์เท่านั้น!
“เขาออกจากบ้าน เขาออกมาข้างนอกแทนที่จะนอนที่นั่น?”ไฮถัวยิ้มเมื่อเห็นฮวนเลี่ยเซิ่น
โหยวหยิงพ่นลมหายใจแต่ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ
จากนั้นฮวนเลี่ยเซิ่น ก็เหลือบมองที่ทวีปและก็หายตัวไป ปรากฏขึ้นอีกครั้งข้างๆไฮถัว
“ไม่เจอกันนานทีเดียว” ฮวนเลี่ยเซิ่นทักทายเขาอย่างเป็นกันเอง
ไฮถัวยิ้มและพูดว่า “นั่งเถอะ อะไรทำให้นายมาถึงที่นี่?”
“ไม่ได้มีอะไรพิเศษ”ฮวนเลี่ยเซิ่นกล่าว โดยเลือกที่จะไม่บอกความจริงเพื่อป้องกันไม่ให้สองคนนี้มาแข่งขันกับเขา
ไฮถัวดูเหมือนจะมองออกแล้ว เขาถามอย่างครุ่นคิด “หนึ่งในนั้นดึงดูดความสนใจของนายสินะ?” ฮวนเลี่ยเซิ่นหัวเราะและพูดว่า “จะเป็นไปได้ยังไงง?”
ไฮถัวเหลือบมองเขาและหัวเราะ แต่ไม่ได้ถามเพิ่ม
โหยวหยิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาพอสนิทกับฮวนเลี่ยเซิ่น พวกเขาเคยสู้กันมาก่อนด้วยซ้ำ เขาคาดว่าเหตุผลเดียวที่ผู้ชายคนนี้มาก็เพราะผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่งต้องใจเขา
ในเวลาเดียวกัน—หลังจากการมาถึงของฮวนเลี่ยเซิ่น—บรรยากาศในทั้งสิบภูมิภาคก็ร้อนมากขึ้น
ผู้เข้าแข่งขันยังทราบถึงการมาถึงของสภาวะเทพดวงดาวผ่านการประกาศทางอินเทอร์เน็ต พวกเขารู้ว่าเขาเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งซึ่งเป็นเจ้าของอาณาจักรลับระดับ S
อย่างไรก็ตามนักเรียนของทั้งห้าสถาบันมีท่าทีแปลก ๆ เมื่อพวกเขารู้ถึงการมาถึงของเขา พวกเขาคิดถึงซูผิงในเวลาเดียวกัน
ท่านฮวนเลี่ยเซิ่นมาที่นี่เพราะซูผิงหรอ? หัวใจของพวกเขาเริ่มเต้นเร็วขึ้นเมื่อพวกเขาจำได้ว่าซูผิงปฏิเสธคำเชิญของฮวนเลี่ยเซิ่นทางอ้อม หากเป็นพวกเขาพวกเขาจะไม่ลังเลที่จะตอบรับคำเชิญหากมีโอกาส
ท้ายที่สุดมันคือคำเชิญของผู้บ่มเพาะสภาวะเทพดวงดาว!
ไม่ว่าพวกเขาจะหยิ่งแค่ไหน เป้าหมายสูงสุดของพวกเขาคือการเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่อย่างเขา
“ฮวนเลี่ยเซิ่นมาแล้ว! ฉันรู้สึกว่าฉันยังมีความหวัง!”
“ยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวอีกคนอยู่ที่นี่ด้วย! โอกาสที่ฉันจะถูกเลือกสูงขึ้นแล้ว!”
“ฉันต้องขึ้นสู่ร้อยอันดับแรกให้ได้! ฉันจะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ง่ายๆ!”
การแข่งขันยิ่งเข้มข้นขึ้น
ในไม่ช้ารอบที่สิบก็จบลง และผู้เข้าแข่งขัน 639 คนได้รับชัยชนะสิบครั้ง!
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะชนะสิบครั้งจากอัจฉริยะหลายแสนคน
“ร้อยอันดับแรกจะต้องเป็นหนึ่งในนั้น”
“ห้าร้อยคนจะถูกกำจัด โอกาสชนะคือหนึ่งในหก ร้อยอันดับแรกเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ!”
“ฉันสงสัยว่าจะมีใครบ้างที่สามารถเอาชนะการต่อสู้ทั้งสิบห้าครั้งได้”
“นั่นไร้สาระ นายท่านไม่ได้สัญญาว่าจะให้รางวัลใด ๆเพื่อเป็นแรงจูงใจ ท้ายที่สุด ชัยชนะสิบห้าครั้งติดต่อกันนั้นยากกว่าชัยชนะสิบครั้งติดต่อกันหลายสิบเท่า!”
“ทุกชัยชนะติดต่อกันหมายถึงความยากสองเท่า!”
“การพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อชัยชนะสิบห้าเท่ากับไร้ประโยชน์ มันจะเปิดเผยไพ่ตายและอาจส่งผลให้แพ้ในภายหลัง!”
มีการพูดคุยกันทุกที่บนอินเทอร์เน็ตเมื่อสิบรอบสิ้นสุดลง
เหล่านักรบอสูรและผู้ฝึกรวมตัวกันและวิเคราะห์ผู้ชนะ 639 คน มีการคาดการณ์ถึงร้อยอันดับแรกบนอินเทอร์เน็ตแล้ว
“จักรพรรดิมังกร คุณจะเข้าร่วมในรอบต่อไปไหม?”
ในภูมิภาคหนึ่ง นักเรียนสองคนของสถาบันสุสานมังกรรวมตัวกันรอบ ๆ จักรพรรดิมังกร
จักรพรรดิมังกรพ่นลมหายใจและพูดว่า “ไม่แน่ มันไร้สาระ ฉันคงจะคิดดิ้นรนเพื่อชัยชนะสิบห้าครั้งในปีอื่นๆ แต่ไม่ใช่ปีนี้ ฉันไม่อยากเจอผู้ชายคนนั้น!”
นักเรียนทั้งสองเริ่มหน้าเปลี่ยนสีเมื่อคิดถึงคนคนเดียวกัน
จริงด้วยชายผู้นั้นมีความสามารถมากพอที่จะได้รับความระมัดระวังจากจักรพรรดิมังกร
ในภูมิภาคที่ห้า—
ซูผิงหยุดพักในพื้นที่รอหลังจากชัยชนะสิบครั้งของเขา เขาไม่ได้สนใจที่จะเข้าร่วมในรอบต่อไป ท้ายที่สุดเขาจะไม่ได้อะไรนอกจากความนิยม เขาอยากใช้เวลาในการบ่มเพาะมากกว่า ในขณะนั้นเอง ซูผิงสัมผัสได้ถึงบางสิ่งและมองขึ้นไปบนอวกาศ
ท่านหญิงเขียวใกล้เข้ามาแล้ว
ดาวเคราะห์ขนาดมหึมากำลังวิ่งเข้ามาใกล้ราวกับอุกกาบาต เร็วราวกับยานรบ โดยมีประกายอยู่ข้างหลัง
มันได้รับความสนใจจากผู้คนมากมายในทันที ไอลีนโนเวล
เหนือทวีป —ไฮถัวและคนอื่น ๆ สังเกตเห็นมันเหมือนกัน และมองด้วยความประหลาดใจ
“ดาวเคราะห์ที่ไม่สมดุลหรอ? เดี๋ยว มีพลังของสภาวะเทพดวงดาวปกคลุมอยู่” โหยวหยิงมีประสาทสัมผัสที่เฉียบแหลม ดังนั้นเขาจึงหรี่ตาลงเล็กน้อย
ไฮถัวก็เลิกคิ้วขึ้นเช่นกัน สภาวะเทพดวงดาวดันดาวเคราะห์เนี่ยนะ? ใครทำ?
ฮวนเลี่ยเซิ่นก็หันไปมองเช่นกัน ไม่มีสภาวะเทพดวงดาวคนไหนที่เขารู้จักชอบทำแบบนี้ มีเพียงนักสู้อาวุโสเท่านั้นที่มีนิสัยแปลก ๆ อย่างนี้แต่เขาแค่ผลักภูเขาหมัดสวรรค์ไปในอวกาศ
หวืด!
ไฮถัวหายตัวไปอย่างกะทันหันและปรากฏขึ้นอีกครั้งนอกทวีปว่างเปล่า เขารู้ว่าผู้มาใหม่อาจจะหยุด แต่เขาต้องการรักษาความปลอดภัย
ในไม่ช้า ดาวเคราะห์มาใหม่ก็ชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วจนหยุดอยู่เหนือทวีปว่างเปล่า พลังอันยิ่งใหญ่กระจายออกไป ผลักยานรบใกล้เคียงออกไปเพื่อแหวกช่อง
ดาวเคราะห์ขนาดมหึมาหยุดอยู่กลางหน้าไฮถัว
”คุณคือใคร? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?”ไฮถัวจ้องไปที่ดาวเคราะห์ด้วยความสนใจอย่างมากและมุ่งความสนใจไปที่ร้านค้าที่ตั้งอยู่ในทวีปหนึ่งของดาว
เขาได้ตรวจดาวเคราะห์ทั้งดวงแล้ว แม้แต่ฝุ่นและตัวหนอนก็มองเห็นได้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม มีเพียงร้านค้าเท่านั้นที่เขาไม่สามารถเข้าถึงได้ สภาวะเทพดวงดาวแปลกหน้าต้องอาศัยอยู่ที่นั่น
“ฉันมาหาเพื่อน มันไม่ใช่ธุระของนาย” ความคิดที่เย็นชาส่งมาจากดาวดวงนี้
ไฮถัวขมวดคิ้วเล็กน้อย หาเพื่อน? เพื่อนคนไหน? ฮวนเลี่ยเซิ่น หรือโหยวหยิง?
เขาหันหลังกลับและพบว่า โหยวหยิง และฮวนเลี่ยเซิ่นยังคงอยู่ในวิหาร เขางุนงง พวกเขาจะเข้ามาต้อนรับเธอถ้าพวกเขารู้จักกัน
เพื่อนของเธอเป็นคนอื่นหรอ?
ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงผู้เข้าแข่งขัน
เป็นไปได้ไหมว่าเพื่อนของสภาวะเทพดวงดาวผู้นี้เป็นเด็กน้อยที่แข่งขันกันอยู่?
เขาค่อนข้างตกใจกับความคิดนั้น ผู้บ่มเพาะสภาวะชะตากรรมแทบจะไม่สามารถเป็นศิษย์ของพวกเขา ไม่ต้องพูดถึงการเป็นเพื่อน ผู้เข้าแข่งขันคนใดคนหนึ่งมีภูมิหลังที่แข็งแกร่งถึงขนาดผูกมิตรกับยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวเลยหรอ? หรือมิตรภาพนี้เกินกว่าระดับและอันดับ?
นั่นไม่ใช่เรื่องแปลก สภาวะเทพดวงดาวบางคนจะได้เป็นเพื่อนที่ดีกับคนธรรมดาในระหว่างการเดินทาง
“ผมคิดว่าคุณคงไม่ได้มาจากกาแล็กซี่นี้ใช่ไหม?” ถามไฮถัวด้วยความสงสัย
เขารู้จักยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวในกาแล็กซี่ทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนของเขา
”ทำไม? ฉันไม่สามารถมาที่นี่ได้ถ้าไม่ใช่คนท้องถิ่นหรอ?” ท่านหญิงเขียวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ถึงกระนั้นเสียงของเธอก็ยังดูเหินห่างและไพเราะ มันน่าฟังกว่าเพลง
หลังจากที่ได้เดินทางไปหลายดาวพร้อมกับราชาเทพไวไลท์ เธอไม่เคยสนใจยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวระดับเดียวกับเธอ พวกเขาทั้งหมดต้องคุกเข่าต่อหน้าราชาเทพ
อย่างไรก็ตาม สิ่งต่างๆ ได้เปลี่ยนไปแล้ว สภาวะเทพดวงดาวแต่ละคนสามารถต่อสู้เป็นกลุ่มกับอสูรของพวกเขา ซึ่งทำให้เธอรู้สึกระแวดระวัง
ถึงกระนั้น เธอก็จะไม่ถูกจับหากเธอตั้งใจจะหนี นอกจากนี้เธอไม่กลัวในขณะที่อยู่ในร้านแปลก ๆ ของซูผิง ถ้ามันป้องกันไม่ให้เธอออกไป มันก็สามารถหยุดสภาวะเทพดวงดาวคนอื่น ๆ จากการบุกเข้ามาได้เหมือนกัน
นอกจากนี้เธอยังรู้สึกคลุมเครือราวกับว่าเธอจะถูกกำจัดด้วยพลังที่ไม่สามารถจินตนาการได้หากเธอออกจากร้านไปจริงๆ!
ด้วยเหตุผลเดียวกัน ถ้าใครบุกเข้าไปในร้าน พวกเขาก็จะถูกทำลายล้างเช่นกัน!
นั่นคือเหตุผลที่เธอไม่กลัวยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาว
“แน่นอนคุณทำได้”ไฮถัวหรี่ตาลง แต่เขาไม่ได้ระเบิดด้วยความโกรธ การเป็นเจ้าแห่งกาแล็กซี่จะนำมาซึ่งความภาคภูมิใจ แต่ก็มาพร้อมกันการประนีประนอมด้วย ตำแหน่งของเขาในฐานะลอร์ดจะไม่มีวันมั่นคงถ้าเขาถือว่าใครก็ตามที่ไม่เป็นมิตรเป็นศัตรู “ถ้าคุณมาเพราะเพื่อน ทำไมคุณไม่มาร่วมดื่มกับเราล่ะ? ตรงนั้นมุมมองดีกว่านะ”ไฮถัวเชิญเธอด้วยรอยยิ้ม
“นั่นไม่จำเป็น”ท่านหญิงเขียวปฏิเสธ
ไฮถัวเลิกคิ้ว รู้สึกว่าเธอหยิ่งเกินไป เธอไม่ได้แสดงความเคารพต่อสภาวะเทพดวงดาวทั้งสามคนในปัจจุบัน เธอมั่นใจหรือไม่ว่าจะเอาชนะพวกเขาทั้งหมดได้ในคราวเดียว?
หรือเธอมีลักษณะนิสัยแบบนี้?
หรือเธอเป็นศิษย์ของเทพอมตะจากกาแลคซีอื่น?
ไฮถัวไม่ได้พยายามค้นหาความจริง เขาไม่ต้องการที่จะทำให้ผู้บ่มเพาะสภาวะเทพดวงดาวโกรธ แต่เขาก็จะไม่ตื้อเธอเช่นกัน
หวืด!
ไฮถัวกลับไปที่ที่นั่งของเขาในสวน
“ดูเหมือนว่าไม่ใช่ทุกคนจะเคารพท่านลอร์ด” โหยวหยิงพูดและหัวเราะ
ไฮถัวเหลือบมองเขา ทั้งสองคนได้ยินบทสนทนาของพวกเช่นกัน แต่เขาไม่สนใจ
ท้ายที่สุดคนส่วนใหญ่ที่เย่อหยิ่งในโลกนี้มีเหตุผลเพียงพอ
“คิดว่าฉันยังมีปัญหาไม่พอหรือไง? ทำไมไม่ไปคุยกับเธอดูล่ะ” ไฮถัวตะคอก
โหยวหยิงหัวเราะแต่ไม่ได้กดดันอะไรต่อ
อย่างไรก็ตามฮวนเลี่ยเซิ่นคิดทบทวนและจำได้ว่าเด็กหนุ่มชื่อซูผิงมาจากดาวเคราะห์ต้นกำเนิดซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่ทุกคนคิดว่าถูกทอดทิ้งไปแล้ว แต่ที่นั่นก็ยังมีสิ่งมีชีวิตอยู่
เขาไม่มีภูมิหลัง แต่เขาก็ลุกขึ้นมาได้เหนือจินตนาการบนดาวเคราะห์ที่แห้งแร้งเช่นนั้น ต้องมีคนสนับสนุนเขา
สภาวะเทพดวงดาวที่ไม่รู้จักคนนี้มาที่นี่เพราะเขาหรอ?
ยิ่งฮวนเลี่ยเซิ่นคิดเกี่ยวกับมันมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีแนวโน้มมากขึ้นเท่านั้น ถ้าเธอเป็นอาจารย์ของซูผิงทุกอย่างจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่ถ้าเป็นแค่เพื่อนกันเขาก็ยังมีโอกาสได้ซูผิงเป็นศิษย์ เขามียอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวเป็นเพื่อน ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาปฏิเสธข้อเสนอของฉันลวกๆ ฮวนเลี่ยเซิ่นมั่นใจมากขึ้น
ซูผิงทำตัวราวกับว่าเขาได้พบกับสภาวะเทพดวงดาวบ่อยครั้งตอนที่พวกเขาพบกัน
เสียงอุทานดังไปทั่วอินเทอร์เน็ตเมื่อท่านหญิงเขียวมาถึง
ยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวอีกคนปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่ฮวนเลี่ยเซิ่นมา และเธอก็นำดาวเคราะห์ดวงหนึ่งมาด้วย!
เพราะเพื่อน? ใครคือเพื่อนของเธอ?
ไม่นานก็มีคนสรุปว่าเพื่อนของเธอไม่ใช่ทั้งโหยวหยิงและฮวนเลี่ยเซิ่น ดังนั้นจึงจะต้องเป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขัน
การคาดเดานี้ทั้งน่าตกใจและน่าตื่นเต้น
สำหรับนักรบสภาวะชะตากรรมที่เรียกสภาวะเทพดวงดาวว่าเพื่อน มันเหลือเชื่อมาก!
“ดาวเคราะห์ของฉัน…”
บนดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง—ชายวัยกลางคนที่แข็งแกร่งอดไม่ได้ที่จะคร่ำครวญ เขาไม่คาดคิดว่าดาวเคราะห์ของเขาจะเดินทางมาจนสุดทวีปว่างเปล่า
“ฮ่าๆ คราวนี้รีอาคงจะโด่งดังจริงๆ”
“ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่ายอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวจะภักดีต่อน้องทำลายสวรรค์ น้องทำลายสวรรค์นี่ไม่ธรรมดาจริงๆ!”
“ตามคาด ไม่มีมนุษย์คนไหนที่จะมีฉายาที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้”
“น้องทำลายสวรรค์มีพลังทำลายสวรรค์แท้จริง เขาเป็นเพื่อนของยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวอยู่แล้ว เขาจะกลายเป็นอะไรไปได้?”
บนดาวเคราะห์—สมาชิกของพันธมิตรดวงดาวรวมตัวกันเพื่อชมการต่อสู้ของซูผิง
ซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์นั่งอยู่ตรงกลางด้วยท่าทางแปลก ๆ เธอกล้าหาญเสมอเพราะมีพ่อคอยสนับสนุน เธอไม่รู้ว่าซูผิงมีผู้สนับสนุนสภาวะเทพดวงดาวที่สนิทสนมเช่นกัน
ในขณะนี้สมาชิกระดับดวงดาวได้รับข้อความ ด้วยความดีใจ เขาพูดกับซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์อย่างรวดเร็วว่า “ท่านผู้นำ ผมพบวัตถุดิบชิ้นสุดท้ายแล้ว”
ดวงตาของซิงเยวี่ยเซินเอ๋อร์เป็นประกาย เธอยิ้มและพูดว่า “ดีมาก ฉันจะจำการช่วยเหลือของคุณครั้งนี้ และฉันจะแจ้งให้เขาทราบด้วย”
“เราจะส่งวัตถุดิบให้น้องทำลายสวรรค์ได้ยังไง? เขายังอยู่ระหว่างการแข่งขัน”
“เราต้องรอจนกว่าการแข่งขันจะจบลง”
“วัตถุดิบเหล่านี้เป็นวัตถุดิบสำหรับการบ่มเพาะ แต่น้องทำลายสวรรค์สามารถชนะการแข่งขันทั้งหมดของซิลวี่ได้อย่างง่ายดาย.. เขาไม่ต้องการวัตถุดิบเท่าไหร่หรอก” คนอื่น ๆ กล่าว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว