รังแก… เด็ก?
การประกาศของโจแอนนาทำให้ทุกคนตกใจ แต่ไม่นานพวกเขาก็สงบลงและมองไปที่ซูผิง พวกเขาจะไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ ถ้าเธอไม่เกี่ยวข้องกับเขา
”เอ่อ…”
ซูผิงไม่คิดว่าโจแอนนาจะพูดแบบนั้นเช่นกัน เธอไม่มี EQ เลยเหรอ? ทำไมเธอต้องเยาะเย้ยผู้คนมากมายขนาดนี้?
อย่างไรก็ตาม เขายังรู้สึกตกใจเล็กน้อยกับสิ่งที่โจแอนนาพูด เขารู้ว่าเธอไม่เคยโกหกหรือคุยโว ท้ายที่สุดเธออาจจะไม่สนใจที่จะทำแบบนั้นต่อหน้าคนตรงนี้ด้วยซ้ำ
ดูเหมือนว่าเขายังประเมินพลังต่อสู้ของเธอต่ำไป
”ขอโทษที เพื่อนของฉันพูดตรงเกินไปโปรดอย่าไปใส่ใจ” ซูผิงทำได้แค่ขอโทษแทนเธอ
การแสดงออกของทุกคนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เนื่องจากคำขอโทษของซูผิงนั้นไม่จริงใจเลย
เธอมักจะตรงไปตรงมาแบบนี้เสมอหรอ?
อะไรทำให้เธอมั่นใจ?
”น่าสนใจ ถ้าเธอไม่รังเกียจ ฉันอยากรู้ว่าเธอจะรังแกได้แค่ไหน” มังกรชีพาร์ดพูดพร้อมเยาะเย้ย
เขาต้องการที่จะระบายความโกรธของเขาหลังจากที่ถูกพุทธองค์หกชีวิตและคนอื่นๆปฏิเสธ
คนอื่นๆก็มีท่าทีโกรธจัด แม้แต่หลัวหยิงและพุทธองค์หกชีวิตก็ยังนิ่งเงียบ แม้ว่าพวกเขาจะแพ้ซูผิง แต่พวกเขาก็ภูมิใจและไม่ยอมยืนนิ่งโดนดูถูกหรอก
“ไม่สนใจ” โจแอนนาพูดอย่างเฉยเมย
เธอดูขี้เกียจและนิ่ง ราวกับว่าเธอไม่ได้คิดว่าคำท้าของมังกรชีพาร์ดเป็นเรื่องใหญ่
มังกรชีพาร์ดโกรธมากจนเขาหัวเราะออกมา และถามว่า “ไม่สนใจเหรอ? เธอกลัวใช่ไหมล่ะ? ยังมีเวลาให้ขอโทษถ้าเธอกลัว!”
”กลัวหรอ?”
โจแอนนานึกถึงคำนั้นอยู่ครู่หนึ่ง ราวกับว่ากำลังคิดอะไรบางอย่าง เธอเงยหน้าขึ้นและละทิ้งความเฉยเมยบนใบหน้า “งั้นก็ตามที่นายต้องการแล้วกัน”
เทพธิดาแห่งสงครามต่อสู้มานับไม่ถ้วนในหลุมศพกึ่งเทพ และเห็นศัตรูนับไม่ถ้วนตัวสั่นด้วยความกลัวต่อหน้าเธอ เธอกลัวหรอ?
”ตกลง ไปสู้บนท้องฟ้ากันเถอะ”มังกรชีพาร์ดพ่นลมและหันหลัง กำลังจะออกจากร้าน
สภาวะเทพดวงดาวเทพที่คุ้มกันมังกรชีพาร์ดไม่ต้องการให้พวกเขาต่อสู้ แต่เขารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดชายหนุ่ม
แม้ว่าโจแอนนาจะดูงดงาม แต่เธอก็ทิ้งความประทับใจที่ไม่ดีให้กับผู้คนมากมาย “มาสู้กันที่นี่แหละ” โจแอนนาพูด
เธอไม่สามารถออกจากร้านได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต่อสู้ได้แค่ในนี้เท่านั้น
”ที่นี่?”
มังกรชีพาร์ดหยุดและมองไปที่เธอ “เธอไม่กลัวว่าร้านของพี่ซูจะฉีกเป็นชิ้นๆหรือไง?”
“นายอ่อนแอเกินกว่าจะฉีกมันเป็นชิ้นๆ” โจแอนนาพูดโดยไม่คิด ตัวตนดั้งเดิมของเธอยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะทำลายร้านนี้เลย แม้แต่เทพสูงสุดก็ไม่สามารถทำได้
”เธอ!”
เขาจ้องไปที่ซูผิงอย่างเคร่งขรึม เห็นได้ชัดว่าถามความคิดเห็นของเขา
เมื่อเห็นดวงตาของเขา ซูผิงรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเกลี้ยกล่อมให้เขายอมแพ้ เขาพูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น “นายสามารถต่อสู้ในห้องทดสอบได้ มันมีม่านพลังที่แข็งแกร่ง”
”ตกลง”มังกรชีพาร์ดยอมรับข้อเสนออย่างรวดเร็ว เขาไม่มีอะไรต้องกังวลถ้าซูผิงยอม
ในทางกลับกัน โจแอนนายังคงยืนนิ่งและไม่แยแสขณะที่เธอเดินไปที่ห้องทดสอบ
คนอื่นๆ ทำได้เพียงตามเธอเข้าไปเท่านั้น พวกเขาต้องการค้นหาว่าคนที่ดูใกล้ชิดกับซูผิงคนนี้มีความสามารถจริงๆ หรือว่าเธอแค่แกล้งว่ามี
พวกเขายังไม่ทันจะได้เข้าไปในห้องทดสอบเลยก็พบว่ามันเป็นสถานที่แปลก ๆ มีพื้นที่มากกว่าที่พวกเขาคิดไว้มาก
พวกเขายังสังเกตเห็นเมื่อซูผิงปรับห้องให้เป็นภูเขาและแม่น้ำ ดูเหมือนสร้างสนามรบ
สภาวะเทพดวงดาวรวมทั้งโม่เทียนฮวาดูประหลาดใจเนื่องจากเทคโนโลยีของสหพันธ์ยังไม่สามารถทำอย่างนี้ได้ ดูเหมือนว่าจะเป็นผลงานของสมบัติล้ำค่าบางอย่าง
มังกรชีพาร์ดเหลือบมองสนามรบ แล้วพูดกับโจแอนนาว่า “มาเตรียมตัวกันเถอะ”
โจแอนนายืนอยู่ในสนามรบ เธอมองไปที่มังกรชีพาร์ดแต่ดูเหมือนเธอไม่สนใจที่จะพูดกับเขา หอกโบราณที่มีใบมีดเสี้ยวอยู่ที่ปลายข้างหนึ่งปรากฏขึ้นในมือของเธอ มันดูไม่ธรรมดา
อาวุธนั่น…
โม่เทียนฮวาและคนอื่นๆ หรี่ตาเมื่อเห็นหอก อาวุธนั่นดูน่าอัศจรรย์ในสายตาของพวกเขา วิธีที่มันออกมาก็น่าสนใจเช่นกัน เธอไม่ได้เอามันออกจากมิติ เพราะมันดูเหมือนจะควบแน่นไปด้วยพลังเทพ
อย่างไรก็ตามหอกนั้นเป็นสมบัติของจริง
ดูเหมือนว่าจะเป็นวิธีที่ผู้คนในอารยธรรมโบราณใช้เรียกอาวุธส่วนตัวของพวกเขา
มังกรชีพาร์ดเรียกมังกรออกมาทั้งหมดในขณะที่โจแอนนาเรียกหอกของเธอ มังกรที่น่าสพรึงกลัวจำนวนมากคำรามขณะที่พวกมันปรากฏขึ้นข้างหลังเขา บางตัวมีขนาดใหญ่มาก มองลงมาจากท้องฟ้าด้วยดวงตาลึกล้ำ ในขณะที่บางตัวก็เล็กราวกับผีเสื้อที่โบยบิน “ยังมีเวลาให้เธอยอมรับความพ่ายแพ้”มังกรชีพาร์ดกล่าวอย่างเฉยเมย
โจแอนนาเหลือบมองมังกรที่อยู่ข้างหลังเขาและพูดเบา ๆ ว่า “นั่นเป็นอสูรทั้งหมดของนายเหรอ?นายเลือกทาสจำนวนมากเป็นอสูรของนายหรอ? อะไรทำให้มั่นใจอย่างนั้น?”
“…”
ทุกคนในห้องตกตะลึง ทาส? มังกรทั้งหมดนั้นหายาก แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ให้คำจัดกัดความพวกมันราวกับว่าพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต่ำต้อย
ซูผิงยิ้มเจื่อน เขารู้ว่าโจแอนนาไม่ได้จงใจเยาะเย้ย เธอเคยบอกเขาว่ามังกรเคยตกเป็นทาสของเหล่าทวยเทพในสมัยโบราณ
หลังจากนั้น เทพมังกรที่ทรงพลังบางตัวได้จัดตั้งอาณาจักรอิสระขึ้นเพื่อความปลอดภัยของเผ่าพันธุ์พวกมัน
อย่างไรก็ตาม มังกรนั้นสำส่อนโดยธรรมชาติและมีลูกหลานมากมาย ทายาทที่อ่อนแอของพวกมันบางตัวถูกทำให้เชื่องและกลายเป็นพาหนะของสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลัง
“ฉันตั้งใจจะปล่อยเธอไป แต่เธอกลับดูถูกอสูรของฉัน ฉันจะไม่แสดงความเมตตาใด ๆ แน่!”มังกรชีพาร์ดประกาศอย่างเย็นชาต่อโจแอนนาและซูผิง
“มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่โง่เขลาอย่างแท้จริง”
โจแอนนาส่ายหัวเล็กน้อย เป็นเวลานานแล้วที่เธอไม่ได้ยินคำประกาศที่น่าขบขันเช่นนี้
“โฮกกก!!”
มังกรชีพาร์ดผสานเข้ากับอสูรของเขาและส่งเสียงคำรามโกรธจัด
เสียงคำรามดังก้องอยู่ในห้องราวกับระเบิดนิวเคลียร์ ผู้คนจำนวนมากรู้สึกปวดหัวเล็กน้อยและตกใจกับปฏิกิริยาดังกล่าว พวกเขาไม่ใช่เป้าหมายหลักของมังกร ไม่อย่างนั้นหัวของพวกเขาจะว่างเปล่า ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
ในช่วงเวลาต่อมามังกรชีพาร์ดพุ่งเข้าใส่โจแอนนาซึ่งยังไม่ได้เคลื่อนไหว
เขาง้างหมัดและต่อยอย่างแรงด้วยเล็บที่แหลมคม
เขาปลดปล่อยพละกำลังจากร่างกายที่เหมือนเตาหลอมอย่างไร้ความปราณี ตั้งใจที่จะสอนบทเรียนดีๆ ให้กับสาวสวยและทำลายท่าทางไม่แยแสของเธอ
ทว่าในชั่วขณะต่อมา แสงสีทองอันเจิดจรัสก็ส่องออกมา!
หอกในมือของโจแอนนาขยับ มันเคลื่อนไหวราวกับมังกร ส่องสว่างสนามรบด้วยไฟนิรันดร์ ดวงตาของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปในขณะนี้ เธอดูเหมือนราชินีที่ก้มมองบริวารของตัวเอง!
เธอเป็นราชินีที่แข็งแกร่งที่สุด!
ผมของเธอพลิ้วไหว และร่างกายของเธอถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีทอง หอกของเธอพุ่งไปข้างหน้าด้วยพลังที่ไม่อาจหยุดยั้ง
ปัง!!
มังกรชีพาร์ดถูกเหวี่ยงกลับ หมัดของเขาถูกหอกตัดเป็นเศษเนื้อ แม้แต่แขนของเขาก็ระเบิด เขากระแทกกับพื้นอย่างแรง ไถลไปหลายสิบเมตร บาดแผลก็แสนสาหัส!
ไม่มีใครส่งเสียง
ทุกคนมองที่เกิดเหตุด้วยความตกใจ ยากที่จะเชื่อ
มังกรชีพาร์ดได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีเพียงครั้งเดียว!
รัศมีที่โจแอนนาปล่อยออกมานั้นไม่มีใครเทียบได้ เธอดูไร้เทียมทาน ทุกคนต่างตกตะลึง ไม่มีใครคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่อ่อนแออีกต่อไป—เธอเป็นราชินีที่ครองโลก!
แสงสีทองเคลื่อนเข้ามาใกล้ด้วยแรงกดดันมหาศาล ราวกับดวงอาทิตย์ดวงเล็กๆ แสงสีทองจางลงเพื่อเผยให้เห็นหอกซึ่งอยู่ตรงหน้าหน้าผากของมังกรชีพาร์ด “มันจบแล้ว” โจแอนนาพูดอย่างเฉยเมย ความเฉียบคมในดวงตาของเธอหายไปแล้ว ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มังกรชีพาร์ดตกตะลึง
เขาลืมความเจ็บปวดอันแสนสาหัสจากแขนไปชั่วขณะ หัวของเขาปั่นป่วน สถานการณ์ทำให้เขาตกใจและสับสน
ฉันแพ้ได้ยังไง?
ฉันพยายามหลบหอก ทำไมฉันถึงหลบไม่ได้
พุทธองค์หกชีวิตกล่าวอย่างเคร่งขรึม “วิถีแห่งมิติเวลาหรอ?”
ก่อนหน้านี้ เขาตรวจพบว่าผู้หญิงคนนี้ได้หยุดร่างของมังกรชีพาร์ดด้วยวิถีแห่งมิติเวลา
เขาไม่ใช่คนเดียวที่ตรวจพบสิ่งนั้น ยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวเองก็ตระหนักดี ความตกใจสะท้อนบนใบหน้าของพวกเขา ผู้หญิงที่ไม่รู้จักคนนี้เชี่ยวชาญกฎแห่งเวลาและเอาชนะมังกรชีพาร์ สามอันดับแรกของการแข่งขันก่อนหน้านี้ได้สบายๆ มันช่างน่ากลัวจริงๆ!
ซูผิงถึงกับพูดไม่ออก เขารู้ว่าโจแอนนาแข็งแกร่งมาก แต่เธอกลับดูน่ากลัวกว่าที่เขาคิด ความจริงก็เพราะที่เธอไม่เคยใช้ความสามารถที่แท้จริงของเธอ
“ผลงานยอดเยี่ยมครับคุณผู้หญิง ผมเองก็อยากเรียนรู้จากคุณ” พุทธองค์หกชีวิตกล่าวขณะก้าวไปข้างหน้า จากนั้นเขาก็กล่าวเสริมว่า “พี่ซู ฉันแค่รู้สึกทึ่งไป นั่นคือเหตุผลที่ฉันอยากฝึกกับเธอ ฉันไม่ได้ไม่พอใจหรืออะไร”
”เอ่อ…”
ซูผิงมองเห็นความจริงใจในดวงตาของเขา และรู้ว่าเขาไม่ได้พยายามท้าทายโจแอนนาเพราะคำพูดอวดดีของเธอ เขาพูดกับโจแอนนาทันทีว่า “ระวัง อย่าทำร้ายเขา”
“…” ริมฝีปากของพุทธองค์หกชีวิตกระตุก คนอื่นๆ มองไปที่ซูผิง พูดไม่ออก พุทธองค์หกชีวิตเกือบจะเป็นแชมป์ ตัวตนในอนาคตทั้งสองของเขาสามารถบดขยี้ใครก็ได้ในระดับเดียวกับเขา เว้นแต่ผู้หญิงคนนั้นจะทำแบบเดียวกันได้
โจแอนนามองเขา แต่ก็ยังคงเงียบ เธอเพียงแค่สะบัดหอกของเธอและรอให้คู่ต่อสู้เตรียมตัว
พุทธองค์หกชีวิตไม่ได้เมินเธอ เธอแข็งแกร่งอย่างแน่นอน เนื่องจากเธอเอาชนะมังกรชีพาร์ดด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แม้ว่ามังกรชีพาร์ดจะไม่ได้ระเบิดอสูรของเขาก็ตาม
เขาเพียงแค่เรียกตัวตนในอนาคตทั้งสองของเขาออกมา
เขาเปิดเผยทักษะนี้ไปแล้ว มันจะไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บไว้เป็นความลับอีกต่อไป
โจแอนนาดูแปลกใจเล็กน้อย เธอพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เลว” หลังจากนั้นเธอก็เรืองแสงอีกครั้งและพุ่งใส่พุทธองค์หกชีวิตพร้อมหอกในมือ
การโจมตีของเธอดูเรียบง่ายและตรงไปตรงมา อย่างไรก็ตามเธอมีแรงกดดันมากพอๆ กับดาวเคราะห์ที่จะบดขยี้ทุกสิ่งที่ขวางทาง
สิ่งสุดท้ายที่พุทธองค์หกชีวิตจะกลัวคือการปะทะซึ่งๆหน้า มีเพียงคู่ต่อสู้ที่เร็วอย่างหลัวหยิงเท่านั้นที่มีเล่ห์เหลี่ยมในสายตาของเขา
ขณะที่เขาเตรียมรับการปะทะที่ใกล้เข้ามา พุทธองค์หกชีวิตทั้งสองจับมือกันและรวมพลังเข้าด้วยกัน กฎจำนวนนับไม่ถ้วนและพลังดวงดาวที่ไม่มีที่สิ้นสุดถูกควบแน่นเมื่อพวกเขาสะบัดดาบและฟันด้วยเทคนิคลับโบราณ!
ในทางกลับกันโจแอนนายังคงพุ่งหอกไปข้างหน้า
อย่างไรก็ตามปลายหอกของเธอเปล่งประกายเจิดจ้า!
”ไม่!” สภาวะเทพดวงดาวสองสามคนสีหน้าเปลี่ยนไป
โม่เทียนฮวาเป็นหนึ่งในนั้น เขาพยายามที่จะเข้าไปแทรกแซง เขาประหลาดใจที่ค้นพบว่าเขาไม่สามารถปล่อยพลังเทพในห้องนั้นได้
เขาต้องการแทรกแซงด้วยโลกใบเล็ก แต่มันก็โดนสะกดไว้เช่นกัน
ทั้งสองปะทะกันแล้ว
ปัง!!
การระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวได้ปะทุขึ้นและพลังงานก็พังทลายลง ทันใดนั้นชายสองคนถูกเหวี่ยงออกไปและกองอยู่บนพื้น กระอักเลือด พวกเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากพุทธองค์หกชีวิตสองตัวตน
ทุกคนเห็นและพบว่ามันยากที่จะเชื่อ พวกเขารู้สึกราวกับว่าวิญญาณกำลังออกจากร่าง
พวกเขามุ่งความสนใจไปที่การระเบิดในทันที ขณะที่พวกเขาพยายามค้นหาว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงบ้าง
อย่างไรก็ตาม พวกเขาเห็นว่าผู้หญิงคนหนึ่งปกคลุมไปด้วยแสงสีทองเดินออกจากพื้นที่ระเบิดในลักษณะที่ไร้เทียมทาน โดยยังคงถือหอกของเธอ
ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากโจแอนนา!
ทุกคนต่างเบิกตากว้างเมื่อผลการต่อสู้ชัดเจน เนื่องจากผู้หญิงคนนั้นรอดจากการปะทะมาโดยไม่ได้รับบาดเจ็บเลย!
“ทักษะของมนุษย์นั้นธรรมดาเกินไป” โจแอนนาให้ความเห็นอย่างเฉยเมย
พุทธองค์หกชีวิตรู้สึกเหมือนหน้าอกของเขาถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ เขามองโจแอนนาที่ยืนสูงท่ามกลางแสงสีทอง ตกใจเกินกว่าจะพูด
เขาแพ้ในการแข่งขันความแข็งแกร่ง!
เป็นไปไม่ได้!
เธอเป็นแค่นักรบสภาวะชะตากรรม เธอจะแข็งแกร่งพอที่จะระงับนักรบระดับดวงดาวทั้งสองคนได้ยังไง?
ซูผิงไม่แปลกใจมากนัก เนื่องจากว่าการกลับชาติมาเกิดของโจแอนนามีกายาไททันจากเผ่าเทพ เขาไม่รู้ว่าในสหพันธ์มันอยู่ในระดับไหน แต่มันมีพลังเทพมากมาย
ฉันไม่รู้ว่าสามารถใช้กฎในลักษณะนี้ได้ …
หอกดูเหมือนจะแทงไปข้างหน้าครู่หนึ่งก่อนหน้านี้ แต่ซูผิงเห็นว่าพลังต่างๆ ได้รับการควบแน่นอย่างประณีตในการโจมตีครั้งนั้น
จำนวนกฎที่มีอยู่นั้นน่าประหลาดใจ
นอกสนามรบ ดวงตาของหลัวหยิงเป็นประกาย เขาจ้องไปที่ที่โจแอนนายืนอยู่ “ขอผมลองบ้าง”
เขาเพียงเปิดใช้กายาโดยไม่ลังเลและพุ่งเข้าหาโจแอนนา
เธอหันกลับมามองเขา แล้วจู่ๆ ก็ขยับตัว
เกิดเหตุประหลาดขึ้น ทั้งโจแอนนาและหลัวหยิงหายตัวไปจากสนามรบ..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว