บทที่ 460 เจรจากับจ้าวเมิ่งเหยา
“ผมเชื่อว่าผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพทั้งสองชนิดนี้จะต้องทำกำไรให้บริษัทอย่างมหาศาล แต่ทว่าผลิตภัณฑ์ของพวกเรานั้นยังไม่พร้อมที่จะออกสู่ตลาดตอนนี้ และมีคนบางคนที่กำลังจ้องพวกมันอยู่”
แล้วฉิงเทียนก็ได้เล่าเรื่องของบริษัทโนเบิลกรุ๊ปและเผ่าโลหิตที่อยากได้ผลิตภัณฑ์นี้อยู่
“เผ่าโลหิตเหรอ? ที่เป็นขุมอำนาจเก่าในยุโรปน่ะเหรอ?” จ้าวก่างคิ้วขมวดแล้วกล่าว
ตระกูลจ้าวนั้นในฐานะที่เป็นตระกูลใต้ดิน พวกเขายอมรู้จักเผ่าโลหิตดีอยู่แล้ว
เนื่องจากคนอื่นๆนั้นไม่รู้จัก จ้าวก่างจึงได้เล่าประวัติของเผ่าโลหิต
ทุกคนต่างก็คิ้วขมวดขึ้นมาเมื่อได้ยินเรื่องที่เล่า แน่นอนว่าพวกเขาต่างก็ปวดหัวกับความแข็งแกร่งของตระกูลโลหิต
“ในเวลานี้พร้อมกับบริษัทโนเบิล มีสองบริษัทยักษ์ใหญ่ที่กำลังเล็งเป้ามาที่พวกเราอยู่!” ซูเสวี่ยกล่าวเสริม
บริษัทมู่ชิงจากญี่ปุ่นและบริษัทโนเบิลในยุโรป
“พวกคุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้มากนัก ผมอยากจะบอกว่าในเมื่อผมกล้าที่จะเอาของเหล่านี้ออกมา ผมก็ไม่กลัวคนพวกนั้นมาเอาไปอยู่แล้ว” ฉิงเทียนพูดอย่างมั่นใจ
ด้วยความแข็งแกร่งของเขาแล้ว ฉิงเทียนนั้นเชื่อมั่นมาก อย่างไรเสียเขาก็มีทั้งสวรรค์และยมโลกหนุนหลังเขาอยู่ ทำไมเขาจะต้องกลัวกับองค์กรบนโลกด้วย
“เอาล่ะ ผมจะเกริ่นนำพวกคุณแค่นี้แหละ ตอนนี้พวกเราไปเข้าประชุมกันเถอะ”
ในเวลานี้ฉิงเทียนได้กลายมาเป็นผู้นำของผู้คนเหล่านี้แล้ว คำพูดของเขาถือเป็นคำขาดไม่มีใครคัดค้านได้
แล้วพนักงานระดับกลางและระดับสูงในบริษัทเทียนเจี้ยนต่างก็มาเข้าร่วมประชุมกัน แล้วผู้คนในบริษัทเทียนเจี้ยนต่างก็ได้พบกับประธานบริษัทของพวกเขาที่ไม่เคยเปิดเผยตัวจนถึงตอนนี้
ในระหว่างการประชุม ฉิงเทียนก็ได้ความดีๆบางอย่างขึ้นมา เช่นเรื่องของการโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ที่จะทำให้คนรู้จักมากขึ้น
“พวกคุณคิดว่าจะให้ใครมาเป็นพรีเซนเตอร์ของเราดี?” ฉิงเทียนถาม
คุณภาพของพรีเซนเตอร์ก็สามารถใช้เป็นตัวตัดสินความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ได้เช่นกัน
“ฉันคิดว่าท่านประธานบอร์ดบริหารน่าที่จะไปเชิญคุณจ้าวเมิ่งเหยามานะคะ คุณจ้าวนั้นเธอเป็นถึงดาราที่มีชื่อเสียงมากในประเทศจีน หากเราเชิญเธอมาได้ผลิตภัณฑ์ของพวกเราก็จะต้องมีชื่อเสียงมากแน่นอนค่ะ!” พนักงานระดับสูงคนหนึ่งเสนอ
มันเป็นเรื่องจริงที่ว่าจ้าวเมิ่งเหยานั้นเป็นถึงแนวหน้าของวงการบันเทิงในประเทศจีน เธอนั้นดูอ่อนเยาว์มากและยังร้องเพลงเก่งอีกต่างหาก
ติดอยู่เพียงเรื่องเดียวที่ฉุดรั้งเธอเอาไว้นั่นคือเรื่องของการแสดง ทักษะการแสดงของเธอนั้นเรียกได้ว่ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกเลยทีเดียว
แต่เมื่อฉิงเทียนได้ยินชื่อของจ้าวเมิ่งเหยาแล้ว ฉิงเทียนก็รู้อึกอักขึ้นมา โดยเฉพาะซูเสวี่ยที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
ไม่เพียงแต่ซูเสวี่ย ฉิงหยู, จ้าวก่างและคนอื่นๆต่างก็มองฉิงเทียนมาด้วยสายตาแปลกๆ อย่างไรเสียจ้าวเมิ่งเหยานั้นก็คือคนที่โพสต์คลิปของฉิงเทียนลงเว่ยป๋อ
ถึงคนอื่นๆจะไม่รู้ แต่พวกเขานั้นรู้ว่าคนในคลิปก็คือฉิงเทียนนั่นเอง!
“อะแฮ่ม ผมคิดว่านั่นก็เป็นความคิดที่ดี เชิญต่อเลยครับ” ฉิงเทียนกล่าว
แต่ทว่าพนักงานระดับสูงคนนั้นก็ลังเลอยู่พักหนึ่งแล้วกล่าว “ท่านประธานคะ คุณจ้าวนั้นยังไม่เคยรับงานโฆษณาที่ไหนเลย และฉันก็ได้ยินมาว่าในเวลานี้เธอกำลังรับงานถ่ายหนังงานใหญ่อยู่ค่ะ ฉันจึงเกรงว่าฉันอาจจะเชิญเธอมาไม่ได้ค่ะ”
ใช่แล้ว เพื่อกำจัดชื่อเสียงในแง่ลบของเธอที่ว่าไม่สามารถแสดงจนได้รับฉายาว่าแจกัน เธอจึงได้รับงานถ่ายหนังซึ่งเป็นงานร่วมมือกันระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ซึ่งได้ยินมาว่าดาราชายนั้นมีชื่อเสียงมากในวงการบันเทิงของญี่ปุ่น
และหนักเรื่องนี้ก็ได้ถ่ายทำกันในภูเขาและป่าลึกเป็นเวลาสามเดือน
ซึ่งเรื่องนี้ได้กลายเป็นเรื่องที่ฮือฮากันโลกอินเทอร์เน็ต และทุกคนต่างก็รอดูหนังเรื่องนี้ฉายออกมา
สามารถทำให้เทพธิดาคนนั้นมาแสดงหนังได้ พวกเขาจะไม่คาดหวังกันได้อย่างไร
“อืม ถ้าอย่างนั้นมันก็คงจะยากแน่” ฉิงเทียนคิ้วขมวด
“มันก็ไม่ยากขนาดนั้นหรอกค่ะ เพราะท่านประธานของเรามีความสนิทสนมกับคุณจ้าวมากนี่นา” ซูเสวี่ยกะพริบตาให้ฉิงเทียน “ท่านประธานสามารถที่จะจัดการเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย”
“จริงเหรอคะ? ยอดไปเลยค่ะ!” พนักงานระดับสูงคนนั้นพูดอย่างตื่นเต้น เพราะเธอเองก็เป็นแฟนของจ้าวเมิ่งเหยาเช่นกัน
ไม่เพียงแต่พนักงานระดับสูงคนนั้น แต่คนอื่นๆต่างก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย