ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 946

ในไม่ช้ายานอวกาศก็มาถึงรีอา
  ”หือ?”
  โม่เทียนฮวาตรวจดาวเคราะห์อย่างเฉยเมย เขารู้สึกประหลาดใจเมื่อความรู้สึกของเขาถูกปิดกั้นจากที่แห่งหนึ่งบนดาวเคราะห์นั้น
  ดาวเคราะห์ทั้งดวงถูกตรวจไปจนถึงแกนกลาง ไม่มีอะไรจะปิดบังได้
  ผู้อยู่อาศัยทั้งหมดบนโลกใบนี้ก็มองเห็นได้เช่นเดียวกัน
  ไม่มีอะไรซ่อนได้!
  อย่างไรก็ตาม… มีพื้นที่หนึ่งอยู่นอกเหนือการตรวจจับของเขา เหมือนกับจุดดำ
  เขาเลือกที่จะไม่ตรวจสอบเพิ่มเติม เพราะตระหนักว่ามันอาจเป็นสถานที่ที่ยอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวอาศัยอยู่
  “ฉันต้องส่งเธอไปที่สถานีอวกาศ บอกลาเพื่อน และค่อยไปที่นั่นทีหลังจากที่เธอพบอาจารย์ของเธอแล้ว” โม่เทียนฮวากล่าวกับซูผิง
  เขาไม่อยากปล่อยให้ซูผิงไปที่จุดนั้น เกรงว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา
  เขาไม่กลัวที่จะถูกตำหนิโดยลอร์ดสูงสุด เขาแค่คิดว่ามันจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับมนุษยชาติหากเด็กที่มีความสามารถเช่นนี้ต้องตายตั้งแต่ยังเด็ก
  ”ครับ”
  ซูผิงพยักหน้า
  ยานอวกาศลงจอดที่รีอาเหนือท้องฟ้าของวอฟเฟ็ต
  “นี่คือที่ที่เพื่อนของนายอาศัยอยู่หรอ? ร้านนั่นดูลึกลับ” ซูจินเอ๋อถามซูผิงด้วยความสงสัย
  คนอื่นๆ ก็สะดุดกับร้านเช่นกัน ท้ายที่สุดพวกเขาสามารถตรวจสอบสถานที่ทั้งหมดในพื้นที่ใกล้เคียงของจักรวาล ได้ ยกเว้นร้านค้า  “นี่คือร้านขายอสูร เพื่อนของนายเป็นผู้ฝึกสอนหรอ? พวกเขาจะต้องเป็นหนึ่งในผู้ฝึกสอนที่ดีที่สุดในสหพันธ์หากเป็นผู้ฝึกสอนสภาวะเทพดวงดาว!”
  ทั้งกลุ่มตกใจเมื่อเห็นชื่อร้าน
  ผู้ฝึกสอนไม่รู้จักความแข็งแกร่งของตัวเอง แต่ถ้าพวกเขามีฐานบ่มเพาะที่สูงเช่นนี้ ความเชี่ยวชาญในการฝึกฝนของพวกเขาจะต้องดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย!
  มันสมเหตุสมผลแล้วที่อัจฉริยะอย่างซูผิงจะได้รับความช่วยเหลือจากผู้ฝึกสอนชั้นนำ!
  ตาของโม่เทียนฮวาเป็นประกาย ผู้ฝึกสอนชั้นนำนั้นชวนดึงดูดมาก แม้แต่กับสภาวะเทพดวงดาว และยังเป็นแขกผู้มีเกียรติของเทพอมตะ
  “นี่คือร้านของฉัน” ซูผิงยิ้ม เขาอยากดึงดูดและสร้างความประทับใจให้คนที่มีโอกาสเป็นลูกค้าของเขา “อย่าลังเลที่จะมาเยี่ยมชมหากทุกคนต้องการฝึกอสูร ฉันสามารถฝึกอสูรระดับดวงดาวได้เหมือนกันกับที่ผู้ฝึกสอนชั้นนำของสหพันธ์สามารถทำได้”
  เขามั่นใจมาก
  เขาไม่ได้มั่นใจในตัวเองหรือระบบอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า เขาได้เห็นอสูรของอัจฉริยะในการแข่งขันสุดยอดอัจฉริยะระดับจักรวาล ทั้งหมดล้วนเป็นอสูรหายากและทรงพลัง
  อย่างไรก็ตาม ซูผิงมั่นใจว่าพวกมันจะมีพลังมากกว่านี้ถ้าเขาฝึกฝนพวกมัน!
  ซูผิงเชื่อว่าอัจฉริยะเหล่านั้นได้ขอความช่วยเหลือจากผู้ฝึกสอนระดับปรมาจารย์อย่างแน่นอน แม้ว่าเขาจะไม่สามารถฝึกอสูรที่มีระดับสูงเกินไปได้ แต่เขาเชื่อว่าเขาเก่งที่สุดในระดับของเขา!
  “ร้านนายเหรอ”
  ทุกคนประหลาดใจกับคำพูดของซูผิง พวกเขามองซูผิงด้วยความตกใจ
  หลัวหยิงตะลึงงันและถามว่า “นายฝึกอสูรได้ด้วยหรอ?”
  ”ใช่.”  ซูผิงยิ้ม “การฝึกอสูรเป็นงานหลักของฉัน”
  “…”
  ทุกคนพูดไม่ออก
  งานหลักของเขาคือการฝึกอสูร?
  แล้วการต่อสู้ล่ะ? มันเป็นเพียงความสนุกสนานหรอ?
  ทุกคนทำหน้าตาแปลก ๆ รู้สึกว่ากำลังถูกซูผิงเหยียด
  มีเพียงคนโง่เท่านั้นที่เชื่อว่าอัจฉริยะการต่อสู้ที่เก่งที่สุดในจักรวาลจะเป็นผู้ฝึกสอนตัวจริง
  ทุกคนคิดว่ามันเป็นเพียงงานอดิเรกของเขา เหมือนกับเศรษฐีบางคนที่อ้างว่าพวกเขาไม่สนใจเรื่องเงิน
  “ทำไมนายถึงใช้อสูรสภาวะชะตากรรมถ้านายเป็นเจ้าของร้านขายอสูร” ซูจินเอ๋อถามด้วยความสงสัย
  ทุกคนต่างก็สงสัยเหมือนๆกัน ซูผิงไม่ได้เรียกอสูรระดับดวงดาวมาเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งค่อนข้างน่าแปลกใจ คนอื่นๆ คิดว่าเขามีอสูรตัวอื่น แต่ไม่มีใครสามารถบังคับและทำให้เขาใช้อสูรที่ทรงพลังอย่างแท้จริงได้
  “ฉันยุ่งอยู่กับการแข่งขันมากเกินไปที่จะมุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนพวกมัน การต่อสู้จะง่ายขึ้นมากหากพวกมันอยู่ในระดับดวงดาว”
  หลัวหยิงประหลาดใจ “นายสามารถฝึกอสูรระดับดวงดาวได้แล้วหรอ?”
  ต้องใช้เวลานานมากในการฝึกอสูรระดับดวงดาว แม้แต่การฝึกธรรมดาก็อาจใช้เวลานานมาก
  เวลาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนอย่างเขา จะไม่มีใครยอมเสียเวลาสักวินาทีถ้าเป็นไปได้
  ”ไม่มากก็น้อย” ซูผิงพยักหน้า “ดังนั้น อย่าลังเลที่จะมาเยี่ยมชมถ้ามีอสูรที่นายต้องการฝึก”
  “ฉันมาแน่” คนในกลุ่มพูดอย่างสุภาพ
  หญิงสาวคนหนึ่งโผล่ออกมาจากด้านหลังร้านทันที ผมสีทองปล่อยตกลงมาบนบ่าของเธอราวกับน้ำตก รูปร่างของเธอมีเสน่ห์และใบหน้าของเธอก็ไร้ที่ติราวกับงานศิลปะ เธอไม่ใช่ใครอื่นนอกจากโจแอนนา
  “ในที่สุดนายก็กลับมา”
  สำหรับท่านหญิงเขียวนั้น เธอรีบซ่อนตัวเองเมื่อตรวจพบผู้มาเยือนสภาวะเทพดวงดาว
  ท้ายที่สุดเธอสามารถดึงดูดคนระดับเดียวกันได้—
  การกินเธอจะทำให้คนใดคนหนึ่งสามารถขึ้นไปสู่สภาวะเทพอมตะได้!
  ”ฮะ?”
  ทุกคนตะลึงกับรูปร่างหน้าตาของโจแอนนา แม้แต่เทพดวงดาวที่ปกป้องเหล่าอัจฉริยะก็มีดวงตาเป็นประกาย ประหลาดใจกับสิ่งที่พวกเขาเห็น
  เธอช่างงดงาม
  “อมิตาพุทธ อมิตาพุทธ…” จู่ๆ พุทธองค์หกชีวิตก็ท่องคำสอนราวกับพยายามทำสมาธิแต่เขาหยุดจ้องมองโจแอนนาไม่ได้
  ซูจินเอ๋อและลิเลียนรู้สึกทึ่งเช่นกัน แม้กระทั่งจากมุมมองของผู้หญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งซูจินเอ๋อที่รู้สึกพอใจกับการกลับชาติมาเกิดของเธอ อย่างไรก็ตามสาวผมบลอนด์นี่สวยกว่าที่เธอคิด เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะมองผู้หญิงคนไหนว่าพิเศษได้
  “พี่ซู เธอเป็นใคร?”หลัวหยิงหันมอมองซูผิง
  ซูผิงกล่าวว่า “โจแอนนา พนักงานและเพื่อนของฉัน”
  ”พนักงาน?”
  ทุกคนประหลาดใจ ผู้หญิงที่สวยขนาดนี้เป็นแค่ลูกจ้างอย่างงั้นหรอ?
  อย่างไรก็ตาม ซูผิงดูเหมือนจะบอกเป็นนัยว่าเธอเป็นเพื่อนของเขา และทำงานให้กับเขาเท่านั้นเพราะมันเป็นเหตุผลที่ดีที่จะเป็นเพื่อนกับเขา
  “ดูเหมือนว่าเธอจะอยู่ในสภาวะชะตากรรมด้วยพลังเทพที่ละเอียดอ่อนและยิ่งใหญ่ เธอก็เป็นอัจฉริยะเหมือนกัน… ทำไมเธอถึงไม่เข้าร่วมการแข่งขันล่ะ?” หลัวหยิงถามด้วยความสงสัย
  ซูผิงจึงไม่สามารถบอกความจริงกับพวกเขาได้ เขาแค่พูดว่า “เธอไม่สนใจ”
  ”ฮะ? ไม่สนใจ?”
  ข้อแก้ตัวของซูผิงทำให้คนอื่นๆ ตกตะลึง หรี่ตาลงสังเกตหญิงสาว เธอไม่สนใจการแข่งขันที่พวกเขาแข่งขันกันอย่างดุเดือด ไม่ใช่ความเย่อหยิ่งนั้นหรอ?
  โจแอนนายังคงนิ่งเฉยเหมือนเดิม ขณะที่เธอยืนอยู่ตรงทางเข้าร้าน เธอเหลือบมองหลัวหยิงและคนอื่นๆ ด้วยดวงตาสีทองสดใสของเธอและพูดว่า “ฉันได้ยินมาว่านายเป็นแชมป์ นายต่อสู้กับพวกเขาเหรอ?”
  ซูผิงพยักหน้าขณะที่เขาตอบว่า “ขอบคุณที่ดูแลร้านให้”
  ”ด้วยความยินดี ธุรกิจรุ่งเรืองมาก”โจแอนนากล่าว
  เธอรู้ดีว่าซูผิงสนใจอะไรที่สุด
  “พี่ซู เราเข้าไปที่ร้านของนายได้ไหม?” พุทธองค์หกชีวิตถาม
  ทุกคนต่างสงสัยว่าร้านของอัจฉริยะที่เก่งที่สุดในจักรวาลที่เรียกตัวเองว่าผู้ฝึกสอนเป็นยังไง
  “ได้สิ” ซูผิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
  โม่เทียนฮวาขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่ได้ห้ามพวกเขา เขาแค่มองโจแอนนาอย่างครุ่นคิด เขาตรวจพบว่าพลังเทพภายในตัวหญิงสาวไม่ได้แค่มีอยู่มากมายเท่านั้น แต่ดูเหมือนจะทำให้ร่างกายเธอพิเศษทำให้เธอกลายเป็นสิ่งที่เหนือมนุษย์
  ทุกคนออกจากยานและเข้าไปในร้านของซูผิง ขณะที่ผู้คนบนถนนเฝ้าดูพวกเขา
  ผู้พิทักษ์สภาวะเทพดวงดาวที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาทำได้เพียงตามไป
  ”ฮะ?”   จู่ๆ ลิเลียนก็หันไปมองดูรูปปั้นหนึ่งที่อยู่ตรงทางเข้า
  มีหนูตัวอ้วนขนสีม่วงอยู่ที่ด้านล่างของงานปติมากรรมชิ้นใหญ่
  จากนั้นหนูสายฟ้าก็ลืมตาและมองลิเลียนเช่นกัน
  มันน่ารักมาก ๆ! ลิเลียนคิด ด้วยสภาพแวดล้อมที่เธอเติบโตขึ้นมา เธอจึงชอบอสูรแปลก ๆ อย่าง หนู งู และแมลง ซึ่งคนส่วนใหญ่มองว่าไม่น่ารัก ท้ายที่สุดแล้ว อสูรเหล่านี้มักจะน่าเกลียดและน่าขยะแขยง
  น่าเสียดายที่มันอ่อนแอเกินไป และไม่มีความสามารถ
  ลิเลียนตรวจสอบมันจากระยะไกล และพบว่าหนูขนสีม่วงไม่มีเจ้าของ
  เธอมองไปที่ซูผิงและถามว่า “นี่ หนูเป็นอสูรของร้านนายหรือเปล่า?”
  ซูผิงหยุดและพยักหน้าให้เธอ “ใช่ เธอถามทำไม?”   “ขายให้ฉันได้ไหม?” ลิเลียนรีบถาม
  ซูผิงตกตะลึงครู่หนึ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนเสนอซื้อหนูสายฟ้า
  มันอยู่ที่ทางเข้าร้านมาตลอดเวลา ไม่มีลูกค้าคนไหนแสดงความสนใจต่อมันมาก่อน เนื่องจากเห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้มีสายเลือดขั้นสูง
  เขาไม่ได้คาดหวังว่าอัจฉริยะระดับแนวหน้าอย่างลิเลียนจะให้ความสนใจ
  “เธอคิดจะนำมันไปเป็นอสูรหรือเปล่า? ยังว่างอยู่หรอ?” ซูผิงถาม
  ลิเลียนยิ้มและพูดว่า “แน่นอน ยังว่าง ฉันเหลือไว้เผื่อมีประโยชน์ในกรณีที่ฉันเจออสูรหายาก แต่ฉันซื้อหนูตัวนี้เพื่อความสนุกเป็นหลัก มันอ่อนแอเกินกว่าจะช่วยฉันในการต่อสู้”
  เพื่อความสนุก?
  ซูผิงมึนงงเล็กน้อยส่ายหัวและกล่าวว่า “อสูรที่ฉันขายสามารถนำไปใช้ในการต่อสู้เท่านั้น พวกมันไม่ได้มีไว้เพื่อความสนุกสนาน ตอนนี้หนูตัวนี้อ่อนแอก็จริง แต่ฉันเชื่อว่ามันจะสามารถตามเธอทันหากได้รับการฝึกฝนอย่างดี มันแข็งแกร่งกว่าที่เธอคิด”
  ลิเลียนนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วยิ้มและพูดว่า “งั้นไม่เป็นไรดีกว่า”
  เธอชอบหนูสายฟ้า แต่เธอไม่ได้คลั่งไคล้มันมากจนยอมให้มันมาเป็นอสูรต่อสู้
  เธอมองออกว่าหนูนั้นอยู่ในสภาวะสมุทรเท่านั้น ไม่ได้ดีไปกว่ามดในสายตาของเธอ ไม่มีผู้ฝึกสอนชั้นนำของสหพันธ์คนใดที่สามารถฝึกให้มันทันเธอได้ ท้ายที่สุด เธอเป็นอัจฉริยะ มีอสูรเพียงไม่กี่ตัวมี่สามารถเติบโตได้เร็วเท่ากับเธอ
  ซูผิงเลือกที่จะไม่พูดต่อ เมื่อเห็นว่าเธอละทิ้งความคิดนี้ เขาเพียงแค่หันไปมองหนูสายฟ้าแปปนึง
  ทุกคนตามซูผิงเข้าไปในร้านหลังจากนั้น
  “มีเวทีเสมือนจริง” มีคนพูดขณะสังเกตสิ่งอำนวยความสะดวกของร้าน บางห้องถูกปิด แต่ห้องที่เหลือก็ไม่น่าแปลกใจ ท้ายที่สุดพวกเขาล้วนเคยเห็นร้านขายอสูรที่หรูหรากว่านี้
  “นั่นเป็นห้องจัดแสดงเหรอ? ปกตินายไม่ต้องการที่ที่แยกออกไปต่างหากสำหรับสิ่งนั้นหรอ?จะเกิดอะไรขึ้นถ้าอสูรระเบิดที่นี่ขณะที่ทดสอบทักษะ?” คนในกลุ่มถาม
  ก่อนที่ซูผิงจะตอบ มีคนอื่นพูดขึ้นก่อน “ยังต้องถามอีกหรอ? สถานที่แห่งนี้จะต้องได้รับการปกป้องอย่างแน่นหนา มันจะไม่ถูกทำลายง่ายๆ อย่างนั้นหรอก”
  ถังยู่หรานมาจากด้านหลังร้าน ขณะที่ทัวร์เล็กๆ กำลังเดินชมอยู่ เธอรู้สึกทึ่งกับผู้มาเยือน โดยเฉพาะพวกสภาวะเทพดวงดาว
  โจแอนนาเหลือบมองโม่เทียนฮวา และยังคงเฉยเหมือนเดิมราวกับว่าไม่สนใจเลย
  “พระสนใจต่อสู้กันอีกสักรอบไหม?” มังกรชีพาร์ดพูดกับพุทธองค์หกชีวิตหน้าอุปกรณ์ต่อสู้เสมือนจริง  พระมองอุปกรณ์ด้วยอาการมึนงงเล็กน้อย จึงส่ายหัวและตอบว่า “นายจะแพ้อีกรอบเท่านั้น วิถีมิติเวลาของฉันจะยังคงใช้ได้ผลในโลกเสมือนจริง”
  มังกรชีพาร์ดพูดอย่างเย็นชา “ฉันแค่อยากรู้ว่าถ้าฉันสละอสูรทั้งหมดฉันจะชนะนายได้ไหม?”
  ”แล้วมันจะได้อะไร?” พุทธองค์หกชีวิตส่ายหัวและกล่าวว่า “ยอดฝีมือที่แท้จริงจะไม่ใช้วิธีนี้ มันสิ้นเปลืองเกินไป และโหดร้ายสำหรับอสูรของนาย!”
  ใบหน้าของมังกรชีพาร์ดดูบิดเบี้ยวเล็กน้อย เขายังคงเสียใจที่ไม่ได้สละอสูรทั้งหมดของเขาในการต่อสู้ครั้งนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการเดินทางไปยังศาลาดาวสวรรค์ เขาคิดว่าเขาจะชนะหากเขาพยายามอย่างเต็มที่โดยไม่คิดหน้าคิดหลัง
  นั่นจะพิสูจน์ได้ว่าเขาคู่ควรที่จะต่อสู้กับซูผิง และยังสามารถเอาชนะซูผิงได้อีกด้วย!
  เขาไม่เคยลองสละอสูรทั้งหมดของเขาเขายังไม่ได้เรียนรู้ขีดจำกัดที่แท้จริงของตัวเอง
  คนอื่นๆ เหลือบมองมังกรชีพาร์ดเมื่อรู้ว่าเขายังไม่เลิกคิดถึงเรื่องนี้
  ลิเลียนมองไปที่อุปกรณ์และพูดกับซูผิงว่า “ลองหน่อยไหมละ? มันน่าเสียดายที่เราไม่ได้ต่อสู้กัน”
  ซูผิงงงไปชั่วขณะ เขาส่ายหัวและกล่าวว่า “เราไม่สามารถใช้พลังต่อสู้เต็มรูปแบบของเราในเวทีเสมือนจริง กายาพิเศษบางกายาไม่ได้บันทึกไว้ในอุปกรณ์ ซึ่งจะทำให้มันไม่เป็นธรรม มาต่อสู้กันหลังจากที่เราเป็นเจ้าดวงดาวหรือเมื่อเราไปถึงสภาวะเทพดวงดาวแล้วดีกว่า”
  ลิเลียนขมวดคิ้วเล็กน้อย ถึงกระนั้น เธอรู้ว่าซูผิงมีเหตุผล ดังนั้นเธอจึงไม่ยืนกราน
  คนในกลุ่มมองไปที่โจแอนนาและพูดว่า “เธอก็ต้องกลับชาติเกิดใหม่เหมือนกันใช่ไหม?”   โจแอนนา—ที่ยืนเงียบ—มองชายหนุ่มที่เพิ่งถาม แล้วตอบอย่างเฉยเมยว่า “ทำไม? ไม่ได้เหรอ?”
  ”แน่นอนเธอสามารถ ฉันแค่คิดว่าเธอน่าจะไปถึงสิบอันดับแรกหากเธอเลือกเข้าร่วมการแข่งขัน เหตุใดจึงละทิ้งโอกาส” ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย
  ร่างกลับชาติมาเกิดของสภาวะเทพดวงดาวส่วนใหญ่จะเข้าใจกฎที่สมบูรณ์ และแน่นอนว่ามีโอกาสสูงที่จะก้าวขึ้นสู่สิบอันดับแรก ไหนจะพลังเทพของโจแอนนาและความสามารถที่แข็งแกร่งที่ดูเหมือนเธอจะมี
  ”น่าจะ?” โจแอนนาชำเลืองมองเขาและคนอื่นๆ ในกลุ่ม ก่อนที่เธอพูดว่า “ถ้าฉันเข้าร่วมและรังแกเด็ก ๆ มันคงดูไม่ดี”
  ปล.ปิดกลุ่มแล้วน้า แอดหยุดสองวัน เริ่มลงวันจันทร์นะคะ Merry Christmas ล่วงหน้าน้าทุกคนน สนใจเข้ากลุ่ม เข้ามาดูได้ที่เพจ Sbb Translate นะคะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว